ตอนที่57 ทำลายม่านพลัง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่57 ทำลายม่านพลัง
ตอนที่57 ทำลายม่านพลัง แม้ว่าภายในจะค่อนข้างมืดแต่ว่าไม่รู้ว่าแสงสว่างอ่อนๆนั้นมาจากที่ไหนฉันจึงสามารถมองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนด้านหน้าปากถ้ำนี้มีม่านพลังอยู่ ม่านพลังนี้เป็นเหมือนกับกำแพงน้ำที่ส่องประกายระยิบระยับไม่หยุดฉันลังเลขึ้นมาเล็กน้อยที่บ่อน้ำนี้แห้งเหือดไปเป็นเพราะน้ำที่อยู่ข้างในนั้นถูกน้ำมาใช้ทำกำแพงน้ำนี้ แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้เพราะว่าเห็นได้อย่างชัดเจนแม้ว่าจะมีม่านพลังนี้แต่ว่าพื้นที่มิติภายในเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นหลังจากที่น้ำในบ่อแห้งไปแล้วฉันหรี่ดวงตาลงและพยายามมองเข้าไปใกล้ม่านพลังแต่ว่าแม้จะขยับเข้าไปใกล้จนใบหน้าแทบจะแนบสนิทไปแล้วก็ยังคงมองไม่เห็นว่าด้านในม่านพลังมีอะไรอยู่กันแน่ เมื่อพบเจอกับเรื่องแบบนี้ฉันก็ไม่อาจจะควบคุมความประหลาดใจของตัวเองได้ในตอนนี้ดูเหมือนว่าฉันจะลืมเลือนการมีอยู่ของเทียนปูหยู่ไปแล้วฉันไม่ได้สัมผัสถึงเลยว่าเขาโอบเอวของฉันเพื่อป้องกันอุบัติเหตุไม่คาดคิดอยู่ตลอด ฉันพยายามมองไปด้านในอยู่นานแต่ก็ไม่พบเห็นอะไรจึงตัดสินใจจะเข้าไปด้านในแต่ฉันก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะสามารถเข้าไปได้หรือไม่ดังนั้นฉันยืดนิ้วออกไปเพื่อที่จะทดสอบกำแพงน้ำตรงหน้าดูภายในใจคิดไปว่าหากนิ้วของฉันสามารถเข้าไปได้ฉันก็น่าจะสามารถเข้าไปอย่างปลอดภัยได้แล้ว แต่ว่าในตอนที่นิ้วของฉันห่างจากม่านพลังไม่ถึงหนึ่งเซนติเมตรฉันก็รู้สึกว่าที่เอวของฉันถูกรัดแน่นขึ้นมาทันทีอยู่ๆเทียนปูหยู่ที่โอบตัวของฉันไว้ก็ออกแรงดึงให้ฉันถอยออกไป ฉันถูกการกระทำที่เกินขึ้นอย่างว่องไวของเขาทำเอาตกใจตื่นหลังจากนั้นฉันก็ดึงมือของเขาออกและทุบไปที่หน้าของเขาอย่างหนักหน่วง “นายทำอะไรเนี่ย!อีกแค่นิดเดียวก็จะโดนแล้วแท้ๆ!” เทียนปูหยู่มองมาที่ฉันเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความช่วยไม่ได้หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆยกมือขึ้นกิ่งไม้หนึ่งลอยขึ้นมาจากบนพื้นก่อนที่จะบินไปยังม่านพลังขนาดใหญ่นั้นราวกับได้รับคำสั่ง แต่ว่ากิ่งไม้นั้นยังไม่ทันผ่านไปเพียงแค่มันสัมผัสกับม่านพลังฉันยังไม่มันมองเห็นชัดว่าเกิดอะไรขึ้นเพียงรู้สึกว่าเงียบนิ่งไปชั่ววินาทีเท่านั้นหลังจากนั้นกิ่งไม้ก็กลายเป็นเศษเถ้าและถูกม่านพลังดูดเข้าไปทันที! ฉันตกใจจนสั่นสะท้านและเหลือบไปยังเทียนปูหยู่อย่างไร้สาเหตุเห็นได้ชัดว่าเทียนปูหยู่รู้ว่าฉันกำลังมองเขาอยู่แต่กลับทำเย่อหยิ่งไม่ทันมามองแม้แต่น้อยฉันเพียงเห็นความภาคภูมิใจในแววตาของเขาเท่านั้น หลังจากนั้นเทียนปูหยู่ก็เอามือทั้งสองไขว้ไว้ข้างหลังและเดินออกไปข้างหน้าฉันเห็นว่าเขาจะสัมผัสเข้ากับม่านพลังทั้งอย่างนั้นจึงยืดมือของไปรั้งตัวของเขาเอาไว้ตามสัญชาตญาณพร้อมกับตะโกนออกมาเสียงดัง:“ระวัง!” เทียนปูหยู่หันหน้ามามองฉันเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาโดยไม่ได้เข้ากับสถานการณ์:“ไม่คิดว่าเจ้าจะเป็นห่วงเป็นใยข้า” ฉันกรอกตามองไปที่เขาอย่างช่วยไม่ได้แม้ฉันจะรู้ว่าเขามองไม่เห็นก็ตาม เทียนปูหยู่ยืนอยู่หน้าค่ายกลสักพักหัวของเขาขยับร่วนไปมาราวกับกำลังตามหาอะไรอยู่ อยู่ๆเขาก็ส่งพลังออกมาก้อนหินขนาดประมาณไข่นกกระทาลอยขึ้นจากพื้นและพุ่งเข้าไปที่ม่านพลังทันที แต่ว่าผลก็ออกมาอย่างกิ่งไม้ที่น่าสงสารนั่นผ่านไปไม่นานหินก้อนนั้นก็กลายเป็นเศษละเอียดและถูกม่านพลังดูดเข้าไปอย่างเงียบงันโดยไร้ความปรานี ดูเหมือนว่าเทียนปูหยู่จะรู้อะไรขึ้นมาเขายกมือขวาขึ้นภายในมือของเขาเริ่มประกายแสงขึ้นมาหลังจากนั้นดาบยาวเล่มหนึ่งค่อยๆก็ปรากฏขึ้นตั้งแต่ตัวดาบไปยังใบมีดของดาบ เทียนปูหยู่จับดาบยาวเอาไว้เมื่อมองจากแผ่นหลังของเขาก็รู้สึกราวกับเทพแห่งการรบอย่างแม่ทัพในสนามรบยามอดีต “ถอยไป” เทียนปูหยู่หันหน้ามาพูดกับฉัน ดังนั้นฉันจึงถอยห่างออกมาอย่างเชื่อฟัง เทียนปูหยู่เองก็ถอยหลังออกมาราวกับกำลังวัดระยะ หลังจากนั้นเทียนปูหยู่ก็กดาบยาวขึ้นเหนือหัวและตวัดลงไปยังม่านพลังที่ห่างจากตัวเองไปในระยะหนึ่งอย่างรุนแรง! หลังจากที่เทียนปูหยู่ตวัดดาบยาวลงไปฉันก็รู้สึกได้เพียงสายลมรุนแรงจากทางด้านหน้าฉันจึงยกมือขึ้นมากันดวงตาของตัวเองเอาไว้ตามสัญชาตญาณก่อนหน้านั้นฉันเห็นเพียงแผ่นหลังที่งดงามของเทียนปูหยู่และเรือนผมสีดำขลับที่ปลิวสยายไปตามสายลมรุนแรงเท่านั้น....... เมื่อรู้สึกได้ว่าพลังลมลดน้อยลงแล้วฉันก็รีบมองไปยังด้านหลังอย่างอดไม่ได้ฉันยืนอยู่ด้านหลังของเทียนปูหยู่จับเสื้อผ้าของเขาเอาไว้แน่นจากนั้นก็พยายามเขย่งเท้าขึ้นเพื่อมองไปยังด้านหน้าในตอนนั้นเองฉันเพิ่งจะรู้สึกได้ว่าม่านพลังที่เดิมทียังคงประกายแสงวับวาวราวกับกำแพงน้ำนั้นกลายเป็นกำแพงมั่นคงดั่งน้ำแข็งหลังจากที่เทียนปูหยู่ตวัดดาบลงไป เทียนปูเก็บท่าทางกลับมาดังเดิมและยืนนิ่งอยู่กับที่ราวกับกำลังรอคอยอะไรอยู่ในตอนนั้นฉันเพิ่งจะรู้สึกว่าก่อนหน้านี้ฉันเอาแต่จดจ่อกับการมองไปที่ด้านหน้าจนไม่ได้รู้สึกเลยว่าตอนนี้ตัวเองกำลังเกาะติดอยู่บนตัวของเทียนปูหยู่...... ฉันรู้สึกเขินอายขึ้นมาในทันทีและอยากจะถอยออกแต่ว่าดูเหมือนตอนนี้เขาจะยังไม่รู้สึกถึงท่าทางที่แปลกประหลาดของเราสองคนถ้าหากฉันเคลื่อนตัวออกมาอย่างร้อนรนในตอนนี้มันก็น่าจะทำให้รู้สึกอายกันเข้าไปใหญ่! ดังนั้นฉันจึงไม่ได้สนใจอะไรให้มากมายอีกและคอยจับเสื้อของเขาเอาไว้พร้อมกับรอคอยไปอย่างเงียบสงบ ที่แท้เมื่อเวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งนาทีม่านพลังที่กลายเป็นดั่งกำแพงน้ำที่แข็งเป็นน้ำแข็งก็เกิดรอยแตกขึ้นจากตรงกลางจากนั้นรอยแตกก็ขยายออกไปรอบด้านภายในเวลาสั้นๆทั่วทั้งม่านพลังก็กลายเป็นดั่งกระเบื้องเคลือบที่เต็มไปด้วยรอยร้าวเมื่อมองดูแล้วก็ยังคงให้ความรู้สึกงดงามอยู่มาก ในระหว่างที่ฉันกำลังมองไปอย่างเหม่อลอยเทียนปูหยู่กลับสะบัดชายแขนเสื้อดาบยาวในมือของเขาหายไปในทันทีหลังจากนั้นเขาก็หมุนตัวกลับมากันตัวของฉันเอาไว้อย่างรวดเร็วฉันจึงขดตัวลงไปซุกอยู่ในอ้อมอกของเขาตามสถานการณ์เขาเองก็ค้อมตัวลงเล็กน้อยจนตัวของเขาเป็นราวกับกำแพงคนที่ล้อมตัวฉันเอาไว้ หลังจากนั้นฉันก็ได้ยินเสียง เสียงแตกหักดังมาจากด้านหลังของเทียนปูหยู่และเศษเกล็ดน้ำแข็งที่ลอยมาในเวลาเดียวกัน ฉันถึงได้เข้าใจขึ้นมา ที่แท้หลังจากที่ม่านพลังนี้แตกตักลงมันก็ยังสามารถสร้างอันตรายให้แก่ผู้คนได้! จนกระทั่งโดยรอบเงียบสงบไปเทียนปูหยู่ถึงได้คลายตัวออกด้วยความสบายใจหลังจากนั้นสองมือของเขาก็ถูกวางลงที่บ่าของฉันก่อนจะหมุนตัวของฉันไปมา:“ให้ข้าดูเสียหน่อยเจ้าบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่?” ในใจของฉันได้แต่คิดขึ้นมาถูกนายห่อเอาไว้อย่างกับซาลาเปาแบบนั้นจะไปบาดเจ็บอะไรได้! แต่ว่าในตอนที่เทียนปูหยู่หมุนตัวไปฉันก็เห็นว่าที่แผ่นหลังของเขาเต็มไปด้วยเศษกระจกมากมายนับไม่ถ้วน!ภายในแสงอันเบาบางพวกมันต่างก็กำลังส่องประกายแสง “เทียนปูหยู่นายบาดเจ็บ!” ฉันเริ่มรู้สึกร้อนรนขึ้นมาเพราะเทียนปูต้องบาดเจ็บเพื่อปกป้องฉันในใจของฉันจึงรู้สึกไม่ดีนัก แต่ดูเหมือนเทียนปูหยู่จะไม่ได้สนใจอะไรเรื่องนี้นักเขาเหลือบตามองไปที่ด้านหลังอย่างไม่ใส่ใจเล็กน้อยก่อนที่จะเอ่ยปลอบประโลมฉันออกมา:“อาการบาดเจ็บเล็กๆน้อยนี่ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก” เมื่อพูดจบเทียนปูหยู่ก็สั่นไหวตัวเองเบาๆชุดคลุมยาวสีดำสั่นไหวไปพร้อมกับตัวของเขาหลังจากนั้นเศษผลึกน้ำแข็งที่ปักอยู่บนแผ่นหลังราวกับขนเม่นก็สลายกลายเป็นผุยผงตกลงสู่พื้นไปส่วนแผ่นหลังของเทียนปูหยู่ก็กลับมาเป็นดั่งปกติไม่มีรอยแผลใดให้เห็น เทียนปูหยู่มองมาที่ฉันเล็กน้อยราวกับอยากจะมั่นใจว่าฉันสบายใจขึ้นแล้ว หลังจากนั้นเขาก็ยื่นมือมาด้านหลังอย่างเคยชินเพื่อจับจูงมือของฉันเอาไว้และพูดขึ้นโดยไม่หันกลับมา:“ตามข้าเข้าไปด้านในเถอะ” ยังพูดไม่ทันจบสองขาของเทียนปูหยู่ก็เริ่มก้าวออกไปแล้วดังนั้นฉันจึงได้แต่ตามหลังของเขาเดินเข้าไปในโลกภายในม่านพลัง ที่นี่เป็นดั่งถ้ำขนาดใหญ่บ้างก็มีน้ำหยดลงมาจากเหนือศีรษะบางหยด หยดลงบนศีรษะของฉันพอดีฉันรู้สึกได้ถึงความเย็นเฉียบไปถึงกระดูกจนอดสั่นไหวขึ้นมาไม่ได้ เทียนปูหยู่มองมาทางฉันเล็กน้อยราวกับพบเห็นความผิดปกติของฉันแล้วดังนั้นเขาจึงยกมือหนึ่งขึ้นและใช้แขนเสื้อที่กว้างใหญ่มาบังหัวของฉันเอาไว้ ฉันมองไปที่เขาเล็กน้อยและพบว่าเขาเองก็กำลังมามองที่ฉันใบหน้าของฉันแดงซ่านและรีบเก็บสายตากลับมาจากนั้นก็เริ่มพิจารณาถ้ำแห่งนี้ ภายในถ้ำแห่งนี้มีสิ่งที่เหมือนกับโอ่งขนาดใหญ่อยู่หลายใบแต่ว่ามันไม่ใช่ทั้งกระเบื้องเคลืองหรือเครื่องปั้นดินเผาแต่กลับถูกสร้างด้วยเหล็กเมื่อมองดูแล้วก็เหมือนกับทองแดงที่นี่มีโอ่งทั้งหมด6ใบและถูกวางเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ “ทำไมที่นี่ถึงมีโอ่งประหลาดอยู่เต็มไปหมด?”ฉันมองไปยังโอ่งเหล่านั้นก่อนจะถามขึ้นอย่างไม่ทันรู้ตัว เมื่อเทียนปูหยู่ได้ยินคำถามของฉันเขาก็ยกมือขึ้นมาเคาะเข้าที่หัวของฉันเล็กน้อยก่อนจะอธิบายออกมาให้ฟัง:“นี่ไม่ใช่โอ่งแต่เรียกว่าหม้อปรุงยาต่างหาก” อะไรนะ?หม้อปรุงยา? เมื่อได้ยินที่เทียนปูหยู่พูดฉันก็ตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันทีฉันโตมาขนาดนี้แล้วก็เพียงแต่เคยได้ยินว่าในช่วงยุคจักรพรรดิฉินฉือนั้นมีการรวบรวมนักเวทย์ที่ทำยามาเป็นจำนวนมากเพราะจักรพรรดิฉินฉือเฝ้าฝันถึงยาอายุวัฒนะเพื่ออมตะมาตลอดจึงอยากจะพบยาไม่แก่ไม่ตายขึ้นมาแต่ใครจะรู้ว่ายาอมตะไม่แก่ไม่ตายที่ท่านตามหาจะไม่ได้ถูกทำขึ้นมาและกลายเป็นการทำดินระเบิดขึ้นมาแทน ฉันไม่ได้สนใจหยาดน้ำเย็นเฉียบที่หยดลงบนหัวไม่หยุดอีกต่อไปและรีบวิ่งเข้าไปที่ข้างหม้อปรุงยาด้วยความตื่นเต้นทันทีหม้อปรุงยาพวกนี้ต่างก็มีฝาขนาดใหญ่ปิดเอาไว้ด้านบนฝาเชื่อมต่อกับโซ่เส้นหนึ่งที่ห้อยลงมาจากเพดานถ้ำปลายอีกด้านของมันถูกผูกติดเอาไว้กับห่วงเหล็กที่ผนัง เพียงมองดูก็รู้ได้ว่าหากดึงโซ่ที่ติดกับกำแพงก็จะสามารถดึงฝาขึ้นมาได้จากนั้นหม้อปรุงยาก็จะถูกเปิดออก ฉันรีบวิ่งเข้าไปที่ข้างผนังด้วยความร้อนรนราวกับพบแผ่นดินใหม่และลืมเลือนเป้าหมายแรกของการเข้ามาที่นี่ไปแล้ว ห่วงบนผนังนั้นมีความสูงที่แตกต่างกันออกไปอันที่อยู่ต่ำๆก็อยู่ประมาณหัวของฉันทำให้แม้ฉันจะเขย่งตัวยืดมือออกไปจนสุดก็ยังจับบางอันไม่ถึง ดังนั้นฉันจึงได้แต่ดึงเข้าไปที่อันที่ค่อนข้างต่ำ “เทียนปูหยู่เดี๋ยวฉันดึงขึ้นมานายดูว่าข้างในมียาวิเศษอยู่หรือเปล่านะ!” สองมือของฉันจับแน่นอยู่ที่ห่วงเหล็กในระหว่างที่กำลังจะออกแรงเทียนปูหยู่กลับส่งเสียงตะโกนออกมาทางฉันราวกับเพิ่งค้นพบอะไรเข้า:“อย่าแตะต้องมัน!” แต่มันสายไปแล้วกำลังของฉันออกมาหมดแล้วจะไปหยุดได้อย่างไร..... แต่ฝานี้หนักกว่าที่ฉันคิดเอาไว้ทำให้แม้ฉันจะใช้กำลังทั้งหมดที่มีก็ไม่สามารถทำให้มันขยับได้แม้แต่น้อย ฉันอารมณ์เสียขึ้นมาทันทีและหันหน้าไปหาเทียนปูหยู่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และในตอนนั้นเองอยู่ๆฉันก็พบว่าที่ด้านหลังของหม้อปรุงยาทั้งหกกำลังเปล่งแสงออกมา ฉันมองไปที่เทียนปูหยู่เล็กน้อยแต่เทียนปูหยู่กลับไม่ได้มองมาที่ฉันดาบยาวปรากฏขึ้นมาในมือของเขาหลังจากนั้นก็ควักมือมาทางฉัน ฉันจึงรีบวิ่งเข้าไปหาเขาทันที ในตอนนั้นเองอยู่ๆภายในถ้ำก็เริ่มสะท้อนเสียงหัวเราะหนึ่งออกมา.......
已经是最新一章了
加载中