ตอนที่ 20 สมองพิการไปแล้ว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 20 สมองพิการไปแล้ว
ต๭นที่ 20 สมองพิการไปแล้ว ในที่ๆเป็นถนนคนเดิน มีผู้คนเดินไปเดินมา ได้ยินคำพูดนี้ของจตุภูมิก็ทนไม่ได้ที่จะต้องหยุดดูความบันเทิง ถูกผู้คนมากมายรายล้อมมุงดู จรินทร์รู้สึกน่าอายมากๆ เธอก็เลยหมุนไปยังทิศทางอื่น และวิ่งไปยังทางไปห้องสมุดทางนั้น จตุภูมิยังวิ่งตามหลังมาติดๆ และวิ่งไล่ไปจนถึงประตูห้องสมุด หน้าประตูมีขั้นบันไดที่ยาวมากๆอยู่เส้นหนึ่ง ขาและเท้าเธอปกติดี วิ่งขึ้นไปเพียงไม่กี่ก้าวโดยไม่ต้องเสียแรงเยอะ แต่การที่จตุภูมิขึ้นไปนั้นก็คือเรื่องที่ไม่ง่ายเลยทีเดียว พอเขาวิ่งขึ้นไปถึง จรินทร์ก็คงจะวิ่งเข้าไปในห้องสมุดแล้ว เขาก็เดินขึ้นไปด้วย ข่มขู่จรินทร์ไปด้วย "เธอรู้ไหมว่าฉันได้รับบาดเจ็บได้ยังไง? วันนั้นหลังจากที่ถูกเธอถีบแล้วเจอชน จรินทร์ เธอจะเลิกกับฉันก็ได้นะ แต่ว่าเธอไม่ควรทำร้ายฉันโดยที่ไม่สนใจและไม่ดูแลฉันไม่ได้นะ เธอนี่มันช่างใจร้ายเหลือเกินนะ!" จตุภูมิตะโกนพูดอย่างดัง เพราะเธอกลัวว่าจรินทร์จะไม่ได้ยิน จรินทร์ที่กำลังรีบวิ่งเข้าไปในห้องสมุดอยู่นั้น พอได้ยินคำพูดของเขา ก็หยุดนิ่งไปเลย "เพราะฉะนั้นนายเลยคิดที่จะโทษฉันอย่างนั้นหรือ?" จรินทร์คิดว่าการที่จตุภูมิได้รับบาดเจ็บนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเธอเลย ไม่ได้แปลว่าเธอไม่เชื่อคำพูดของจตุภูมิ ถึงแม้ว่าสิ่งที่จตุภูมิพูดจะเป็นความจริง แต่สิ่งที่เธอถีบนั้นเป็นเป้าของเขาต่างหากละ แต่เขาชนจนขาซ้ายของเขาหักเองนิ นั้นคงเป็นเพราะว่าสติปัญญาของเรามีปัญหาแล้วละ จตุภูมิค่อยๆปีนขึ้นมาจากขั้นบันได "เธออย่าพูดคำพูดที่มันน่าเกลียดแบบนี้นะ ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าเธอนั้นไร้เยื่อใยแบบนั้นกับฉันละก็ ฉันจะได้รับบาดเจ็บไหม? จรินทร์ เธอจะไม่ยอมให้โอกาสฉันอีกสักครั้งจริงๆเลยหรอ? ฉันได้ยินมาว่าคู่หมั้นของเธอนั้นรวยมากเลยนะ แต่ฉันรู้ว่าเธอไม่ใช่คนประเภทที่เห็นแก่เงิน และคนที่เธอรักแท้จริงแล้วคือฉันนิ ทำไมถึงยังต้องยอมแต่งงานกับผู้ชายคนอื่นอีกละ?" “นายนี่มันขาพิการหรือว่าสนองพิการกันแน่เนี่ย ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนถึงมาบอกว่าฉันรักนาย? " จรินทร์ถูกคำของจตุภูมินั้นพูดใส่อย่างตกใจจนเธอพูดอะไรไม่ออกเลยจริงๆ สองเดือนก่อนเธอยอมรับว่าความรู้สึกที่มีเธอเขานั้นก็คือความรัก แต่ในตอนนี้ โดยเฉพาะช่วงสองสามวันที่ผ่านมานั้นถูกของจตุภูมิก่อกวน จนเธอมีเพียงความรู้สึกที่โกรธเกลียดเขาเองแล้ว "จรินทร์! ทำไมเธอพูดแบบนี้ละ? ถึงแม้ว่าพวกเธอจะเลิกกันไปแล้ว แต่ลูกชายของฉันไม่ได้มีไว้ให้เธอมาดูถูกนะ!” แม่และพ่อของจตุภูมิตามหาลูกชายมานาน ทั้งสองเหนื่อยจนเหงื่อแตกไปเลย จนในที่สุดก็หามาจนถึงที่นี่ แต่ว่าพอมาถึงก็ได้ยินคำพูดที่จรินทร์พูดเลย ทำให้แม่ของจตุภูมิโกรธจะเป็นลมละ พอจรินทร์เห็นคุณพ่อคุณแม่ของจตุภูมิมาแล้ว ก็ยิ่งไม่อยากถูกตามรำครวญ หันหลังและเกินเข้าห้องสมุดไปเลย และถูกจตุภูมิดึงเอาไว้อีกครั้ง "นายนี่ไม่จบไม่สิ้นเลยนะ?” จรินทร์นั้นโกรธขึ้นมาแล้วจริงๆ สะบัดมือของจตุภูมิออกอย่างรุนแรง จตุภูมิยืนด้วยขาข้างเดียว ซึ่งมันก็ไม่บาลานซ์กันเลย ถูกเขาสะบัดนิดหน่อยก็ล้มลงไปจากบันไดเลย เธอเลยยื่นมือไปดึงเขาเอาไว้ “ระวังหน่อยซี อย่าโง่จนทำให้ตัวเองตกลงไปละ และจะมาโทษฉันอีก” คุณพ่อคุณแม่ของจตุภูมิวิ่งขึ้นบันไดมา ไม่พูดอะไรเลยก็ดึงจตุภูมิออกไปเลย “คุณพ่อคุณแม่ พวกท่านปล่อยมือผมซี ผมจะพูดกับเธอให้ชัดเจนกันไปเลย!” จตุภูมิดิ้นรนไปมา และไม่ยินยอมที่จะไปกับทั้งสองท่าน "ไม่มีอะไรที่จะต้องคุยกันอีกแล้ว ถ้านายยังมาพูดคุยกับฉันอีก เสียงของนายก็จะกลายเป็นเสียงนกเสียงกาไปเลยนะ รีบไปได้แล้วละ” จรินทร์เดินห่างไปหนึ่งก้าว เห็นครอบครัวนั้นลากระยะห่างออกไปแล้ว หลังจากที่จตุภูมิสะบัดมือออกจากพ่อแม่ของเขาแล้วยืนด้วยตัวเองให้มั่นคง “จรินทร์ เธออย่ามาปากไม่ตรงกับใจเลยนะ เมื่อกี้เธอยังไม่อยากให้ฉันล้มลงมาอยู่เลยนะ แสดงว่าเธอยังแคร์ฉันอยู่ เธอจะไม่ให้โอกาสฉันอีกสักครั้งจริงๆหรอ พวกเราเริ่มต้นกันใหม่ไหม ฉันสาบานเลยว่าหลังจากนี้จะไม่ทำให้เธอเสียใจเลย” “นายคงคิดมากเกินไปแล้ว เหตุการณ์เมื่อสักครู่นั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นหมาสักตัวฉันก็จะยื่นมือเข้าไปช่วยอยู่แล้วละ ซึ่งไม่ต้องพูดถึงคนเลยละ” จรินทร์นั้นรำคาญจนทนไม่ไหวแล้ว การพูดการจาก็เลยฟังดูน่าเกลียดไปแบบนั้นเองเลย “เฮ้ ยัยเด็กไร้มารยาท พูดจาให้มันดีๆหน่อยนะ เธอว่าใครเป็นหมานะ?” คุณแม่ของจตุภูมิชี้หน้าจรินทร์ “คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้ เห็นแก่เงินทอง มีคู่หมั้นที่รวยแล้วก็ทิ้งลูกชายของฉัน ก็ยังโชคดี ที่ทันได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเธอ ถ้าไม่อย่างนั้นรอพวกเธอแต่งงานกันแล้ว ฉันจะเสียใจมันก็คงไม่จะสายไปแล้วละ คุณแม่ของจตุภูมิมีความรังแกจรินทร์เป็นอย่างมาก รู้สึกว่าที่เธอทิ้งลูกชายของเขาก็เพราะว่าเพื่อเงินทองของปรพลนั่นเอง “คุณน้าคะ ไม่ใช่ว่าหนูพูดจาน่าเกลียดนะ คือคุณฟังไม่เข้าใจเองต่างหากละ หนูพูดว่าถึงแม้ว่าจะเป็นหมาหนูก็จะต้องเข้าไปช่วยเหลือมัน ไม่ได้ด่าว่าลูกชายท่านเป็นหมาเลยนะ” นอกจากนี้หมาน่ารักซะขนาดนั้นจตุภูมินั้นไม่เหมาะสมเละละ? แน่นอนว่า คำพูดข้างหลังนั้นจรินทร์ไม่กล้าพูดออกไป เธอกลัวพ่อแม่ของจตุภูมิจะด้าเธออีก “เธอ..เธอ นางเด็กนี่พูดมากเกินไปแล้วนะ” พ่อของจตุภูมิก็รู้สึกว่าลูกชายตัวเองนั้นถูกด่าแล้วเหมือนกัน เขาทนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว แต่เป้าหมายที่ทั้งสองมานั้นคือพาจตุภูมิกลับไป และขี้เกียจที่จะต้องมาต่อปากต่อคำกับจรินทร์แล้วละ “ลูก ไปกันได้แล้ว อย่าได้เสียเวลากับคนพันธุ์นี้เลย มันไม่คุ้ม!” คุณพ่อคุณแม่ของจตุภูมิพยุงซ้ายขวาของมือจตุภูมิและพาเดินลงบันไดไปเลย จรินทร์ยิ้มที่มุมปาก หันหลังเดินเข้าไปในห้องสมุด ซึ่งในช่วงเวลานั้นเอง จตุภูมิก็ได้ดิ้นรนขึ้นมา เขาสะบัดออกจากพ่อแม่ และวางขาของตัวเองบนพื้น ก็เลยทำให้เขากลิ้งลงจากบันไดลงไปเลย “ลูก!” เสียงคุณพ่อคุณแม่ของจตุภูมิตะโกนออก จรินทร์รีบหันหลังเมื่อได้ยินเสียง จตุภูมิได้กลิ้งตกตามขั้นบันไดไปเรียบร้อยแล้ว หนึ่งขันหนึ่งขันกลิ้งลงไป กลิ้งจนหน้าถึงพื้นก่อนเลย บันไดยี่สิบถึงสามสิบกว่าขั้น กลิ้งจนถึงข้างล่างก็แน่นิ่งไปเลย และได้นอนตรงๆอยู่ที่พื้น เพียงไม่นานเลือดก็ไหลออกมาจากหัวของเขาเป็นจำนวนมาก “เรียก เรียกรถพยาบาล” จรินทร์นั้นรู้สึกกลัว แต่ก็ไม่ได้ตามพ่อกับแม่ของจตุภูมิลงไป เลยรีบเอาโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาเบอร์120ทันทีเลย คุณพ่อคุณแม่ของจตุภูมิวิ่งไปถึงข้างๆตัวของจตุภูมิ เห็นตัวเขาเต็มไปด้วยแผล หน้าก็เต็มไปด้วยเลือด ได้เพียงกอดและร้องไห้อย่างเจ็บปวด รถฉุกเฉินก็มาถึงอย่างเร็ว จรินทร์เห็นว่าตกใจจนสนองเบลอไปเลย เธอเป็นคนเดียวที่เห็นเหตุการณ์ เลยต้องขึ้นรถไปกับพวกเขา เธอพึ่งจะขึ้นรถฉุกเฉิน บอดี้การ์ดที่ปกป้องดูแลเธอที่แอบอยู่ก็ได้โทรไปรายงานปรพลทันทีเลย หน้าห้องฉุกเฉิน จรินทร์อยู่รอเป็นเพื่อนกับพ่อแม่ของจตุภูมิ พอคุณแม่ของจตุภูมิเริ่มใจเย็นลง ก็เริ่มรู้สึกกลัวขึ้น พอเห็นหน้าจรินทร์ก็ยิ่งโกรธมากขึ้นอีก “เป็นเพราะเธอคนเดียวเลยนะ เพราะเธอเลยนะ จตุภูมิถูกเธอทำจนได้รับบาดเจ็บที่ขาแล้ว ตอนนี้ยังมาล้มจนเป็นแบบนี้อีก เธอนี่มันผู้หญิงที่ต่ำจริงๆเลย!” คุณแม่ของจตุภูมิพูดพร้อมจะเข้าไปตบตีจรินทร์ ตอนที่จรินทร์เห็นจตุภูมิตกลงมาและตัวเต็มไปด้วยเลือดนั้น เธอก็ตกใจไม่ต่างกันเลย ตอนนี้ยังมึนๆงงๆอยู่เลย ยังไม่ทันได้คิดที่จะหลบเลย แต่ว่าคุณแม่ของจตุภูมิยกมือขึ้นยังไม่ทันได้ตีลงบนตัวของจรินทร์เลย ทันใดนั้นก็มีชายชุดดำเดินออกมา ปกป้องจรินทร์เอาไว้ที่ที่ข้างหลัง เพื่อมาช่วยบังคุณแม่ของจตภูมิที่กำลังอาละวาทอยู่ “คุณหนูจรินทร์ ปรพลให้พวกเรามารับท่านไปทานข้าวกลางวันด้วยกันครับ” หนึ่งในบอดี้การ์ดได้พาจรินทร์เดินออกไปแล้ว อีกคนหนึ่งอยู่ไว้เพื่อค่อยรับมือกับการอาละวาทของคุณแม่จตุภูมิ จรินทร์เดินตามบอดี้การ์ดออกมาจากโรงพยาบาล รถของปรพลก็มาถึงที่หน้าประตูแล้ว “เป็นไงบ้างละยัยซื่อ? ปกติจะใจกล้ามากเลยไม่ใช่หรอ? เรื่องแค่นี้ก็ตกใจจนเอ๋อไปเลยหรอ?” ปรพลให้จรินทร์นั่งในตำแหน่งข้างๆคนขับ และยังโน้มตัวเข้าไปเพื่อคาดเข็มขัดให้เธอด้วย ลมหายใจที่ไม่คุ้นเคยของคนแปลกหน้าไกลเข้ามา อยู่แค่ที่ปลายจมูกของจรินทร์ ทำให้สติของเธอถูกดึงกลับมาทีนทีเลย “ว้ายย คุณปรพลคุณจะทำอะไรอะ!” จรินทร์ยกมือขึ้นมาไว้ด้านหน้าของหน้าอกเอาไว้ ปรพลหัวเราะกับท่าทีของจรินทร์ จริงๆไม่ได้มีแผนการอะไรเลย แต่ตอนนี้เหมือนมีเรื่องสนุกมาข่มขู่เธอเล่นๆแล้วละ เขาก็ยังอยู่ในท่าเดิม ในขณะที่คาดเข็มขัดนิรภัยให้เธออยู่นั้น ก็ได้ค่อยๆขยับเข้าไปใกล้เธออย่างช้าๆ จรินทร์เห็นใบหน้าที่หล่อเหลาค่อยๆใกล้เข้ามา เธอนั้นก็ลืมที่จะต่อต้าน และหลบหนีไปเลย และเธอก็ยังที่จะลืมหายใจไปด้วยเลยทีเดียว สองตาเปิดกว้าง สมองนั้นว่างเปล่าไปเลย “แค่กๆ…..” ปรพลกำลังพูดว่าจะทำผิดก็ทำไปเลย และกำลังที่จะโย้มตัวไปจูบนั้น ข้างๆหูก็ได้เสียงไอขึ้นมา ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นบอดี้การ์ดที่พึ่งจะส่งจรินทร์มาเอง ปรพลหยุดการกระทำทันที เงยหน้าขึ้นใช้สายตาที่พิฆาตมองไปยังที่เขา “คุณปรพลครับ ท่านมีคำสั่งอะไรอีกไหมครับ?” เขาได้พาจรินทร์มาส่งแล้ว ปรพลก็เหมือนมองไม่เห็นเขาเลย เขาก็ไม่รู้ว่าจะต้องไปทำอะไรที่ไหน เลยต้องรอรับฟังคำสั่งอย่างเดียว ใครจะไปรู้ว่ารอๆอยู่ ถ้าหากรอบข้างไม่มีคนทั้งสองคนก็คงจะจูบกันไปแล้ว แล้วจะทิ้งเขาที่ตัวใหญ่ๆเอาไว้ที่ไหนกันละ! ใบหน้าเล็กของจรินทร์ขึ้นสีแดงเลยทันที มือทั้งสองจบไว้ที่ใบหน้าพร้อมล้มลงติดเบาะรถเหมือนแกล้งตายไปเลย 
已经是最新一章了
加载中