ตอนที่ 104 ยิ้มบาง ๆ
1/
ตอนที่ 104 ยิ้มบาง ๆ
หลงรักสามีจอมปลอม
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 104 ยิ้มบาง ๆ
ตอนที่ 104 ยิ้มบาง ๆ ปุริมอุ้มเพ็ญนีติ์วางลงบนเก้าอี้คนขับ พวกเด็ก ๆ กำลังนอนหลับสนิท เขาจึงไม่ต้องเป็นกังวล แต่ที่เขากังวลก็คือนภนต์ที่กำลังตามมา เขาไม่อยากขับรถแข่งกับนภนต์ ทั้ง ๆ ที่เพ็ญนีติ์กำลังเกาะก่ายตัวเขาเหมือนปลาหมึก สภาพของเพ็ญนีติ์ที่อยู่ภายใต้แสงสว่างเมื่อครู่ ถ้าหากในเขาอธิบายแม้แต่ตัวเธอเองคงไม่เชื่อ ผิวของเธอขาวนุ่มชุ่มชื้น ร่างของเธอที่ชุ่มพราวไปด้วยหยาดเหงื่อ ยิ่งทำให้เธอดูขาวหมดจด ดูสวยหยาดเยิ้ม ซึ่งมันพิเศษ พิเศษอย่างมาก เมื่อรถเริ่มออกตัว ปุริมพยายามอย่างมากที่จะไม่ให้การเคลื่อนไหวของหญิงสาวรบกวนเขา แสงไฟหน้ารถของ BMW ด้านหลังกระทบกระจกมองข้างของเขา เป็นรถของนภนต์ที่ขับตามมา ปุริมยกมุมปากยิ้มบาง ๆ ก่อนคว้าวิทยุสื่อสารแล้วออกคำสั่งอย่างใจเย็น “ตอนฉันขับรถผ่านถนนหมายเลขสองไปแล้ว ให้นายขับรถมาสกัดรถคันหลังที่ตามฉันมา ” “รับทราบ” ปุริมไม่ทันพูดจบ ปลายสายก็ตอบอย่างรวดเร็วและมุ่งตรงไปยังปุริมทันที ความเร็วรถของปุริมไม่ลดลงเลยสักนิด เขาขับตรงไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วพลางดูรถของนภนต์ที่อยู่ด้านหลัง ลูกน้องที่เขาสั่งให้สกัดรถของนภนต์ฉลาดพอที่จะขวางรถของนภนต์ตรงสี่แยก ถึงแม้นภนต์อยากจะตามมา ก็ยากเกินไป ปุริมปล่อยมือจากพวงมาลัยรถและดีดนิ้ว ถ้าหากไม่ได้เห็นแก่หน้าของนภนต์ที่เคยดูแลเพ็ญนีติ์มาตลอดหลายปี เขาคงจะเปิดเผยความจริงเรื่องนั้นแล้วจริง ๆ รถค่อย ๆ ขับออกห่างจากตระกูลศาสตร์พงษ์ด้วยความเร็วคงที่ ตัวของเพ็ญนีติ์ยังคงร้อนรุ่ม ถึงแม้เธอจะรู้ว่าชายหนุ่มที่กำลังอุ้มเธออยู่คือปุริม แต่เธอก็ไม่สามารถหยุดมือของเธอที่เกาะก่ายบนร่างเขา เพราะทำแบบนี้เธอถึงจะสามารถบรรเทาอาการร่างกายที่สั่นไหวเหมือนดั่งแมลงตัวเล็ก ๆ ได้ เธอทนไม่ไหวจริง ๆ กลางดึก สำหรับผู้ใหญ่บางคนอาจจะดูเหมือนหัวค่ำ ไฟนีออนระยิบระยับนอกหน้าต่างรถเหมือนดั่งชีวิตที่ลุ่มหลงสำมะเลเทเมา แสงไฟหลากสีค่อย ๆ กล่อมประสาทเขาคล้ายกับทุกอย่างไม่ใช่ความจริงอีกต่อไป ปุริมขับรถด้วยความเร็วต่ำสุด ในอดีตมีหญิงสาวเคยวางแผนทำร้ายเขาครั้งหนึ่ง เพราะเหตุนี้ ในรถของเขาจึงมียาถอนพิษไว้ วันนั้นในระหว่างที่เขาหนีพ้นจากการควบคุมของกุหลาบ เขาก็ได้ให้บทเรียนแก่กุหลาบ ปุริมเอื้อมมือเปิดกล่องใบเล็กด้านหน้ารถ แต่เมื่อเปิดออกมา เขานี่มันโง่จริง ๆ ในกล่องนั้นไม่มียาถอนพิษอยู่ น้อยครั้งที่เขาจะพลาดแบบนี้ คราวก่อนหลังจากที่เขากินยา เขากลับลืมใส่ยาใหม่ไว้ เพ็ญนีติ์ ครั้งนี้เธอโทษเขาไม่ได้นะ คนล้มห้ามเหยียบซ้ำ เขารู้ดีถ้าหากไม่รีบแก้ไขความร้อนรุ่มในร่างกายของเพ็ญนีติ์ ผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไง ปุริมหันมองเบาะหลังที่มีอ้อยและส้มซึ่งกำลังหลับสนิท เขารู้ว่าเขารอไม่ได้แล้ว รอไม่ได้แล้วจริง ๆ ไม่งั้นเพ็ญนีติ์คงทนไม่ไหวแน่ ๆ เขามองออกไปนอกหน้าต่างรถ แววตาลังเลสองจิตสองใจ เขาจำได้ว่าใกล้ ๆ นี้มีสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ในเวลานี้ที่นั่นเงียบสงบมาก นอกจากสวนสาธารณะแห่งนี้ เขาก็คิดสถานที่ที่ใกล้กว่านี้ไม่ออกอีกแล้ว เมื่อตัดสินใจได้ เขาก็เพิ่มความเร็วขับไปยังสวนสาธารณะ ถึงแม้ท่าทีหญิงสาวบนร่างจะเชื่องช้าลง แต่ความรู้สึกร้อนรุ่มยังคงถูกส่งมายังร่างกายของเขา “อา...” ปุริมไล้นิ้วมือไปตามผิวของเพ็ญนีติ์ เพียงแค่สัมผัสเบา ๆ กลับทำให้เพ็ญนีติ์สะดุ้งกายขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัว ศีรษะของเธอกระแทกโดนคางของเขา แต่เธอกลับไม่รู้สึกอะไร ทั้งยังดิ้นกระสับกระส่ายต่อไป เพ็ญนีติ์ยังคงมึนงง มองทุกอย่างไม่ชัดเจน ปุริมรู้ว่าเพ็ญนีติ์ในเวลานี้ถึงขีดจำกัดแล้ว เพียงแค่เขาทดสอบเท่านั้น เขาขับรถอย่างรวดเร็ว โชคดีที่ในเวลานี้ไม่มีตำรวจบนถนน ไม่งั้นรถของเขาคงถูกตำรวจล้อมไปแล้ว เมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงสวนสาธารณะแล้ว ปุริมเลือกที่จะขับไปที่เงียบ ๆ อย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกัน นิ้วก็กดลงที่กระจกกันเสียงกั้นระหว่างที่นั่งด้านหน้ากับด้านหลัง ยังไงก็ต้องลงมือแล้ว และห้ามไม่ให้เด็ก ๆ รู้สึก เพราะยังไงอ้อยกับส้มก็เป็นลูกของเขา เพ็ญนีติ์กำลังสับสนเลอะเลือน แต่เขาไม่ใช่ เขาไม่มีทางทำเรื่องที่สร้างบาดแผลให้เด็ก ๆ รถค่อย ๆ จอดใต้ต้นไม้ เมื่อไฟหน้ารถดับลง จึงมีเพียงแสงสว่างจากไฟริมถนนไกลออกไปเท่านั้น ขอแค่ไม่มีเสียงในรถเล็ดลอดออกไป ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาและเพ็ญนีติ์กำลังทำอะไรกัน ทันใดนั้นเมื่อปิดไฟภายในรถก็มืดสนิท แต่ความมืดไม่ส่งผลกระทบต่อพวกเขา นิ้วมือจะช่วยให้พวกเขารู้สึกถึงกันและกัน ปุริมผละมือออกจากพวงมาลัยรถ เขาดับเครื่องยนต์เรียบร้อยแล้ว เขาอ้อมตัวมาเอนเบาะที่นั่งลง เบาะนั่งที่ยาวเหมือนเตียงขนาดเล็กทอดยาวในพื้นที่ว่างแคบ ๆ ข้างหน้า แต่สำหรับชายหญิงสองคนที่กอดรัดกันความแคบนี้ก็ถือว่าเหมาะสมแล้ว ที่ว่างเยอะก็สิ้นเปลืองเสียเปล่า ๆ เพ็ญนีติ์ถูกวางลงบนเบาะนุ่ม อุณหภูมิภายในรถเย็นจัด แต่เธอยังคงร้อนรุ่มกระสับกระส่าย เป็นอย่างที่คิดไว้ ประสิทธิภาพของยานั่นได้แสดงตัวตนที่แท้จริงของเธอต่อหน้าเขา “ก็อก ๆ” มีคนกำลังเคาะหน้าต่างรถ ปุริมเปิดไฟดวงเล็ก ๆ ในรถ หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ลดกระจกรถลง “มีอะไรครับ?” “ตรวจสอบครับ เป็นใครครับ?” เป็นตำรวจที่กำลังออกตรวจตอนกลางคืน เพ็ญนีติ์ได้ยินเสียงคนอย่างพร่าเลือน เธอกัดริมฝีปากแน่น ไม่ให้ตัวเองเผลอส่งเสียงที่ไม่ควรเปล่งออกไป เธอรู้สึกอับอายอย่างมาก รู้สึกทรมานจริง ๆ เธอแค่อยากให้คนที่มาเคาะกระจกรถรีบจากไปเร็ว ๆ “แกร๊ก” มีแสงไฟส่องมายังร่างของเธอ ที่ชัดเจนที่สุดคือแสงสว่างตรงหน้า ใบหน้าของเธอโดนส่องแล้วอย่างแน่นอน แต่เธอไม่กล้าขยับตัว ทั่วร่างเต็มไปด้วยเหงื่อ ไม่สามารถขยับได้ ท่าทางของเธอเหมือนคนกำลังนอนหลับ บนร่างของเธอสวมชุดนอน ปุริมราวกับมองไม่เห็นแสงไฟที่ส่องมา หยิบเอานามบัตรจากกล่องใส่บัตรเหนือพวงมาลัยส่งให้ตำรวจด้านนอก “นี่คือนามบัตรของผม ผมกำลังอยู่กับภรรยาและลูก ผมคิดว่าพวกคุณควรจะไปได้แล้ว” ไฟฉายส่องไปยังเบาะหลังของรถ หลังจากนั้นก็ผละออกไป ตำรวจกล่าวด้วยน้ำเสียงขอโทษ “ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งที่รบกวนครับ” “ไม่เป็นไรครับ โชคดีที่ภรรยาและพวกลูก ๆ กำลังหลับอยู่ ไม่งั้นผมจะร้องเรียนพวกคุณแน่” ตำรวจทั้งสองเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจกลัวจนฉี่ราด ปุริมเป็นคนยังไง พวกเขาล้วนรู้ตั้งแต่แรก ถ้าหากจิณณะไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาในฐานะพี่น้องร่วมมารดา เกรงว่าจิณณะก็ไม่สามารถทำอะไรปุริมได้ ที่จริงแล้วประวัติความเป็นมาของชายคนนี้ก็ไม่ต่างจากตระกูลจันทยศในเขตทหารของเมืองดรัลแม้แต่น้อย แข่งเรือแข่งพายยังแข่งกันได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนาแข่งกันไม่ได้ อายุน้อยกว่าพวกเขา แล้วจะไปเอาอะไรไปเปรียบเทียบ เรื่องผู้หญิงหรือ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ตำรวจรีบร้อนจากไปราวกับมีปีกบิน เกรงว่าถ้าช้าไปเพียงประเดี๋ยวเดียวขาข้างหนึ่งจะหายไป ปุริมมองด้านหลังของตำรวจสองคนที่รีบจากไป บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้ม ดูแล้ว เขาไม่ต้องคิดแล้วว่าจะทำยังไง พรุ่งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเพ็ญนีติ์คงเป็นที่รู้กันในเมืองดรัล รูปถ่ายรูปนั้นอธิบายทุกอย่างแล้ว ปุริมลดกระจกรถลงและเปิดไฟ ทุกอย่างภายในรถกลับไปเป็นสภาพเดิม เขาเอี้ยวตัวอีกครั้ง.... ด้านหลังกระจกเก็บเสียง พวกเด็ก ๆ ยังคงหลับสนิท ผลดา เธอเกลียดผลดาจะตายแล้ว ทุก ๆ อย่างเกิดขึ้นแล้ว น้ำตาค่อย ๆ ไหลออกมา เอ่อล้นอยู่ที่หางตาของเธอ เหมือนเป็นหมอกที่หนาทึบเย็นยะเยือก เธอล้มตัวนอนลงที่เดิมอย่างเงียบ ๆ ไม่ขยับตัว มองปุริมที่ผละตัวออกไปอย่างไม่สะทกสะท้าน หลังจากนั้นสำรวจความเรียบร้อยของตนเอง และเปิดกระจกเก็บเสียงออก ทำให้เธอได้ยินเสียงหายใจอย่างสม่ำเสมอของเด็ก ๆ ที่กำลังนอนอยู่ที่เบาะหลัง ทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาวะปกติ แต่เธอรู้ว่าเมื่อสักครู่เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เธอจำได้อย่างชัดเจน เป็นเธอที่ร้องขอเขา เพ็ญนีติ์กัดฟัน ใบหน้าแดงด้วยความเขินอาย ชายหนุ่มเริ่มขับรถอีกครั้ง เขาทิ้งคลื่นลูกใหญ่ไว้ข้างหลังอย่างไม่ตื่นตระหนกตกใจ “ทฤนห์ลาออกจากบริษัททัดธนกรุ๊ปจำกัดแล้ว วันนั้นเป็นทฤนห์ที่ส่งคนเข้ามาในคอนโดของผม ผมคิดว่าคุณเข้าใจผมผิด ผมและทฤนห์เคยมีความสัมพันธ์กันมาก่อนก็จริง แต่คุณไม่รู้นิสัยผมรึไง ผู้หญิงของผมไม่เคยได้รับอนุญาตให้คิดเกินเลยไม่ว่ายังไงก็ตาม เธอคิด ดังนั้นเธอก็ควรไปได้แล้ว” ฟังคำพูดของปุริม นอกจากหญิงสาวแล้วเขาก็ไม่ช่วยใครอีกเลยสินะ ยกเว้นเพ็ญภัทร์ อีกทั้งเธอก็เหมือนเพ็ญภัทร ที่ถูกเขาช่วยเหลืออย่างเปิดเผย ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเหมือนเรื่องตลกเรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดในเรื่องตลกนั้นคือเธอที่เป็นตัวหมากตัวหนึ่งที่ไร้ทางถอย ในตอนนี้ เธอไม่มีหน้าจะเจอนภนต์อีกแล้ว เธอถูกปุริมพาออกมาจากตระกูลศาสตร์พงษ์ แล้วยังมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เธอรู้สึกว่าร่างกายของเธอนั้นสกปรกไปแล้ว ถ้าหากเธอยังรักเขา ทุกสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นคงจะสวยงาม แต่ถ้าหากไม่รักทั้งยังรังเกียจ เธอคงรู้สึกว่าเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นทุกอย่างนั้นสกปรกโสมม ก็แค่เป็น ผู้ชายที่ไม่ได้รักเธอ เพียงแต่ใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น เธอเพียงมองไปที่ใบหน้าของเขาอย่างเงียบ ๆ ไม่ตอบเขาสักประโยคเดียว “ทำไมไม่พูด?” เสียงของปุริมดังกังวานท่ามกลางความมืด ทำให้เพ็ญนีติ์ตัวสั่นเล็กน้อย ทุกอย่างของเขารวมถึงเสียงของเขาล้วนมีอิทธิพลต่อประสาทสัมผัสของเธอ “คุณอยากจะให้ฉันพูดอะไรอีก?” “อย่างน้อย คุณควรบอกผมว่าคุณเชื่อผม หรือคุณควรบอกผมว่าคุณไม่โกรธและจะกลับมาอยู่ข้างกายผม” “ได้ ฉันจะพูด ฉันได้ยินชัดเจนแล้ว คุณปุริม ฉันเชื่อคุณ ฉันไม่โกรธคุณ ฉันจะกลับไปอยู่ข้างกายคุณ” เพ็ญนีติ์กล่าว แต่น้ำเสียงกลับขุ่นเคือง ที่เธอตอบไปเพียงเพราะว่าเขาอยากจะให้เธอพูด เธอถึงพูด แต่ว่าใจของเธอไม่อยากจะที่ตอบเขา “เพ็ญนีติ์ คุณกำลังอารมณ์เสียใช่ไหม? ผมอธิบายให้คุณฟังได้นะ ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมทำมันเกินไป” นอกจากเพ็ญภัทร์แล้ว เขาไม่เคยอดทนกับผู้หญิงคนไหนขนาดนี้มาก่อน “เหอะ ๆ ขอบคุณสำหรับความอดทนของคุณ ขอบคุณสำหรับความพิเศษของคุณ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อไป แต่ภายในใจเหมือนมีคลื่นที่โหมซัดสาดอย่างบ้าคลั่ง “เพ็ญนีติ์ พูดได้ดี หลังจากนี้อีกหกเดือนผมจะปล่อยให้คุณเป็นอิสระ ผมพูดคำไหนคำนั้น แต่ว่าภายในหกเดือนนี้ ผมหวังว่าคุณจะทำหน้าที่นี้ให้ดี อย่างน้อยอย่าให้เกิดเรื่องหนีออกจากบ้านแบบนี้อีก”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 104 ยิ้มบาง ๆ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A