ตอนที่29 คุณแม่ตระกูลไกลดอนที่เย็นชา   1/    
已经是第一章了
ตอนที่29 คุณแม่ตระกูลไกลดอนที่เย็นชา
ต๭นที่29 คุณแม่ตระกูลไกลดอนที่เย็นชา “เธอก็คือจรินทร์ใช่ไหม?” รเมศยังอยู่บนบันได ก็มองเห็นจรินทร์จากที่ไกลๆ แล้วทักทายย่างเป็นมิตร จรินทร์นั่งตื่นเต้นอยู่บนโซฟา พอได้ยินเสียงก็หันไปดู มองเห็นคนแก่ใจดีคนหนึ่งอยู่อยู่ระหว่างบันได รูปร่างหน้าตาของเขาก็คล้ายปรพลอยู่บ้าง แต่สหัพย์คล้ายเขามากกวว่า พอได้ยินเสียงของรเมศ สหัพย์และเขมิกาก็ลุกขึ้น “พ่อ” “นั่งลงเถอะ” รเมศโบกมือให้ทั้งสอง จากนั้นก็นั่งลงข้างๆจรินทร์ จรินทร์พูดปะติดปะต่อ “คุณ คุณปู่ไกลดอน” “เด็กดี ไม่ต้องตื่นเต้นนะ ไปห้องครัวกับบฉันสิ ลองพูดดูสิว่าเธอชอบกินอะไร ฉันให้พ่อครัวเพิ่มให้” รเมศดึงจริทนร์แล้วไปเธอไปห้องครัว ไม่ว่าท่าทีที่รเมศมีต่อสองสามีภรรยาสหัพย์ หรือสองสามีภรรยาสหัพย์มีต่อปรพล ก็สามารถใช้คำเดียวกันมาพูดได้——เย็นชา พวกเขาทั้งสองมีความเย็นชาต่อกัน ไม่เหมือนคนบ้านเดียวกันเลย สถานการณ์ที่ไม่พูดไม่จากันแบบนี้ไม่ได้อยู่ในความคิดของจรินทร์ ก่อนจะมาเธอเคยคิดถึงขั้นว่าพ่อแม่ของปรพลจะบังคับให้เงินเธอแล้วให้เธอจากไป รู้สึกว่าเธอไม่เหมาะกับปรพลอะไรประมาณนี้ แต่ว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่เหมือนที่เธอคิดไว้เลย ตั้งแต่ต้นจนจบเธอรู้สึกกดดันมาก แต่ว่าพอเธอเข้ามาในห้องครัวกับรเมศแล้ว ก็เจอของกินอร่อยๆ เต็มไปหมด อารมณ์เธอก็เลยดีขึ้นไม่น้อย รเมศแนะนำว่าพวกนั้นเป็นกับข้าวที่ปรพลชอบ จรินท์ฟังไปฟังมา น้ำลายจะไหลแล้ว “วันนี้มีคนเยอะหรอคะคุณปู่ไกลดอน ทำอาหารอร่อยเยอะขนาดนี้เลย” จรินทร์กลืนน้ำลาย ตอนเช้าเพราะว่ากลัวเกินไป เธอเลยไม่ได้กินของอะไรมาดีๆ ตอนนี้เริ่มหิวแล้ว “เรียกผิดแล้ว!” รเมศยกมือขึ้นมาตบหัวของจรินทร์เบาๆ แปลว่าลงโทษ “เรียกคุณปู่ อย่าเรียกคุณปู่ไกลดอน ดูเป็นคนนอกเลย เธอเป็นหลานสะใภ้ของฉันเชียวนะ!” จรินทร์ยิ้มอย่างซื่อบื้อ “ได้ค่ะ คุณปู่” หลังจากอยู่กับรเมศไปสักพัก จรินทร์ก็เริ่มปล่อยวางแล้ว ไม่ได้ตื่นเต้นขนาดนั้นแล้ว ตอนที่ปรพลลงมาจากตึก อาหารที่เหลือก็ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว “เอามาเสิร์ฟเรากินกันก่อนเถอะ ไม่รอยัยหนุ่มนั้นแล้ว ไม่เคยมาตรงเวลาเลย!” รเมศทำเป็นว่าโกรธ แต่ใครก็ฟังออก ว่าเขาเอ็นดู ‘ยัยหนุ่ม’ ที่พูดในออกมาจากปากของเขาแค่ไหน ในครอบครัวใหญ่แบบนี้ คำพูดของรเวศก็เหมือนพระบรมราชโองการ ไม่มีใครคัดค้าน รเวศลากจรินทร์มานั่ง จรินทร์เห็นว่าพ่อแม่ของปรพลยังนั่งอยู่ทางโซฟา ก็ลุกขึ้นยืนโดยที่ไม่รู้ตัว “พวกแกจะกินไหม? ชักช้าทำอะไร?” ที่รเวศพูดถึงคือพ่อแม่ของปรพล น้ำเสียงออกจะรำคาญ ไม่ได้ใจดีเหมือท่าทีที่เขามีต่อผู้หญิงตรงหน้านี้ การเปลี่ยนแปลงที่ละเอียดแบบนี้ คนที่ใจกว้างคงจะไม่ทันสังเกต แต่ว่าจรินทร์ มองแล้วดูซื่อบื้อมาก ที่จริงแล้วเธอดูภายนอกอาจจะซื่อบื้อ แต่ความจริงเธอฉลาดมาก ในจุดที่ละเอียดอ่อนเธอมองเห็นยิ่งกว่าใคร สหัพย์พยุงเขมิกามา แต่กลับถูกคนข้างหลังหลบ ไม่ให้เขาจับ การกระทำเล็กนี้ก็ถูกจรินทร์ที่ติดตามพวกเขาอยู่มองเห็น ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ของปรพลไม่ได้ดี ในใจของจรินทร์สรุปได้แบบนี้ หลังจากทั้งบ้านนั่งลงแล้ว รเวศไม่ขยับตะเกียบ คนอื่นๆก็รออยู่ หลังจากรเวศจับตะเกียบขึ้นมาแล้ว ก็คีบน่องไก่ให้จรินทร์ก่อน ทำให้สองสามีภรรยาสหัพย์อึ้งไปเลย “กินเถอะ ไม่ต้องอึ้งแล้ว” รเวศพูดด้วยรอยยิ้มกับจรินทร์ “ขอบคุณค่ะคุณปู่!” จรินทร์หันไปมองปรพลที่นั่งอยู่ข้างๆรเมศด้วยความดีใจ ในแววตาเต็มไปด้วยความอวด ปรพลเบ้ปาก พอเห็นเธอปล่อยวางลงแล้ว เขาเองก็วางใจแล้ว รู้อยู่แล้วว่ายัยเด็กนี่ต้องเข้ากับรเมศได้แน่นอน “คุณจรินทร์วัยนี้ยังเรียนอยู่สินะ? ตอนนี้เราแค่หมั้นกันก่อน เมื่อไหร่จะจัดงานหมั้นล่ะ?” สหัพย์ถามไปด้วย คีบอาหารให้เขมิกาไปด้วย เขมิกาไม่ทันห้ามไว้ พอเห็นอาหารใจถ้วยแล้ว ก็ไม่อยากกินทันที เธอนำอาหารถ้วยนี้ไปไว้ข้างๆ แล้วเอาข้าวถ้วยใหม่มา “เป็นผู้ใหญ่ยังไงกัน? เรียกจรินทร์ ไม่รู้หรอ?” รเมศถามสหัพย์กลับ สหัพย์นึกไม่ถึงว่ารเมศจะตบหน้าตัวเองต่อหน้าเด็กรุ่นหลัง เขานิ่งไปเลย ก้มหัวแล้วคีบอาการให้เขมิกา และไม่ถึงทีที่จรินทร์จะตอบแล้ว “ไม่เห็นว่าฉันดื่มซุปอยู่หรอ?” เขมิกาจ้องอาหารที่คีบอยู่บนตะเกียบของสหัพย์ ถ้าไม่ใช่เพราะมีการสั่งสอนที่ดี เธอคงสะบัดให้ตะเกียบของเขาตกแล้ว “ข้าวก็ยังไม่ได้กินดื่มซุปอะไร กินข้าว!” สหัพย์นำอาหารคีบลงในถ้วยของเขมิกา แล้วเอาซุปที่อยู่บนมือเธอมา ผลักถ้วยที่เป็นข้างไป บังคับให้เธอกิน การเปลี่ยนแปลงที่กะทันหันนี้ทำให้สถานการณ์บนโต๊ะอาหารเริ่มอึกอัดขึ้น จรินทร์คีบน่องไก่ไว้ระหว่างอากาศ ในปากก็ไม่กิน วางลงก็ไม่วางลง รู้สึกไม่สบายใจมาก “ขอโทษนะคุณปู่ ผมมาสายไปหน่อย!” จู่ๆก็มีเสียงของผู้ชายดังขึ้น ทำลายสถานการณ์ที่อึดอัดบนโต๊ะอาหารนี้ ทุกคนหันไปดู เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่สวยกว่าผู้หญิง ใส่ชุดสูทค่อยๆเดินมา “ยัยหนุ่ม ทำไมแกมาสายทุกรอบเลย? รีบมานั่ง” รเมศเห็นว่าเดชทัตมาแล้ว จึงด่าไปก่อน จากนั้นก็ชี้ไปทางข้างๆปรพล ให้เขารีบเข้าไปนั่ง แววตาของจรินทร์มองแต่เดชทัตไม่ย้ายไปไหนเลย นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอเห็นเดชทัตแต่งตัวปกติ ไม่มีผมยาวลอน ไม่มีเมคอัพที่แน่น เป็นหน้าสดและชุดสูท แต่กลับดูดีกว่าเขาที่ปลอมตัวเป็นผู้หญิง “เดช เดชทัตหรอ?” จรินทร์ตะโกนไปทางเดชทัตเบาๆ เดชทัตไม่ได้ตอบ แค่กะพริบตาให้เธอไปไม่กี่ที “แค่กๆ!” ปรพลไอไปสองที เตือนพวกเขาว่าอย่ามองไปมองมาต่อหน้าพวกเขา นี่คิดว่าเจาที่เป็นว่าที่สามีตายแล้วหรอ? “ฉันกินอื่มแล้ว พวกเธอกินเถอะ” เขมิกาววางถ้วยและตะเกียบลง จากนั้นก็เดินทางโซฟา ข้าวของเธอเหมือนไม่ได้จับเลย เอแค่ดื่มซุปไปสองคำ เธอไม่ใช่ว่าอิ่มแล้ว แต่เป็นเพราะเธอไม่อยากกิน “คุณป้าลดความอ้วนอยู่ ไม่ต้องสนใจ เรากินกันเถอะ!” พอเดชทัตมา บนโต๊ะอาหารก็บันเทิงขึ้นทันที เขาสามารถพูดคุยกับทุกคนได้ ช่วยจรินทร์ตักบัวลอย ทำให้รเมศชอบมาก จรินทร์ก็กำลังกินอยู่ แต่เธอก็จ้องแต่เดชทัตตลอดเวลา อยากจะเอาตาไปติดบนตัวเขาเลยด้วยซ้ำ ปรพลมองรอบๆข้างด้วยความเย็นชา เดชทัตรับรู้ได้ถึงความอันตราย จึงก้มหน้าตั้งใจกินอาหาร ทำเป็นไมรู้จักจรินทร์ “จรินทร์รู้จักเดชทัตหรอ?” รเมศมองดูทั้งสามคน แล้วรู้สึกประหลาดใจ ปรพลตอบกลับว่า “เคยเจอกันที่บ้านผม ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีมาก!” เขาไม่สารถไม่ยอมรับได้เลยว่า ขณะนี้เขารู้สึกหวงเล็กน้อย เดชทัตฟังประโยคนี้แล้ว เกือบจะจุกเลย ไอไปจะครึ่งวันถึงจะค่อยๆดีขึ้น แล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ท่านประธานปรพลอย่าเข้าใจผิดนะ ฉันกับจรินทร์เป็นเพื่อนสนิทกัน ใช่ไหม? เพื่อนสนิท!” จรินทร์พยักหน้าอย่างแรง “ใช่แล้ว เราเป็นพี่น้องกัน” ไม่ ตอนนี้เธอเลื่อนขั้นมาเป็นแฟนคลับของเดชทัตแล้ว เป็นแฟนคลับในลุคผู้ชาย ปรพลรู้อยู่แล้วว่าเดชทัตไม่กล้าที่จะมายุ่งกับจรินทร์ แต่เธอเป็นห่วงว่ายัยเด็กจรินทร์นี้จะไม่มั่นคง ใครจะรู้ว่าถ้าสมองเธอบรรลุขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็อาจจะยอมแพ้ให้ใบหน้าของเดชทัตก็ได้ “พ่อคะ!” จู่ๆเขมิกาที่นั่งอยู่บนโซฟาก็เปิดปากพูด “ไม่มีมีเรื่องอะไรแล้วฉันกลับก่อนนะ” “ไม่มีอะไรแล้วได้ไง? ฉันให้พวกแกมาทำอะไร? ให้พวกแกมาดูลูกสะใภ้!” รเมศมองทั้งสองแล้วก็รู้สึกโมโหขึ้นมา “ดูแล้ว” เขมิกาเย็นชาจนไม่มีอะไรเทียบได้ พูดจบก็ไปเลย วันที่อัพต่อ 2019-11-24 
已经是最新一章了
加载中