ตอนที่ 27 ทุกคนเลิกโวยวายได้แล้ว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 27 ทุกคนเลิกโวยวายได้แล้ว
ต๭นที่ 27 ทุกคนเลิกโวยวายได้แล้ว ไม่ว่าเขาจะเข้าใจหรือไม่ พอได้ยินเขาพูดอย่างนี้ออกมาในใจก็รู้สึกมีความสุขแล้ว ตะวันในยามเช้าที่แสนอบอุ่นสาดแสงส่องบนใบหน้าของเขา แสงสีทองอ่อนๆส่องแสงขึ้นมา สวยงามราวกับถูกแกะสลักด้วยมือ ได้เห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา ได้ฟังคำพูดที่ไพเราะของเขาข้างๆหูไม่หยุด หัวใจที่แน่นตึงตลอดเวลา ในที่สุดตอนนี้ก็ค่อยๆผ่อนคลายลงบ้างนิดหน่อยแล้ว น่าเสียดายที่รอยยิ้มไม่ได้แขวนอยู่บนใบหน้าของเธอให้นานกว่านี้ เพราะไม่นานก็ถูกเสียงที่ดังขึ้นมานอกประตูสั่งให้หยุดยิ้ม เป็นเสียงของพี่เหลียง พูดอย่างไม่แยแสเช่นเคยว่า “คุณชายรอง คุณนายน้อยรอง คุณท่านให้พวกคุณไปพบที่ห้องรับแขกค่ะ” คิดจะมาก็มาไม่ดูเวล่ำเวลาเลย หัวใจที่ผ่อนคลายลงไม่ได้ง่ายๆของอานซินก็รัดแน่นอีกครั้ง เธอรู้อย่างแน่นอนว่าคุณท่านเรียกเธอไปที่ห้องรับแขกทำไม ผลการตรวจออกมาวันนี้ คาดว่าตอนนี้น่าจะอยู่ในมือของคุณท่านแล้ว ลงไปตอนนี้ ก็แค่ถูกลงโทษจนตายต่อหน้าธารกำนัลให้จบๆกันไปซะก็เท่านั้นเอง เมื่อคิดถึงชีวิตที่น่ากลัว คิดถึงใบหน้าที่มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นนั้นของคุณนายรองและหรงฉี อานซินก็ตัวสั่นสะท้านโดยฉับพลัน ในฤดูใบไม้ร่วงที่อบอุ่นนี้ เธอกลับรู้สึกว่าอากาศโดยรอบหนาวเย็นจนถึงกระดูก วี่เฉิงดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงความไม่สบายใจของเธอ เขาจึงตะโกนออกไปนอกประตูว่า “พวกเราไม่อยากลงไป” “นี่คือคำสั่งคุณท่านนะคะ” “ไม่ไปไม่ไป ไม่ไปก็คือไม่ไปไง”วี่เฉิงไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด การหลีกหนีไม่อาจแก้ไขปัญหาได้ ไม่ช้าหรือเร็วก็ต้องได้เผชิญกับมันอยู่ดี อานซินพุ่งเข้าไปเปิดประตูก่อนที่พี่เหลียงจะเอ่ยปากพูดแล้วพูดว่า “รอสักครูเดี๋ยวพวกเราจะลงไป” ภายในห้องรับแขกก็จัดรูปขบวนขึ้นอีกครั้ง คนที่ควรอยู่ในที่นี่และคนที่ไม่ควรอยู่ก็มาหมดทุกคนแล้ว ทุกคนต่างก็มีแผนการร้ายในใจ พวกเขาจ้องเขม็งมองไปที่อานซินที่ลงมาจากบันไดวนอย่างช้าๆโดยไม่กะพริบตา ราวกับว่ากำลังรอดูการประกาศผลตรวจของหมอจงและรอดูท่าทางว้าวุ่นใจของเธออยู่ พอคิดว่าเธอกระวนกระวายใจเหมือนถูกไฟรน แล้วร้องไห้และตะโกนต้องการให้คุณท่านวี่ยกโทษให้เธอ หลังจากนั้นคุณท่านวี่ก็ออกคำสั่ง แล้วคนรับใช้สองสามคนลากเธอออกไปที่สวนหลังบ้านโดยที่ไม่สนใจเสียงร้องไห้ของเธอเลย... สถานการณ์เช่นนี้ เพียงแค่คิดก็รู้สึกยอดเยี่ยมที่สุดและสะใจจนถึงที่สุดแล้ว อานซินไม่เข้าใจว่าตัวเองไปทำอะไรให้ผู้คนเหล่านี้ขุ่นเคืองตอนไหน รู้แค่เพียงว่าพอตัวเองแต่งงานเข้ามาอยู่ตระกูลวี่แล้ว ก็ไม่เคยได้รับความรักจากใครเลย ตั้งแต่ในสายตาที่คุณนายรองกับวี่หานมองวี่เฉิง เธอก็รู้สึกได้ถึงความเกลียดชังที่ซ่อนอยู่ข้างในนั้น บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าความเกลียดชังที่มีต่อวี่เฉิงมีมากเหลือเกิน จึงพาลมาลงเกลียดตัวเธอด้วยกระมัง อานซินมองจากแววตาที่เต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจของหลิงหลงเมื่อจินตนาการถึงเรื่องแย่ๆที่จะเกิดขึ้นกับเธอ เธอจึงควบคุมสติอารมณ์ พยายามรักษาท่าทีที่สุขุมตามปกติที่คุณนายน้อยรองพึงมีแล้วถอนหายใจพูดว่า “คุณพ่อ คุณแม่รอง พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่ อรุณสวัสดิ์ค่ะ” “อืมๆ อรุณสวัสดิ์ นั่งลงเถอะ” คุณท่านวี่พยักหน้าหนึ่งครั้ง ในบ้านตระกูลวี่นอกจากหลิงหลงแล้วก็มีคุณท่านวี่นี่แหล่ะที่ยังนับว่ามีน้ำใจอยู่บ้าง อย่างน้อยเขาก็เอ็นดูการหยอกล้อก่อความวุ่นวายต่างๆของวี่เฉิงเป็นอย่างมาก กับอานซินก็ยังถือว่าเขาให้เกียรติเธอเสมอมา แต่คุณนายรองกลับทำเสียงฮึดฮัดขึ้นขจมูกอย่างเย็นชา เอียงตามองอานซินแล้วพูดเหน็บแนมว่า “ฉันคิดว่าอย่านั่งจะดีกว่า เกรงว่าเดี๋ยวเก้าอี้ยังไม่ทันร้อน ก็จะต้องย้ายไปอยู่ที่สวนหลังบ้านเสียแล้ว” “เงียบ !” คุณท่านวี่ไม่พอใจ คุณนายรองคว่ำมุมปากลงด้วยความไม่พอใจ คุณท่านวี่หันไปหาหมอจงที่อยู่ข้างๆแล้วพูดว่า “หมอจง ตอนนี้คุณนายน้อยก็มาแล้ว คุณบอกผลตรวจให้ทุกคนได้ทราบกันได้แล้ว” “ครับ คุณท่าน” หมอจงเหลือบมองอานซินอย่างรวดเร็ว อานซินไม่กล้าสบตาเขา จึงก้มหน้ามองต่ำและประหม่าอยู่ตลอดเวลา “นี่คือผลการตรวจครับ” หมอจงเอาเอกสารที่อยู่ในมือขึ้นมามอบต่อหน้าคุณท่านวี่ คุณท่านวี่ไม่รับ จึงทิ้งลงแล้วพูดอย่างรวบรัดว่า “คุณประกาศผลตรวจเลยก็ได้” หมอจงพยักหน้า แล้วถอยกลับมานั่งที่เดิม “เด็กที่อยู่ในครรภ์ของคุณนายน้อยเป็นลูกของคุณชายรองครับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและจริงจัง ทันใดนั้นในห้องรับแขกก็มีเสียงสักถามข้อสงสัยดังขึ้นมา ใครๆก็ไม่อยากจะเชื่อในคำพูดที่หมอจงเพิ่งพูดออกมา แม้แต่อานซินเองก็ยังตกตะลึง เธอเงยหน้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หันไปหาหมอจงที่ยังคงเอาจริงเอาจังด้วยความประหลาดใจ เด็กที่อยู่ในท้องเป็นลูกของวี่เฉิงหรือไม่ตัวเธอเองรู้ดีที่สุด ในความเป็นจริงนั้นเธอแต่งงานเข้ามาอยู่ในตระกูลวี่มานานมากขนาดนี้ เธอกับวี่เฉิงยังไม่เคยเป็นสามีภรรยากันจริงๆเลย แม้แต่จะใกล้ชิดกันจนเลยเถิดก็ไม่เคยทำ ในใจของทุกคนล้วนรู้ดีว่า วี่เฉิงยังเป็นเด็กที่อ่อนต่อโลกอยู่เลย จะไปทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งท้องได้อย่างไร? คนที่อยู่รอบๆตัวเธอซักถามข้อสงสัยขึ้นมา อานซินไม่สนใจ แล้วจ้องมองหมอจง ความรู้สึกซาบซึ้งที่อยู่ภายในใจก็ค่อยๆลอยขึ้นมา ที่แท้ในคฤหาสน์ที่เย็นยะเยือกหลังนี้ยังสามารถหาคนที่รักในตัวเธอเจอแล้วถึงสองคน ทันใดนั้นเองเธอก็คิดว่าจริงๆแล้วตัวเองก็ไม่ได้โดดเดี่ยวขนาดนั้น “เป็นไปได้ยังไง?” หรงฉีลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ก่อนที่จะตะโกนเสียงดังด้วยความสงสัย “เด็กจะเป็นลูกของวี่เฉิงได้ยังไง หมอจงคุณแน่ใจนะว่าตรวจไม่ผิดน่ะ?” “ผมตรวจไม่ผิดหรอกครับ” “ฉันคิดว่าคุณคงจะรับสินบนไปแล้ว ดังนั้นจึงจงใจพูดอย่างนั้นใช่ไหมคะ !” “สะใภ้ใหญ่กล่าวโทษผมผิดแล้วนะครับ” ความโมโหจนเดือดดาลค่อยๆลอยขึ้นมาอยู่บนใบหน้าของหมอจง “เอาล่ะ ทุกคนเลิกโวยวายได้แล้ว” คุณท่านวี่เอ่ยปากพูดก่อนที่หรงฉีจะพูดคำพูดที่ไม่มีเหตุผลออกมามากกว่านี้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงความตำหนิว่า “ก่อนหน้านี้พวกเธออยากตรวจสอบที่มาของเด็กไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ผลตรวจก็ออกมาแล้วก็ไม่ยอมรับอีก ถ้ามีเวลาว่างก็เข้าไปที่บริษัทให้มากหน่อยนะ อย่ามัวแต่ทำตัวว่างไปวันวันและเอาแต่ทำเรื่องน่ารำคาญเหล่านี้ให้ฉันคอยจัดการให้” พอเจ้าของบ้านพูดเช่นนั้น หรงฉีก็เงียบลงทันที ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกไม่ยอม แต่ก็ไม่เป็นการดีแน่ถ้าพูดอะไรออกมาอีก เดิมทีคิดว่าจะเปิดโปงเรื่องอื้อฉาวของอานซินออกมาต่อหน้าทุกคน แล้วส่งเธอไปอยู่ที่สวนหลังบ้าน คิดไม่ถึงว่าผลลัพธ์สุดท้ายของเรื่องจะเป็นเช่นนี้ ก่แนหน้านี้เธอก็เคยถามภรรยาคนก่อนของวี่เฉิงอย่างแน่ชัดแล้ว แต่คำตอบที่ได้รับก็คือวี่เฉิงไม่เข้าใจว่าการร่วมหอต้องทำอย่างไร และไม่เคยสัมผัสร่างกายของพวกเธอเลย แล้วทำไมอานซินที่เพิ่งจะมาอยู่ที่นี่เพียงครึ่งเดือนกว่าๆก็ท้องเสียแล้วล่ะ? หรงฉียังคงไม่เชื่อผลตรวจที่หมอจงพูดออกมา และยังคงเชื่อว่าหมอจงได้รับผลประโยชน์จากอานซินจึงได้จงใจพูดเช่นนี้ออกมา ขณะที่มองผู้คนเหล่านี้ที่เฝ้าปรารถนาให้ตัวเองถูกลงโทษตามกฎของบ้าน อานซินปล่อยวางความประหลาดใจและความสงสัยเอาไว้ในส่วนลึกของหัวใจ เธอยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยและแสดงให้เห็นรอยยิ้มที่น่าหลงใหล แล้วพูดว่า “วันนี้ทุกคนคงลำบากมากสินะคะที่พยายามใช้สมองอย่างหนักเพื่อคิดหาทางกำจัดฉันออกไป แต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับกลายเป็นเรื่องตลกเรื่องนึงอย่างนี้ คิดคิดดูแล้วก็รู้สึกน่าสงสารนะคะ ครั้งต่อไปคงต้องให้ความสนใจซะแล้ว เรื่องตลกเช่นนี้ทำแค่ครั้งเดียวก็พอนะคะ” หรงฉีหน้าซีด คุณนายรองก็หน้าเขียว ส่วนสีหน้าของคนอื่นๆก็เปลี่ยนสีแตกต่างกันออกไป... 
已经是最新一章了
加载中