ตอนที่13 ถูกเรียกผู้ปกครอง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่13 ถูกเรียกผู้ปกครอง
ต๭นที่13 ถูกเรียกผู้ปกครอง จรินทร์ยิ้มที่มุมปาก"รู้จักซีคะ" เป็นไปอย่างที่คิดจริงๆด้วยว่าเป็นไอ่เลวจตุภูมินั่นเป็นคนทำ “ ไม่เพียงแต่รู้จัก พวกเธอทั้งสองนั้นมีความสัมพันธ์เป็นแฟนกันตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบันเลยนิ?” ผู้อำนวยการถามอีกครั้ง และเห็นหน้าตาที่น่าเหลือเชื่อของจรินทร์ ท่านยังคงพูดต่อ “ พวกเราไม่คัดค้านที่นักศึกษาจะมีความรัก แต่ตอนนี้แฟนของเธอเป็นคนบอกว่าเธอถูกคนเลี้ยงดู นี่คงเป็นหลักฐานที่เป็นความจริงเลยใช่ไหมละ?” จรินทร์หยุดนิ่งไปสักแปปถึงได้ตอบสนองกลับมาได้ “ท่านหมายความว่า นี่คือหลักฐานที่พวกท่านมี นั่นก็คือสิ่งที่จตุภูมิใส่ร้ายฉัน?” วันนี้เธอดูมีความรู้ขึ้นมากเลยจริงๆ “ใส่ร้าย? จรินทร์เธอคิดว่านี่คือการใส่ร้ายหรือ?” ผู้อำนวยการสีหน้าดูไม่ดีเลย “มันไม่ใช่อย่างที่หนูคิด แต่นี่มันคือการใส่ร้าย ทำไมพวกท่านต้องเชื่อคำพูดของจตุภูมิด้วยละ แต่ทำไมไม่เชื่อในตัวของฉหนูบ้างละ?” จรินทร์ถามกลับ อาจารย์ทุกท่านเห็นจรินทร์เป็นเช่นนี้ ก็ได้แต่มองดูกันไปมา แน่นอน พวกท่านไม่ใช่ว่าถูกจรินทร์พูดโน้มน้าวใจไปแล้ว แค่รู้สึกว่าผิดต่อเธอ แต่ก็ยังรู้สึกว่าเธอนั้นดื้อดึงไม่ยอมรับผิด ซึ่งในเวลานี้แล้วก็ไม่ยังยอมรับผิดอีก “ตอนนี้เธอกับจตุภูมิยังคบกันอยู่ไหม?”ผู้อำนวยการถามอีก “ไม่แล้วละ เลิกกันไปแล้ว” จรินทร์ไม่เข้าใจว่าทำไมท่านถึงต้องถามคำถามแบบนี้ด้วย แต่ก็ยังตอบคำถามของท่านไปตามความเป็นจริง ผู้อำนวยการก็พูดต่อว่า “ก็เพราะว่าเธอถูกคนเลี้ยงดูไง ดังนั้นเขาถึงได้เลิกกับเธอใช่ไหม?” “อะไรนะ” จรินทร์ตกใจมากๆ “จตุภูมิพูดแบบนั้นกับพวกท่านหรอ? และพวกท่านก็เชื่อคำพูดของเขาเนี่ยนะ?” ถ้าไม่ใช่ว่าเธอถูกสอบปากคำอยู่นะ เธอคงคิดว่าคนพวกนี้คงจะมาช่วยปรับเรื่องความรักนั้นให้กับเธอและจตุภูมิ มันเป็นเรื่องที่ไร้สาระสักจริงๆ “จรินทร์ อย่าปฏิเสธอีกเลย พวกเราไม่ได้สนใจปัญหาความรักของเธอกับจตุภูมิ แต่สิ่งที่เธอกระทำนั้นมันส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยนะ” ผู้อำนวยการตะคอกพร้อมกล่าวหาเธอ ถ้าหากมีอาจารย์เพียงคนสองคนอยู่ที่นี่ จรินทร์คงสงสัยว่าพวกเขาคงจะถูกจตุภูมิยัดเงินให้ แต่ตรงหน้าเขามีอาจารย์มากมายขนาดนี้ ถึงแม้ว่าจตุภูมิจะมีกำลังขนาดนั้นแต่เขาก็ไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น “นี่ก็ไม่ได้โทษเธอนะ แต่ว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องจริง” ผู้อำนวยการพูดอีกว่า “เรื่องของเธอนั้นมันใหญ่เกินไปแล้วละ พวกเราคิดว่าเธอคงต้องเชิญปกครองของเธอมาแล้วละ” “หนูไม่มีผู้ปกครอง” ตั้งแต่เรียนมาจนถึงมหาวิทยาลัย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกเรียกพบผู้ปกครอง ผู้อำนวยการไม่สามารถทนกับการไม่ให้ความร่วมมือของเขาได้แล้ว จึงข่มขู่ว่า “ถ้าหากเธอไม่เรียกผู้ปกครองมา งั้นพวกเราก็จะจัดการกับเธอเอง ซึ่งเธออาจจะโดนไล่ออกก็ได้ และการกระทำของเธอก็จะถูกบันทึกไว้ในใบประพฤติด้วย จรินทร์ยังเก็บความเจ็บปวดไว้ที่หน้าอกของเขา เธอสงสัยว่าในปีนี้เธอคงเป็นคนที่โชคร้ายมากแน่ๆเลย “ก็ได้ค่ะ หนูจะเรียกผู้ปกครองมาเอง” เธอหายใจเข้าลึกๆ เอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาชัชพล หลังจากผ่านเหตุการณ์นี้ไปแล้วทัศนคติที่เธอมีต่อมหาวิทยาลัยและอาจารย์พวกนี้แล้ว มันทำให้เธอผิดหวังมากๆ แต่ในอนาคตเธอยังต้องดำรงชีวิตอยู่ต่อ ที่เธอตั้งใจเรียนขนาดนั้น ก็เป็นเพราะว่าเธอไม่สามารถพึ่งพาใครได้เลย คงมีแค่ประกาศนียบัตรที่สวยงามเอาไว้ไปต่อสู้เพื่อชีวิตของเธอ ถ้าหากตอนนี้เธอถูกไล่ออกแล้ว ในใบประพฤติยังจะบันทึกว่าตอนที่เธอเรียนมหาวิทยาลัยนั้นถูกคนเลี้ยงดู แล้วในอนาคตเขาจะใช้ชีวิตยังไงละ? ตอนนี้ก็ใกล้จะเที่ยงแล้วละ ชัชพลกลับมาบ้านเช้ามากๆ ซึ่งก็เตรียมตัวที่จะทานมื้อเที่ยงกับภรรยาและลูกสาว พอหลังจากได้รับโทรศัพท์จากจรินทร์ สวรสที่นั่งอยู่ข้างๆตัวเขา และที่นั่งตรงข้ามก็คือนรมน "คุณพูดว่าไงนะ? จรินทร์ทำความผิดกฏในมหาวิทยาลัย จะต้องให้ฉันไปที่มหาวิทยาลัย?" ชัชพลสงสัยว่าตัวเองคงจะกดรับเจอสายของคนที่โทรมาหลอกลวงคนอื่น ตั้งแต่ที่จรินทร์เข้าเรียนมานั้น ซึ่งทุกคนต่างก็เคยถูกเรียกพบผู้ปกครองกันหมดเลย ซึ่งเขาไม่เคยถูกทางโรงเรียนเรียกพบเลย ตอนนี้เธอเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว ทำไมถึงได้โทรเรียกเขาไปมหาวิทยาลัยกันละ? เป็นเพราะว่าชัชพลนั้นตกใจมากๆ คำพูดนี้เหมือนตะโกนออกมาเลย ทำให้สวรสและนรมนได้ยินแบบชัดๆเจนๆเลยทีเดียว จรินทร์ที่อยู่ในออฟฟิศนั้นก็หมดคำพูดแล้วละ เธอไม่คิดเลยว่าหลังจากที่สายติดแล้ว ก็ถูกผู้อำนวยการแย่งมือถือไปเลย ท่านได้ไปพูดคุยกับชัชพลด้วยเอง ไม่ต้องมองเธอก็รู้แล้วว่าหลังจากที่ชัชพลได้ยินเสียงของผู้อำนวยการนั้นตกใจมากแค่ไหน ชัชพลพึ่งก้าวเท้าออกไป นรมนก็ยิ้มออกมาพร้อมล้มตัวนั่งลงบนโซฟาเป็นเวลานานมากๆแต่ก็ยังไม่ลุกขึ้น "คุณแม่ ท่านได้ยินอยู่ใช่ไหม? เมื่อกี้ที่คุณพ่อรับสายที่โทรเข้านั้นเป็นอาจารย์ของจรินทร์โทรมา เธอเรียนมหาวิทยาลัยแล้วยังถูกเรียกพบผู้ปกครองอีก โอ้มายก็อต เธอยังไม่รู้อีกหรอ เมื่อกี้ฉันเห็นสีหน้าของคุณพ่อ ฉันเกือบจะกั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่เลยอะ" ช่วงไม่กี่วันนี้นรมนนั้นโกรธจรินทร์มาก ตอนนี้เหมือนอารมณ์จะดีขึ้นมากแล้วละ สวรสก็อารมณ์ดีไม่ต่างกัน แต่ว่าสิ่งที่เธอคิดนั้นมันลึกไปไกลกว่าของนรมน “เนื่องจากเธอส่งเรื่องแบบนี้มาจนถึงมือของพวกเราแล้ว พวกเราก็น่าจะใช้มันให้เป็นประโยชน์” ในสายตาของสวรสเปล่งประกายด้วยความคิดมากมาย นรมนลุกขึ้นนั่งลง "ใช้ประโยชน์ยังไงหรอค่ะ?” "ลูกลองถามไอ้จตุภูมิดูซี ว่าทำไมจรินทร์ถึงถูกเรียกพบผู้ปกครอง"สวรสพูดพร้อมเสนอขึ้นมาว่า “ได้ค่ะ!” นรมนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาด้วยความดีใจที่จะได้โทรหาจตุภูมิ แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะโทรไม่ติด งั้นแสดงว่าเธอถูกจตุภูมิบล็อกแล้วละ เธอนึกว่าผู้ชายแบบจตุภูมินั้น เพียงแค่พูดเล่นกับเธอ แต่ไม่คิดเลยว่านายนั้นจะไม่ติดต่อกับเธอเลยจริงๆ เมื่อหาจตุภูมิไม่เจอก็ไม่เป็นไร นรมนก็เลยโทรอีกครั้งโดยโทรเข้าเบอร์ส่วนตัวของปรพล และนี่คือสิ่งที่เธอแอบเห็นมาจากโทรศัพท์มือถือของชัชพล บางทีอาจจะกลัวว่าปรพลนั้นจะไปหาชัชพลเพราะเรื่องต่างๆของจรินทร์ก็ได้ จึงได้มีการให้เบอร์โทรส่วนตัวมา ปรพลยังนั่งอยู่ในออฟฟิศ ผู้ช่วยได้ไปซื้ออาหารกลางวันมาให้เขา เขายังคงยุ่งอยู่กับการจัดการกับเอกสารทางราชการอยู่ เบอร์โทรส่วนบุคคลดังขึ้น แต่เบอร์ที่โทรเข้านั้นคือเบอร์แปลกหน้า แต่เขาก็ยังรับมันอยู่ดี “ปรพล” พอได้ยินเสียงอันตอแหลของนรมนผ่านทางลำโพงในโทรศัพท์มือถือ ปรพลก็เกือบจะรีบวางสายเลยทันที นรมนก็รู้ด้วยตัวเองทันทีเลยว่าปรพลนั้นไม่ยอมที่จะได้ยินเสียงเธอ เลยรีบพูดว่า “ปรพล นายอย่าพึ่งกดวางสายนะ ฉันมีเรื่องที่จะต้องคุยกับนาย มันเกี่ยวข้องกับจรินทร์นะ สำคัญมากๆเลยด้วยนะๆ” “พูด” ไม่หากว่าได้ยินชื่อของจรินทร์ ปรพลก็คงจะกดวางสายไปแล้ว “ปรพล ถ้าฉันพูดแล้วนายอย่าโกรธนะ จรินทร์ทำผิดกฎในมหาวิทยาลัย ถูกเรียกพบผู้ปกครองแล้วละ ตอนที่คุณพ่อของฉันได้รับโทรศัพท์นั้นเครียดจนจะเป็นลมแล้วละ ยัยเด็กบ้านั้นไม่เคยทำให้ใครสบายใจได้เลยนะเนี่ย ฉันรู้สึกว่าเธอนั้นไม่เหมาะกับ…” นรมนยังพูดไม่ทันจะจบเลย ก็ถูกปรพลขัดขึ้นมาซะก่อน “คุณหนูนรมน รบกวนหลังจากนี้ให้คุณเรียกฉันว่าคุณประธานปรพลด้วยนะ พวกเราไม่สนิทกัน อย่าเรียกชื่อฉันโดยตรงมันจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้นะ” พูดจบ ปรพลยังไม่ให้โอกาสนรมนได้ตอบกับคำพูดของเขา ก็ได้กดวางสายไปเลยทันที นรมนจับโทรศัพท์มือถือไว้ และมีความมึนงง สวรสได้ยินว่าเธอได้โทรศัพท์ไปหาปรพล ถึงแม้ว่าจะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ไม่สามารถหยุดรั้งเอาไว้ได้ “คุณปรพลว่าไงบ้าง?” พอเห็นนรมนกดวางสายไปแล้ว เธอรีบถามทันที “ไม่ได้พูดอะไรเลยค่ะ ไม่แม้แต่ที่จะถามคำถามอะไรเลยด้วยซ้ำ พอคิดๆดูแล้วเขาก็ไม่ค่อยจะใส่ใจอะไรกับจรินทร์สักเท่าไหร่เลยอะ” ถึงแม้ว่านรมนจะโกรธที่ปรพลนั้นมีท่าทีที่เย็นชาใส่เธอนั้น แต่พอรู้ว่าเธอไม่ได้ห่วงใยอะไรจรินทร์เลย เธอก็อารมณ์ดีขึ้นมาเลยทันที นรมนยังไม่รู้เลยว่า หลังจากที่ปรพลกดวางสายเธอไปแล้ว ก็ได้บล็อกเบอร์โทรศัพท์เธอไปเรียบร้อยแล้วด้วย จากนั้นก็ได้โทรศัพท์ไปหาผู้ช่วยของเขาให้เข้ามาหาเขา “รีบไปเช็คให้ฉันทีว่าจรินทร์เกิดเรื่องอะไรขึ้นในมหาวิทยาลัย จากนั้นก็เตรียมรถให้ฉันด้วย ฉันจะไปที่มหาวิทยาลัย” ถึงแม้ว่าตอนนี้บนโต๊ะจะมีเอกสารที่มากมายเหลือเกิน แต่ปรพลกลับไม่มีความคิดที่จะดูพวกมันอีกแล้วละ ลุกขึ้นมาปุ๊บก็ได้เดินออกไปเลยทันที ชัชพลก็เร่งรีบในการมามหาวิทยาลัยในรวดเร็ว พอผู้อำนวยการเห็นการแต่งตัวของเขา ก็รู้ทันทีว่าเขาก็เป็นผู้ที่ประสบความสําเร็จอีกด้วย จึงทำให้มีความตกใจเล็กน้อย 
已经是最新一章了
加载中