ตอนที่ 633 เมาแล้วออดอ้อน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 633 เมาแล้วออดอ้อน
ตอนที่ 633 เมาแล้วออดอ้อน หลังจากเตรียมทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว เตชิตก็โบกมือสื่อว่าให้ทั้งสองคนออกไป ตัวเองก็เดินไปข้างเตียงแตะผู้หญิงตัวเล็กที่นอนหลับปุ๋ยอยู่ “คุณภรรยา ตื่น” นัชชาหลับตั้งแต่ตอนบ่ายจนถึงกลางคืน ที่จริงก็รู้สึกได้พักแบบเต็มที่ พอโดนปลุกเบาๆก็ลืมตาขึ้นมาทันที “อือ......คุณตื่นแล้วหรอ?” “อืม” เตชิตปัดผมที่ปรกตรงหน้าเธอออก แล้วเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยน “ผมสั่งอาหารมา ลุกขึ้นมาทานอาหารกันเถอะ” แต่นัชชากลับส่ายศีรษะ “ฉันไม่หิว” เพิ่งตื่นขึ้นมา เธอจึงไม่อยากอาหาร “ไปล้างหน้าให้ตื่นหน่อย เท่าไหร่ก็ต้องทานหน่อย” ถ้าไม่ทานเลย แผนการเขาต้องล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงเลยสิ? คิดแบบนี้แล้ว เตชิตก็กึ่งอุ้มกึ่งลากเธอลงมาจากเตียงโดยที่ไม่อธิบายอะไร อุ้มไปจนถึงประตูห้องน้ำ กลัวว่าเธอจะงอตัวอยู่นอกห้อง นัชชายังคงค่อนข้างมึนงง เธอจึงล้างหน้าแปรงฟันง่ายๆอยู่ในห้องน้ำอย่างจำนน หลังจากได้ล้างหน้าด้วยน้ำเย็นแล้ว ก็ตื่นขึ้นไม่น้อยเลย อย่างน้อยก็ไม่ง่วงเหมือนตอนที่เพิ่งตอน เธอเอาผ้าขนหนูในมือพาดไว้บนราว กำลังหันศีรษะไปคุยกับเตชิต ก็พบว่าร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านหลังหายไปแล้ว ในใจก็ตื่นตระหนกขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ได้ คิ้วสวยขมวดขึ้นมา เธอเดินออกจากห้องน้ำไปที่ห้องนั่งเล่นนอกห้อง ตรงคางยังมีน้ำหยดอยู่เลย อย่างไรก็ตาม ตอนที่เธอก้าวออกไป ขณะที่เธอเห็นผู้ชายที่สวมชุดสูทยืนอยู่อยู่กลางห้องนั่งเล่น จู่ๆเธอก็ไม่มีอะไรจะพูดออกไป โต๊ะทรงกลมสีขาว ดอกกุหลาสีขาว เสริมด้วยเชิงเทียนกำลังเผาไหม้......ภาพตรงหน้าทั้งหมดมีความโรแมนติกลอยอยู่ในอากาศ นัชชาไม่ได้คาดหวังเลยว่าเขาจะมีฝีมือแบบนี้ เธออึ้งไปเลย “คุณ......” “ผมบอกแล้ว คืนนี้ยังมีอะไรให้ ‘ทำ’ อีกเยอะ” เขาเน้นคำหนึ่งคำ กลัวว่าเธอไม่รู้ความหมายแฝง นัชชานอกจากจะหน้าแดงแล้ว คนที่ยืนทึ่มอยู่ที่เดิมมองคนที่กำลังค่อยๆเดินมาหาตน. เขาจูงมือเธอแล้วพาไปนั่งที่เก้าอี้ แล้วช่วยเธอดึงเก้าอี้อย่างสุภาพบุรุษ “นั่งสิ” นัชชาไม่ชินกับการบริการของเขา แต่พอนั่งลงไปสายตาก็เหลือบไปเห็นดอกกุหลาบดึงดูดสายตาอย่างไม่รู้ตัว เธอเปิดร้านดอกไม้ เธอรู้จักของพวกนี้ เห็นช่อดอกไม้พวกนี้แล้วเธอรู้ว่าต้องใช้ฝีมือไม่น้อยเลย ดอกกุหลาบนั้นเหี่ยวง่ายอยู่แล้ว แถมทำให้มันเป็นช่อเดียวด้วยแล้ว อยากจะให้มันมีรูปร่างที่ดูดีหรือสดใหม่ ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายเลย เธอมีความสุขที่ได้ขยับดอกไม้ไปมา ปลายนิ้วไปสัมผัสโดยของเย็นๆโดยไม่ได้ตั้งใจ ตอนแรกเธอนึกว่าเป็นส่วนล่างของช่อดอกไม้ เลยไม่ได้สนใจ แต่ตอนที่เธอลูบมันหลายครั้ง สุดท้ายก็พบว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นใต้ช่อ แต่เป็น...... นัชชาหยิบสิ่งของเย็นๆในดอกไม้ออกมา วางไว้บนมือแล้วส่องที่แสงเทียน เป็นสร้อยข้อมือเพชรหนึ่งเส้น! เธอเงยหน้ามองเขาอย่างประหลาดใจ “นี่คือ......?!” “ของขวัญวันแต่งงานครับ” เตชิตเพลิดเพลินกับสีหน้าท่าทางของเธอตอนนี้มาก สำหรับคนนที่ทำให้ประหลาดใจถือว่าเป็นความรู้สึกพอใจที่สุดเลย นัชชามองสร้อยเพชรสามเส้นนั้น เธอรู้มาตลอดว่าเตชิตรวย ดังนนั้นไม่ต้องคิดก็รู้ว่ามันต้องแพงมาก แต่ไม่ใช่ว่าของแพงแล้วจะประกันว่าเป็นของที่ดี สร้อยข้อมือเส้นนี้แม้ว่าจะอยู่ภายใต้แสงไฟแบบนี้ก็ยังเปล่งประกายระยิบระยับน่าประทับใจ ช่างฝีมือที่ทำมันขึ้นมาต้องเก่งไม่ใช่น้อย นัชชารองน้ำหนักของมัน ทั้งๆที่ตัวแองเป็นคนเดียวที่ได้รับของขวัญ แต่ทำไมถึงหวาดหวั่นก็ไม่รู้ “ช่วงนี้คุณซื้อของให้ฉันเยอะมาก ฉันใส่ไม่หมดแล้ว ไม่ต้องซื้อแล้วนะ......” “ไม่ชอบหรอ?” เขาขมวดคิ้ว ขอบเขตความคิดนั้นไม่ได้อยู่ในระบบ นัชชาส่ายหน้า “ไม่ใช่ ฉันชอบมาก แต่ฉันแค่รู้สึกว่ามันไม่จำเป็น” คนอื่นเวลาซื้อสร้อยคอเพชรให้กับแฟนหรือว่าภรรยา ส่วนมากจะซื้อแค่แบรนด์เนมเท่านั้น แต่ตาคนนี้ โดนเสนอขายของที่เป็นคอลเลคชั่นชั้นหนึ่ง เธอค่อนข้าง......ไม่สามารถรับได้จริงๆ มีสักชิ้นสองชิ้นยังโอเค ถ้าเป็นเซ็ตสำหรับเธอมันมากไปหน่อย แม้ว่าตอนนี้คุณภาพชีวิตจะดี สำหรับคนที่มีชีวิตที่เคยมีชีวิตลำบาก นัชชาไม่ชอบการใช้ของหรูหราฟุ่มเฟือยเกินไป เตชิตรู้ความคิดในใจของเธอ และก็ชอบความเรียบง่ายที่หาได้ยากนี้ ไม่ได้เถียงเธอ และพูดออกมาว่า “รับสร้อยข้อมือไว้ก่อน ซื้อมาแล้ว วันหลังผมจะระวังกว่านี้ครับ” คำพูดเขาคือแผนถ่วงเวลาอย่างสิ้นเชิง ยังไงต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรใครจะไปรู้ แต่นัชชาคิดจริงๆ รู้สึกว่าเขาจะต้องคิดพิจารณา สร้อยข้อมืออยู่บนข้อมือเล็กขาวเนียนดูแล้วสวยขึ้นเป็นสิบเท่า นัชชามองเพชรที่ห้อยอยู่ด้านบนส่องประกาย เธอชอบจากใจเลย ไม่มีผู้หญิงคนไหนสามารถทนต่อความหลงใหลในดอกไม้และเครื่องเพชรได้ ก็เป็นเหตุผลเดียวกับความชอบรถและผู้หญิงสวยของผู้ชาย เป็นสิ่งที่อยู่ในกระดูก ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เตชิตเห็นว่าเธอยกคิ้วขึ้นมาอย่างดีใจ ตัวเองก็พอใจไปกับเธอด้วย ยกมือขึ้นมาช่วยเธอเอาผ้าคลุมจานใบใหญ่ออกให้ เสต็กเนื้อติดซี่โครงตุ๋นที่ดูสดใหม่น่าอร่อยหนึ่งชิ้น และมีหน่อไม้ฝรั่งสดและน้ำซอสสองชนิด แค่มองอย่างเดียวก็อยากอาหารขึ้นมา อุณหภูมิของอาหารกำลังดี นัชชาหยิบมีดกับส้อมตัดขึ้นมาหนึ่งชิ้นใส่เข้าปาก เนื้อวัวชั้นดีละลายในปาก ยังไม่ทันเคี้ยวก็ขาดแล้ว เหลือเพียงกลิ่นเนื้อเบาบาง นัชชาแค่คิดก็เดาได้ว่า เนื้อชิ้นนี้ก่อนนำไปทอดให้สุก ไขมันขาวและเนื้อสีแดงจะต้องกระจายตัวอย่างหนาแน่นแน่นอน เธออดถอนหายใจออกมาไม่ได้ “ว๊าว คุณรีบชิมเสต็กเนื้อชิ้นนี้เร็ว อร่อยมากจริงๆอ่ะ!” เตชิตเห็นท่าทางเธอยิ้มอย่างมีความสุข จู่ๆก็คิดว่าท่าทางเมื่อครู่ตอนเห็นเพชรไม่เห็นจะมีความสุขขนาดนี้เลย ริมฝีปากเบะลง สายตาเต็มไปด้วยความออดอ้อน “หรือว่ากินเนื้อ ดีใจกว่าได้เพชรอีกหรอ?” “มันไม่เหมือนกันนี่หน่า~” นัชชาอธิบายคุณค่าให้เขาฟัง “อันหนึ่งเป็นความพอใจทางกาย อีกอันเป็นความพอใจทางจิตใจ เอามารวมกันไม่ได้ แต่พอใจทั้งหมดก็ถูกต้องแล้ว!” “หืม?” ได้ฟังดังนั้น เตชิตก็ขมวดคิ้ว นิ้วมือเรียวยาวที่ถือมีดกับส้อมอยู่ชะงัก จากนั้นก็โน้มตัวเข้าไปใกล้ “แล้วผมล่ะ เป็นความพอใจทางด้านไหน?” “คุณอะไรล่ะ ฉันว่า......” นัชชากำลังจะแก้เขา พอพูดได้ครึ่งเดียวก็เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร พลางเบิกตากว้างด้วยใบหน้าที่แดงแล้วเงียบทันที “คุณเอาอีกแล้วนะ!” ดวงหน้าของเธอเปล่งประกายายใต้แสงเทียนสีส้ม ผิวขาวราวกับเต้าหู้ก็กระทบกับแสง ความใสของดวงตาขาวดำที่ตัดกันก็สุกใสออกมา ปากเล็กอ้าออกมาเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว ใบหน้าขาวแดงขึ้นอย่างดูดี อะไรที่เรียกว่าโฉมหน้าอันสวยงาม อะไรที่เรียกว่าโฉมหน้าที่น่าหลงใหล ตอนนี้เตชิตเข้าใจหมดแล้ว เธอสวยมาก สวยจนไม่มีอารมณ์จะกินข้าวแล้ว แค่อยากจะกลืนกินเธอเข้าไป
已经是最新一章了
加载中