บทที่ 22 วิธีการทำร้ายตัวเองแบบโง่ๆ (2)   1/    
已经是第一章了
บทที่ 22 วิธีการทำร้ายตัวเองแบบโง่ๆ (2)
บ๗ที่ 22 วิธีการทำร้ายตัวเองแบบโง่ๆ (2) ในตอนกลางคืน ป๋ายหยิ่งกำลังมองไปคนที่นอนอยู่บนเตียงและเริ่มพูดไร้สาระ อาการไข้ของซูหยวนกลับมาอีกครั้ง เธอจึงเดินคิดไปๆมาๆอยู่ในห้อง “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงเป็นแบบนี้? เมื่อเช้าอาการไข้ได้หายไปหมดแล้ว ทำไมตอนนี้ไข้ถึงกลับมาสูงอีกแล้ว?” หมอค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับอาการในตอนนี้และพูดว่า “ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป กลัวว่าอาการไข้อาจจะสูงจะเกิดอาการช็อคได้ เครื่องวัดไข้ราวกับจะระเบิด ดูแล้วคงต้องไปโรงพยาบาล ไม่อย่างนั้นอาจเกิดอาการปอดบวมและอาจส่งผลให้สุขภาพเกิดอันตราย ยิ่งไปกว่านั้นเธอกำลังเตรียมที่จะตั้งครรภ์ถ้าเธอเกิดอาการปอดบวมอาจเกิดผลเสียต่อการมีลูกได้หรืออาจจะมีลูกไม่ได้เลย” ป๋ายหยิ่งหันไปมองแพทย์และหันไปมองซูหยวนที่กำลังนอนอยู่บนเตียง ถอนหายใจและหันหน้าไปคุยโทรศัพท์ “คุณชาย คุณซูเธอ......” “....ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว ส่งเธอไปโรงพยาบาลเถอะ แต่ต้องระวังให้มาก อย่าให้เกิดอุบัติเหตุุอะไรขึ้นกับเธอ!” “ได้ คุณชายวางใจเถอะ!” ป๋ายหยิ่งรู้ได้โดยธรรมชาติว่าคำว่า อุบัติเหตุ หมายถึงอะไร เธอรู้ดีว่า คุณชายกลัวเธอจะหนี ซูหยวนตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องที่เย็นภายในโรงพยาบาล ไม่มีใครข้างกาย มีเพียงความเงียบสงบและแสงจากภายนอก เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆราวกับเป็นรสชาติของความอิสระ ถึงแม้รสชาติของความอิสระจะพาเธอมาซึ่งกลิ่นของโรงพยาบาล “ป๋ายหยิ่ง ป๋ายหยิ่ง เธออยู่ไหม?” ซูหยวนลองเรียก แต่ก็ไม่มีใครตอบรับ ทันใดนั้นภายในใจของของเธอก็รู้สึก “ตึก ตึก” และกระโดดขึ้น เธอยืนขึ้นอย่างช้าๆและตะโกนไปที่หน้าประตู “คุณพยาบาล มีใครอยู่ไหม? คุณหมอล่ะ อยู่ไหม?” ไม่มีใครตอบรับ ไม่มีใครสักคนตอบรับ ใจของซูหยวนก็เต้นแรงขึ้นราวกับว่าเธอกำลังทำความผิด เธอย่อตัวลงและทำตัวลับๆล่อๆ ซ่อนเข็มที่ข้อมือเอาไว้ เดินไปที่ประตูและออกไป ทางเดิน กำแพงและพื้น ทั้งหมดล้วนเป็นสีขาว และไม่ว่าจะตรงไหนก็มีแต่กลิ่นของยาและแอลกอฮอล์ คนที่เดินผ่านไปผ่านมา ถ้าหากไม่ใช่แพทย์พยาบาล ก็เป็นผู้ที่ใส่ชุดคนป่วย คนที่เดินผ่านไปมาและได้รับการช่วยเหลือ ไม่มีใครรู้จักเธอ ใจของเธอเต้นรัว นี่คือโอกาสที่เธอจะหนี แค่เพียงเธอหนีไปให้ไกล พบพี่ชายของเธอ ไปให้ไกล คุณชายก็อาจตามหาเธอไม่พบ ไม่ว่าเขาจะต้องซื้อเธอก็ตาม ไม่ว่าจะมีความลับอะไรอยู่เบื้องหลัง เธอก็ไม่สนใจทั้งนั้น แค่เพียงเธอหนีได้ก็พอ หาพี่ชายให้พบ ก็จะมีความหวัง เท้าของเธอ ไม่มีแม้แต่รองเท้าที่สวม รีบวิ่งไปยังทางหนีให้เร็วที่สุด “หยุด ห้ามขยับ......” ยังไม่ทันที่เธอจะวิ่งออกไป ทันใดนั้นก็ถูกชายวัยกลางคนเขามาถึงตัวเธอ และมัดมือเธอไว้ด้านหลังและเอวของเธอนั้นก็สัมผัสได้ถึงวัตถุที่แข็ง ความเย็นนั่นกำลังบอกเธอว่า นั่นคือมีด.. “คุณ คุณเป็นใคร จำคนผิดหรือเปล่า?” ซูหยวนถามด้วยเสียงที่สั่นเครือ นี่ไม่ใช่ความโชคร้ายธรรมดา เธอคิดจะหนีแต่กลับโดนจับเป็นตัวประกัน! “หุบปาก อย่าขยับ ไม่งั้น ฉันจะฆ่าเธอ.....” เสียงขู่ของชายคนนั้นก็ดังขึ้น มีกลิ่นจางๆของดินผสมกับเหงื่อบนร่างกายของเขา แม้ว่าเขาจะดูสะอาด แต่การใช้ชีวิตที่ยาวนานของซูหยวนก็รู้ว่า ชายคนนี้คือคนงานก่อสร้างอย่างแน่นอน เธอรักความสะอาดแต่กลับโดนคนล็อคไว้จากด้านหลัง ระยะห่างใกล้กันมาก เธอขมวดคิ้ว และอาการปวดหัวก็กลับมา ชายคนนี้ ไม่ใช่คนดี “โอเค ฉันไม่ขยับ ฉันกับคุณจะไปพร้อมกัน แต่ คุณบอกฉันได้ไหม ว่าทำไมคุณถึงทำแบบนี้ และ ฉันก็ไม่รู้จักคุณ ฉัน ฉันบริสุทธิ์” เธอพูดเสียงเบาด้วยความตัวสั่นเล็กน้อย สุดท้ายเธอก็เริ่มอ่อนแรงและด้วยร่างกายที่ยังป่วยหนัก ทำให้ชายคนนั้นรู้สึกสงสาร และพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนกว่าเก่า ทำให้ผู้ร้ายรู้สึกผิดเข้า เธอได้ยินชายคนนั้นพูด “ลูกสาว วางใจได้ ฉันไม่ทำร้ายคุณ ลูกสาวของฉันกับคุณโตเท่าๆกัน แต่ตอนนี้เธอนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย รอเงินจากฉัน คุณ คุณวางใจ แค่เพียงตำรวจปล่อยฉัน ฉันจะไม่ทำร้ายคุณ ฉันแค่จับคุณมาให้พวกเขาตกใจกลัว!” เมื่อได้ยินคำว่า “ลูกสาว” ซูหยวนก็รับรู้ว่าเขาก็ไม่ใช่คนเลวร้าย ในขณะที่ชีวิตฉันกำลังถอยหลังอย่างสิ้นหวัง ก็มีตำรวจ2-3คนเข้ามา “พวกคุณ พวกสุนัขรับใช้ ทำได้ทุกอย่างเพื่อช่วยคนรวย ฉัน....คุณ พวกคุณไม่ปล่อยฉัน ฉันจะฆ่าผู้หญิงคนนี้” ตำรวจยังคังไม่ขยับ ไม่รู้ว่าในเวลานั้นความอ่อนแอในร่างกายหรือมองเห็นโอกาส ซูหยวนหันหน้ากลับไปและขอร้อง “พวกคุณอย่าเข้ามา ให้เขาพาฉันไป ฉันไม่เป็นไร พวกคุณห้ามเข้ามาเด็ดขาด.......” แน่นอนว่าตำรวจก็นิ่งเช่นเดิม ถึงแม้พวกเขาจะเข้ามาแต่กลับไม่กล้าทำอะไรอยู่ดี ซูหยวนมองไปรอบๆ ในสมองก็คิดหาวิธีอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นทางฉุกเฉินที่อยู่ถัดไปจากลิฟต์ จึงกระซิบกับชายวัยกลางคนทันที “ลุง บันไดหนีไฟ ใช้บันไดหนีไฟ!” ชายวัยกลางคนพยักหน้า และเชื่อคำพูดของซูหยวน เมื่อทั้งสองคนเข้ามา ชายคนนั้นก็วางมีดลง และพูด “ลูกสาว ขออภัยด้วย ฉันต้องหนีก่อน!” “ลุง เดี๋ยวก่อน!” ซูหยวนหันไปคว้าชายวัยกลางคนนั้นไว้และมองเขา “ฉันจะพาคุณออกไป ไปกับฉัน คุณจะปลอดภัย ฉันจะส่งคุณที่หน้าโรงพยาบาล ไม่...ฉัน ฉันจะส่งคุณไปให้ไกลเลย ส่งไปทางเหนือเลย เป็นไง?” ชายวัยกลางคนรู้สึกขอบคุณใบหน้าเขาแสดงถึงความไม่คาดคิด “ลูกสาว ฉันทำกับคุณแบบนี้ คุณ....” “ลุง ไม่ต้องพูดมากแล้ว” ซูหยวนหันมองไปรอบๆ และชี้ไปที่ถังขยะที่เต็มไปด้วยขวดน้ำเกลือ “ลุง จับถังขยะนี้ไว้ และเปิดประตู” ดังที่ว่า เธอเดินออกมาราวกับหญิงที่มีความโดดเด่น ยืนข้างกายคอยดูแลชายคนนั้น ชายวัยกลางคนผู้ว่าง่าย ก็ทำเช่นเดียวกับซูหยวน ซูหยวนมองชั้นบนและชั้นล่าง และพูดขึ้น “พวกเราขึ้นไปชั้นบน วิ่งขึ้นไปชั้นบน!” “อะไร? วิ่งขึ้นชั้นบนเหรอ? พวกเรา ไม่ใช่ว่าจะออกจากโรงพยาบาลเหรอ?” ชายวัยกลางคนนิ่ง ซูหยวนพยักหน้าและพูดขึ้น “วิ่งขึ้นชั้นบนก่อน จากนั้นใช้ลิฟต์ พวกเขาตามมาแน่ ถังขยะหนักมาก ผลักใส่พวกเขาเลย เมื่อผลักแล้ว ขวดพวกนี้ต้องขัดขวางเขาไว้ได้สักครู่ พวกเขาต้องตามลงมาแน่ ฉันไม่มีแรง และวิ่งไม่ได้ และเขาต้องให้คนไปดักที่หน้าประตูลิฟต์แน่” ซูหยวนคิดอย่างกังวลแต่เธอวิเคราะห์อย่างใจเย็น “เราวิ่งขึ้นชั้นบนก่อน แล้วค่อยขโมยเสื้อผ้ามาเปลี่ยน หลังจากนั้น.....ค่อยๆเดินไปขึ้นลิฟต์ เดินไปที่อื่นๆสัก2-3รอบหลังจากนั้นก็ทางสว่างไปประตูทางออก!” ถึงแม้ว่าชายวัยกลางคนไม่ฉลาดแต่เขาก็ไม่ได้โง่ วิธีนี้มีเหตุผลและเข้าท่า เขาเห็นด้วยกับซูหยวน และทั้งสองคนก็วิ่งขึ้นไปชั้นบน ชั้นแรกเป็นอาคารห้องผู้ป่วยโรงพยาบาลธรรมดา ซูหยวนและชายวัยกลางคนนั้นได้ขโมยชุดออกมา ชุดแรกเป็นชุดเสื้อผ้าผู้หญิง อีกชุดเป็นเสื้อผ้าคนป่วย ชายวัยกลางคนได้สวมชุดคนป่วย ซูหยวนใส่ชุดธรรมดา และมัดผมขึ้น ซูหยวนแสร้งทำเป็นคนในครอบครัวของชายที่นั่งอยู่บนรถเข็นที่กำลังจะลงลิฟต์ เธอเดินไปมาอยู่2-3รอบ เพราะกังวลว่าคุณชายอาจจะรู้แล้วว่าเธอไม่อยู่ เธอดึงชายวัยกลางคนไปที่ประตูทางออก 
已经是最新一章了
加载中