ตอนที่654คนที่รักคนแรก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่654คนที่รักคนแรก
ตอนที่654คนที่รักคนแรก แต่ว่า........ ผู้จัดการดูหน้าตาที่มึนเมาของเขาถึงแม้รู้ว่าไม่ควรจะยุ่งอะไรมากแต่เขาก็พูดด้วยความหวังดีว่า“ประธานชนัยครับเวลานี้ประตูโรงเรียนกำลังจะปิดแล้วถ้าคุณไปตอนนี้คงไม่ทันแน่ๆครับ” “ไม่เป็นไรถ้าฉันอยากไปจะมีใครกล้าขวางทางไว้?”ชนัยพูดไปด้วยผลักผู้จัดการไปด้วยแล้วเดินไปทางรถ“ถ้าไม่ได้จริงๆก็เรียกผู้บริหารโรงเรียนมาเลยฉันจะรอดูว่าใครจะกล้าขวางฉันไว้!” น้ำเสียงนั้นดูมั่นใจมาก และการกระทำนั้นก็โหดร้ายเหลือเกิน ไม่ต้องพูดเยอะต้องเป็นเพราะว่าเมาจึงทำให้ความโมโหที่มีจากคุณดราณีไปลงที่โรงเรียนแน่นอน ผู้จัดการเห็นเขาเดินไปที่คนขับรถหัวใจของเขาสั่นเล็กน้อยจึงรีบไปเรียกคนขับรถมาไม่มีวิธีอื่นแล้วก็เลยต้องพยุงเขาเข้าไปนั่งที่หลังรถ หลังจากที่ขึ้นรถไปชนัยก็เงียบไปสักทียื่นมือเท้าไปข้างๆหน้าต่างนิ้วมือไปแตะที่หน้าผากหัวก็ไม่รู้คิดอะไรอยู่ ยากที่จะเงียบแบบนี้ผู้จัดการก็ไม่ไปรบกวนเขาแค่นั่งเป็นเพื่อนข้างๆไม่ไว้ใจที่จะให้เขาไปที่โรงเรียนด้วยสภาพนี้ แต่พอรถขับไปถึงครึ่งทางตาของเขามองไปเห็นเงาที่อยู่ภายใต้แสงไฟก็อดที่จะสงสารไม่ได้ ที่จริงเขาก็รับรู้ได้ง่ายว่าประธานชนัยนั้นชอบคุณดราณีมากไม่เหมือนกับหลายๆครั้งที่ผ่านมาของเขาก่อนหน้านี้เขาเป็นสายเปย์สิ่งที่จะให้กับแฟนสาวก็คือของมีค่าแม้กระทั่งรถก็ส่งให้แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ให้ของเหมือนเมื่อก่อนแต่เขากลับให้ความจริงใจของตัวเองไปแต่เขาแค่ไม่ยอมรับความจริงนี้เอง ผู้ชายคนหนึ่งจะคิดถึงผู้หญิงคนหนึ่งตอนเมาได้ก็หมายความว่าต้องเป็นคนที่สำคัญมาก ชีวิตยากลำบากพอแล้วผู้ชายที่อยู่ในที่ตะกูลที่ดีแบบเขาก็มีความเครียดของตัวเองถึงเขาจะดูเหมือนคนไม่มีกาละเทศะแต่ความโดดเดี่ยวและความเศร้าในใจนั้นมีแต่เขาเองที่รู้ คนที่เคยนอนด้วยกันมาแล้วไม่มีคนไหนที่จะเดินเข้าไปในใจของเขาได้จริงๆไม่ใช่เป็นเพราะเขานั้นเลือดเย็นแต่เป็นเพราะว่าเขาได้เจอกับผู้หญิงหลากหลายแบบนอกจากแก้เหงาก็ไม่มีคนไหนที่จะเข้าตาเขาได้จริงๆ เขาคนนี้ดูเหมือนเป็นคนที่มั่วผู้หญิงแต่ว่าจริงๆแล้วเขากำลังหาคู่ชีวิตของตัวเองอยู่ความคิดและความรู้สึกนี้ของเขาไม่เคยเผยให้กับสังคมที่วุ่นวายซับซ้อนนี้ยิ่งเขาทำงานเกี่ยวกับด้านนี้จะมีใจแลกใจได้อย่างไรวางแผนหลอกล่อกันตลอดเขาไม่เชื่อใจใครและก็ไม่อยากจะไปพูดกับใคร ชนัยไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองนั้นน่าสงสารเขาเป็นผู้ชายที่โตแล้วมีจิตใจที่เข้มแข็งสามารถเผชิญกับปัญหาได้แต่คนที่อยู่รอบข้างมองดูแล้วไม่ใช่แบบนั้น ระหว่างทางไม่มีใครพูดอะไรรถขับไปถึงที่ประตูมหาลัยหลังจากที่เข้าไปในประตูก็ขับรถไปที่ใต้หอของผู้หญิง นี่ก็ดึกแล้วไม่มีนักเรียนเดินเล่นด้านนอกแล้ว ผู้จัดการคิดว่าระหว่างทางเขาคงจะได้สติกลับมาแล้วนิดนึงแต่ไม่คิดว่าเขาเปิดประตูแล้วเดินลงไปแถมยังใช้สายตาที่ดุร้ายส่งมาทางตัวเอง“อย่าตามมา!” “..........” ไม่มีวิธีจริงๆผู้จัดการกับคนขับรถก็เลยต้องรออยู่ในรถรอดูเจ้านายตัวเองที่บ้าคลั่งอยู่ด้านนอก ชนัยเอามือเท้าใส่เอวทั้งๆที่เป็นแค่ท่าธรรมดาๆแต่อยู่ที่ตัวเขาแล้วมีความดูดีอีกแบบหนึ่งเขาก้มหัวแล้วถอนหายใจผ่านไปสักแป๊บถึงจะเงยหน้าขึ้นมองไปทางตึกที่มีหน้าต่างอยู่ริมสุด นั่นคือหอพักของดราณีตอนแรกเธอนั้นไม่ได้อยู่ที่โรงเรียนแต่หลังจากที่ลาออกจากซีไมเนอร์ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหลบเขาหรือเป็นเพราะอะไรเธอออกจากห้องเช่าแล้วมาอยู่ที่หอพักมหาลัย ชนัยหัวเราะเยาะตัวเองอาจจะเป็นเพราะหลบเขากลัวว่าเขานั้นจะไปหาเรื่องที่บ้านเธอมั้ง พอคิดได้แบบนี้ในใจของเขาก็เหมือนมีพริกมาราดใส่เธอคิดว่าแบบนี้จะทิ้งตัวเองได้หรือไง?ฝันไปเถอะ!อย่าว่าแต่หอพักมหาลัยเลยถ้าเขาอยากไปแล้วจะมีใครที่จะขัดขวางได้? ชนัยหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเปิดรายชื่อผู้ติดต่อคนแรกนั้นคือเบอร์ของดราณีเขาเมมชื่อไว้ง่ายๆก็คือ‘A’ตอนที่หาจะได้ไม่ยุ่งยาก โทรศัพท์ดังไปสักแป๊บอยู่ดีๆก็โดนตัดสายไม่ต้องคิดก็รู้แล้วว่าเธอตั้งใจตัดสาย ไม่รับ? ชนัยโทรอีกครั้งไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่ปฏิเสธสายของเขาแต่อยู่ที่เธอนั้นกลับเป็นเรื่องธรรมดาถ้าไม่ใช่เป็นเพราะดราณีเขาคงไม่รู้ว่าตัวเองควรจะมีจิตใจที่อยากแก้แค้นหนักขนาดไหน ยิ่งไม่รับเขาก็ยิ่งอยากจะโทร เมื่อก่อนการกระทำแบบนี้ในสายตาของชนัยเหมือนเป็นเรื่องตลกใครจะหน้าด้านขนาดนั้นถึงจะมาตามตื๊อผู้หญิงแบบนี้? แต่หลังจากที่ผ่านไปช่วงเวลาหนึ่งตั้งแต่ที่เขาบอกว่าจะจีบเธอคำพวกนั้นที่เขาเคยพูดก็เหมือนกลับมาตบที่หน้าเขา ชนัยโทรไปหลายสายก็โดนตัดทิ้งทันทีจนตอนที่เขาโทรป็นสายที่6เสียงที่ว่าไม่สะดวกที่จะรับสายก็ดังขึ้น เธอบล็อกเขา! พระเจ้าบล็อกเลยหรอ! ทนไม่ไหวอีกแล้วชนัยเหมือนปืนใหญ่ที่โดนจุดไฟยกมือขึ้นแล้วไปเคาะที่กระจกคนขับรถ ‘ปั้งๆๆๆ’ คนขับรถตกใจรีบลดกระจกลง“มีอะไรหรอครับท่านประธานชนัย?” เห็นหน้าของเขาดูแย่มากเหมือนใครติดหนี้อะไรนี่เขา“กดแตรรถ” “อะไรนะครับ?” “กดแตรไงฟังไม่รู้เรื่องหรอ!”ชนัยรู้สึกโมโหก็เลยเกาหัวตัวเอง“เร็วๆ!” เพราะผู้จัดการได้ยินแบบนี้ก็รีบห้ามว่า“ท่านประธานชนัยครับคุณใจเย็นๆก่อนครับตอนนี้ดึกขนาดนี้แล้วถ้าคุณทำแบบนี้จะทำให้คนทั้งตึกได้ยินถึงเวลานั้นจะมีผลกระทบที่ไม่ดีนะครับ” ชนัยมองไปทางตึกที่อยู่ในความมืดมนเธอสามารถวางสายตัวเองได้ก็หมายความว่ายังตื่นอยู่ตื่นอยู่แต่กลับไม่ยอมที่จะมาคุยกับเขา ชนัยรู้สึกโมโหและท้อแท้ดื่มเหล้าไปเยอะจนทำให้เขาขาดสติในการคิดเห็นทั้งสองไม่ยอมทำสักทีเขาก็เลยยื่นมือไปกดแตรเอง........ ‘แตร๊ดๆๆๆๆๆๆ’ เสียงแตรที่แสบแก้วหูดังขึ้นในท่ามกลางความมืดมนเหมือนถูกขยายให้ดังกว่าเดิมหลายเท่าแต่คนที่ทำเรื่องนี้ไม่คิดที่จะหยุดลงเขากดไปอีกหลายทีไม่นานมีไฟของหอพักก็สว่างขึ้นมา1ดวง ผู้จัดการเห็นเขาไม่มีท่าทีจะหยุดกำลังคิดอยู่ว่าจะห้ามยังไงและในตอนนั้นเองโทรศัพท์ของชนัยก็ดังขึ้น โทรศัพท์ที่สั่นอยู่ในมือส่งต่อไปถึงหัวใจเขาไม่กดแตรอีกต่อไปใช้ตามองไปที่จอโทรศัพท์แล้วรับสายทันทีอย่างได้ใจ “ไม่หลบฉันแล้วหรอทำไมไม่หลบต่อหล่ะ?” อีกด้านหนึ่งดราณีกำลังซ่อนอยู่ในห้องน้ำเอาโทรศัพท์ใกล้หูแล้วพูดว่า“นายไม่ต้องกดแล้วฉันจะลงไปเดี๋ยวนี้แหละ” “เร็วๆใน10นาทีนี้ถ้าไม่ได้เจอตัวเธอฉันไม่แน่ใจว่าฉันจะทำให้คนทั้งตึกตื่นไหม”
已经是最新一章了
加载中