ตอนที่ 626 ตื่นเต้นจนสั่น   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 626 ตื่นเต้นจนสั่น
ตอนที่ 626 ตื่นเต้นจนสั่น พูดถึงตรงนี้สุวีรานึกถึงปรัณขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ อายุผู้ชายคนนั้นก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว ยังไม่คิดจะแต่งงานตั้งตัว ทุ่มเทกับงานแพทย์ โดยไม่เปลี่ยนทิศทาง วันที่เธอจะสวมชุดแต่งงานยังคงเร็วเกินไปล่ะมั้ง เธอไม่อยากจะจินตนาการความงดงามแบบนี้กับตัวเองก่อน เวลาค่อยๆผ่านไป เห็นว่าใกล้จะขึ้นเวทีแล้ว นัชชาเดินไปที่เวทีข้างห้องเล็กๆโดยมีผู้ช่วย ภายนอกห้องมีบันไดที่ไม่ได้สูงมากเป็นพิเศษ มันสร้างเพื่อให้เกิดบรรยากาศตอนเจ้าสาวเดินเข้าไปอย่างช้าๆ นัชชายกชุดกระโปรงเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง ภายในห้อง คนที่รออยู่อย่างกังวลเหมือนกับเธอก็คือเมทนีที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและชุดสูทสีดำ ทั้งสองมองหน้ากัน ช่วงแรกสุดไม่มีใครพูดอะไร ความอบอุ่นและความประทับใจเบาๆแผ่ซ่านเข้ามาทั้งร่างกาย จนกระทั่งเมทนียื่นมือไปหาเธอ ดึงมือเธอมาจับไว้แน่น สุดท้ายนัชชาก็อดไม่ได้ที่จะเรียกออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “พ่อคะ......” เมทนีตื้นตันใจ แต่ก็ยิ้มแล้วพูดกับเธอ “เจ้าสาวห้ามร้องไห้” นัชชาสูดน้ำมูก “อืม ร้องแล้วเดี๋ยวไม่สวย” “ใครบอก ลูกสาวพ่อสวยที่สุด” เขาพูดไปก็ยกมือจัดผ้าคลุมศีรษะให้เธอ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความรักของคุณพ่อ ในดวงตาที่แก่ชราที่เต็มไปด้วยความรู้สึก นัชชาคุ้นเคยดี ในฐานะคนเป็นพ่อ เมทนีก็เป็นห่วงเป็นใยเธอมาตลอดสิบกว่าปี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอก็คือที่หลบภัยอันแข็งแรง ทั้งสองอยู่ในทิศทางตรงข้ามกับประตูห้องใหญ่ นัชชายกมือขึ้นควงแขนเมทนี มองบานนประตูหนาเลื่อมทองบานนั้น เธอค่อนข้างเหม่อลอย “พ่อคะ หนูจะแต่งงานแล้วนะ” แม้ว่านัชชาจะอยู่กับเตชิตมาหลายปี แต่พอได้ยินประโยคนี้ เมทนีก็เกิดความรู้สึกไม่เหมือนกัน “พ่อรู้” เขารู้ว่ายังไงก็ต้องมีวันนี้ เมทนีอยากจะพูดอะไรมากมายแต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน สุดท้ายก็พูดออกมาอย่างตื้นตัน “นัชชา เดี๋ยวพ่อก็ต้องยกลูกให้ผู้ชายอีกคนแล้วนะ” นัชชาทั้งประทับใจและเจ็บปวด หันหน้าไปมองด้านข้างของคนชรา “พ่อคะ ไม่ว่าหนูจะแต่งงานกับใคร หนูก็ยังเป็นของพ่อและแม่ตลอดไปนะคะ” “ยัยเด็กโง่ แต่งงานแล้วก็ต้องเอาครอบครัวเป็นหลักสิ พ่อกับแม่ยังโอเคมาก ได้เห็นลูกมีความสุขพวกเราถึงดีใจ” เมทนีไม่ใช่คนที่แสดงความรู้สึกตัวเองเก่ง ผู้ชายจีนมีวัฒนธรรมที่ฝังลึกอยู่ในกระดูกเป็นพิเศษ เขาก็มีเหมือนกัน คิดว่าถ้าพูดคำว่ารักซ้ำไปซ้ำมามันจะตรงไปตรงมาเกินไป แต่วันนี้ได้เห็นลูกสาวจะออกเรือน คิดว่าเดี๋ยวต้องมอบเธอให้กับผู้ชายอีกคนหนึ่ง คนเป็นพ่อจึงปลดล็อคความรู้สึกเขินอายนั้นทิ้งไป “เจ้าสาว คุณพ่อเจ้าสาวคะ ทั้งสองต้องเตรียมตัวแล้ว ตอนนี้พิธีกรได้อยู่ในขั้นตอน CUE แล้วค่ะ” คนงานเอ่ยเตือนแผ่วเบาอยู่ด้านข้าง ทันใดนั้นน นัชชาก็รู้สึกหัวใจอยู่ตรงลำคอ เธอรีบมองไปรอบข้างอย่างรวดเร็ว นอกจากเมทนีแล้วเขาก็ไม่เห็นธนัทและจินต์เลย “เพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว แล้วก็เพจบอยล่ะ?” “เพื่อนเจ้าบ่ายเจ้าสาวยืนอยู่บริเวณที่กำหนดแล้วค่ะ เดี๋ยวคุณเดินออกไปก็จะเห็น” นัชชาถึงได้วางใจ ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนตื่นเต้นอย่างเต็มหัวใจ ฝ่ามือเกิดเหงื่อผุดเล็กน้อย เธอไม่มีเวลามาสนใจ ในหัวมีแต่เสียงเตือนของพนักงานที่จัดงานแต่ง และการรอคอยอย่างเลือนราง ตั้งแต่การจัดงานแต่งจนถึงตอนนี้ เธอยังไม่ได้เห็นการตกแต่งสถานที่ทั้งหมดเลย เธอแค่รู้ภาพรวมคร่าวๆเท่านั้น เตชิตตั้งใจไมม่บอกเธอ อยากให้เธอได้จินตนาการมากขึ้นน “ต่อไปเชิญเจ้าสาวเข้ามาได้——”” ทันใดนั้น เสียงแข็งแรงมีพลังจากนอกประตูก็ดังลอดเข้ามา พนักงานก็ช่วยดูความเรียบร้ออีกครั้ง ไม่ถึงสิบกว่าวินาที ประตูใหญ่ตรงนห้าก็ค่อยๆเปิดออกจากด้านนอก แสงไฟระยิบระยับส่องเข้ามา เมทนียกแขนขึ้นมา “ไปกันเถอะ” นัชชารู้สึกเหมือนหัวใจเต้นจนจะระเบิดออกมา เธอไม่เห็นอะไรแล้ว คิดอะไรก็ไม่ออกเหมือนกัน ทุกคนในห้องโถงล้วนจริงจับกับพิธีการงานแต่ง เธอเห็นดอกไม้ตามทางเดินที่ปลายเท้า และยังมีกำแพงดอกไม้อันใหญ่โตและตาข่ายดักฝันอันใหญ่แขวนอยู่สุดทางเดิน หนึ่งก้าว สองก้าว เดินไป......เธอขึ้นบันไดไปปรากฏต่อสายตาผู้ชม กลัวว่าเธอที่เป็นจุดสนใจในตอนนี้จะไม่สามารถจัดการกับสายตาคนอื่นได้ ในตอนนี้ เธอได้แต่มองผู้ชายที่ยืนอยู่ไม่ไกล สวมชุดสูทสีดำทั้งชุด มีโบว์ผูกที่คอเสื้อ ยื่นนิ่งรอเธอเดินเข้าไปหา เส้นทางที่ไม่ไกลไม่ใกล้ นัชชารู้สึกว่าตัวเองเหมือนเดินมานานอย่างมาก เกือบไม่มีใครพูดอะไรเลยในงาน ทุกสายตามองมาที่พวกเขาทั้งสอง เจ้าสาวสวยมาก แสงไฟกระทบลงมาบนศีรษะ เหมือนเจ้าหญิงที่เดินออกมาจากในนิทาน ทุกย่างก้าวเหมือนกับย่ำลงบนฟองสบู่ของนางเงือกน้อย เตชิตจ้องมองหญิงสาวที่สวมชุดเจ้าสาวอยู่ไม่ไกลอย่างสงบนิ่ง แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาเคยเห็นเธอสวมชุดเจ้าสาวแล้ว แต่ความรู้สึกต่างกันโดยสิ้นเชิง มองร่างขาวที่ร่างกระทบแสงเดินเข้ามาตนอย่างเชื่องช้า เลือดในกายตื่นเต้น เขาตื่นเต้นอย่างมาก แต่ก็ยังคงเป็นความตื้นตันที่ไม่พูดอะไรออกมา ทางเดินนี้ ไม่เพียงแต่เป็นทางเดินดอกไม้ แต่ยังเป็นขวากหนามที่พวกเขาเคยประสบกันมาตั้งแต่รู้จักกันจนถึงตอนนี้ เธอเดินอย่างช้าๆแต่ทุกก้าวมีความมั่นคงเป็นพิเศษ เหมือนกับในช่วงปีนี้ ได้ประสบกับเรื่องราวมากมาย ทั้งความเป็นความตาย แต่สุดท้ายพวกเขาก็ยังอยู่ด้วยกันอย่างเหนียวแน่น ไม่ใช่เพราะความรู้สึกที่ยากลำบากหรือบั่นทอน แต่เป็นความยืนหยัดที่มีค่า ตอนนี้ เจ้าสาวของเขากำลังเดินมาทางเขา เดินผ่านขวากหนามมาข้างกายเขา ตัวเธอยังมาไม่ถึง ขอบตาเตชิตก็เริ่มชื้น เขากลั้นมันไว้ เขาไม่ละสายตาออกจากเธอเลยตั้งแต่ต้นจนจบ กลัวว่าจะพลาดไปแม้แต่วินาทีเดียว เมทนีจูงมือของนัชชาให้มายืนตรงหน้าเขา มองคนที่สูงกว่าเธอหนึ่งช่วงศีรษะ เมทนีก็ก้มศีรษะลงแล้วนำมือลูกสาวไปวางไว้ในฝ่ามือของเตชิต สีหน้าที่เคร่งขรึม แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย “ฝากนัชชาด้วยนะ ขอให้พวกเธอมีความสุข” “วางใจได้ครับคุณพ่อ ผมจะทำทุกอย่างให้เธอมีความสุข” เตชิตรับมือเล็กขาวเนียนนั้นมา เห็นดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาภายใต้ผ้าคลุมศีรษะสีขาว จึงเอ่ยเสียงเบาปลอบโยนเธอ “อย่าร้องไห้เลยนะ” หลังจากส่งตัวเสร็จ เมทนีก็หมุนตัวลงจากเวที เหลือเพียงทางเดินที่เตชิตกับเธอต้องเดินไปด้วยกัน น้ำเสียงที่ใจดีและเรียบง่ายของพิธีกรดังขึ้นอีกครั้ง “ต่อไปเชิญให้คู่บ่าวสาวจูงมือกันเปิดงานได้ค่า!” นัชชามองไปยังสุดขอบเวที รู้สึกตื่นเต้นสุดขีด ตั้งแต่ช่วงที่ปล่อยมือกับเมทนี เธอก็เริ่มสั่นเทิ้ม แต่คนที่อยู่ห่างจากเวทีมองไม่ชัดเจน แต่จินต์ที่อยู่ข้างๆเห็นอย่างชัดเจน
已经是最新一章了
加载中