บทที่ 5 คลื่นใต้น้ำลูกใหญ่   1/    
已经是第一章了
บทที่ 5 คลื่นใต้น้ำลูกใหญ่
บทที่ 5 คลื่นใต้น้ำลูกใหญ่ ภายในห้องทำงาน จริมนั่งตัวตรงด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ ดนวัตรที่อยู่ตรงหน้าสูบบุหรี่ไปด้วย พิจารณาเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าเขาไปด้วย ดวงตาที่ลึกล้ำคู่นั้น ราวกับว่าต้องการมองจริมให้ทะลุปรุโปร่งจนถึงที่สุด ภายในห้องเต็มด้วยกลุ่มควันสีดำขุ่นมัว ดนวัตถึงค่อยๆ วางก้นบุหรี่ในมือลง “มาถึงเมื่อไหร่?” “เมื่อเช้านี้ครับ” “ไปต่างประเทศหลายปีขนาดนี้ ยังชินกับที่นี่อยู่มั้ย?” “ไม่จำเป็นต้องพูดพิธีรีตองอะไรแล้ว พวกเรามาคุยกันถึงเรื่องคดีที่เกิดขึ้นนี้ดีกว่า” จริมไม่อยากจะทักทายอะไร ลูบคลำถุงมือหน้าข้างขวาเบาๆ นั่งตัวตรงอยู่เงียบๆ “พวกคุณไม่ไดเขียนโปรไฟล์เพิ่มเติมของฆาตกรใส่แฟ้มเอกสารใช่มั้ย?” โปรไฟล์ คือพฤติกรรมอาชญากรรมคาดเดาสภาพจิตใจของเขา และวิเคราะห์ลักษณะนิสัยของเขา สภาพความเป็นอยู่ อาชีพ ภูมิหลังเป็นต้น ที่ต่างประเทศสำหรับวิธีจับกมรวมทั้งล็อคตัวฆาตกรฆาตกรคดีฆาตกรรมอย่างเนื่องจะต้องใช้อย่างเหมาะสมที่สุด ถ้าหากพฤติกรรมของฆาตกรแปลกประหลาดเกินไป หรือมีความสามารถในการสอดแนมที่ดี ทำให้ไม่รู้ว่าต้องเริ่มลงมือเขียนโปรไฟล์ด้านจิตวิทยาจากตรงไหน ถ้าหากเป็นตำรวจจะต้องปกปิดข่าวพวกนี้อย่างสุดความสามารถ จะต้องไม่พูดความจริงกับเขา พิจารณาสรุปรวบยอด จริมมีแนวโน้มอย่างหลังมากกว่า ลูกกระเดือกของดนวตกระตุกอย่างรวดเร็ว สีหน้าดูไม่มีความสุข ครู่ใหญ่ก็ถอนหายใจออกมายาวๆ หนึ่งคำ ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันมาสิบ มีบางเรื่องที่ถึงอย่างไรก็ปิดบังจริมไม่ได้ “ก่อนหน้าที่นายจะมา เคยหาผู้เชี่ยวชาญมาสามคนที่มีความเกี่ยวข้องกับขอบเขตมาดำเดินการเขียนคดีด้านจิตวิยา แต่ว่าผลลัพธ์ที่ออกมา ก็ไม่น่าพอใจเท่าไหร่” จริมชำเลืองตามอง “ความหมายของคุณคือ?” “ไม่มีเบาะแส ไม่มีพิรุธ จะก่อคดีในคืนฝนตกทุกครั้ง ฆ่าคนแล้วก็โยนศพทิ้ง และยังทิ้งตัวอักษรเลือดและตุ๊กตาไม้รูปคนเอาไว้ หลังจากนั้นก็หายไปไม่มีเงาไม่มีร่องรอยใดๆ” ดนวัตกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว “เจ้าหมอนั่นเหมือนรู้ขั้นตอนของพวกเรา วิธีการลงมือแบเก่า ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งนอกจากพวกราและครอบครัวของผู้ตายแล้ว ก็เหมือนกับว่ายังมีอำนาจอีกอย่างที่กำลังสังเกตการณ์คดีที่เกิดขึ้นอยู่ในที่ลับ” อำนาจอื่นเหรอ? จริมอดไม่ได้ที่จะนึกถึงประตูทางเข้าสถานีตำรวจขึ้นมา พวกที่สวมหมวกแก๊ป “ดังนั้น นายนึกถึงฉันเหรอ?” ดนวัตเป็นคนจำนวนน้อยที่รู้ความสามารถจิตสัมผัสของดนวัต แน่นอนแหละว่าเขาก็รู้ดีว่าหากร่างกายของจริมใช้ความสามารถแบบนี้มาจพมาสู่ความเจ็บปวดที่ร้ายแรง ถ้าหากไม่มีวิธีจริงๆ ดนวัตก็ไม่อยากจะติดต่อจริมเด็ดขาด ถึงอย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่อยากนึกถึงเรื่องพวกนั้นขึ้นมา “ผมสามารถช่วยพวกคุณหาฆาตกรเจอได้” จริมยืดตัวตรงทันที มองไปที่ดนวัตร “มีข้อแลกเปลี่ยน ผมต้องการรู้ความจริงเมื่อยี่สิบปีก่อน!” ความเจ็บปวด ความเสียใจ ความคิดถึง ความเสียดาย ทุกความรู้สึกที่ตามมากับความทรงจำมันได้แผ่นกระจายไปทั่วห้องที่คับแคบแห่งนี้ ไม่รู้ว่าผ่านมานานเท่าไหร่ ดนวัตก็เอาบุหรี่เข้าไปในปากด้วยอาการสั่นงกๆ เงิ่นๆ พ่น และดูดเข้าไปคำใหญ่ “ได้...ภายในเจ็ดวันจับฆาตกรให้ได้ ฉันก็จะตอบรับคำขอของนาย ข้อมูลในแฟ้มเอกสารกอยู่ในคลังระเบียนของสถานีตำรวจ ยี่สิบปีเต็มแล้ว หากจำไม่ผิด เวลานั้นก็คือคืนที่ฝนตก...” ดนวัตยังอยากจะพูดอะไรบางอย่างต่อ แต่ว่าประตูขอหห้องทำงานก็พลันถูกผลักเข้ามากะทันหัน จารุณีไม่คิดว่าจริมจะอยู่ในห้องทำงานของดนวัตรด้วย ก็เลยยิ้มขึ้นมาอย่างกระอักกระอ่วน ดนวัตรไม่ได้คิดอย่างนั้น โบกมือให้จารุณีพูดออกมา “หัวหน้า หัวหน้าหลิวและเลศยาเตรียมตัวพร้อมแล้ว ทางนี้เหลือแต่คุณแล้ว” ดนวัตมองดูเวลา ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้อง “จารุณี หลังจากน้ไปจริมจะเป็นฝ่ายวางแผนในหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจของพวกคุณแล้ว จริงสิ สงครามการประชุมในครั้งนี้ คุณกับจริมก็เข้าไปฟังๆ ด้วยกันสิ” “ฉัน?” จริมไม่ชอบการวิเคราะห์รายละเอียดคดีปะระเภทนี้ในการประชุม แต่ต้านคำขอที่รุนแรงของดนวัตไม่ไหว ได้แต่ตามไปด้วยกันเท่านั้น “คนเก็บขยะคนนั้นคุณคิดจะทำยังไง?” จริมถามขึ้นมาอย่างฉับพลัน ทำให้จารุณีที่อยู่ด้านหน้าตั้งตัวไม่ทัน เบาะแสของตุ๊กไม้รูปคน ทำให้จารุณีค่อยๆ ประทับใจในตัวของจริมขึ้นเรื่อยๆ แต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จารุณียังคงไม่ฝากความหวังในการไขคดีไว้ที่จริม เธอในตอนนี้ เพียงแค่อยากจับฆาตกรที่สำควรตายคนนั้นด้วยมือของเธอเอง “ชนัตติดต่อไปหาตุนท์เรียบร้อยแล้ว หากมีปัญหาอย่างที่ว่าจริง เขาหนีไม่พ้นหรอก” จริมพยักหน้า ไม่พูดอะไรอีก ถึงแม้คนเก็บขยะจะเป็นเบาะแสอย่างหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถไขคดีทั้งหมดได้ เรื่องสำคัญจะต้องเร่งจัดการโดยเร็ว หรือไม่ก็ต้องเข้าใจเจตนาในการก่อคดีของฝ่ายตรงข้าม ....สงครามการประชุมถูกจัดขึ้นที่ชั้นสองของสถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่ของเมือง H ต่างก็เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ การฆาตกรรมอย่างต่อเนื่องในคืนฝนตกที่เกิดขึ้น ก็ดึงดูดความสนใจของสังคมเป็นอย่างมาก ตามที่เหตุฆาตกรรมที่เกิดขึ้น ความสนใจแบนนี้ ก็เปลี่ยนเป็นความกดดันโดยปริยาย ความกดดันที่หนักหน่วงอยู่บนบ่าไหล่ของทุกคน โดยการเปรียบเทียบกับเครือข่ายข่าวสารของเมือง H ฐานะของผู้ตายก็ถูกตรวจสอบได้อย่างชัดเจนแล้ว ผู้ที่ถูกฆาตกรรมคือชยานี เพสหญิง อายุ 32 ปี ไม่มีงานที่มั่นคงทำ ในวันนี้เวลาแปดนาฬิกายี่สิบห้านาทีก็ถูกพบว่าตายอยู่ที่ซอยที่สามเขตเหนือ ส่วนสาเหตุการตายคือขาดอากาศหายใจจากกลไกภายนอก ในที่ประชุมคนที่รับผิดชอบทีมวินิจฉัยร่อยรอย ทีและทีมฟิสิกส์และเคมีต่างก็รายงานผลลัพธ์ของการสำรวจพื้นที่คดีฆาตกรรมครั้งที่สี่ เหมือนกับสามคดีก่อนหน้านี้ที่เกิดขึ้น ผลลัพธ์การสำรวจกลับไม่ได้ง่ายเลยที่จะมองโลกในแง่ดี ฝนตกหนักทำให้ร่องรอยถูกชะล้างไปเสียจนสะอาด อีกอย่างซอยสามก็เพียงสถานที่ทิ้งศพเท่านั้น ไม่ใช่สถานที่ที่พบคดีแรก ข้อมูลที่ตำรวจสามารถหามาได้ก็มีจำนวนจำกัดเป็นอย่างมาก ภายใต้สายตา ความหวังสุดท้ายก็คือรายงานผลชันสูตรศพที่ทางโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก แต่ระยะเวลาการแก้ไขคดีที่มีระยะเวลายาวนานอย่างนี้บนใบหน้าของตำรวจแต่ละคนค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความเงียบไม่พูดจาและความสิ้นหวัง ภายใต้ความยากลำบาก หน่วยสืบสวนอาชญากรรมท่านดนวัตรแบกภาระที่หนักอึ้งด้วยตัวเอง ขอความช่วยเหลือไปหยังสถานีตำรวจที่เป็นอื่นๆ เพื่อมาร่วมมือกับหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจในการไขคดี ส่วนเจ้าหน้าที่ส่วนที่เหลือแต่ละแผนกจะต้องร่วมมือกันอย่างเต็มที่ และยังมีเจ้าหน้าที่ที่มาใหม่อีกหนึ่งนาย เข้าร่วมกับหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านจิตวิทยาอาชญากรรม ตั้งแต่การประชุมเริ่มต้นขึ้น จริมก็นั่งอยู่ตรงมุมห้องไม่พูดไม่จา ถึงอย่างนั้น เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ที่อยู่ในที่ประชุมแห่งนี้ ยังคงอดไม่ได้ที่จะมองไปยังตัวของเขา มีความระแวง มีความหยิ่งยโส และยังมีความไม่เชื่อถือและความดูถูก พนักงานที่เพิ่งเข้ามาใหม่ เจ้าหมอนี่แม้แต่เห็นที่เกิดเหตุคดีฆาตกรรมก็คลื่นไส้อาเจียนแข้งขาอ่อนแรงแล้ว มีสิทธิอะไรถึงเข้าร่วมหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจได้ และยังเป็นผู้นำของพวกเขาทำการไขคดีนี้อีก? ตามที่การประชุมได้ดำเนินการมา ในที่สุดความขัดแย้งที่มีมานานก็ระเบิดออก ตำรวจอาวุโสหลายนายแสดงตนว่าตัวเองไม่พอใจ ณ ที่ตรงนั้นเลย “หัวหน้า ผมมีความคิดเห็น! ทำไมถึงให้จารุณีรับผิดชอบเป็นหัวหน้าทีม” “แล้วยังมีจริม ผมไม่คิดว่าเขาจะมีประสบการณ์มากกว่าอาจารย์ธนัชที่อยู่นห้องประชุมนีเลย” ดนวัตนวดขมับของตนเอง ควบคุมอารมณ์อย่างสุดความสามารถ “อย่างทะเลาะกันเลย เรื่องจัดการพนักงานเป็นผมที่จัดวางเอง หากมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นผมจะเป็นคนรับผิดชอบเอง” “ท่านดนวัตความครัวของผู้ตายก่อความวุ่นวายอยู่ตรงประใหญ่ทางนั้นครับ บอกว่าอยากหาคุณ..” ประชุมยังไม่จบ จริมก็ออกจากที่ประชุมโดยไม่หันหลังกลับมา เพิ่งจะผลักประตูออกจากที่ประชุมไป ทางเดินข้างหน้าก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินตรงเข้ามา “คุณคือจริม?” สูงประมาณ165เซนติเมตร ในมือถือเอกสารคำรายรายฉบับหนึ่ง ผมยาวเหมือนสายน้ำตก แต่งหน้าได้สวยงาม เปรียบเทียบกับจารุณีระหว่างหน้าผากของเธอเต็มไปด้วยความสูงส่งและความงามที่เย็นชา สายตาของเธอมองมายังจริม แต่ไม่ได้ดูเป็นมิตรสักเท่าไหร่ “ได้ยินมาว่าตอนที่คุณอยู่ต่างประเทศได้ไขคดีมามากมาย คิดไม่ถึง ว่าแม้แต่ศพในที่เกิดเหตุก็ยังอดไม่ไหว” จริมเงยหน้าขึ้น แววตาสะลึมสะลือเหมือนไม่ได้นอนนั้นก็ตกไปอยู่ที่บัตรพนักอยู่ตรงหน้าอกของผู้หญิงคนนั้น เลศยา หมอนิติเวช เขาเคยได้ยินจารุณีพูดถึงชื่อคนนี้ ดูเหมือนว่าคนส่วนใหญ่ในสถานีตำรวจจะมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อตัวเอง “อายุผมน้อย เห็นเลือดพวกนั้นไม่ได้” “หมายความว่าอะไร คุณหมายถึงฉันแก่เหรอ?” จากนั้นจริมก็เดินอ้อมเลศยาไปไม่พูดไม่จา เดินออกไปนอกห้องโดยไม่หันกลับมา ไม่ใช่ว่ารับคำพูดที่เย็นชาของเลศยาไม่ได้ เมื่อเทียบกับเสียเวลาอยู่ที่นี่ต่อไป จริมขอยอมกลับไปซอยที่สามอีกรอบ บนโลกใบนี้ไม่ความสมบูรณ์แบบอยู่ในอาชญากรรม เพียงแค่ทำมัน ก็จะต้องมีตำหนิฝากเอาไว้อย่างแน่นอน ในเมื่อเป็นเพียงสถานที่ทิ้งศพเท่านั้น ถ้าอย่างนั้นก็ควรจะทิ้งเบาะแสอะไรเอาไว้สักอย่าง เบาะแสพวกนั้นมีเพียงเขา ที่หาเจอเท่านั้น
已经是最新一章了
加载中