ตอนที่25 เขาต้องการเช็คของ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่25 เขาต้องการเช็คของ
ตอนที่25 เขาต้องการเช็คของ เปิดประตูเข้ามาสิ่งแรกที่เห็นก็คือห้องทำงานที่ถูกตกแต่งด้วยความเรียบง่ายพื้นที่เงาสะอาดและหน้าต่างบานกระจกที่มองเห็นวิวทั้งเมืองและมีโซฟาหนังสีดำ และยังมีร่างสูงที่อยู่หลังโต๊ะทำงาน เป้ยฉ่ายเวยใส่รองเท้าส้นสูงแปดเซนติเมตรตามที่บริษัทกำหนดยืนนานขนาดนั้นจนรู้สึกเริ่มเจ็บขา แต่เธอก็ยังมองผู้ชายที่เอาแต่ก้มหัวดูเอกสารตรงนั้นอยู่เงียบๆตั้งแต่ที่เธอเข้ามาผ่านไปห้านาทีแล้วแต่เขาก็ไม่เคยวางปากกาลงเลย ราวกับไม่มีเธออยู่ในห้อง เวลาผ่านไปเรื่อยๆและต่อให้เป้ยฉ่ายเวยที่ทำเป็นเงียบๆก็เริ่มทนไม่ไหว เวลาพักเที่ยงผ่านไปคนที่อยู่ข้างนอกก็จะเพิ่มขึ้นถ้ามีคนเอาเรื่องนี้ไปบอกหนานฉิงก็ยิ่งยุ่งยากไปอีก “ฉูเจ๋อหยางฉันเอาของมาแล้ว” ได้ยินเสียงเป้ยฉ่ายเวย ฉูเจ๋อหยางราวกับพึ่งเห็นเป้ยฉ่ายเวยวางปากกาในมือลงอย่างสง่าและสายตาที่ราวกับจะดูดคนเข้าไปได้ก็มองเป้ยฉ่ายเวย “จะเอาของให้ฉันไม่ใช่หรือไงทำไม ไม่กล้าเอาออกมาหรือไง” เป้ยฉ่ายเวยที่เหม่อลอยอยู่ก็รีบเก็บอาการเธอมั่นใจได้เลยว่าฉูเจ๋อหยางตั้งใจแน่นอน! “ให้” เป้ยฉ่ายเวยเอาแฟลชไดร์ฟเล็กๆไปวางที่หน้าฉูเจ๋อหยาง ฉูเจ๋อหยางมองเป้ยฉ่ายเวยและเห็ที่เธอแอบสูบอากาศแรงๆหนึ่งทีแล้วสายตาที่เย็นชาก็หันไปมองรองเท้าส้นสูงของเธอก็แอบขมวดคิ้วราวกับมีเรื่องที่ทำให้ไม่ดีใจเกิดขึ้น ตอนที่เป้ยฉ่ายเวยหันมามองเขาก็เห็นเขาเก็บสายตาลงและมีขนตายาวที่ปิดตาเขาไว้ แต่ยังไงก็เคยอยู่ด้วยกันมาตั้งสามปีเป้ยฉ่ายเวยก็รู้การกระทำเล็กๆน้อยๆของฉูเจ๋อหยางออกอย่างเช่น ตอนที่เขาโกรธก็จะเม้มปากอย่างไม่รู้ตัวเรื่องละเอียดแบบนี้ฉูเจ๋อหยางเองก็คงจะไม่รู้ มีแต่คนที่เห็นเขาสำคัญเท่านั้นจะจำเรื่องรายละเอียดอ่อนแบบนี้ได้ ถึงแม้เป้ยฉ่ายเวยไม่รู้ว่าฉูเจ๋อหยางกำลังโมโหเรื่องอะไรอยู่เธอก็กลัวทำเขาโมโหเลยตั้งแต่ที่เข้ามาก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำแต่พอเธอเห็นการกระทำต่อไปของฉูเจ๋อหยางก็อดใจไม่ไหวแล้วรีบถาม “นายหมายความว่าไงฉูเจ๋อหยาง” มือของฉูเอหยางชะงักและยกตาขึ้นมามองเธอ “ก็จะเช็คของไง” หน้าของเป้ยฉ่ายเวยแดงขึ้นมา “ฉันไม่จำเป็นต้องหลอกนายหรอกในนี้มีแค่คลิปนั้นคลิปเดียว” เธอไม่คิดว่าฉูเจ๋อหยางจะมาเช็คของต่อหน้าเธอแบบนี้หรือว่าผู้ชายคนนี้ไม่มีความละอายใจถึงแม้ทั้งสองคนเคยมีอะไรแบบนั้นมาหลายปีแต่ว่ามาดูต่อหน้าเธอแบบนี้มันเหมาะสมหรอ? ฉูเจ๋อหยางเอาแฟลชไดร์ฟเสียบในโน๊ตบุ๊คและยกยิ้มขึ้นอย่างประชด “ไม่ดูแล้วฉันจะรู้ได้ไงเผื่อเธอเอาของคนอื่นมาหลอกฉัน” “นาย!!” เป้ยฉ่ายเวยโดนฉูเจ๋อหยางเถียงจนพูดไม่ออกการต่อลองจำนวนเงินห้าล้านหยวนมันไม่ง่ายฉูเจ๋อหยางจะดูไม่ว่าแต่ว่ามาดูต่อหน้าเธอแบบนี้ดูก็รู้ว่าตั้งใจให้เธอลำบาก แต่นึกถึงผลประโยชน์ของเงินก้อนนี้เป้ยฉ่านเวนก็เก็บความยากลำบากนี้ลงไปแล้วทำหน้านิ่งรอฉูเจ๋อหยางเช็คของ ฉูเจ๋อหยางมองผู้หญิงคนนี้ที่วินาทีก่อหน้านี้ยังมองค้อนใส่เขาอยู่ต่วินาทีต่อมากลับทำหน้านิ่งความรู้สึกสนุกก็หายไปเลยเขาไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้เพื่อเงินห้าล้านหยวนยอมทนเรื่องน่าอับอายแบบนี้ อารมณ์ของฉูเจ๋อหยางยิ่งไม่ดีไปใหญ่ ถึงแม้เสียงโน๊ตบุ๊คไม่ได้เปิดดังแต่ว่าอยู่ในห้องทำงานเงียบแบบนี้กลับฟังได้ชัดยิ่งกว่าปกติเสียงอ้อนเบาๆและมีเสียงร้องสั่นๆแถมกับเสียงร้องไห้เบาๆและประโยคที่พูดออกมาเบาๆ “อือ......อือ......อ่า......เบาหน่อย......” “อื้อๆๆ.......ไม่......อ่า.......” เป้ยฉ่ายเวยที่ทำหน้านิ่งก็เริ่มทนไม่ไหววันที่ถ่ายคลิปวันนั้นเธอเคยวางแผนมาก่อนแล้วไม่ว่าจะเป็นมุมกล้องหรือว่าแสงไฟแต่ว่าวางแผนมาดีแบบนี้เธอกลับลืมเรื่องเสียงไป และระหว่างที่ทำมีแต่เสียงร้องอ้อนวอนของเธออย่างเดียวและมีเสียงผู้ชายเล็กน้อย เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกทั้งตัวเธอเดือดไปหมดและสายตาก็แอบเหลือบไปเห็นผู้ชายคนนั้นที่ยังดูคลิปอย่างจริงจังก็อดที่จะกัดฟันพูดไม่ได้ “พอเถอะฉูเจ๋อหยาง ของนายก็เช็คแล้วปิดได้แล้ว” ฉูเจ๋อหยางมองเป้ยฉ่ายเวยที่หน้าแดงก็พูดนิ่งๆ “ยังดูไม่จบเลย” ทีแรกเขาคิดว่าผู้หญิงคนนี้คงไม่คิดอะไรกับเขาแล้วแต่ดูเหมือนไม่ใช่อย่างนั้น “ฉูเจ๋อหยางนายไม่ต้องมาแกล้งเลยนะ” เป้ยฉ่ายเวยเห็นสายตาเลวร้ายของฉูเจ๋อหยางก็รู้สึกแปลกๆแต่นึกถึงที่ตัวเองเป็นคนเปิดปากขอเขาห้าล้านก่อนก็ไม่แปลกที่เขาจะโกรธ ราวกับลูกโป่งที่โดนปล่อยลมแล้วเธอก็หุบปาก ฉูเจ๋อหยางเห็นเป้ยฉ่ายเวยทำหน้าเหมือนคนถูกรังแกก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันทีคนที่ขอเงินคือเธอแต่ตอนนี้กลับมาทำหน้าเหมือนคนเสียหายคิดว่าเงินห้าล้านมันเอาง่ายงั้นหรอ ความรู้สึกสงสารที่มีเล็กน้อยในใจตอนนี้ก็หายไปหมดเพราะเหตุนี้ ทันใดนั้นข้างนอกก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงหวานของผู้หญิง “อาเจ๋อคุณทำอะไรอยู่ ทำไมต้องล็อกห้องด้วยฉันเป็นหนานฉิงเอง ตอนนี้ถึงเวลากินข้าวแล้วพวกเราออกไปกินข้าวกันเถอะ” แป๊บเดียวก็ทำให้สองคนที่อยู่ในห้องตกใจหรือพูดง่ายๆคือน่าจะเป็นเป้ยฉ่ายเวยคนเดียวฉูเจ๋อหยางกลับยิ้มอย่างมีนัยแล้วมองเป้ยฉ่ายเวยอย่างนิ่งๆ ได้ยินเสียงหนานฉิงเป้ยฉ่ายเวยราวกับนกที่ถูกยิงทุกเซลล์ในร่างกายตื่นเต้นไปหมดแต่เห็นฉูเจ๋อหยางที่ยังไม่นอมปิดคลิปสักทีก็รีบพูดเสียงเบา “ฉูเจ๋อหยาง รีบปิดสิหนานฉิงมาแล้วนะ” นึกถึงเรื่องของเธอและฉูเจ๋อหยางโดนเพื่อนสนิทตัวเองรู้เลือดทั้งตัวก็เหมือนถูกดูดออกไปหมดหน้าขาวซีด “ทำไมฉันต้องตอบตกลงกับเธอ เธอเป็นคนมาคุกคามฉันก่อน” ฉุเจ๋อหยางตอบอย่างไม่เร่งรีบราวกับไม่สนใจว่าหลังจากที่เกิดเรื่องแล้วจะเป็นยังไง “ฉูเจ๋อหยางอย่าลืมสิว่าตอนนี้หนานฉิงเป็นแฟนนาย” เป้นฉ่ายเวยที่ดูรีบร้อนกับฉูเจ๋อหยางที่เอาแต่นิ่งมาเปรียบเทียบกันมันต่างกันอย่างสิ้นเชิงเสียงนิ่งๆของเขา “แล้วทำไม” เป้ยฉ่ายเวยได้ยินเสียงเคาะประตูที่ยิ่งอยู่ยิ่งดังขึ้นก็ไม่สนใจสายตาคู่นั้นของฉูเจ๋อหยาง รีบก้าวเท้าเดินไปข้างฉูเจ๋อหยางอยากไปดึงแฟลชไดร์ฟออกแต่พอเวลารีบมือก็ยิ่งไม่เชื่อฟังกันโดยเฉพาะมีคนตัวโตบางคนมันบังอยู่ ในใจเธอคิดอยู่อย่างเดียวห้ามให้หนานฉิงรู้เรื่องของเธอและฉูเจ๋อหยางเด็ดขาด “อาเจ๋อ? อาเจ๋อคุณอยู่ข้างในไหม?” หนานฉิงที่รออยู่นอกประตูสักพักก็ไม่เห็นฉูเจ๋อหยางมาเปิดประตูพอลองเปิดประตูก็ยังล็อกไว้อยู่ข้างในต้องมีคนแน่ๆ อาเจ๋อไม่ยอมมาเปิดประตูนานขนาดนี้หรือว่าอาเจ๋ออยู่ข้างในกับผู้หญิงคนอื่นในสมองก็นึกไปถึงกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงบนหมอนของในบ้านอาเจ๋ออยู่ๆก็ระแวงขึ้นมา เสียงเคาะประตูยิ่งดังขึ้น “อาเจ๋อคุณเป็นอะไรรีบมาเปิดประตูนะ......”
已经是最新一章了
加载中