บทที่ 106 อดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว
1/
บทที่ 106 อดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว
หลงรักสามีจอมปลอม
(
)
已经是第一章了
บทที่ 106 อดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว
บทที่ 106 อดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เดินไปที่เตียงนั้นของเธออย่างเงียบๆ และไม่กล้าที่จะส่งเสียงดังออกมา เพราะกลัวไปรบกวนปุริมตื่นและกลัวสองคนนั้นทำตัวไม่ถูก แล้วขึ้นเตียงอย่างระมัดระวัง แอร์ที่เปิดจนเคยชินทำให้เธอต้องเข้าไปอยู่ใต้ผ้าห่ม แสงสลัวของโคมไฟในห้องนอนมันทำให้เธอไม่ทันได้ระวังตัว ตอนหัวถึงหมอนเลยไปกระแทกจนเจ็บ เหมือนจะกระแทกกับวัตถุแข็งที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เลยรีบลุกขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวและหันกลับไปมองเห็นเป็นไอโฟนสีแดงรุ่นที่สวยมากรุ่นหนึ่ง มองไป กลัวว่าจะเป็นวัตถุระเบิด เธอเลยไม่กล้ายื่นมือไปหยิบแล้วก็หันหน้ากลับมา ผู้ชายที่นอนอยู่บนพื้นก็ยังนอนหลับนิ่งและหันหลังให้เธออยู่ ห้องนี้เป็นของเขา นอนจากเขาก็ไม่มีคนอื่นแล้ว แต่ว่าเธอไม่อยากที่จะพูดกับเขา เลยยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เธอว่าจะนอนแล้ว แต่พอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วก็เห็นความลับอะไรบางอย่าง ที่จริงแล้ว ด้านหลังโทรศัพท์มีกระดาษโน้ตเล็กๆน่ารักๆติดอยู่และมีรูปวาดหน้ายิ้มติดอยู่ด้วย : เพ็ญนีติ์ ให้คุณนะ อย่าลืมโทรศัพท์หานภนต์ เพื่อให้เขาสบายใจ เป็นคำไม่กี่คำที่เรียบง่าย ที่จริงแล้วก็ไม่มีอะไรที่เรียบง่ายไปกว่านี้แล้ว แต่เพ็ญนีต์ก็รู้สึกได้ทันทีถึงรอบดวงตาที่ชุ่มฉ่ำ ที่จริงแล้วปุริมคนนี้เป็นผู้ชายแบบไหนกันนะ หรือว่าเขาจะไม่ชอบที่เธออยู่กับนภนต์ เลยบีบบังคับให้เธอมาที่นี่ แต่เขาก็ยังไม่ลืมเตือนให้เธอโทรศัพท์ไปหานภนต์ ผู้ชายกับผู้ชาย จะเห็นใจกันไหม หรือว่าจะใช่ ที่จริงแล้ว นภนต์ก็เป็นคนแบบที่หาได้ยาก เพื่อไม่ให้เสียงดังรบกวนผู้ชายที่นอนอยู่บนพื้น ก็เลยออกมาจากใต้ผ้าห่มแล้วเพ็ญนีติ์ก็เดินไปที่ระเบียงแบบเงียบๆ สายลมอบอุ่นตอนกลางคืนพัดมาบนตัว เมืองดรัลไม่ใช่เมืองกลางคืน ก็จะมองเห็นดวงดาวบนท้องฟ้าได้ยากในค่ำคืนที่สว่างเกินไป แต่บนบริเวณนี้ของปุริมทำให้เธอมองเห็นดวงดาวบนท้องฟ้าที่โล่งได้และเหมือนว่าดาวดวงนั้นจะกะพริบให้เธอ อย่าลืมโทรศัพท์หานภนต์นะ ถึงแม้ว่าโทรศัพท์จะไม่ได้บันทึกไว้ที่เขาแต่เธอก็ไม่ลังเลที่จะโทรไป สักพักปลายทางก็รับสาย “ฮาโหล ใครพูดหรอ” เป็นเบอร์ใหม่ นภนต์ก็เลยไม่รู้ว่าเป็นเธอ เพ็ญนีติ์รู้สึกว่าปากเริ่มแห้ง ดูเหมือนว่าทั้งตัวของเธอจะยังร้อนมาจากก่อนหน้านี้ ก็เลยกัดริมฝีปาก อีกสักพักก็พูดไปอย่างกล้าหาญว่า “นภนต์ ฉันเอง” “เพ็ญนีติ์ คุณอยู่ไหน เขาไม่ได้ทำอะไรให้คุณไม่โอเคใช่ไหม” นภนต์รีบตอบกลับมาด้วยความกังวล พอฟังแล้วก็รู้สึกได้เลยว่าร้อนรนมาก “ไม่นะ ฉันกับลูกๆทั้งหมดอยู่ที่บ้านของตระกูลพลสังข์ เขาให้โทรศัพท์ฉันมาโทรหาคุณ นภนต์ ขอโทษนะ” คิดแล้วคิดอีก เรื่องของผลดาแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา อย่างไรก็ตามนภนต์ก็ไม่เห็นอะไร และที่แท้จริงคนของเธอไม่ใช่ชายที่ถูกปุริมทำร้ายแต่เป็นปุริมเอง เธอก็เลยไม่ได้ให้เหตุผลอะไรเกี่ยวกับเขา เรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ตอนนี้เธอคงไม่อยากมีปัญหาใหม่เข้ามาซ้ำเดิมอีก รอเงียบๆมาถึงหกเดือน เมื่อถึงตอนนั้นเธอก็จะเป็นอิสระแล้ว “ปุริมเขาเป็นคนไม่มีคุณธรรมจริงๆ นึกไม่ถึงว่าจะแอบเข้ามาบ้านฉันและพาคุณไป เพ็ญนีติ์ ถ้าเกิดว่าเขาทำไม่ดีกับคุณตรงไหนคุณต้องบอกผมนะ สองสามวันนี้ผมจะหาวิธีการเจรจากับเขานะ ผมจะพาคุณกับลูกคุณกับมา” นภนต์ดูใจร้อนเรื่องที่เธอจากกับเขาไป มาถึงตอนนี้ยังเชื่อไม่ได้เลยว่าเป็นเรื่องจริง “นภนต์ ไม่ต้องหรอก ครั้งนี้ฉันสมัครใจเอง คุณอย่าไปโทษคนอื่นเลย ให้โทษฉันเองที่แต่ก่อนติดหนี้เขาไว้ ตอนนี้ฉันคงต้องชดเชยให้ทั้งหมด จากนั้นฉันก็จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาแล้ว” แล้วถอนหายใจ ตอนพูดอะไรแบบนี้ขนาดเธอเองยังไม่รู้เลยว่า หลังจากหกเดือนแล้วเธอจะสามารถออกมาจากกำมือของปุริมได้ไหม “เพ็ญนีติ์ ฉันเข้าใจแล้ว ว่าที่จริงแล้วคนที่ควรขอโทษจะเป็นตระกูลศาสตร์พงษ์คือฉันเอง” เธอฟังเสียงเขาพูดอย่างเงียบๆ คิดว่าเขาหมายถึงผลดา ก็เลยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป “เพ็ญนีต์ ผมเองที่ทำให้คุณลำบาก” แต่ก็ไม่คิดเลยว่าพอนภนต์ยิ่งพูดเสียงยิ่งดูละอายใจ “นภนต์ คุณทำอะไรให้ฉันลำบากหรอ ก็ไม่มีนะ” เพ็ญนีติ์หยุดไปสักครู่ไม่ได้ตอบอะไรมา “เรื่องตอนปีนั้น ถ้าเกิดปีนั้นคุณไม่ได้เซ็นกระดาษข้อตกลงเพื่อตระกูลศาสตร์พงษ์ ตอนนี้ก็คงไม่ถูกปุริมบังคับหรอก” นภนต์รู้มาก่อนหน้านี้แล้ว คงจะเป็นปัทมาที่บอกเขา ปากนี่ไวจริงๆ แต่ทำไมต้องปล่อยให้นภนต์โทษตัวเองล่ะ ที่จริงแล้วเรื่องตอนปีนั้นเป็นพ่อแม่ของเขาที่ก่อเรื่องขึ้นมาทั้งหมด ท้ายที่สุดแล้วคนที่เก็บกวาดเรื่องยุ่งยากก็เป็นเขาเอง ไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ก็ยังชำระบัญชีหนี้มากมายอย่างเรียบร้อย สำหรับนภนต์แล้วคงใช้คำว่า “ผิดหูผิดตา” มาอธิบาย “นภนต์ หยุดพูดแบบนี้เถอะ เรื่องทั้งหมดก็ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว คุณสบายใจได้ เขารับปากฉัน แค่ให้ฉันไปอยู่ข้างๆเขาหกเดือน เขาจะปล่อยฉันไป คุณดูสิ ขนาดโทรศัพท์เขาก็เตรียมไว้ให้ฉันแล้ว” โทรศัพท์เครื่องเดิมของเธอยังอยู่บ้านตระกูลศาสตร์พงษ์ไม่ทันได้หยิบออกมา “ของของฉันคุณช่วยเก็บไว้ให้หน่อยนะ ประมาณอีกหกเดือนฉันก็จะกลับไปอยู่บ้านของพวกคุณ” พูดด้วยเสียงแบบยิ้มๆให้นภนต์ได้ยิน ให้เขาสบายใจขึ้น “เพ็ญนีติ์ ครึ่งปีนี้รักษาสุขภาพตัวเองด้วย ผมไม่ได้อยู่ข้างๆคุณ คุณต้องดูแลตัวเองกับลูกๆให้ดีดีนะ” “โอเคค่ะ” เธอยิ้ม นภนต์ดูแลเธอดีมากจริงๆ “นอนเถอะ ฝันดีนะ พอรู้ว่าตอนนี้คุณสบายดี ผมก็นอนหลับอย่างสบายใจแล้ว” “ฝันดีนะ” บอกฝันดีเบาๆตอบกลับไปแล้วเพ็ญนีติ์ก็วางสายโทรศัพท์ เสียง‘ติ๊ดๆ’ในโทรศัพท์ เสียงของนภนต์ยังคงลอยเข้ามาในหูอย่างชัดเจน เมื่อวานพวกเขายังอยู่ในบ้านหลังหนึ่งด้วยกัน แต่ว่าตอนนี้เธอกับลูกๆย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของปุริม นอนเถอะ พูดถึงครึ่งปีก็ไม่เร็วไป ไม่ช้าไป อีกไม่นานก็ผ่านไปแล้ว หันกลับมากำลังจะเดินกลับเข้าไปในห้อง ก็เห็นประตูระเบียงเปิดอยู่ เห็นปุริมใส่ชุดนอนแบบเห็นหน้าอกครึ่งหนึ่งและกำลังมองเธออย่างมีความหวัง เมื่อกี้ที่เธอพูดเขาน่าจะได้ยินทั้งหมดแล้ว “ปุริม ใครให้คุณมาแอบฟัง” เขายิ้มด้วยใบหน้าที่ดูหล่อเหลาและดูมีความหมายว่าคุณกำลังเสียเปรียบผม “เพ็ญนีติ์ ผมไม่ได้แอบฟัง ผมก็แค่จะเปิดประตูระเบียงไปสูบบุหรี่ ใครจะไปรู้ว่าคุณคุยโทรศัพท์ยังไม่เสร็จ” พูดไปเขาก็หยิบบุหรี่กับไฟแชคออกมาจุดบุหรี่แล้วก็สูบลึกๆไปครั้งหนึ่ง เห็นเธอไม่ตอบอะไรกลับมา เขาเลยยิ้มต่อ “โทรศัพท์ใช้ดีอยู่ใช่ปะ” จะใช้ไม่ดีได้ด้วยหรอ ไอโฟนตั้งหลายพันหยวนเลยนะ ปกติเธอไม่ได้ใช้ของมียี่ห้ออะไร พอนึกถึงว่าเขาเตรียมให้เธอโดยเฉพาะและยังให้เธอโทรไปหานภนต์อีก เธอเลยพูดไปสองพยางค์ว่า “ขอบคุณ” จากนั้นก็รีบเดินผ่านเขาเข้าห้องไป ด้านหลังดูเหมือนว่าจะมีสายตาคู่หนึ่งกำลังมองมาที่ต้นขาเธอ ทำให้เธอรีบขึ้นเตียงไปและรีบซุกตัวใต้ผ้าห่ม อาจเป็นเพราะทั้งกลัว ทั้งก่อนหน้านี้เหนื่อยจากเรื่องที่ทำในรถ ปุริมยังไม่กลับเข้ามาในห้องเลยส่วนเพ็ญนีติ์ไม่นานก็หลับแล้ว ค่ำคืนที่นอนหลับผ่านไปอย่างรวดเร็วเหลือแต่เพียงความสวยงามเท่านั้น เขากลับเข้ามาแล้วมายืนอยู่หน้าเตียงนอนมองไปบนหมอนที่มีผมดำยาวของเธอ ตอนเธอกำลังนอนอยู่ช่างเหมือนมาก เหมือนมากจริงๆ ดูแล้วเหมือนเขาไม่อยากมอง ก็มองเพ็ญนีติ์อย่างเลื่อนลอย และเหมือนมีอีกใบหน้าหนึ่งมาซ้อนทับด้วยกันอย่างช้าๆ พนินี หวังว่าพวกเขาจะมีวันที่ได้อยู่ด้วยกัน แค่วันนั้นวันเดียว จะเป็นไปได้หรอ จิณณะ เขาอดทนกับคนที่เป็นน้องชายอีกต่อไปไม่ไหวแล้ว ใส่ชุดนอนแล้วเอนหลังลงนอน เขาไม่อยากให้ผู้หญิงตัวเล็กๆที่นอนอยู่บนเตียงตกใจ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะปฏิบัติกับเธอให้เหมือนกับพนินีเลย ทำแบบนี้หัวใจจะได้มีความสุขสักหน่อย ได้เวลาเพ็ญนีติ์ตื่นแล้ว ในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นหอม เหมือนจะเป็นกลิ่นขนมปังปิ้งที่หอมมากๆ ขยี้ตาแล้วค่อยๆมองไปรอบๆ เธอเพิ่งจำได้ว่าเธอกลับมายังบ้านของตระกูลพลสังข์ บนพื้นยังมีผ้าห่มที่นอนเมื่อคืนของปุริมอยู่และก็ยังไม่ได้พับแล้วเธอก็ลงไปพับผ้าห่มที่อยู่บนพื้น เป็นความคุ้นเคยแต่ก่อนตอนพวกเขาอยู่ด้วยกัน ทำแบบนี้แล้วคนอื่นจะได้ไม่เห็นว่าที่จริงแล้วเราไม่ได้นอนอยู่บนเตียงเดียวกัน ตอนที่เธอจัดการเตียงเรียบร้อยแล้วเพิ่งนึกได้ว่าชุดนอนที่เธอใส่เป็นของปุริมให้มา ผู้ชายคนนี้ เมื่อตอนฉันเจ็บก็ทำแบบนี้ ตอนนี้คิดไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะเขาที่มาถึงทันเวลา เธอคงจะถูกคนงานตระกูลศาสตร์พงษ์เห็นหมดแน่ๆ นอกจากชุดนอนเก่าตัวนั้น เธอก็ไม่ได้เอาอะไรมาเลย เด็กๆเองก็เหมือนกันทุกคนใส่ชุดนอนกันหมด เขาก็พาขึ้นรถมาเลย แต่โดยปกติแล้วก็จะไม่ใส่ชุดนอนออกมานอกห้องกันใช่ไหม ชุดนอนที่เธอใส่มาก็ยังพอใช้ได้ แต่ชุดนอนสีดำตัวนี้ที่ปุริมเตรียมมาให้เธอมันใส่ออกข้างนอกไม่ได้จริงๆ ตอนที่เธอกำลังยุ่งอยู่ๆก็นึกได้ว่าเมื่อคืนตอนที่ไปหยิบชุดนอนก็เห็นชุดอื่นๆในตู้หมดแล้ว เสื้อผ้าพวกนั้นดูยังใหม่อยู่ ไม่สนใจแล้ว ไม่สนว่าเขาจะเป็นใครแล้ว แค่ไปหยิบเสื้อผ้าที่พอดีตัวแล้วออกจากห้องไปดูลูกๆได้ก็พอ ลองหยิบชุดมาใส่สักตัว ขนาดกำลังดี พอลองใส่แล้วพอดีมาก เหมือนกับว่าสั่งตัดมาเป็นไซส์ของเธอเลย ชุดนี้สวยมากเป็นสีส้มแดง รูปแบบก็ดูแอบปกปิด ดูแล้วไม่ใช่ชุดนอนที่โชว์หน้าอกอะไรแบบนั้น ปุริมชอบสีส้มแดงมาก เมื่อคืนก็ให้ไอโฟนสีส้มแดงมา มองดูก็เหมือนจะแสบตา แต่มองไปมองมาก็เป็นสีที่สวยเหมือนกัน สบายใจที่จะออกจากห้องแล้ว ลงมาข้างล่างก็ได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กๆ “พ่อ หนูอยากขี่เหมือนกัน แต่หนูไม่เรียกคุณมาพ่อนะ” “เพราะพ่อมีได้แค่คนเดียวน่ะ”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 106 อดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A