บทที่ 8 ประกอบพิธีเซ่นไหว้
1/
บทที่ 8 ประกอบพิธีเซ่นไหว้
มัจจุราชมาหา ใครจะรอด
(
)
已经是第一章了
บทที่ 8 ประกอบพิธีเซ่นไหว้
บทที่ 8 ประกอบพิธีเซ่นไหว้ “นี่ผู้เชี่ยวชาย” ชนัตดูดบุหรี่เข้าไปอีกหนึ่งคำ ดวงตาคู่นั้นกำลังพิจารณาไม่หยุดอยู่ในความมืด “เมื่อก่อนนายไปเรียนต่อที่ไหน ยุโรปหรอ?” “แคนนาดา” “อ่อ งั้นฉันคงจำผิดแล้วแหละ ฉันน่ะมักจะรู้สึกเหมือนเคยเจอนายมาก่อนเลยนะ” จริมขมวดคิ้ว ไม่ใส่ใจกับคำถามของชนัตเลยแม้แต่น้อย สายตาของเขามองออกไปยังปากทางซอยข้างหน้า พยายามนึกถึงภาพที่เกิดขึ้นในจิตสัมผัส พอถึงเวลานี้ ตรงท้ายซอยก็มีเงาคนแฉลบผ่านไป ทำให้สภาพจิตใจของจริมเคร่งเครียดขึ้นมาอีกครั้ง ทิศทางการก้าวไปข้างหน้าของอีกฝ่าย พุ่งไปทางซอยที่สามพอดี หรือว่าจะเป็นคนลึกลับนั่นที่จู่โจมชนัตเมื่อกี้นี้ ย้อนกลับไปในที่เกิดเหตุอีกครั้งหรอ? “อย่าส่งเสียงดัง มันคือคนที่แอบจู่โจมคุณเมื่อกี้นี้หรือเปล่า?” ชนัตก็สังเกตเห็นเงาคนที่ปรากฏอยู่ตรงท้ายซอย รีบดับบุหรี่ที่อยู่ในมือทันที “น่าจะไม่ใช่ รูปร่างและการเคลื่อนไหวไม่เหมือนกัน และยิ่งไปกว่านั้นฉันเพิ่งจะยิงปืนออกไป คนลึกลับคนนั้นคงไม่กล้ากลับมาอีกแล้วล่ะ” ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น แต่ว่าเงาคนที่อยู่ตรงถนนข้างนั้นนั้นยังคงแปลกประหลาดอยู่ ความเร็วของเงาคนนั้นก็ไม่ได้เร็วเท่าไหร่ มือขวาลากกระสอบขนาดใหญ่ หยิบของออกมาจากกระสอบเอามาซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ กระจายอยู่บริเวณรอบๆ ซอย ครั้งนี้ จริมไม่ได้รีบร้อนลงมือทำอะไร แต่ว่าเรียกชนัตให้ตามหลังมาก่อน เงาคนที่อยู่ตรงนั้นค่อยๆ เดินห่างออกไปไกล จริงถึงได้ค่อยๆ เดินตามไปอย่างช้าๆ หยิบของที่ถูกทิ้งเอาไว้บนพื้นขึ้นมา มองมันปราดเดียว ทันใดนั้นก็หายใจเอาอากาศเย็นเข้าไปคำหนึ่ง ของที่วางกระจัดกระจายอยู่ทั้งสองข้าง คิดไม่ถึงว่าจะเป็นแบงค์กงเต็กที่พับซ้อนกันอยู่ แบบตัวอักษรของธนาคารโลกพิมพ์ได้อย่างละเอียดมาก เวลาเที่ยงคืน มีคนมาทำพิธีกรรมเซ่นไหว้ชยานีบริเวณใกล้ๆ กับที่เกิดเหตุ! ชนัตเบิกตากว่างมองไปยังเงาคนที่อยู่ตรงท้ายซอย เหมือนกับว่าคิดอะไรอยู่ ทันใดนั้นก็ร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ “เขาคือ... ตุนท์!” “อืม... คุณรู้จักเขาด้วยหรอ?” “ก็เป็นคนเก็บขยะคนนั้นที่พบศพเป็นคนแรกไง!” ตุนท์มีขาที่พิการ หลังค่อม ท่วงท่าการเดินเหมือนกับคนลึกลับก่อนหน้านี้ไม่มีผิด จารุณีเคยให้ชนัตไปควบคุมตัวตุนท์เอาไว้ให้เร็วที่สุด แต่คิดไม่ถึงว่าตอนที่ตุนท์ให้บอกที่อยู่จะเป็นที่อยู่ปลอม ทำให้ชนัตต้องเสียเวลาในตอนบ่ายเพื่อไปตามหาเขา “เขา... ทำไมต้องทำพิธีเซ่นไห้ให้กับชยานีด้วย!” พอจริมได้ยินอย่างนั้น ก็หรี่ตาลง ก่อนหน้านี้เขาก็คาดเดาว่าตุนท์มีความเป็นไปได้ว่ากำลังปิดบังสถานการณ์ที่สำคัญบางอย่างเอาไว้อยู่ และยังมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้านี้อีก จึงยืนยันการคาดคะเนในตอนนั้นได้พอดี ถ้าหากว่ามันเป็นแค่การพบศพ หลังจากที่แจ้งความแล้วก็ไม่จำเป็นต้องมาที่นี่เพื่อทำพิธีเซ่นไหว้ผู้ตายอย่างนี้เลยแม้แต่น้อย นอกเสียจากว่าในใจของตุนท์มีความละอายใจอยู่! ก่อนหน้าเป็นคนลึกลับนั่น หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยตุนท์ ซอยที่สามมีความลับอะไรซ่อนเอาไว้อยู่จริงๆ กลับมาที่นี่ใหม่อีกครั้งในคืนนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดไม่น้อย ซอยเล็กๆ ที่อยู่ในความมืด ตุนท์ก็โปรยเงินกระดาษไปด้วย แล้วก็เคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วย เขาเดินช้ามาก ขาซ้ายของเขาลากไปกับพื้น เสียงรองเท้าที่เสียดสีไปกับพื้นดังก้องไปมาในซอยที่คับแคบนี้ไม่หยุด เหมือนศพที่เดินได้อย่างไรอย่างนั้น เวลาผ่านไปหนึ่งนาทีหนึ่งวินาที จริมและชนัตก็ตามไปด้านหลังของตุนท์ติดๆ ไม่กล้าทำให้เขาตกใจ เที่ยงคืน ที่เกิดเหตุคดีฆาตกรรม โปรยเงินกระดาษของตุนท์ ทั้งหมดที่ไม่เปิดเผยนี่มันแปลกประหลาดมาก ตุนท์เดินกลับมาที่ซอยสามใหม่อีกครั้ง กระดาษเงินที่อยู่ในกระสอบก็เหลืออยู่ไม่มากแล้ว เขาเดินไปบริเวณที่ชยานีเสียชีวิต ปากของเขาก็พรึมพำอะไรบางอย่างไม่หยุด ครู่ใหญ่ๆ มือทั้งสองข้าก็พนมขึ้น และคุกเข่าทั้งสองข้างลงไป ดูเคร่งศาสนาเป็นอย่างมาก โอกาสมาแล้ว จริมและชนัตไม่ลังเลอะไรอีกต่อไป ทั้งสองคนเข้าไปล้อมซ้ายล้อมขวาเอาไว้ สกัดทางเอาไว้ไม่ให้ตุนท์หนีไปได้ “คุกเข่าลง ห้ามขยับ!” ตุนท์ที่จิตใจกำลังจดจ่ออยู่นั้นก็เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึงว่ายังมีคนอื่นอยู่ในซอยนี้ด้วย ตกใจกลัวจนล้มลงไปกับพื้น หน้าก็กลายเป็นซีดเผือด “โอ้ย! พวก.. พวกคุณเป็นใคร... ช่วยด้วย ช่วนด้วย!” “อย่าตะโกน ผมเป็นตำรวจ บอกความจริงมาซะ!” อารมณ์ของชนัตนั้นดูมีอำนาจมาก ทำเอาตุนท์ช็อกไปจนไม่กล้าพูดจาไร้สาระอีก ชายชราวัยหกสิบสองปี สวมเสื้อผ้าที่แต่รอยปะ ผมเผ้ายุ่งเหยิงและมีใบหน้าที่สกปรกมอมแมม ทั้งตัวก็มีกลิ่นเปรี้ยวเหม็นเน่าลอยคละคลุ้งไปทั่ว “ตำ... ตำรวจหรอ? ที่...ควรพูดผมก็พูดออกไปหมดแล้ว พวก...พวกคุณยังจะตามผมมาทำไมอีก?” “ที่ควรพูดคุณก็พูดออกมาหมดแล้ว ถ้าอย่างนั้นทำไมคุณต้องตื่นเต้นขนาดนี้ด้วยล่ะ?” “ดึกๆ ดื่นๆ มาที่นี่เพื่อทำพิธีเซ่นไหว้ให้กับผู้ตาย อะไรที่อยู่ในใจยังไม่เปิดเผยจงพูดออกมาให้หมด!” ชนัตหรี่ตาลง ยิ่งพบว่าตุนท์จะต้องปิดบังสถานการณ์อะไรบางอย่างที่สำคัญเอาไว้อย่างแน่นอน หลังจากที่ดึงตุนท์ขึ้นมา ก็พูดออกไปเสียงดัง “เกี่ยวกับคดีฆาตกรรม คุณยังรู้อะไรอีกบ้าง!” “ผม... ผมก็แค่เห็นว่าสาวน้อยคนนั้นน่าสงสาร ก็เลยเผากระดาษเงินไปให้ สหายตำรวจ.....พวกคุณปล่อยผมไปเถอะ....ผมไม่รู้อะไรแล้วจริงๆ” ใบหน้าของตุนท์ร้องไห้ออกมาจนเกือบจะล้มลง “ไม่พูดใช่ไหม? ได้! งั้นก็ไปสถานีตำรวจกับฉันอีกสักรอบ” เสียงนั้นเพิ่งจบลง ตุนท์ก็ดูเหมือนถูกแทงเข้าไปตรงจุดสำคัญ ทั่วทั้งร่างก็เกิดอาการสั่นเทาขึ้นมา “อย่า อย่า อย่า...ขอร้องพวกคุณล่ะ อย่าเอาผมไปเลย หลานสาวของผมอยู๋ห่างผมไม่ได้ ถ้าหากว่าไม่เจอผม เธอ เธอจะเป็นบ้าเอาได้...” เห็นตุนท์คุกเข่าลงให้ตัวเองอย่างรวดเร็ว ชนัตก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงถึงจะดี ในเมื่อชายชรามีลับลมคมในจริงๆ แต่ว่าเขาก็อายุหกสิบปีแล้ว อีกทั้งยังมีขาที่พิการอีกด้วย ชนัตก็ไม่ใจแข็งพอที่จะใช้กำลังป่าเถื่อนกับเขา พอมาถึงเวลานี้ จริมที่ไม่พูดไม่จามาโดยตลอดก็ตบไปที่บ่าไหล่ของชนัต บอกเป็นนัยให้เขาปล่อยตุนท์ไป สถานการณ์เมื่อกี้ จริมเห็นกับตาทั้งหมดแล้ว เมื่ออารมณ์ของคนๆ หนึ่งพังทลายลง หรือว่าเวลาที่พบเจอกับปัญหาที่ไม่มีทางแก้ พฤติกรรมภายในจิตใต้สำนึกสามารถสะท้อนให้เห็นถึงจุดเด่นของนิสัยของคนนี้ออกมา ไม่ค่อยพูด ซื่อสัตย์ ในตอนนี้จริมถึงได้มองลักษณะนิสัยของตุนท์ออก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ใช้จิตสัมผัส เขาก็ยังมั่นใจว่าตุนท์ที่อยู่ตรงหน้านี้จะพูดความจริงออกมา “ไม่ต้องเครียด แค่ตอบคำถามไม่กี่ข้อ พวกเราก็จะปล่อยคุณไป” มองดูใบหน้าที่วงบของจริม ตุนท์ก็รู้สึกสงบขึ้นมาเล็กน้อย สอบถามอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่า “คุณตำรวจ...อะไรที่ควรพูดผมก็พูดไปหมดแล้ว ผมไม่รู้อะไรแล้วจริงๆ” “อะไรที่ควรพูดก็พูดมาหมดแล้ว ถ้าอย่างนั้นยังมีอะไรที่ไม่ควรพูดอยู่ใช่ไหม?” ดูเหมือนจะเป็นคำพูดที่ล้อเล่น แต่กลับทำหุ้นท์ที่เดิมทีผ่อนคลายก็เริ่มตื่นเต้นขึ้นมาอีกครั้ง จริมหรี่ตาลง หยิบบุหี่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อมวนหนึ่ง ส่งให้ตุนท์ที่อยู่ตรงหน้า “ท่านอาจารย์ หลานสามของคุณชื่ออะไร?” “ออ...อ้อย...” ตุนท์ตัวสั่นรับบุหรี่มา หน้าผากมีเหงื่อซึมออกมาเป็นเม็ดๆ ไม่รู้ทำไม ชายหนุ่มที่ดูเหมือนไม่อันตรายกลับให้ความรู้สึกกดดันเขาอย่างหนึ่ง มากกว่าชนัตที่อยู่ข้างๆ ซะอีก “อ้อย...” จริมทวนชื่อนี้อีกครั้ง มุมปากยกยิ้มขึ้นมาที่ไม่ง่ายเลยที่จะสังเกตเห็น“ท่านบอกว่าหลานสาวอยู่ห่างท่าไม่ได้?” “ใช่” “ถ้าอย่างนั้นในตอนที่ท่านพบศพ อ้อยอยู่ที่ไหน?” ทุกครั้งที่พูดถึงอ้อย ดวงตาของตุนท์มักจะเคลื่อนที่ไปทางด้านซ้าย ปฏิกิริยาแบบนี้เหมือนกับตอนที่เขาเน้นว่าไม่มีอะไรที่จะบอก เวลาที่คนกำลังตรึกตรองบางเรื่องที่มีความเกี่ยวข้อง ก็มักจะเผยอารมณ์และการกระทำที่เหมือนกันออกมาอยู่บ่อยๆ นี่ก็ทำให้จริมคาดเดาได้ว่าอ้อยอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมนี้ก็ได้ “ตับ” เสียงหนึ่งดังขึ้นมา ตุนท์กัดบุหรี่ที่อยู่ในปากจนเกิดเป็นเสียงดังขึ้นมา ชายชราที่ซื่อสัตย์และอ่อนแอมามามากกว่าครึ่งชีวิตคนนี้ไม่รู้ว่าจะพูดโกหกอย่างไรดี เพียงแค่สิบวินาทีเท่านั้น ตุนท์ก็พูดความจริงออกมาแล้ว เวลาที่เขาพบศพของชยานีคือเวลาประมาณหกโมงเช้า
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 8 ประกอบพิธีเซ่นไหว้
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A