บทที่ 1 กลับไปยังม.5
1/
บทที่ 1 กลับไปยังม.5
เกิดใหม่ทั้งที ฉันจะเป็นนางร้าย
(
)
已经是第一章了
บทที่ 1 กลับไปยังม.5
บทที่ 1 กลับไปยัง ม.5 “พี่ ฉันขอแหละ ข้างล่างนั้นคนเยอะมาก พี่คงไม่อยากให้ฉันอยู่ต่อโรงเรียนไม่ได้หรอกใช่ไหม” ในตอนที่จิตใต้สำนึกของเกวลินตื่นตัวขึ้น ก็กำลังถูกคนดันไปข้างหน้า ได้ยินชัดว่าเป็นเสียงที่คุ้นเคย ใจเธอสั่น ทันใดนั้นก็หันไปคว้ามือของเด็กสาวอย่างแรง เพียงครู่เดียวอลิสาก็ร้องขึ้นมา“พี่ ฉันเจ็บ พี่ปล่อยฉันนะ” ทันใดนั้นเกวลินถึงได้รู้สึกว่ามันแปลกประหลาด ข้างหน้าสายตาของเธอนั้นมืดไปหมด ราวกับโลกนั้นได้ถูกม่านมาปิดบังไว้ เกวลินสัมผัสที่หน้าของตัวเองอย่างงุนงง บนจมูกของเธอนั้นมีแว่นตาดำอยู่ ปวดแปลบที่ดวงตา มองอลิสาที่อยู่ข้างหน้าก็อายุได้ประมาณสิบหกสิบเจ็ดปี เสียงเองก็ยังฟังดูเด็กๆ อลิสามองเธอ แล้วกล่าวเตือน“พี่รับปากกับฉันแล้วนะ คงไม่ได้จะคืนคำหรอกใช่ไหม” คืนคำอย่างนั้นหรือ เกวลินใช้ดวงตาที่เจ็บมองไปรอบๆ พวกเขาอยู่ที่ที่มืดมน เสียงเพลงบนเวทีดังขึ้น ดังมาจนถึงด้านหลังกลายเป็นเพลงที่ฟังดูคลุมเครือ เกวลินก้มหน้ามองมือของตัวเอง มือขาวที่บอบบางกระทบกระแสงไฟจนงดงาม ไม่มีร่องรอยบาดแผลของการโดนเผาแต่อย่างใด เธอเหม่อลอยอย่างไม่รู้ตัว อลิสาเห็นเธอเริ่มแปลกไป ในใจก็เริ่มสั่น กลัวว่าเธอกำลังจะมองออก จึงกล่าวออกมาแผ่วเบา“พี่ นี่คือการประเมินผลครั้งสำคัญมากเลยนะ หากไม่ผ่านขึ้นมา พ่อรู้ขึ้นมาอาการป่วยก็อาจจะ...” ตอนนั้นเองเกวลินถึงได้หันกลับ เธออยากถามอลิสา ทำไมตอนนั้นถึงได้ปล่อยเชือก แล้วปล่อยให้เธอตายอยู่ท่ามกลางแผ่นดินถล่มนั้น เธอรู้ว่าตัวเองได้ตายไปแล้ว และหลังจากความกลัวในสภาวะไร้น้ำหนักตอนนั้น เมื่อลืมตาอีกครั้ง ก็ได้กลับยังเมื่อห้าปีก่อน เบื้องหน้าคืออลิสาที่ดูอ่อนเยาว์ ฉากที่คุ้นตา เกวลินจำเรื่องนี้ได้ ปีนี้คือตอนเธออยู่ม.5 และอลิสากำลังขอร้องไห้ไปช่วยสอบประเมินผลทางศิลปะ อลิสาบอก หากไม่ผ่าน ก็คงจะโดนคนที่โรงเรียนดูถูกเป็นแน่ อลิสาเรียนเปียโนมาแค่สองปีเท่านั้น และไม่ได้มีพรสวรรค์อะไรด้วย เป็นแค่คนที่อ่อนหัดคนหนึ่ง เกวลินโดนเธอรบเร้าอยู่นาน เสริมด้วยอาการทางร่างกายของพล ท้ายที่สุดจริงได้รับปากว่าจะช่วยน้องสาวไป เป็นการทำผิดครั้งแรกของข้าวฟ้าง จากตรงนี้เส้นชีวิตของเธอก็ย่ำแย่ทันที เมื่อได้รับการยอมรับ สายตาของคนทั้งโรงเรียนต่างก็มองเธอในแง่ดีทันที และสองเดือนให้หลัง หลังจากที่ดวงตาหายดีแล้ว เกวลินก็กลายเป็นดาวของโรงเรียนครีสเตียนพยารามทันที ตาของเธอนั้นไม่ได้สัมผัสแสงมาสามปี ทุกคนต่างก็คิดว่าเธอเป็นคนตาบอด และความงามที่ได้เพิ่งได้เบ่งบานในปีนั้น ทำให้นักเรียนชายในโรงเรียนต่างก็ไม่อาจละสายตาไปจากเธอ แต่เพราะเกวลินไปช่วยอลิสาจนกระทั่งโดนเผาจนเสียโฉม และหลังจากความโชคร้ายของพล ตัวเองถูกขับไล่จากบรรดาญาติๆ และท้ายที่สุดก็จบชีวิตอย่างอนาถในเหตุการณ์แผ่นดินถล่ม และวินาทีนั้น อลิสาที่อยู่เบื้องหน้าก็กล่าวเสียงแผ่ว“พี่ ฉันสาบาน นี่คือการประเมินผลธรรมดา ไม่ใช่การแข่งวัดลำดับอะไร ไม่ได้รับผลกระทบจากนักเรียนคนอื่นๆแน่นอน พี่คงไม่อยากให้ชีวิตม.ปลายของฉันโดนดูถูกไปตลอดสามปีหรอก บ้านเราเองก็จน เพราะตาของพี่...” เธอหยุดลง และมองเกวลินอย่างลำบากใจ ใจของเกวลินสะท้าน เข้าใจความหมายของเธอได้ในทันที --- เพราะต้องรักษาตาของเธอ ฐานะการเงินของบ้านฉันจึงย่ำแย่ลง แต่เรื่องที่น่าขันก็คือ อลิสาอยู่ที่โรงเรียนนี้ ค่าเทอมหนึ่งปีแพงจนคนสะท้าน และเมื่อได้กลับมาอีกครั้ง เกวลินถึงได้รู้ว่าอลิสากำลังหลอกตัวเองอยู่ การประเมินผลทางศิลปะมันมีที่ไหนกัน มันเพื่อนรวิทย์ที่อยู่ด้านล่างทั้งนั้น ปีนี้นรวิทย์ทำความผิดมา จึงโดนตระกูลเพษภากุลสั่งย้ายมาเรียนที่วิทยาลัยอโศกศิลย์ เด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกันต่างก็เตรียมตัวเพื่อให้ได้เข้าใกล้เขาทั้งนั้น การแข่งขันประลองฝีมือของการเปิดเรียน อลิสาอยากได้หน้าจึงต้องไปสมัครเข้าร่วม แต่มาตระหนักได้ทีหลังว่าฝีมือของตัวเองนั้นไม่ถึง จึงมายืมมือของเกวลินเพื่อให้ได้รับการยอมรับแทน ในเมืองH ไม่มีใครไม่รู้จักตระกูลเพษภากุล ตระกูลเพษภากุลมีประวัติยาวนานมาร้อยปี ที่เมืองไฮโซมที่ดินเกือบครึ่งเป็นชื่อของตระกูลเพษภากุลทั้งนั้น วิลล่าวิวทะเลที่เพิ่งเปิดใหม่ก็เป็นทรัพย์สินของตระกูลเพษภากุลเช่นกัน ไม่มีใครรู้ว่านรวิทย์ทำผิดอะไรมา แต่ถึงจะเป็นการวางเพลิงเพื่อฆาตกรรม กับคนรวยถึงขนาดนั้น ชีวิตนี้ก็คงเจอได้แค่คนเดียวเท่านั้น นรวิทย์เป็นทายาทสืบทอดเพียงคนเดียวของตระกูลเพษภากุล ทุกคนต่างรู้ว่าเขาคือคนไม่ดี แต่ก็ยังอยากไปยืนอยู่ข้างกายเขาอยู่ดี อลิสาเองก็ไม่ต่าง ไม่รู้ว่าอลิสาไปรู้เรื่องความชอบของภรรยาผู้ล่วงลับของท่านประธานเพษภาภุลมาจากที่ไหนเหมือนกัน มารดาของนรวิทย์นั้นเป็นผู้หญิงชนชั้นสูงอย่างแท้จริง มีความสามารถ และเยือกเย็นราวกับราชินีหิมะ ถึงแม้จะเสียไปหลายปีแล้ว แต่ท่านประธานเพษภากุลก็ยังคงไม่แต่งงานใหม่ ดังนั้นอลิสาจึงวางแผนใช้ความสามารถพิเศษเพื่อเข้าใกล้นรวิทย์ เกวลินรู้สึกสับสน กลับมามีชีวิตครั้งนี้ เธอรู้สึกขอบคุณและสับสน ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น ตอนนี้แค่เผชิญหน้ากับน้องสาวที่เจ้าเล่ห์ตาใส เกวลินก็ไม่รู้ว่าควรรับมือเธอเช่นไรแล้ว แล้วนรวิทย์ล่ะ เธอจำวัยรุ่นที่ข้ามกำแพงเพื่อมามองเธอได้ ขับตามรถเมล์ไปสามกิโลเมตรเพียงเพื่อให้เธอได้เห็นเขา นรวิทย์ เพษภากุล ทุกคนรู้ว่านรวิทย์ป่วยเป็นโรคชอบใช้ความรุนแรง ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ แต่เกวลินยังรู้อีกว่า นิสัยของเขานั้นเข้าขั้นป่วยเป็นโรคหวาดระแวง ชีวิตครั้งนี้เธอไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเขา ในความทรงจำของเธอ ในไม่กี่ปีนั้นเขาฆ่าคน คนประเภทนี้ จะไม่ซ่อนตัวจากเขาได้อีกหรือ “ขอเชิญม.5ห้องแปด อลิสา ซาราปุริน” พิธีกรกล่าวขึ้นมา อลิสาขบฟัน รีบสวมหมวกลูกไม้ทรงสูงลายพลุให้กับเกวลิน และยังยื่นมือไปแย่งแว่นตาดำมาอีกด้วย ใต้ความมืด อลิสาจ้องมองดวงตาใสแต่ไร้ประกายคู่นั้น แล้วใจลอยไปชั่วขณะ ใครจะไปรู้กันว่าคนตาบอดเมื่อถอดแว่นตาดำออก ในนั้นจะคือดวงตาที่ใสและเปล่งประกายราวกับดวงดาว อลิสาทั้งเกลียดทั้งสบายใจ สบายใจเพราะตลอดสามปีที่ผ่านมา ทุกคนต่างคิดว่าเกวลินคือคนพิการตาบอด คนตาบอดคนเดียว คงไม่มีใครบอกว่าเธอจะสวยนักหรอก ความงามที่ถูกบดบังไว้ คงไม่มีใครได้เห็น อลิสาดึงสติกลับมา รู้ว่าพี่สาวคนนี้เป็นคนอ่อนโยน จึงกล่าวเสียงแผ่ว“พี่ ฉันบอกเพื่อนไว้แล้วว่าให้เปิดไฟเหลืองอ่อนๆ ถ้าตาเจ็บพี่ก็หลับตาไป พี่จำคีย์ได้ใช่ไหมล่ะ แบบนั้นคงจะไม่เป็นไร วานพี่หน่อยนะ” นึกถึงร่างกายที่นับวันยิ่งแย่ลงของพอ เกวลินชะงักนิ่ง การนึกคิดของเธอช้าลง จนกระทั่งโดนอลิสาดันขึ้นมาบนเวที ทันใดนั้นไฟทั้งหมดก็กระทบลงมาที่ร่างกายของเธอ อลิสาไม่ได้หลอกเธอ เพื่อเธอที่ไม่สามารถทนต่อไฟแรงๆได้ มันถูกเปลี่ยนให้เป็นไฟสีสลัวๆ ปีนี้เกวลินเพิ่งได้ผ่าตัดกระจกตา สวมแว่นดำมาสามปี ใช้ไม้เท้าสำหรับคนตาบอดมาโดยตลอด ผ่าตัดเสร็จเมื่อเดือนก่อน จึงยังต้องรออีกสองเดือนถึงจะถอดมันได้ เมื่อเธอเดินขึ้นมาบนเวทีเสียงก็เงียบลง หมวกลูกไม้ทรงสูงสีขาวปิดหน้าเธอไปครึ่งหน้า จึงเห็นแค่เค้าโครงที่สวยงามและคางเล็กขาวๆ เธอสวมชุดกระโปรงยาวผ้าไหมสีขาว มีเข็มขัดสีแดงที่เอว ผมยาวคลอเคลียระเอว เท้าสวมรองเท้าหนังสีดำ เธอเหมือนเทพธิดาแสงจันทร์ที่หลุดออกมาจากนิทาน เกวลินหลับตาลง เธอรู้ว่านรวิทย์อยู่ที่ด้านหลังของห้องโถง เธอบอกกับตัวเองว่าอย่าสับสน เขาไม่รู้จักเธอ ตอนนี้เธอคือตัวแทนอลิสา ไม่ไกลกันไฟก็ตกกระทบลงที่เปียโน คีย์เปียโนสีดำและสีขาวสะท้อนเล่นแสงไฟ ให้ความรู้สึกสง่างาม เกวลินมองมัน รู้สึกอบอุ่นขึ้นในหัวใจ เธอนั่งลงที่เก้าอี้ สองมือวางลงบนเปียโน ความทรงจำอันอบอุ่นเมื่อยาวนาน เสียงเปียโนที่ดังขึ้นทำให้ร่างกายของเธอสั่นสะท้าน ในที่สุดเธอก็สัมผัสถึงการมีชีวิตใหม่ได้แล้วจริงๆ ด้านล่างต่างเงียบลง ที่นี่คือวิทยาลัยอโศกศิลย์ คนส่วนใหญ่จะเลือกดีดกีตาร์กัน และน้อยคนนักที่เลือกดีดเปียโน ชั่วครู่นั้น ด้านล่างมีเสียงดังขึ้นอย่างแผ่วเบา“คนห้องแปดสวยจัง” ถึงแม้จะเห็นแค่รางๆ แต่ก็ให้ความรู้สึกงดงามจนไม่สามารถอธิบายออกมาได้ “เธอเล่นเพลงอะไร” มีคนที่เข้าใจเปียโนกล่าวขึ้นมา“Beethoven Piano Sonata No.14 in C# minor” “บัดซบเหอะ เล่นเพลงอะไรชื่อยาวขนาดนั้น” “...อีกชื่อคือ Moonlight Sonata” “เธอชื่ออะไร” “พิธีกรบอกว่า เธอคืออลิสาห้องแปด” อลิสามองจากด้านหลังผ้าม่านอย่าเงียบๆ ทั้งดีใจและไม่พอใจ เธอรู้ว่าเกวลินเก่งขนาดไหน รู้มาตั้งแต่เด็กแล้ว หากไม่ใช่เพราะอาการบาดเจ็บที่ดวงตา ความสวยของเกวลินคงเป็นที่ประจักษ์ และในไม่ช้าก็จะเป็นที่รู้จักกันไปทั้งโรงเรียน แต่ที่ดีใจยิ่งกว่า หลังจากนี้ คนที่จะมีชื่อก็คือเธอ เกวลินจะเก่งแล้วอย่างไร คนที่ได้รับการยกย่องมันคือเธอนี่ และเมื่ออลิสามองไปยังด้านหลังของห้องโถง ด้านหลังสุดของห้องโถงนั้น วัยรุ่นผมเงินคนนั้นโยนKคู่สุดท้ายในมือลงไป ในตอนที่เสียงเปียโนดังขึ้นมา เขาก็เงยหน้าขึ้นมามอง ใจของเธอเต้นรัว นรวิทย์ ปีนั้นนรวิทย์ทำผมสีเงินสว่าง สวมแจ็คเก็ตและเสื้อยืดสีดำ เสื้อคลุมเปิดออกโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาไม่ได้นั่งอยู่ที่เก้าอี้ดีๆ แต่กลับนั่งที่พนักแขนที่สูงขึ้นไป ขากางออก เท้าเหยียบอยู่ที่เก้าอี้ของชายคนข้างๆ นักเรียนคนนั้นที่ถูกเหยียบที่นั่งจนเลอะก็ไม่กล้าออกเสียงอะไร ได้แต่นั่งอย่างจำยอม อรุณเดทมองไปบนเวที อ้าปากค้าง เหม่อไปชั่วครู่ก่อนจะกลับมา“เธอเป็นนักเรียนโรงเรียนเราหรือ” ในใจเขาสับสน ไม่เห็นเหมือนสักนิด วิทยาลัยอโศกศิลย์คือสวรรค์ของเหล่าลูกคนรวย กลุ่มคนที่คะแนนห่วยแตก กินดื่มเที่ยวเล่นไปวันๆ ไม่เคยได้เจอผู้หญิงเช่นนี้จริงๆ จะบอกอย่างไรดี ดูสะอาดบริสุทธิ์ จนทำให้พวกเขาเหมือนคนถ่อยไปทันที ดรุนนีเองก็ยกยิ้มแปลกๆ อดไม่ได้ที่จะมองไปยังนรวิทย์ นรวิทย์จุดไฟที่บุหรี่ ยังไม่ได้สูบ เพียงคีบไว้ที่นิ้วเท่านั้น รู้สึกถึงสายตาจากดรุนนี เขาจึงคาบบุหรี่ไว้ที่ปาก“มองกูทำไม หรือแกเองก็เชื่อข่าวลือนั้น” ดรุนนีกลัวว่าเขาจะโกรธ“ไม่เชื่อ” พวกเขารู้ดี ความจริงนรวิทย์เกลียดผู้หญิงแบบนี้ที่สุด เพราะแม่ของพี่วิทย์รังเกียจความหยาบคายและดักดานของพ่อเขา มองพี่วิทย์และพ่อของเขาเหมือนกับขยะเท่านั้น ผู้หญิงแบบนี้ หยิ่งยโสและใฝ่สูงเสมอ ไม่ได้คิดสักนิด ว่าหากไปไม่มีเงินแล้วจะมีอะไรมาพยุงความสุขสบายและความสง่างามของเธอได้กัน นรวิทย์อยู่ห่างไกล มองรูปร่างของเธอได้ไม่ชัดนัก แต่ก็ถือว่าดีดเปียโนได้ดีทีเดียว สองนิ้วของเขาดึงบุหรี่ลง สายตาตกอยู่ที่ร่างกายของเธอ ขนตาที่ทิ้งตัวลงมาของเกวลิน เธอรับรู้ได้โดยไว นั่นคือสายตาจากนรวิทย์ ครั้งนี้เธอจะไม่โง่ นิ้วมือกดลงไป เธอขยับไปทางขวาอีกหนึ่งอัน ตั้งใจที่จะลงเสียงผิด เกวลินยังดีดพลาดคีย์ดำไปอีกหลายตัว คนข้างล่างไม่ได้มีสีหน้าตื่นตะลึงอีกแล้ว เสียงครึกครื้นเริ่มกลับมาอีกครั้ง ผู้คนต่างคุยเล่นกันแทน อลิสาชะงักนิ่งอย่างไม่อยากเชื่อ ทำไมเกวลินถึงได้ดีดผิดกัน นรวิทย์หัวเราะขึ้นมา แบบนี้ยังกล้าขึ้นมาให้ขายหน้าเล่นอีกหรือ เขาละสายตา แล้วให้อรุณเดทล้างไพ่ใหม่ เกวลินไม่อยากทำให้พลรู้สึกผิดหวัง แต่เธอก็จะไม่ช่วยอลิสาอีกแล้ว ชีวิตที่แล้วเพราะเรื่องในวันนี้จึงถูกเป็นที่จับตามอง ทำให้อลิสากลายเป็นคนดังของโรงเรียนขึ้นมา กลายเป็นที่ยอมรับ และได้การตอบรับที่ดีกลับมา เมื่อเล่นเสร็จเธอก็โค้งคำนับ กดตาที่เจ็บไว้แล้วรีบลงจากเวทีไป อลิสารีบพาเธอมายังห้องเปลี่ยนชุด“ทำไมพี่ถึงดีดผิดกัน...” เกวลินคลำหาแว่นตาดำขึ้นมาสวมใส่ แสงไฟทำตาเธอปวดไปหมด เธอไม่ตอบอลิสา อลิสาเองก็เร่งรีบกับเรื่องอื่นอยู่ จึงไม่ได้ใส่ใจ“พวกเรารีบแลกชุดกันเถอะ” สองพี่น้องแลกคืนเสื้อผ้าเรียบร้อย อลิสาอดกลั้นกับความรู้สึกคับแน่นที่เอว แล้วเตือนกับเกวลินซ้ำ“พี่ต้องเดินออกประตูหลังนะ” ทันใดนั้นเกวลินก็ดึงแขนของเธอไว้“อลิสา เธอเกลียดพี่ไหม” หน้าของอลิสาแข็งค้างไป ก่อนจะกล่าวอย่างขำขัน“พี่คิดอะไรอยู่กัน พี่ดีขนาดนี้ ฉันจะไม่เกลียดพี่ได้อย่างไร อนัทไม่ชอบพี่ แต่ฉันชอบพี่มาตลอดนะ” เกวลินปล่อยมือเธอ หลับตาลงอย่างหมดแรง โกหก กลับมามีชีวิตอีกครั้งเธอถึงได้เข้าใจ อลิสาและอนัทพี่น้องที่กลับตาลปัตรราวกับฟ้าและเหว คนหนึ่งแสดงออกว่าชอบเธอ แต่เกลียดจนอยากให้เธอตายๆไปซะ อีกคนหนึ่งแสดงออกอย่างเย็นชา แต่ยินยอมที่จะออกเงินค่ารักษาให้กับเธอ เปลือกที่ห่อหุ้มจิตใจของคน ต้องจ่ายราคาสูงถึงจะได้เข้าใจ เพียงแค่เสียดายที่ครั้งก่อนเธอตายทั้งที่ยังอายุยังน้อย แต่ชีวิตครั้งนี้ย่อมไม่มีทางเป็นเช่นนั้น ย้อนกลับมาม.5 ในครั้งนี้ ทั้งหมดสามารถเริ่มต้นใหม่ได้อีกครั้ง เกวลินมองตามอลิสาที่รีบรูดซิปกระโปรงแล้วเดินออกไป เธอรู้ว่าเธอกำลังจะไปหานรวิทย์ ชีวิตที่แล้วนรวิทย์กล่าวออกมาว่าไม่เลวอย่างไม่ได้ตั้งใจ อลิสาก็ดีใจจนเนื้อเต้น ครั้งนี้ล่ะ นรวิทย์จะยังสนใจของปลอมแบบอลิสาอยู่อีกไหมนะ เธอหยิบไม้เท้าสำหรับคนตาบอดของตัวเองขึ้นมา เปิดประตูออกแล้วเดินจากมา ทันใดนั้นความรู้สึกของฤดูใบไม้ร่วงเดือนตุลาคมก็ผ่านเข้ามาในม่านตา แต่เบื้องหน้าก็ยังคงมืดมน นกร้องเสียงใส ความเย็นของฤดูใบไม้ร่วง ดอกไม้สองข้างทางเริ่มเบ่งบาน และมีกลิ่นหอมที่เกิดจากหลังฝนตก แดดออกแล้ว เกวลินหลับตาลง ค่อยๆเดินไปข้างหน้า การผ่าตัดสำเร็จไปด้วยดี อีกแค่สองเดือนเท่านั้น เธอก็จะกลับมามองท้องฟ้าและดวงอาทิตย์ได้อีกครั้ง ชีวิตนี้ทุกอย่างต่างก็ดำเนินไปด้วยดี “พี่วิทย์ดูตรงนั้น” ใบหน้าของอรุณเดทดูอ้ำอึ้งในที มองออกจากหน้าต่างห้องพักไป ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าราวกับถูกล้าง เด็กหญิงที่สวมชุดของโรงเรียนครีสเตียนพยารามคนหนึ่ง กำลังใช้ไม้เท้าเดินออกนอกประตูโรงเรียนไป มือของนรวิทย์พาดวางที่หน้าต่าง สายตามองไปตามนิ้วมือของอรุณเดท ไปหยุดอยู่ที่แผ่นหลังบอบบางของเกวลิน
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 1 กลับไปยังม.5
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A