บทที่ 7 เดินเหินในยามวิกาล
1/
บทที่ 7 เดินเหินในยามวิกาล
มัจจุราชมาหา ใครจะรอด
(
)
已经是第一章了
บทที่ 7 เดินเหินในยามวิกาล
บทที่ 7 เดินเหินในยามวิกาล จริมถูกชนัตกดตัวเอาไว้อยู่ในมุมตึก ถูกปิดปากปิดจมูกเอาไว้ขยับเขยื้อนไม่ได้เลย ในขณะเดียวกัน ตรงหัวมุมตึกเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นมาเบาๆ “ตับตับ...ตับตับ” เสียงที่ดังจากไกลๆ ก็ใกล้เข้ามา ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นชัดเจนยิ่งขึ้น ตรงเข้ามาตรงที่พวกเขาอยู่พอดี มองดูสีหน้าที่เคร่งเครียดของชนัต จริมก็รู้แล้ว่ามันมีอะไรผิดปกติ จากการสนทนาที่ขาดตอนไปเมื่อครู่นี้ ชนัตคงจะมาที่เกิดเหตุคดีฆาตกรรมเพียงคนเดียว เวลาเที่ยงคืน อีกทั้งยังเป็นที่เกิดเหตุฆาตกรรม คนที่อยู่ตรงหัวมุมตึกคนนั้นเป็นใครกันแน่? ชนัตทำสัญญาณมือให้เงียบเสียงลง ในขณะเดียวกันก็ปล่อยจริมด้วย และดึงปืนตำรวจออกมาจากเป๋าด้านหลัง ทว่าคนลึกลับที่อยู่ตรงหัวมุมตึกนั้นก็เหมือนกับสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง และค่อยๆ เคลื่อนไหวอย่างช้าๆ แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมา สามารถมองเห็นเงาของคนๆ นั้นถูกขยายยาวขึ้นไม่หยุดได้อย่างชัดเจน คนลึกลับที่ปรากฏขึ้นกะทันหันจะเป็นใคร ฆาตกร? หรืออาจจะเป็นคนอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม จริมสูดหายใจเข้าลึกๆ คำหนึ่ง พยายามทำให้ตัวเองฟื้นคืนกลับสู่สภาพเดิมจากผลกระทบในด้านลบของจิตสัมผัสขึ้นมา ไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อย ฆาตกรต่อเนื่องในคดีฆาตกรรมนองเลือดเป็นผู้ชายที่บรรลุติภาวะ อีกทั้งวิธีการฆ่ายังเหี้ยมโหดอีกด้วย เลือดเย็นเป็นที่สุด ถ้าหากพบกันโดยตรงภายใต้สถานการณ์แบบนี้ มีเพียงแค่ตัวเองและชนัตสองคน คงไม่จำเป็นต้องคว้าโอกาสแรกเอาไว้ อย่างไรก็ตาม เมื่อพลาดโอกาสนี้ ถ้าหากคิดอยากจะจับกุมคนๆ นั้นเอาไว้อีกก็คงลำบากเป็นอย่างมาก ในขณะที่กำลังลังเลอยู่นั้น ชนัตก็เดินนำหน้าไปแล้ว เขาบอกเป็นนัยกับจริมก่อนว่าให้รออยู่ข้างหลัง จากนั้นก็จับปืนเอาไว้แน่นทันที แฉลบตัวออกไปจนถึงหัวมุมตึก ฐานะของฝ่ายตรงข้ามไม่ชัดเจน ชนัตก็ไม่อยากจะบุ่มบ่ามเข้าไป ทว่าพอคิดถึงผู้เชี่ยวชาญไก่อ่อนที่อยู่ด้านหลังคนนั้น ก็คงกัดฟันตัวเองนำไป ถ้าเรื่องมันเลวร้าย ปืนในมือกระบอกนี้ก็เป็นไพ่ใบสุดท้ายแล้ว พอถึงเวลานี้ เงาคนที่อยู่ตรงหัวมุมนั้นก็เหมือนกับว่าสังเกตเห็นถึงความอันตราย คิดไม่ถึงว่าจะไม่มีการเคลื่อนไหวแล้ว ทั้งสองฝ่ายต่างไม่ยอมกันและกันอยู่ในซอยที่มืดนั้น ทั้งสองฝ่ายต่างไม่กล้าเคลื่อนไหวก่อน จริมมองดูเงาที่อยู่บนพื้น ก็รู้ทันทีว่ามันผิดปกติ “ไม่ดีแล้ว เจ้านั่นจะหนีแล้ว!” ชนัตได้ยินดังนั้น ก็จับปืนแน่นแล้วพุ่งตัวออกไปทางหัวมุมนั้น “นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ห้ามขยับ!” แต่ทว่า เงาคนนั้นรู้ตัวนานแล้ว และวิ่งหนีเข้าไปในซอยๆ หนึ่งแล้ว “แม่ง!” ชนัตด่าออกไปคำหนึ่ง รีบวิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว เมื่อกี้นี้จริมอยากจะพูดอะไร ก็เห็นชนัตวิ่งออกไปไกลแล้ว จึงทำได้เพียงกัดฟันวิ่งตามไป บริเวณใกล้ๆ กับที่เกิดเหตุฆาตกรรมเชื่อมต่อกับซอยมากมาย สภาพถนนก็ซับซ้อน ถึงแม้ความเร็วของเงานคนนั้นจะไม่เร็วเท่าไหร่ แต่ก็รู้สภาพแวดล้อมรอบๆ เป็นอย่างดี ชนัตตามหลังมาติดๆ ตลดทาง แต่ก็ไม่มีทางย่อระยะระหว่างทั้งสองฝ่ายลงได้เลย จริมก็รู้สึกว่าตัวเองหายใจรุนแรงขึ้น หัวใจก็เต้นเร็วขึ้น ขาทั้งสองข้างก็หนักเหมือนถูกเติมตะกั่วเข้าไป ลมที่โหมพัดกระหน่ำผ่านแก้มไปอย่างบ้าคลั่งราวกับเป็นคมมีดตัดกล่องเสียงก็ไม่ปาน การเข้าหยั่งรู้เมื่อกี้นี้ทำให้สูญเสียพละกำลังส่วนใหญ่ไป เขาไม่สามารถออกแรงวิ่งตามชนัตได้มากกว่านี้แล้ว ทางแยกบริเวณใกล้ๆ กับซอยที่สามมีมากเกินไป กำลังคิดว่าควรจะเปลี่ยนทิศทางวิ่งตามไปหรือไม่ พอถึงจุดสิ้นสุดทางที่เชื่อมต่อกัน ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมาอย่างฉับพลัน “ปัง!” เสียงปืนนั้นดังขึ้นมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ทำลายความเงียบสงบบริเวณรอบๆ ไปอย่างสิ้นเชิง ทางข้างหน้าเกิดอะไรขึ้น? ใครเป็นคนยิง? ชนัตยังอยู่ดีใช่ไหม? ลางสังหรณ์ที่ไม่ดียิ่งรุนแรงขึ้น จริมยังไม่ทันจะได้พัก ก็กัดฟันพุ่งออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ห่างออกไปสิบกว่าเมตร ชนัตเอามือปิดหน้าเอาไว้ พิงอยู่ระหว่างกลางบนกำแพง เลือดอุ่นๆ ไหลลงมาอาบแก้มอีกซีกหนึ่งไม่หยุด มือขวาของเขากำปืนเอาไว้แน่น หลังจากที่คาดการณ์จากสภาพของที่เกิดเหตุดูแล้ว เสียงปืนหนึ่งนัดเมื่อครู่นั้นคงจะเป็นชนัตที่ยิงมันออกไป เห็นชนัตไม่เป็นอะไร จริมก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขารู้ดีว่าชนัตเป็นคนสนิทของดนวัต ไม่ว่าจะอย่างไร เขาเขาก็ไม่สามารถบอกดนวัตได้ “ประมาทเกินไป เจ้านั่นมันเตรียมตัวเอาไว้นานแล้ว” ชนัตเช็ดเลือดสดที่อยู่ตรงหน้าผากออกไปด้วย และเก็บปืนเข้าไปด้วย “มันเดินวนไปที่หัวมุมแอบอยู่ตรงด้านหลังขยะ ฉันกำลังจะวิ่งเข้าไป ก็ถูกตะบองตีเข้าที่หัวแล้ว” “ดังนั้นคุณก็เลยยิงเพื่อเตือนเหรอ?” ชนัตหยิบบุหรี่มวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อ กัดเอาไว้ที่ปาก หัวเราะแหะแหะแล้วพูดว่า “ไม่ ฉันแค่อยากจะยิงไปที่ขาของมัน แต่ว่าเล็งอยู่นานก็ไม่ยิง ก็เลยยิงพลาด” จริมเหลือบไปมองแผลที่อยู่ตรงมุมหน้าผากของชนัต พูดเสียงต่ำ “เห็นหน้าเจ้านั่นชัดหรือเปล่า?” ชนัตหรี่ตาต่ำลง พยายามนึกถึงภาพก่อนหน้านี้ “ใส่ผ้าปิดปาก สูงกว่าฉันไม่มากเท่าไหร่ คงจะเป็นผู้ชาย นี่ ผู้เชี่ยวชาญ นายว่าเจ้าหมอนั่นเป็นฆาตกรหรือเปล่า ถ้าหากว่าใช่ ถ้าอย่างนั้นเมื่อกี้นี้ไม่ใช่ว่าผมพลาดโอกาสดีๆ เป็นแล้วเ]หรอ?” “เขาหนีไม่รอดหรอก!” “หมายความว่ายังไง นายมีวิธีจับไอ้สารเลวนั่นเหรอ?” จริมไม่ได้ตอบชนัต จากนั้นก็ก้มห้าเดินไปยังปากทางเข้าซอย ในเมื่อพวกเขาคิดไม่ถึงว่าจะมาเจอกับคนลึกลับที่นี่ได้ ถ้าอย่างนั้นในทางกลับกัน คนลึกลับนั่นก็น่าจะคิดไม่ถึงว่าจริมกับชนัตจะมาปรากฏตัวที่นี่ ที่ไล่ตามมาเมื่อกี้นี้ ก็ต่อเนื่องกันประมาณสิบห้านาที ช่วงเวลานี้ มันมากพอที่คนลึกลับนั่นจะทิ้งร่องรอยเปิดโปงตัวตนของเขาเอาไว้ได้ สภาพที่ย่ำแย่ของถนนบริเวณซอยที่สาม พื้นดินส่วนหนึ่งเปียกฝนยังไม่แห้งสนิท ตามทางเดินไปข้างหน้า จริมก็พบรอยเท้าใหม่เอี่ยมหลายรอยอยู่บนพื้นดินโคลนหลายที่อย่างรวดเร็ว รอยรองเท้าที่ไม่เหมือนกันสองรอยตัดสลับกันเต็มไปหมดอยู่ตรงพื้นดินที่อยู่ข้างหน้า ชนัตสวมรองเท่าไนกี้ที่เพิ่งเข้าตลาดมาได้ไม่นาน ถ้าอย่างนั้นรอยเท้าที่เหลือนี่อาจจะเป็นไปได้ว่าคนลึกลับนั่นจะทิ้งเอาไว้ ชนัตเข้าใจความคิดของจริมอย่างรวดเร็ว หยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างร้อนรน กดโทรไปหาจารุณีทันที “ผมเอง ชนัต หาข้อมูลรอยเท้าที่เคยเดินไปที่ซอยสาม เรื่องอื่นๆ ค่อยพูดตอนที่พวกเราเจอกัน อีกอย่างหนึ่ง เรื่องนี้จะต้องเก็บเอาไว้เป็นความลับ ก่อนที่ผลจะออกมา ผมไม่อยากให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ รู้ ...” ตรวจสอบรอยเท้าและตรวจสอบรอยเท้าที่ใกล้เคียงกัน ด้วยเทคนิคพิเศษในการค้นหา การแยกแยะและวิเคราะห์รอยเท้าที่เกี่ยวข้องกับคดี หลักสำคัญในการแยกแยะรอยเท้าก็คือตัดสินจากเพศ อายุ ส่วนสูง ท่าเดิน น้ำหนักและทิศทางของคนร้ายตามลักษณะของรอยเท้าและการกระจายของรอยเท้า สี่คดีคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เพราะว่าฝนตกหนัก ทางตำรวจจึงแกะรอยเท้าที่เหลืออยู่ของคนที่ต้องสงสัยว่าเป็นฆาตกร และรอยเท้าทั้งหมดที่อยู่บนดินโคลน อาจจะกลายเป็นเบาะแสที่สำคัญในการไขคดีข้อมูลของฆาตกรได้ หลังจากวางสายโทรศัพท์ไป ทั้งสองคนก็ไม่พูดไม่จา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดในคืนนี้ ทำให้ชนัตควบคุมความดีใจที่อยุ่ภายในใจได้ยาก แต่ว่าจริมที่อยู่ข้างๆ กลับยังนิ่งอยู่ เทียบกับรอยเท้าที่อยู่ข้างหน้านี้ เขาก็สนใจความรู้สึกที่คุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูกที่ปรากฏขึ้นในตอนที่เขากำลังหยั่งรู้ ฆาตกรมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะรู้จักกับชยานี นี่เป็นสิ่งที่ใครก็คิดไม่ถึง ไล่ตรวจสอบตามเส้นทางเบาะแสนี้ต่อไป บางทีมันอาจจะได้ผลโดยคิดไม่ถึงเลยล่ะ แต่ว่าเขายังไม่คิดจะบอกเรื่องที่พบเห็นนี้กับชนัตชั่วคราว “จริงสิ” ชนัตพ่นควันบุหรี่ออกมาคำหนึ่ง มองหน้าจริมแล้วพูดว่า “ดึกขนาดนี้ ทำไมนายไม่พักผ่อนอยู่ที่โรงแรมดีๆ ล่ะ มาทำอะไรที่นี่?” “แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่ล่ะ?” จริมไม่เงยหน้าขึ้น น้ำเสียงยังเย็นชาเหมือนเดิม “ก็ต้องมาหาเบาะแสที่นี่สิ ฉันมักจะรู้สึกว่าพลาดอะไรบางอย่างไปเมื่อตอนเช้านี้” ภายใต้ควันบุหรี่ สายตาของชนัตก็มองไปที่จริม เขายิ่งรู้สึกว่าผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาอาชญากรรมที่อยู่ตรงหน้านี้แปลกประหลาดไปหน่อย ตั้งแต่เจอกันครั้งแรก ความรู้สึกที่เหมือนเคยรู้จักกันมาก่อน ก็สะบัดมันไม่ออกสักที
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 7 เดินเหินในยามวิกาล
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A