บทที่11 ตุ๊กตาไม้แกะสลัก
1/
บทที่11 ตุ๊กตาไม้แกะสลัก
มัจจุราชมาหา ใครจะรอด
(
)
已经是第一章了
บทที่11 ตุ๊กตาไม้แกะสลัก
บทที่11 ตุ๊กตาไม้แกะสลัก ตุ๊กตาไม้แกะสลักที่หามานาน ขณะนี้กำลังปรากฏอยู่ในมือของจริม นี่คือจารุณีกับชนัตก็คาดไม่ถึง ตุ๊กตาไม้แกะสลักทำมาจากไม้เนื้อแข็ง. ชิ้นส่วนประกอบด้วยพลาสติกและขมสัตว์ การประดิษฐ์นี้ไม่ถือว่าประณีต แต่ก็พอที่จะเลียบแบบมาจริงมาก สิบปีที่แล้ว. ในการตลาดตุ๊กตาแกะสลักแบบนี้เป็นที่นิยมมาก แต่กาลเวลาผ่านไป ของเล่นที่ไม่ทันสมัยแบบนี้ก็ถูกคัดออกไปแล้ว ตุ๊กตาไม้แกะสลักถูกทำลายไปอย่างรุนแรง ทุกส่วนที่ถูกเสื่อมสึกและแตกไม่เหมือนกัน ในนั้น มือซ้าย-ขวาของตุ๊กตาเหมือนเจตนาที่ถูกตะปูประกอบให้อยู่ด้วยกัน หน้าข้างซ้ายครึ่งหน้ายิ่งถูก “เผาทำลายไปอย่างรุนแรง” ดูท่าทางแปลกประหลาดมาก ด้านหลังของตุ๊กตาไม้แกะสลักถูกคนใช้ปากกาแดงเขียนไว้ว่า ชยานี ตุ๊กตาทรุดโทรมอย่างแสนสาหัส เหมือนชยานีจริงๆเลย แต่ว่า อย่างแรกคือตุ๊กตาที่ไม่มีชีวิต แต่อย่างหลังกลับบกลายเป็นศพที่หนาวเย็นไปแล้ว “คุณหาเจอจากที่ไหน?” จารุณีรีบเดินขึ้นไป รับตุ๊กตาไม้แกะสลักจากมือของจริม น้ำเสียงเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความโกรธแค้น จำเป็นจะต้องส่งตุ๊กตาไม้แกะสลักไปในสำนักเมืองดำเนิดการตรวจวัดและวินิฉัยDNA แต่ว่าเวลาผ่านไปนานขนาดนี้ ผลประเมินบางทีอาจจะได้รับผลกระทบอย่างมาก จริมไม่ได้ตอบ ดูไปแล้วก็เห็นสีหน้าที่ซีดของตุนท์และอ้อย เลยหันหัวแล้วเดินออกไป “ท่าทีอะไรของคุณ ฉันถามคุณอยู่เนี่ย?” จารุณีมองไปหาจริมอย่างหน้าไม่พอใจ ทนพอแล้วท่าทีที่เยือกเย็นอย่างนี้ของเขา ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะดนวัต ตั้งแต่แรกเธอก็ไล่จริมออกจากกลุ่มสืบสวนคดีแล้ว “อ้อยพัวพันฉันจะดูของเล่นใหม่ ฉันคิดไม่ถึงจริงๆเลยว่า ของเล่นที่เธอพูดนี้ไม่นึกเลยว่า…ไม่นึกเลยว่าจะเป็นของอันนี้ ข้างหลัง ตุนท์อธิบายอะไรอย่างไม่หยุด จะลึงจนตัวสั่น ชนัตได้ยิน ก็รีบขึ้นไปปลอบผู้เฒ่าที่น่าสงสารคนนี้ ในเวลาสั้นๆหนึ่งวันนี้ เขาผ่านเรื่องราวมาเยอะมาก นอกห้อง สีท้องฟ้าก็เริ่มมืดไปหมดแล้ว จริมรีบเดินเข้าไปในซอย แววตายิ่งลึกมืดลงไป ตัวอักษรที่ยั่วยุในหน้าอกของผู้ตายปรากฏออกมาพร้อมกับตุ๊กตาไม้แกะสลัก นี่เหมือนอย่างที่เขาอนุมานโดยไม่ได้ปรึกษากันมาก่อน ฆาตกรเกลียดชังระบบยุติธรรม .รีบร้อนที่อยากจะปรากฏความอาชญากรรมของตนเองให้เห็น แม้ว่าไอ้คนนั้นจะบ้าคลั่งเหี้อมโหด แต่ทุกครั้งกระทำคดีจะเรียบร้อยมาก นำเบาะแสทั้งหมดและรวมทั้งร่องรอยจัดการได้เหมาะสมพอดี ฆาตกรรมก็เหมือนเป็นผู้อาชญากรรมมาแต่เกิดจริงๆ. หรือพูดว่า ยังมีคนอื่นช่วยเขา? อ้อยเก็บตุ๊กตาไม้แกะสลักในที่ก่อเหตุได้ นี่ก็หมายความว่า น่าจะเป็นไปได้ที่เธอได้พบเห็นถึงขั้นตอนการที่ฆาตกรทิ้งศพ แต่ว่า หลังจากที่เห็นตุ๊กตาไม้แกะสลักแล้ว จริมได้ทดลองมาหลายครั้งแล้ว ตั้งแต่เริ่มจนจบก็ไม่สามารถถามเบาะแสที่มีค่าจากปากของอ้อยได้ สักพักหนึ่ง ชนัตกับจารุณีก็เดินลงมาจากตึกด้วยกัน สีหน้าของทั้งสองต่างไม่เหมือนกัน สีหน้าของจารุณีเขียน จ้องไปหาจริม เดินไปอย่างหัวก็ไม่กลับ ชนัตกลับดูเหมือนสบายมาก หยิบบุหรี่อันหนึ่งออกจากในอก แล้วส่งไปให้ด้วยตนเอง “นายก็ยังโทษเธอเลย” ชนัตชี้ไปที่ด้านหลังของจารุณี: “นิสัยของหัวหน้าหน่วยเสียไปหน่อยจริงๆ แต่เธอก็แค่อยากจับฆาตกรที่เหี้ยนั้นได้กว่าใครๆอีก จริมรับบุหรี่มา จุดไฟ ดูดเข้าไป ไฟของถนนนำอวัยวะทั้งของเขาตัดเป็นสองส่วน ในแสงเงา เสมือนใบหน้าสองแผ่นที่ไม่เหมือนกัน สักพักหนึ่ง จริมก็เปิดปากพูดขึ้นมาว่า “นายเชื่อว่าในโลกนี้มีวิญญาณอยู่ไหม “อะไรนะ วิญญาณ?” ชนัยคิดไม่ถึงเลยว่าความคิดของจริมจะกระโดดได้ใหญ่อย่างนี้ ถูกบุหรี่สำลักจนน้ำตาออกมาเลย: “เป็นไปได้ไง?สาวน้อยต้องดูผิดแน่นอน เอาของอะไรมาคิดเป็นผีผู้หญิงเสื้อแดง” “ไม่เป็นไร เธอพูดได้ตั้งใจมาก ถึงแม้ว่าอ้อยสติปัญญาจะต่ำกว่าคนปรกติ แต่สายตากลับไม่มีปัญหาอะไร เธอต้องมองเห็รแน่นอน ฉันเสนอพวกคุณไปตรวจกล้องวงจรที่บริเวณเขตถนนตอนเกิดอาชญากรรมออกมา จุดสำคัญคือหาผู้หญิงที่ใส่ชุดสีแดง ชนัตเหลือบมองดูจริมไปอย่างเหยียดๆแว้บหนึ่ง. แต่ก็ยังนำเบาะแสนี้จดบันทึกเข้าไปอย่างระวัง “ได้ครับ นักสืบ นอกจากพวกนี้ ยังมีอะไรที่จะชี้แนะอีกไหมครับ?” “ นายรู้สึกไหม ตุ๊กตาไม้แกะสลักถูกทำลายจนยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงแล้ว?” “นี่ก็ใช่” ชนัตก็สังเกตเห็นแล้ว เปรียบเทียบกับตุ๊กตาไม้แกะสลักของคราวที่แล้ว อันนี้ถูกทำลายได้รุนแรงที่สุด เมื่อเขาอ่านแล้วชิมคำพูดของจริมดูดีๆแล้ว แต่กลับรู้ตัวขึ้นมากะทันหันคำหมายที่ไอ้นี้อยากจะแสดงออกมา “ยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรง……นายอยากบอกว่ามาตรฐานที่ตุ๊กตาไม้แกะสลักที่ถูกทำลาย สะท้อนถึงสถานะในใจของฆาตกร?” “ไม่ใช่แค่ตุ๊กตา ผู้ตายหลายคนก็เหมือนกัน” เปลือกตาของจริมย้อยลง สีหน้ากลับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง :”อาชญากรรมที่ใจร้อนของไอ้คนนั้นกำลังจะทำให้สถานการณ์รุนแรงไม่หยุด ฆ่าคน…เหมือนจะไม่สามารถให้เขาพอใจแล้ว” เพิ่งพูดจบ บริเวณก็ตกอยู่ในความเงียบสงบ ชนัตชิมอ่านคำพูดนี้อยู่ซ้ำๆ รู้สึกขนลุกขึ้นมา แม้กระทั่งการฆ่าคนก็ไม่สามารถสนองความต้องการทางอาญาของเขาได้ ไอ้คนอย่างนี้ต่อไปจะทำเรื่องอะไรออกมา ใครก็ไม่สามารถจะจินตนาการได้ เริ่มจากตุ๊กตาไม้แกะสลัก “คำทำนาย”ทั้งหมดที่จริมพูดออกมาล้วนกำลังค่อยๆเกิดเป็นความจริงอย่างนึกไม่ถึง “ยังมีอีกไหม?” “ยังมีอะไรอีก” “ที่นายวิเคราะห์ อย่างเช่นฆาตกรจะก่อคดีอีกครั้งเมื่อไร พวกเราสืบสวนไปตามเบาะแสอะไรถึงจะสามารถจับกุมไอ้คนนั้นได้อย่างนี้ …”ชนัตทำตัวเหมือนเป็นมิตรแล้วขยับไป กลับถูกจริมผลักทิ้ง ถึงแม้ว่าจะเป็นเที่ยงคืน จริมก็ยังใส่ถุงมือหนังสีดำเหมือนเดิม ใบหน้าที่เขียวเขียนไว้ว่า ผู้อื่นห้ามเข้าใกล้ “ผู้เชี่ยวชาญ อย่าเขินอายสิ พูดเยอะๆหน่อยเถอะ!” จริมหน้าจมลงมา นำบุหรี่ในมือเด็ดให้ดับ :”สถานะตอนนี้ของนาย เหมือนเด็กผู้หญิงกำลังอ้อนมาก” ชนัตกลับตะลึง ต่อมาก็แกล้งทำนิ้วเป็นดรรชนีกล้วยไม้ หยิบเสียงให้อ่อนๆ: “ไอ้ผี น่าเกลียด มือที่เต็มไปด้วยรอยแผลมีด ดีดนิ้วเป็นดรรชนีกล้วยไม้ขึ้นมา กลับมีความสวยอย่างหนึ่งที่พิเศษ จารุณีนั่งอยู่ที่แถวหลังของออดี้มาแต่แรกแล้ว. เห็นจริมกับชนัตเดินหน้าเดินหลังออกจากซอย ในหน้ากลับไม่มีกิริยาท่าทางอะไร นั่งเข้ามาในรถ ทั้งสามตกอยู่ในความเงียบสงบอย่างนาน สักพักหนึ่งจารุณีก็เป็นคนเปิดปากพูดก่อน ทำลายความเงียบสงบ “ตุ๊กตาไม้แกะสลักฉันจะส่งกลับไปสำนักเมืองประเมิน พรุ่งนี้กลางวัน ผลประเมินทั้งหมดก็จะสามารถตัดสินใจได้แล้ว” “ดีจริงๆ ครั้งนี้ต้องค้นพบอะไรแน่นอน” “ที่สำคัญยังต้องประเมินรองเท้า” จารุณีเอียงสมองมา ดูข้างนอกรถ: “หวังว่า ไอ้คนนั้นที่จู่โจมเธอ ก็คือฆาตกรที่ควรตายนั้น” ชนัตชี้ไปที่ส่วนสมองที่ถูกห่อได้แน่น ทำหน้าจนปัญญา:”ใช่แล้ว อันนี้ต้องถือว่าฉันได้รับบาดเจ็บจากการทำงานนะ” “นายอ่าได้แล้ว แค่บาดแผลเล็กๆอันหนึ่งเรียกร้องตั้งนาน นายเป็นผู้ชายอยู่ไหม?” “แหะๆ เทียบกับเธอแล้ว นี่ถือว่าเล็กไปหน่อย…” ชนัตกับจารุณีทั้งสองกำลังพูดคุยกันอย่างไม่หยุด จริมที่อยู่ข้างกลับเหมือนอยู่ในโลกอีกใบเงียบสงบ ตอนเทวดาปรากฏแล้วความคุ้นเคยอย่างนั้น อธิบายได้ว่าชยานีกับฆาตกรต้องรู้จักกันมาก่อน ตรวจสอบไปตามเบาะแสนี้ จำต้องได้รับข้อคิดแน่นอน แต่ว่าการตรวจสอบที่เกี่ยวข้องกับเบาะแสนี้ ต้องรวดเร็ว เมืองHกำลังมาถึงฤดูฝนในหน้าร้อน สิ่งที่ตามมาด้วยอาจจะเป็นฝนตกหนักอีกครั้ง คาดคะเนจากตุ๊กตาไม้แกะสลักที่หาเจอที่บ้านอ้อย ฆาตกรต้อง “หิวกระหายจนไม่ไหว”แต่แรกแล้ว ความคาดหวังในการฆ่าคนไม่ว่าตอนไหนก็ต้องถูกจุดไฟขึ้นมาอีกครั้งแน่ คราวหลัง ไอ้คนนั้นจะใช้วิธีอะไรมาก่อเหตุอีก?ใครก็ไม่สามารถจะรู้ได้ ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถออดี้จอดไว้ที่หน้าประตูโรงแรมที่จริมอยู่ จริมตะลึงอยู่พักหนึ่ง แล้วค่อยผลักประตูรถ เดินเข้าไปที่โรงแรม “เฮ้!”จารุณีเปิดปากพูดอย่างเย็นชา ในคำพูดเต็มไปด้วยความโกรธ: “ไม่ว่านายกับลุงดนวัตมีความสัมพันธ์อะไรกัน ในเมื่อเข้ามาในหน่วยปฏิบัติเฉพาะกิจ ก็อย่าก่อความวุ่นวายตามใจ คราวหน้าก่อนที่จะปฏิบัติภารกิจ บอกกับพวกฉันก่อน!” “ฉันปฏิเสธ” “เหตุผล?” “ฉันไม่เคยชินกับการที่ต้องมาปฏิบัติภารกิจด้วยกันกับคนอื่น ไว้ใจได้ จับฆาตกรได้ฉันก็จะไปเอง จะไม่แย่งคุณงามความดีกับพวกคุณ” “นาย……นายเอาพวกเราเป็นคนอะไร!” จารุณีอยากจะอภิปราย กลับถูกชนัตลักกลับไปในรถ พูดเกลี้กล่อมตักเตือนมานานอย่างไม่หยุด จริมปิดประตูรถ หัวก็ไม่กลับแล้วเดินเร็วไปยังโรงแรม ขณะนี้ก็ตีสองแล้ว แสงไฟของถนนเหลืองนวลทำลายความเงียบของรอบๆบริเวณ ในห้องโถงโรงแรม มีหลายคนที่ใส่เสื้อดำกางเกงดำบนหัวสวมหมวกไอ้คนพวกนั้นดูเหมือนไม่ค่อยเรียบร้อยเลย ในตอนเช้าแถวๆสำนักเมือง จริมเคยเห็นไอ้คนพวกที่แต่งตัวอย่างนี้เข้าออกบ่อยๆ แต่ว่าถ้าเพื่อที่จะล่าข้อความที่เกี่ยวข้องกับเบาะแส พวกเขาไม่ควรที่จะปรากฏตัวที่ห้องโถงโรงแรม ดูเหมือนว่า มาถึงที่เมืองHแล้ว ก็มีคนจ้องเขาไว้แล้ว สวมหมวกและผ้าปิดปากที่จัดเตรียมไว้ล่วงหน้า หายใจเข้าลึกๆ จริมก้มหัวลงไป เดินเร็วเบียดไอ้พวกเสื้อดำกางเกงดำที่อยู่ข้างหน้า ในพริบตาที่มองตาด้วยกัน เขานำหน้าตาของพวกนี้จดจำลง ####บทที่12 เพลงโหมโรง ไม่ว่าจะเป็นแถวๆสำนักเมือง หรือว่าสถานที่เกิดเหตุ แม้กระทั่งในห้องโถงโรงแรม. ไอ้พวกที่ใส่เสือดำกางเกงดำนี้ก็เสมือนวิญญาณภูตผีไม่ไปไหน ไม่มีใครรู้จุดประสงค์ของคนพวกนั้นเป็นอะไร นอนจากตำรวจกับญาติพี่น้องของผู้ได้ความเสียหาย เหมือนยังมีอำนาจฝ่ายที่สามกำลังติดตามทิศทางคดีสังหารในค่ำคืนฝนอย่างใกล้ชิด ในพริบตาที่มองตาที่ด้วยกัน จริมจดจำใบหน้าของคนพวกนี้อย่างเงียบๆ เขาเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมา ทำไมดนวัตถึงติดต่อเขากลับมาตรวจสอบคดีคนตายอย่างกะทันหัน วันรุ่งขึ้นตอนกลางวัน ดนวัตอยู่ในสำนักเมืองเรียกประชุมเกี่ยวกับ 5.25 ประชุมสู้รบชั่วคราวที่ค่ำคืนฝนคดีสังหารเชื่อมโยงติดต่อกันหลายครั้ง สมาชิกหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจเข้าร่วมกันทั้งหมด ถึงแม้ว่าจริมไม่ค่อยสมัครใจ แต่ทนคำข้อร้องที่รุนแรงของดนวัตไม่ไหว ก็ได้แค่ฝืนใจเร่งไปถึงสำนักเมือง ในห้องประชุม มีคนนั่งไว้เยอะแยะ นอกจากชนัต จารุณีและหมอนิติเวชเลศยา แผนกวินิฉัยร่องรอย รวมทั้งเพื่อนร่วมงานแผนกรอยเท้าส่วนหนึ่งก็ปรากฏในห้องประชุม วิ่งวุ่นและทำงานขันแข็งมาทั้งวันความอดทนของหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจแทบจะค่อยๆหายไป ร่างกายและในใจได้รับความกดดันสองชั้น ทุกคนที่อยู่ในที่แห่งนี้ในหน้าไม่ว่าเยอะหรือน้อยก็แขวนไปด้วยความอ่อนเพลียและเหน็ดเหนื่อย ดนวัตประกาศให้กำลังใจเหมือนเดิม ดูทุกคนในที่แห่งนี้ ใบหน้าที่แก่เหมือนผ่านโลกมาอย่างโชกโชนบีบรอยยิ้มออกมาได้อย่างไม่ง่าย “สีหน้าพวกคุณนี้ทำไมถึงขรึมจริงจังชนาดนี้ เหมือนอย่างกับไปร้องไห้งานศพ เรื่องมันยังไม่ได้แย่ขนาดนั้น มีความสุขหน่อย” เพิ่งพูดจบ ข้างล่างก็มีตำรวจคนหนึ่งที่อายุมากก็คล้อยตามด้วยว่า: : “ก็ใช้ล่ะสิ อธิบดีกรมดนวัตยังยืนอยู่ข้างบนอยู่เลย พวกฉันก็ยังไม่มีที่ให้ร้องงานศพเลย” “กลิ้งทวดมึงสิ ถ้ากล้ามาโต้เถียงอีก ยกเลิกวันหยุดปีใหม่ของนาย” ล้อเล่นกันเสร็จ บรรยากาศในห้องประชุมกลับผ่อนคลายลงมาหน่อย ดนวัตหายใจเข้าลึกๆ เริ่มประชุม “คนที่อยู่ในที่แห่งนี้ล้วนเป็นคนกันเอง มีเรื่องบางเรื่อง ฉันก็ไม่อยากปิดบังพวกเธอแล้ว สำนักงานจังหวัดสั่งการลงมา ให้ไขคดีภายในสิบวันนี้ ความกดดันภายนอกฉันกัดฟันทนลงมาแล้ว หลังจากสิบวันถ้ายังไม่สามารถมอบงานอีก ฉันจะเป็นคนแรกถอดเสื้อออกไป พูดเสร็จ ดนวัตมองไปรอยบๆทุกคนที่อยู่ที่แห่งนี้ครั้งหนึ่ง สุดท้ายสายตาก็ตกอยู่ที่ตำแหน่งที่เลศยาอยู่ “เลศยา เธอพูดผลตรวจของศพก่อนเถอะ” เลศยาจบจากญี่ปุ่นมหาวิทยาลัยวาเซดะ ตอนอยู่โรงเรียน เกรดดีเป็นพิเศษ หลังจากกลับมาก็เข้าหน่วยสืบสวนอาชญากรรมเมืองHที่เดียวแล้วได้รับตำแหน่งเป็นหมอนิติเวช คดีสังหารหลายอันของคราวทที่แล้วเธอก็เป็นคนดำเนิดการผ่าตัดชันสูตรพลิกศพ การผ่าชันสูตรพลิกศพและกายวิภาคศพ หมายความว่าสำหรับตัวเครื่องที่เสียชีวิตไปแล้วมาดำเนิดการชันสูตรศพเพื่อที่จะตรวจสอบเหตุผลที่ตายนี่คือวิธีการทางการแพทย์อย่างหนึ่ง ชันสูตรศพสำหรับจัดการสาเหตุการตายที่ไม่ชัดเจนและมีการคัดค้านต่อสาเหตุที่ตายและโต้แย้งในการเกิดอุบัติเหตุทางการแพทย์ที่มีผลกระทบที่ไม่สามารถจะแทนได้ ในคดีอาญา การชันสูตรศพสำหรับการค้นพบคดีจะสำคัญอย่างยิ่ง เลศยาค่อยๆนำผมสีทองยาวๆขยับไปข้างหลัง ค่อยๆลุกขึ้นมา ในใบหน้าที่งดงามปรากฏให้เห็นสีหน้ามุ่งมั่นที่เห็นได้น้อย “ผู้เสียหายชยานี หญิง สามสิบเก้าปี ไม่เคยมีโรคประจำตัว ในเดือนกรกฎาคมวันที่สามก่อนเที่ยงประมาณเจ็ดโมงยี่สิบถูกสังเกตว่าตายที่เวลาที่เกิดเซอยสามเขตเหนือ ผ่านการตรวจเศษเหลือในกระเพาะของผู้ตายแล้ว พวกเราได้รู้ว่าเวลาเกิดเหตุคือเดือนกรกฎาคมในค่ำคืนวันที่สองสิบสิบเอ็ดโมงสิบห้านาทีถึงระหว่างสิบเอ็ดโมงสี่สิบห้านาที สาเหตุที่ตายเป็นเพราะเครื่องจักรกลแล้วหายใจไม่ออก คล้ายคดีฆาตกรรมของคราวที่แล้ว อาวุธคือเชือกป่านที่หนายาวสิบห้ามิลเมตร พูดเสร็จ เลศยาก็เอาเชือกสีเทาขาวลักษณะบางยาวออกมาจากบนโต๊ะท่อนหนึ่ง “เชือกป่านที่คล้ายกัน ในร้านขายเครื่องมือช่างทุกร้านในเมืองHแทบจะมีขายไปหมด “นอกจากนี้แล้ว ในร่างกายของผู้เสียชีวิตปรากฏให้เห็นได้ว่ามีลักษณะฟกช้ำเขียวกระจายอยู่หลายที่ รวมทั้งระดับฟกช้ำไม่เท่ากัน เส้นเอ็นข้างขวาท่อนที่สองและท่อนที่สามยิ่งไปกว่าก็คือกระดูกหักอย่างระดับเบา นี้คือเกิดจากผู้เสียชีวิตได้ประสบการตบตีตอนยังมีชีวิตอยู่ เปรียบเทียบกับอาชญากรรมสามเหตุของคราวที่แล้ว สิ่งที่ชยานีได้ประสบถูกทำร้ายอย่างรุนแรงนี้ยิ่งให้คนขนลุกขึ้นมาจริงๆ ฆาตกรเป็นแบบอย่างบุคลิกที่ต่อต้านกับสังคม มีเอียงโน้มกระทำหฤโหดอย่างแรง ถ้าปล่อยคนแบบนี้ออกไปกระทำความผิดตามอำเภอใจต่อไป เมืองHจะไม่มีความสงบนี้……” “เลศยา…’ จารุณีเห็นหน้าอกของเลศยาขึ้นลงอย่างไม่หยุด ทนไม่ไหวเลยเปิดปากพูดตัดขาดเธอ: “เธอยังสังเกตเห็นอย่างอีกไหม?” หมอนิติเวชก็ไม่ได้เลือดเย็นไร้ความเมตตาไปหมด ถึงแม้จะรักษาสติสัมปชัญญะแล้วกายวิภาคเป็นมารยาที่ดีงานพื้นฐานของหมอนิติเวชทุกคน แต่หลายต่อหลายครั้งที่ต้องเห็นชีวิตที่มีชีวิตชีวาพวกนั้นถูกฆ่าทำร้ายอย่างเหี้อมโหด ไม่ว่าเป็นใครก็ไม่สามารถที่จะรับได้ ความจริงแล้วฆาตกรคือกำลังฆ่าคนหาคนสนุกสนาน ก็เป็นเพราะเอกลักษณ์ของอาชีพ เลศยาถึงได้รู้อย่างชัดเจนว่าผู้เสียหายพวกนั้นก่อนตายได้รับความทรมานอย่างไรบ้าง สักครู่ เลศยาค่อยสงบอารมณ์ลงมาอีกครั้ง ต่อมาก็เอาเอกสารรายงานอีกใบข้างหน้าขึ้นมา “ยังมี พวกเราตรวจพบในเล็บรวมทั้งในผมของผู้เสียชีวิตมีส่วนเศษเหลือของหมึกพิมพ์ไม่น้อย” “หมึกพิมพ์?” “ไม่ใช่หมึกพิมพ์ธรรมดา” พูดจบ เลศยานำรูปภาพหลายใบติดตามลำดับในข้างหลัง ต่อมาสีหน้าขรึมจริงจังพูดว่า: “พวกนี้ล้วนเป็นตอนการพิมพ์ที่ใช้หมึกพิมพ์ในระดับที่มีความบริสุทธิ์ที่สุด ความเหนียวดี ดูความเข้มของสี ถ้าติดขึ้นมาก็จะล้างออกยากมาก ร่องผมของผู้ตายตรวจพบเศษเหลือของหมึกพิมพ์น่าจะอยู่ประมาณครึ่งปีกว่าๆ ฉันคาดการณ์ผู้เสียชีวิตน่าจะทำอาชีพอย่างใดอย่างหนึ่งที่เกี่ยวกับการพิมพ์” ชยานีไม่ใช่คนท้องที่เมืองH มาถึงที่นี่ก็ยังไม่มีอาชีพที่มั่งคงอะไร ไม่มีที่อยู่ที่แน่นอน เวลาทั้งวัน ฝ่ายตำรวจยังไม่สามารถที่จะตรวจสอบข้อความฐานะของผู้ตายได้อย่างชัดเจน หมอนิติเวชเลศยาเสนอเบาะแสนี้ ทำให้เวลาการตรวจสอบของฝ่ายตำรวจหดสั้นลงมาอย่างมาก เสียงพูดเพิ่งจะหยุดลงมา ผู้คนที่อยู่ที่แห่งนี้กลับแสดงสีหน้าที่แตกต่างออกมา จริมจ้องรูปภาพพวกนั้นที่ทดสอบไว้ ตั้งใจคิดหาคำตอบอย่างนาน ในสมองภาพนั้นที่ไม่ชัดเจน กลับค่อยๆกลายเป็นชัดเจนขึ้นมา ในเมืองHมีโรงการพิมพ์ทั้งหมดสามร้านใหญ่ แต่ในตัวเมืองมีโรงงานหัตถกรรมเล็กยิ่งเยอะแยะมากมาย ถ้าสามารถแน่ใจสถานที่ทำงานของผู้ตาย ก็จะมีโอกาสที่สืบหาทีละก้าวทีละก้าวได้อย่างชัดเจนว่าในวันเกิดเหตุชยานีทำอะไรไปบ้าง แล้วได้พบเจอคนอะไร “ได้ รีบไปตรวจสอบชัดเจนแนวโน้มวันเกิดเหตุของผู้ตาย จำเป็นจะต้องแม่นยำถึงชั่วโมง ถึงแม้ว่าที่อยู่ของซอยสามจะเปลี่ยว แต่กล้องวงจรถนนของเขตถนนบริเวณใกล้เคียงตลอดเวลามาก็ดำเนิดการอย่งปรกติ กล้องวงจรน่าจะบันทึกเหตุการณ์ฆาตกรขั้นตอนทั้งหมดที่โยนศพ…” “ อธิบดีกรมดนวัต ฉันก็มีสิ่งค้นพบ!” ในเวลานี้ ในห้องประชุมข้างหลังซ้ายมีคนหนึ่งที่ใส่แว่นกรอบสีดำ ผู้ชายวัยกลางคนที่มีพุงใหญ่เปิดปากพูดกะทันหัน จริมจำคนคนนี้ได้คือผู้รับผิดชอบแผนกวินิฉัยรอยเท้า เมื่อคืนกับจารุณีพวกเขาไปซอยสามไปเก็บรอยเท้าด้วยกัน จารุณีดูแว่ตากรอบดำข้างหลัง ความดีใจของบนหน้าไม่อาจจะปิดบังได้: “พี่เสือ ผลวินิฉัยของรองเท้าออกมายังค่ะ?” “ใช่ หัวหน้าจารุณีมีคำสั่ง พวกเราก็ต้องทำโอทีแน่นอน”แว่นตากรอบดำพยักหน้าให้สัญญาต่อดนวัต อีกสักครู่แนะนำอย่างง่ายๆเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อคืนรอบหนึ่ง “คนลึกลับที่จู่โจมชนัตถึงแม้จะหนีไปแล้ว แต่รองเท้าที่เขาเหลือไว้กลับสามารถสะท้อนข้อความออกมาหลายอย่าง “เพราะเก็บรอยเท้าได้สมบูรณ์มาก เพราะฉะนั้นผลวินิฉัยออกมาได้เร็วมาก ผ่านการเปรียบเทียบตรวจสอบ รอยเท้าสี่อันที่เหลือไว้ที่ซอยสามได้สมบูรณ์แบบมาก พวกเราคาดการณ์ส่วนสูงของฆาตกรคร่าวๆอยู่ระหว่าง 175-178เซนติเมตร น้ำหนัก 65-68กิโลกรัม ขาขวาเอียงไปข้างหลังระดับเสื่อมสึกได้รุนแรงมาก ไหล่ขวาต่ำกว่าไหล่ซ้าย แปดอักษรของขาทั้งสองข้างพลิกไปที่ข้างนอก เดินขึ้นมามีลักษณะเอนเอียงข้างขวาค่อนข้างจะชัดเจน…” ชนัตลุกตัวขึ้นมา ทองลองเลียบแบบแบบอย่างการเดินอย่างนี้อยู่รอบหนึ่ง เหมือนกำลังคิดหาคำตอบอะไรอยู่ “ไอ้คนนี้น่าจะถนัดมือขวา เมื่อคืนตอนที่ถึงฉัน ก็ใช้มือขวาเหมือนกัน” แว่นตากรอบดำไม่เร่งไม่รีบ พูดเสร็จแล้วก็ถือโอกาสหยิบเอกสารรายงานอีกแผ่น: “สิ่งที่ควรใส่ใจอย่างพิเศษคือ พวกเรายังยังตรวจสอบออกมาจากรอยเท้าที่ค้นพบว่ามี หินปูน คาร์บอน หินแกรนิต เหล็กออกไซด์ รวมทั้งดินที่หลงเหลือ หินปูนกับหินแกรนิต ล้วนไม่ใช่วัสดุที่พบบ่อยในเขตเมือง ดินที่หลงเหลือที่ผ่านการตรวจสอบ และไม่ตรงกับคุณภาพดินของซอยสาม” “นี่ก็หมายความว่าอีกฝ่ายก่อนที่จะไปซอยสาม ยังเคยไปเขตที่มีปัจจัยเกี่ยวข้องกับพวกนี้” ตอนนี้ จารุณีที่ไม่พูดอะไรก็ลุกตัวขึ้นมาตื่นเต้นอย่างกะทันหัน “หรือพูดอีกได้ว่า คนลึกลับคนนั้นไปซอยสามเพราะพื้นที่นั้นมีวัสดุเหล่านี้เนี่ยเอง!”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่11 ตุ๊กตาไม้แกะสลัก
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A