ตอนที่ 24 แต่งงานอย่างนี้แหละ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 24 แต่งงานอย่างนี้แหละ
ต๭นที่ 24 แต่งงานอย่างนี้แหละ เขาเอนตัวลงนอนบิดขี้เกียจอยู่อย่างนั้น แต่นี่ก็ไม่อาจทำให้ความหยิ่งทระนงในตัวเขาลดลงได้เลย “เป็นยังไงบ้าง” เย่หยู่เฉินที่นอนบิดขี้เกียจอยู่เอ่ยถามขึ้นมา “ทุกอย่างเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้วครับ” เย่อีตอบพร้อมกับยื่นเอกสารให้เขาหนึ่งชุด เย่หยู่เฉินรับเอกสารมาแล้วเปิดดู ด้านในคือใบจดทะเบียนสมรส เขามองเอกสารในมือพร้อมกับกระตุกยิ้มที่มุมปากแต่เพียงชั่วครู่เท่านั้น ไม่นานรอยยิ้มนั้นก็หายไป แม้เพียงชั่วพริบตาก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาของเย่อีไปได้ ขารู้สึกแปลกๆ กับรอยยิ้มนั้น แต่เย่อีก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกไป เอกสารด้านใน มีรูปเย่หยู่เฉินและหานหย่าเหวินอยู่ด้วย รูปที่พวกเขาทั้งสองถ่ายคู่กัน ช่างเหมาะสมราวกับกิ่งทองใบหยกเสียจริง แม้จะมองไม่เห็นใบหน้าของเย่หยู่เฉิน แต่ก็รับรู้ได้ว่าเขากำลังมีความสุข “ทำได้ดีมาก เดือนนี้บริษัทจะเพิ่มเงินเดือนให้พนักงานทุกคน” เย่หยู่เฉินกล่าวขึ้นมาเรียบๆ “ขอบพระคุณครับ คุณชายเย่” เย่อีเอ่ยขอบคุณด้วยน้ำเสียงที่ปกปิดความตื่นเต้นเอาไว้ อยากจะรู้จริงๆ เงินเดือนของพวกเขาจะเยอะกว่าของบริษัทอื่นสักเท่าไหร่อันนะ “วันนี้ฉันไม่เข้าบริษัทนะ นายไปจัดการได้เลย” พูดจบเย่หยู่เฉินก็เดินขึ้นไปชั้นบน ปล่อยให้เย่อีได้แต่มองตามหลังเขาไปอย่างหดหู่ “คุณชายเย่ครับ สถานการณ์ของบริษัทในตอนนี้รอของคุณไปจัดการอยู่นะครับ” เย่อีพูดขึ้นมาอย่าเศร้าๆ ลุงจินที่กำลังเดินผ่านมาได้ยินพอดี จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “ไม่บ่อยนักที่คุณชายจะชอบใครสักคน แบบนี้เลยทำให้พวกคุณลำบากไหม” ลุงจินพูดไปยิ้มไป “คุณชายได้พัก ส่วนผมต้องค่อยทำโอที ทั้งที่ก่อนหน้านี้ คุณชายเย่มักจะมาจัดการทุกอย่างด้วยตัวเองเสมอ” เย่อีตอบลุงจินด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย “วัยรุ่นก็อย่างนี้แหละ คุณก็น่าจะรู้ดี” ลุงจินพูดอย่างมีเลศนัย “เฮ้อ... ผมไม่มีเวลามาคุยกับคุณลุงแล้ว ต้องกลับไปที่บริษัทอีก” “ไปเถอะ” ลุงจินพูดยิ้มๆ หลังจากที่เย่อีออกไป ลุงจินก็เดินขึ้นไปดูสถานการณ์บนชั้นสามว่าเป็นอย่างไรบ้าง ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย ณ ชั้นสาม ในขณะที่เย่หยู่เฉินกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า เสื้อผ้าที่ยังคงเป็นชุดสูทสีดำซ้ำๆ ซากๆ เช่นเดิม หานหย่าเหวินก็ลืมตาตื่นขึ้นมา เธอกำลังจ้องมองเพดานด้านบน โคมไฟคริสตัลราคาแพงที่ห้อยระย้าลงมา เธอนอนอยู่บนเตียงและมองโคมไฟนั้นอย่างเหม่อลอย ในขณะที่หานหย่าเหวินกำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั้น เธอก็ได้ยินเสียงกระซิบแหบห้าวดังขึ้นข้างๆ “ตื่นแล้วเหรอ” เย่หยู่เฉินถามขึ้น หานหย่าเหวินลุกขึ้นมา แล้วมองค้อนเขาไปทีหนึ่ง เย่หยู่เฉินอยู่ในชุดสูทสีดำ มันทำให้ดูหล่อเหลา และใบหน้าภายใต้หน้ากากนั้นยิ่งทำให้เขาดูลึกลับน่าค้นหามากขึ้นไปอีก หานหย่าเหวินมองเย่หยู่เฉินที่ค่อยๆ เดินเข้ามาหาตัวเอง เขานั่งลงบนเตียงข้างๆ เธอ ก่อนจะยิ้มออกมา “ทำไมเจอผมครั้งนี้ไม่กระโดดหนีแล้วล่ะ” เขาถามอย่างขำๆ หานหย่าเหวินได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าเล็กก็เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ เย่หยู่เฉินมองเธอ แล้วก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ “ยิ้มอะไร” เย่หยู่เฉินมองดูผมเผ้ายุ่งเหยิงของเธอ แล้วรู้สึกดีขึ้นมาเสียอย่างงั้น หานหย่าเหวินเบะปาก และหันหน้าหนีมองไปยังผนังข้างๆ ไม่รู้ว่าเอกสารเหล่านี้มาวางอยู่ตรงหน้าตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอจึงค่อยๆ หันหน้ากลับมา เย่หยู่เฉินเห็นแบบนี้ก็อดขำขึ้นมาไม่ได้ “อะไรเหรอ?” หานหย่าเหวินถาม “ลองเปิดดูสิ” เขาตอบอย่างยิ้มๆ หานหย่าเหวินหยิบเอกสารขึ้นมาเปิดดู แน่นอนว่าสิ่งที่เธอเห็นคือใบจดทะเบียนสมรส หานหย่าเหวินมองหน้าเย่หยู่เฉินด้วยความแปลกใจ “นี่... นี่คือ ใบจดทะเบียนสมรสงั้นเหรอ” เธอถามขึ้นอย่างตระกุกตระกัก “ใช่ คุณเคยพูดเองว่าอยากแต่งงานกับผม” หานหย่าเหวินก้มหน้าลงมองดูใบจดทะเบียนสมรสอีกครั้ง เธอคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องนี้มันจะเกิดจริงๆ เธอจะได้แต่งงานจริงๆ เหรอ เหลือเชื่อไปเลย หานหย่าเหวินเงยหน้าขึ้นมามองเย่หยู่เฉิน ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “เอ่อ... ถึงพวกเราจะแต่งงานกันแล้ว คุณก็ไปป่าวประกาศบอกใครต่อใครไม่ได้อยู่ดี เพราะฉันยังเรียนอยู่ และห้ามบังคับให้ฉันทำในเรื่องที่ฉันไม่ชอบด้วย และก็...” เขารู้ว่าในใจเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เย่หยู่เฉินมองหานหย่าเหวินผ่านหน้ากากเย็นชาที่ปกปิดใบหน้าของเขาเอาไว้ ผ่านแววตาที่อธิบายออกมาเป็นความรู้สึกไม่ได้ “เหวินเหวิน คุณวางใจได้ ผมจะรอจนกว่าจะถึงเวลาที่คุณพร้อม ผมแค่อยากจะให้คุณรู้ว่า หลังจากนี้ไป ผมจะรักแค่คุณและไม่มีวันทำให้คุณเสียใจ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะไม่คิดถึงเหยียนโย้ซิงอีก ตอนนี้คุณเป็นภรรยาของผม แม้ว่าอายุของเราจะต่างกันมาก แต่คุณเชื่อใจผมได้ ผมจะรักแค่คุณคนเดียวไปตลอดชีวิต ผมสัญญา” เย่หยู่เฉินพูดออกมาจากความรู้สึก เขาคือเย่หยู่เฉิน ตั้งแต่เกิดมาเขาเคยพูดมากที่สุดก็ไม่เกินสิบห้าคำ นอกนั้นก็ทำแต่งาน “ฉัน... ฉันก็หวังว่าคุณจะรอจนถึงวันที่ฉันเรียนจบ” หานหย่าเหวินพูดต่อ ได้ยินแบบนั้นเย่หยู่เฉินก็ยิ้มออกมา เขาเอื้อมมือไปลูบหัวเธออย่างอ่อนโยน พลางพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “น่ารักมาก หลังจากนี้ที่นี่คือบ้านของคุณ” หานหย่าเหวินชอบคำว่า ‘บ้าน’ เพราะมันทำให้เธอรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้ยิน แม้ว่าตอนนี้เธอยังไม่หวั่นไหวกับผู้ชายคนนี้ แต่เธอก็ซาบซึ้งใจสำหรับความรู้สึกดีๆ ที่เขามอบให้ เธอหวังว่าหลังจากนี้พวกเขาสองคนจะมีอนาคตที่ดีๆ ร่วมกัน “ฉันจะค่อยๆ ทำตัวให้ชินละกันนะคะ” เธอพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม “อืม ดีแล้ว รีบไปล้างหน้าล้างตา แล้วลงไปกินข้าวกันเถอะ” หานหย่าเหวินได้ยินเรื่องของกินก็ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที เขารู้ว่าในหัวของเธอนั้นมีแต่เรื่องของกินเต็มไปหมด “มีเกี๊ยวกุ้ง ซาลาเปา...” “มีทุกอย่างที่คุณอย่างกิน” เย่หยู่เฉินพูดขัดจังหวะขึ้นมา ได้ยินแบบนั้นเธอก็รีบกูรีกูจอวิ่งเข้าห้องอาบน้ำไปในทันที เห็นแบบนั้นเย่หยู่เฉินก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ หลังจากที่หานหย่าเหวินวิ่งเข้าไปในห้องอาบน้ำ เวลาผ่านไปประมาณสิบห้านาที เธอก็ออกมาพร้อมกับชุดไปรเวทสบายๆ เธอแต่งตัวง่ายๆ ด้วยเสื้อยืดคอกลมสีขาวกับกางเกงยันส์เข้ารูป พร้อมกับผมยาวสลวยที่ถูกมัดขึ้นไปเป็นผมหางม้า ยิ่งทำให้เธอดูเด็กลงมากกว่าเดิม แม้ดูๆ ไปแล้วจะเป็นการแต่งตัวแบบง่ายๆ สบายๆ แค่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ แต่ใครจะรู้ว่าแค่สองอย่างนี้รวมกันราคาก็เกือบล้าน นี้คือสิ่งที่เย่หยู่เฉินสั่งทำให้หานหย่าเหวินโดยเฉพาะ เสื้อผ้าที่อยู่ในตัวของเธอ ทั้งหมดคือสิ่งที่เย่หยู่เฉินสั่งทำขึ้นมาด้วยตัวเอง “อ่า... ของกินเยอะแยะไปหมดน่าอร่อยจังเลย” หานหย่าเหวินพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น เย่หยู่เฉินมองเธอแล้วยิ้มตาม จนลืมเรื่องที่เกิดขึ้นไปเมื่อวานเสียจนหมด “รีบไปกินสิ” เขาเอ่ยขึ้น หานหย่าเหวินรีบนั่งลงในทันที เธอกินอย่างกับอดอยากปากแห้งมาหลายวัน ราวกับกลืนพุทราทั้งลูก เธอเพิ่งนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงเงยขึ้นหน้ามองเย่หยู่เฉิน เธอพูดขึ้นมาทั้งที่อาหารยังอยู่เต็มปาก “คุณอาคะ ตอนนี้ฉันว่าคุณก็ถอดหน้ากากออกได้แล้วนะ” หานหย่าเหวินพูดอย่างกำกวม เย่หยู่เฉินวางข้าวต้มที่ถืออยู่ในมือลง และจ้องเธอตาไม่กระพริบ ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ผมเคยพูดแบบนั้นเหรอ ผมอยากรอให้คุณตกหลุมรักผม และถอดมันออกด้วยคุณตัวคุณเอง” หานหย่าเหวินที่กำลังเอียงคอมองเย่หยู่เฉินอยู่ ก็เข้าใจความหมายที่เขาพูดในทันที 
已经是最新一章了
加载中