ตอนที่17 เธอใจร้ายเกินไปแล้ว
1/
ตอนที่17 เธอใจร้ายเกินไปแล้ว
กับดักรัก
(
)
已经是第一章了
ตอนที่17 เธอใจร้ายเกินไปแล้ว
ตนที่17 เธอใจร้ายเกินไปแล้ว มีเพียงแค่ผู้อำนวยการกับอาจารย์ไม่กี่ท่านที่รู้ว่าปรพลนั้นเป็นคู่หมั้นของจรินทร์ แต่ว่าปรพลให้พวกเขาเก็บเป็นความลับไว้ นอกจากคนที่อยู่ในออฟฟิศวันนั้นแล้ว ก็ไม่มีใครรู้เรื่องภายในนั้นเลย “เพี๊ยะ!”จรินทร์ไม่ได้พูดอะไร ลุกขึ้นก็ตบจตุภูมิไปหนึ่งที นี่คือสิ่งที่เธอเจอชัชพลตบเมื่อวาน เธอไม่สามารถตบชัชพลได้ เธอเลยมาจบไอเลวจตุภูมินี้แทนเลย “ไสหัวไปเลยนะ อย่าให้ฉันพบเจอนายอีก” จรินทร์ฟังคำพูดที่น่าเบื่อของจตุภูมิมามากพอแล้ว “จรินทร์ เธออย่าทำเหมือนไม่มีเยื่อใยอะไรกับฉันเลยได้ไหม ลองคิดดูความสัมพันธ์ของพวกเราที่ผ่านมาซี เธอมันใจร้ายเกินไปแล้วนะ!” จตุภูมิพูดๆอยู่ก็เหมือนจะคุกเข่าลงไปเลยอะ จรินทร์แค่เห็นก็รู้สึกเหนื่อยเลยอะ ลุกขึ้นและจะเดินออกไป จตุภูมิรีบวิ่งไล่ตามขึ้นไป ในอาคารเรียนของปีสี่นั้นไม่มีคลาสเรียน ผู้คนก็เลยไม่ค่อยเยอะมาก จรินทร์ถูกไล่ตามมาตลอดทางก็ไม่มีคนเห็นเลย “นายหยุดตามฉันเลยนะ ถ้ายังตาม ฉันจะถีบนายให้ตายไปเลยนะ!”จรินทร์หยุดเดิน หันหลังมาข่มขู่จตุภูมิ จตุภมิเคยถูกจรินทร์ถีบมาแล้ว พอเห็นเธอยกเท้าก็รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาทั้งตัวเลย แต่เขาจะวิ่งหนีเพียงเพราะเรื่องแบบนี้ไม่ได้ เธอไม่รู้เลยว่าจรินทร์ใช้วิธีไหนทำให้อาจารย์เชื่อว่าเธอไม่ได้ถูกคนเลี้ยงดู เขาก็เชื่ออยู่นะ จรินทร์นั้นไม่ได้มีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนไหนเลย เขาดีใจกว่าคนอื่นๆเลย นี่ก็เป็นบทพิสูจน์แล้วว่าจรินทร์นั้นยังชอบเขาอยู่ เฉพาะนั้นเขาต้องทำให้เธอเปลี่ยนใจให้ได้เลย “จรินทร์ ฉันต้องทำยังไงเธอถึงจะยอมให้อภัยฉันละ?” จตุภูมิเข้าไปใกล้จรินทร์ พอเห็นเธอจะวิ่ง เลยรีบดึงเธอเอาไว้ จรินทร์หลับกลับมา เขาก็ยิ้มๆ แต่รอยยิ้มนั้นเหมือนดาวบนฟ้า แพรวพราวระยิบระยับ จตุภูมิเผลอไปแปปหนึ่ง จากนั้นหว่างขาก็เจ็บขึ้นมาทันที เขากรีดร้องและล้มลงไปที่พื้น “นางสารเลว ทำไมเธอไม่ฟังที่ฉันพูดละ?” ซึ่งทุกครั้งเธอก็แตะโดนตลอด สติปัญญาของจตุภูมินั้นไม่มีทางที่ช่วยได้แล้วละ ตอนนั้นเธอคงตาบอดมากที่ไปตกหลุมรักเขาขึ้นมาได้ยังไงกันนะ และยังรู้สึกว่าเขานั้นมีแต่ข้อดีเต็มตัวไปหมดเลย พอตอนนี้มาคิดๆดูแล้ว มันน่ากลัวมากเลยจริงๆ! จรินทร์ถีบไปแล้วเขาก็เลยค่อยเดินมาตลอดทาง ใช้แรงในการถีบเยอะมากๆ เธอโกรธจนแทบจะถีบให้จตุภูมินั้นพิการไปเลย ไม่อยากจะเจอเรื่องแบบนี้ทั้งวัน จตุภูมิล้มลงอยู่ที่พื้น ลุกไม่ขึ้นกว่าครึ่งวันเลยทีเดียว คนที่หลบอยู่ในมุมมืด บอดี้การ์ดทั้งสองที่ได้รับคำสั่งจากปรพลให้มาปกป้องดูแลจรินทร์นั้น พอเห็นเหตุการณ์นั้นแล้ว ก็ต้องเอามือขึ้นมาปัดเหงื่อเลยทันที พวกเขานึกว่าแค่มาดูแลนักศึกษาแบบจรินทร์นั้น มันเป็นเรื่องที่สบายง่ายๆเอง แต่คาดไม่ถึงว่าจะได้ทำงานเร็วขนาดนี้ แต่ว่าพวกเขายังไม่ทันที่จะได้เข้าไปช่วยเลย คนที่พวกเขาต้องปกป้องก็ได้ทำให้ศัตรูล้มไปกองกับพื้นแล้วละ เป็นการถีบที่รวดเร็วและแรงมาก ในภาพเหตุนั้นทำให้พวกเขาต้องรีบหุบขาเข้าด้วยกันเลยทันที พอหลังจากที่จรินทร์เดินไปแล้ว บอดี้การ์ดก็ยืนอยู่ที่เดิมและปรับอารมณ์ที่วุ่นวายของพวกเขา และกำลังจะเดินตามไป ก็เห็นจตุภูมิที่นอนอยู่บนพื้นลุกขึ้นมาลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้หยิบเอาลูกหินที่อยู่ข้างมาทุบใส่ที่ขาของตัวเอง “เขาจะทำอะไรอะ?”บอดี้การ์ดหมายเลขหนึ่งถาม “ทำร้ายตัวเองเพื่อความรัก จิตใจฟุ้งซ่าน?” บอดี้การ์ดหมายเลขสองพูดแบบคาดเดา ทั้งสองคนไม่เข้าใจเลยจริงๆ แต่ก็ไม่มีเวลาดูต่อไปแล้ว ต้องโทรไปรายงานกับปรพลก่อน หลังจากนั้นก็ได้แอบเดินตามจรินทร์ไปต่อ หลังจากที่จตุภูมิทุบขาตัวเองแล้ว เจ็บทนกลิ้งอยู่บนพื้นที่เดิม จากนั้นก็ค่อยๆหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และเขาก็ได้โทรไปยังเบอร์120 เพียงไม่นานก็มีป่อเต็กตึ๊งมา ยกเอาจตุภูมิที่กำลังบาดเจ็บไปส่งที่โรงพยาบาล พอจรินทร์ได้ยินเสียงรถป่อเต็กตึ๊ง แต่ก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกับจตุภูมิเลย พอหลังจากที่กลับมาที่บ้านของปรพลแล้ว ปรพลได้เลิกงานและกำลังรอทานข้าวกับเธออยู่ เธอนั้นเป็นเด็กดีมาตลอดทางเลย แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยเลย จตุภูมินอนที่โรงพยาบาลเป็นเวลาวัน คุณพ่อคุณแม่ของเขานั้นได้เดินทางมาไกลมากเพื่อมาดูแลเขาที่โรงพยาบาล “ไอยะ ลูกชายของฉันอะ ลูกไปทำอะไรมาละ? ทำไมถึงได้รับบาดเจ็บแบบนี้ละ ขาของลูกไม่เป็นไรมากใช่ไหม ไม่ใช่ว่าจะกลายเป็นคนพิการเลยนะ?” คุณแม่ของจตุภูมินั้นผมเริ่มขาวแล้วละ มันเหมือนลักษณ์ของผมของอำมาตย์ พอเห็นสภาพแบบนั้นของจตุภูมิ ก็ได้ฟุบลงร้องไห้อยู่ที่เตียง คุณพ่อของเขาก็ดูแก่มากด้วย ดูๆแล้วเหมือนจะห้าสิบกว่าๆจะเข้าหกสิบแล้วละ ถึงแม้จะไม่ได้ร้องไห้ออกเสียง แต่ก็อยู่ข้างๆค่อยซับน้ำตา พวกเราทั้งสองคนสามารถที่จะส่งเสียจตุภูมิเรียนมหาวิทยาลัยนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บที่ขา และยังพักอยู่โรงพยาบาลที่ดีแบบนี้อีก นี่คงเป็นการฆ่าพวกเขาเลยอะ! “คุณพ่อคุณแม่ พวกท่านไม่ต้องกังวลนะ ก็แค่กระดูกหักเอง มีปัญหาอะไรมากเท่าไหร่” จตุภูมิพูด แต่เขานั้นกลัวความเจ็บปวดมากๆ เขาใช้แรงทุบจนทำให้แค่กระดูกหักเอง จริงๆเขาอยากทุบให้เขากลายเป็นพิการเลย แบบนี้ก็สามารถที่จะทำให้เขาได้อยู่กับจรินทร์ไปทั้งชีวิตเลย “เป็นถึงขนาดนี้แล้วบังจะบอกว่าไม่มีปัญหาอีกหรอ พักอยู่ที่นี่หนึ่งคืนต้องใช้ตังค์มากขนาดไหนละเนี่ย? ไม่มีปัญหาจริงๆนะ งั้นพวกเราก็ออกจากโรงพยาบาลเลย กลับบ้านไปรักษาตัวต่อที่บ้านได้ไหมละ?” พ่อของจตุภูมิพูดอย่าเสียดายตังค์ พวกเขาทั้งสามคน ต้องพึ่งเขา ซึ่งเขานั้นต้องทำงอย่างหนักเพื่อการดำเนินชีวิตในแต่ละวันของพวกเขา และยังต้องส่งจตุภูมิเรียนมหาวิทยาลัยอีกด้วย ซึ่งไม่มีตังค์เหลือมากพอที่จะใช้จ่ายที่อื่นอีกแล้ว “ไม่ได้ ผมยังกลับบ้านไม่ได้ ผมต้องรอแฟนของผมมาดูต้องก่อน”จตุภูมิพูด เขาไม่เคยคิดถึงปัญหาเรื่องตังค์มาก่อนเลย ตอนนี้เธอก็คิดแต่จะจรินทร์มาหาเธอ พอจรินทร์เห็นว่าเขาบาดเจ็บอยู่ ก็อาจจะใจอ่อนก็ได้ เธอคงจะไม่มีทางที่จะไม่สนใจ “แฟน? คือจรินทร์ใช่ไหม? ใช่แล้ว ทำไมเขาไม่มาดูลูกเลยละ?” แม่ของจตุภูมิเช็ดน้ำตา ก็พึ่งจะมองดูในห้องผู้ป่วย เก้าอี้ที่อยู่ข้างๆเตียงยังสะอาดสะอ้านอยู่เลย ไม่มีแม้แต่ดอกไม้ น่าจะยังไม่ได้มาดูคนป่วย “ช่วงนี้ผมกับเธอเราทะเลาะกันนิดหน่อย เธอยังโกรธผมอยู่เลย แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้เขายังไม่รู้เลยว่าผมได้รับบาดเจ็บ ถ้าหากเขารู้แล้ว คงต้องมาหาผมแน่ๆเลย” จตุภูมิพูดกลับ เขาได้ให้คนไปบอกจรินทร์แล้วละ เชื่อว่าเธอต้องมาในไม่ช้าแน่ๆเลย แต่ว่าบ้านไข่กระโทกทั้งสามก็ตั้งตารอจนถึงตอนบ่ายแล้ว ยังไม่เห็นว่าจะจรินทร์จะมาเลย แต่ว่าเพื่อนร่วมห้องของจตุภูมิก็มาแล้ว เพื่อนร่วมห้องของเขานั้นเป็นเพื่อนสนิทของเขาเอง ทั้งที่รู้ว่าจตุภูมินั้นทำไปเพราะอยากให้จรินทร์เปลี่ยนใจกลับมาหาเขา เลยทำเรื่องโง่ๆแบบนี้ลงไป แต่พวกเขายังเป็นจตุภูมิเป็นเพื่อนอยู่ บวกกับเรื่องที่เขาได้รับบาดเจ็บด้วย พวกเขาได้ซื้อผลไม้มาเยี่ยมเขาด้วย หนึ่งในเพื่อนร่วมห้องของเขาถูกจตุภูมิเรียกให้ไปบอกกล่าวกับจรินทร์ พวกเขามาแล้ว จตุภูมิรีบถามถึงสถานการณ์ทางด้านนู้นของจรินทร์เลยทันทีเลย “ฉันไม่เห็นเธอเลยอะ ได้ฝากให้เพื่อนร่วมห้องของเธอไปบอกเธอแล้ว หากเป็นไปตามที่นายพูด และเขายังสนใจนายอยู่ ถ้ารู้ว่านายได้รับบาดเจ็บเธอก็ต้องมาแน่นอนเลย นายไม่ต้องกังวลนะ” เพื่อนร่วมห้องพูด จตุภูมิเอาแต่จ้องมองไปยังประตูห้องผู้ป่วย ดวงตาของเขาเหมือนจะถลนออกไปเลยทีเดียว คุณแม่ของจตุภูมิเห็นสภาพของเขา ก็รู้เลยว่าทั้งสองไม่ใช่แค่ทะเลาะเพียงอย่างเดียว พอรอจนเพื่อนร่วมห้องเดินออกไปแล้ว เธอเลยใช้ข้ออ้างนี้ในการไปส่งพวกเขา และลากทั้งสองไปข้างนอกและมาถาม “พวกเธอคือเพื่อนของจตุภูมิ น่าจะรู้ว่าระหว่างเขากับจรินทร์เกิดเรื่องอะไรขึ้น บอกให้น้ารู้หน่อยนะ ฉันเห็นสภาพเขาแล้ว ทนเห็นแทบจะไม่ได้เลยอะ!” แม่ของจตุภูมิก็มีความโกรธจรินทร์ในใจด้วย เป็นถึงแฟนของจตุภูมิ เขาได้รับบาดเจ็บแล้ว ก็ยังไม่มาดูแลเขาอีก ถึงจะทะเลาะกันใหญ่ขนาดไหน ก็ไม่น่าจะสำคัญเท่ากับการมาปลอบใจจตุภูมินะ ไม่รู้จักกาลเทศะเลยจริงๆ “คุณน้าครับ จตุภูมิยังไม่บอกให้พวกท่านรู้เลยใช่ไหม? ว่าเขากำลังทะเลาะและเลิกกับจรินทร์อยู่ และในช่วงนี้ยังก่อเรื่องไว้อีกโดยการไปบอกว่าจรินทร์นั้นถูกเถ้าแก่เลี้ยงดู เรื่องที่เขาทำทำให้ทำมหาวิทยาลัยต้องลงโทษเขาอย่างหนักเลยนะ”เพื่อนร่วมห้องของจตุภูมินั้นต่างก็เก็บความลับไม่อยู่ แม่ของจตุภูมิแค่ถาม แต่พวกเขากลับพูดออกมาหมดเลย “อะไรนะ? พวกเขาเลิกกันแล้ว?” คุณแม่ของจตุภูมินั้นตกใจมาก ในบางครั้งเธออาจมีบ้างที่รู้สึกว่าจรินทร์ไม่มีมารยาท แต่เธอก็พอใจในตัวของลูกสะใภ้คนนี้ด้วย ยังคิดเลยว่าหลังจากที่เรียนจบแล้วก็ให้พวกเขาแต่งงานกันเลย แต่ตอนนี้ทำไมถึงมาบอกว่าเลิกกันแล้วละ เธอทำใจยอมรับไม่ค่อยได้เลย “ใช่แล้ว ตอนนี้จตุภูมิยังเสียใจอยู่เลยอะ คุณน้าไหนๆพวกท่านก็มาแล้ว งั้นก็อยู่กับเขาอีกสักสองวันเลยแล้วกัน” เพื่อนร่วมห้องทั้งสองพูดจบก็เดินไปเลย แม่ของจตุภูมิยังช็อคไม่หายก็เดินเข้าห้องไปเลย พอเห็นจตุภูมิเธอก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจจนหาที่เปรียบมิได้เลย เธอเป็นเพียงคนนอก ที่รู้ว่าพวกเขาเลิกกันแล้วยังทำใจยอมรับได้ยากมากเลย แล้วลูกชายของเธอละ จะเสียใจขนาดไหนกัน นางจรินทน์นั่นก็ใจร้ายเกินไปแล้วนะ “คุณพ่อ ท่านช่วยออกไปดูให้ผมหน่อยว่าจรินทร์มาหรือยัง เธออาจจะไม่รู้ก็ได้ว่าผมอยู่ห้องไหน ผมกลัวว่าถ้าเธอมาผมแล้วจะไม่เจอผม” จตุภูมิดูแล้วสักพักก็ยังไม่เห็นว่าจรินทร์จะมา ก็เลยพูดกับคุณพ่อขึ้นมาทันที
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่17 เธอใจร้ายเกินไปแล้ว
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A