บทที่ 6 หน้าด้าน
1/
บทที่ 6 หน้าด้าน
เกิดใหม่ทั้งที ฉันจะเป็นนางร้าย
(
)
已经是第一章了
บทที่ 6 หน้าด้าน
บทที่ 6 หน้าด้าน อลิสาเดินเข้าไปโรงเรียนเฉพาะทางวิทยาลัยอโศกศิลย์อย่างเร็ว เกวลินเพราะว่าอยากจะอ่านหนังสือ จึงได้แกะผ้าก๊อซออก แล้วกลับมาใส่แว่นตาดำแทน วันจันทร์โรงเรียนครีสเตียนพยารามจะมีการตรวจเครื่องแบบ นักเรียนทุกห้องจะต้องมารวมตัวที่หน้าเสาธง เมื่อนักเรียนเข้าแถวตามห้องกันเสร็จแล้ว ก็จะมีครูวินัยลงมาตรวจ จะตรวจเครื่องแบบก่อนเป็นอันดับแรก ชุดนักเรียนของโรงเรียนครีสเตียนพยารามมีสองแบบ แบ่งเป็นแบบขาวและแบบฟ้า หากใส่ผิดสีก็ถือว่าผิดระเบียบ นอกจากนี้ยังตรวจบัตรนักเรียนด้วย หากนักเรียนคนไหนไม่ได้เอามา ก็จะถูกหักคะแนนห้อง ดังนั้นกับครูที่ปรึกษาที่เคร่งครัดอย่างครูฝน หากถูกหักคะแนนห้องมา ก็จะโดนลงโทษเป็นรายคนไป พิมพ์ภาและเกวลินยืนอยู่ด้วยกัน เธอยืนอยู่ข้างหน้าเกวลิน ในตอนที่ผู้อำนวยการยกโทรโข่งขึ้นมาพูด ครูวินัยก็เริ่มตรวจถึงชั้นม.5แล้ว ห้องแรกที่ตรวจคือห้องหนึ่ง ชายสองคนท้ายแถวห้องหนึ่งใส่ชุดผิดระเบียบ จึงโดนดึงตัวออกมาทันที สีหน้าของครูฝนเริ่มย่ำแย่ ย้ำกับนักเรียนกลุ่มนี้ไปตั้งหลายครั้ง มีวางใจแค่ไม่กี่คนเท่านั้นหรือ พิมพ์ภาเริ่มอยู่ไม่นิ่ง จึงอยากจะแอบหันไปคุยกับเกวลิน แต่เมื่อหันไปเห็นว่าเกวลินไม่ได้คล้องบัตรนักเรียนไว้ที่คอ พิมพ์ภาก็เริ่มตื่นตระหนก“ลิน บัตรนักเรียนเธอล่ะ ครูจะมาถึงแล้วนะ” เกวลินหลบตา“ทำหาย” “แล้วจะทำอย่างไร ไม่เอาบัตรนักเรียนมาโดนหัก0.2คะแนนนะ ครูฝนจะต้องโมโหแน่” เกวลินเม้มปากเบาๆ ก็มันไม่มีวิธีแล้ว เธอยอมโดนทำโทษ ดีกว่าจะต้องไปขอบัตรนักเรียนจากนรวิทย์ จะรนตอนนี้ก็ไม่ทัน เพราะครูวินัยได้มาถึงแล้ว“นักเรียน บัตรนักเรียนเธอล่ะ” ทุกคนต่างมองมาในทันที ใบหน้าของทุกคนต่างตื่นตะลึง เป็นเกวลิน ที่ผ่านมาเกวลินไม่เคยทำผิดเลย เธอคืออันดับหนึ่งของห้อง เพราะเป็นคนที่เงียบและอ่อนโยน จึงไม่ค่อยมีตัวตนนัก แต่เป็นคนที่ครูทั้งรักและให้ความไว้วางใจ แต่วันนี้ คนที่ไม่ได้เอาบัตรนักเรียนดันเป็นเธอหรือ ครูฝนชะงักนิ่งไปนาน สีหน้าเปลี่ยนไปมา ก่อนจะถอนหายใจออกมา เกวลินฮึดสู้ขึ้น หลังจากถอนหายใจเข้าออก แม้ดวงตาจะไม่ดี แต่ก็สอบได้ที่หนึ่งมาตลอด และยังเป็นตัวแทนของห้องเธอ ครูฝนเองก็ชอบเธอ แต่กฎก็คือกฎ เมื่อเธอกลับมาถึงห้องก็ออกปากด่านักเรียนที่ทำผิดทันที ข้างล่างต่างแอบกระซิบคุยกัน“เอรินกับหลงทำผิดบ่อยๆอยู่แล้ว แต่ทำไมเกวลินถึงมาทำให้ห้องเราต้องโดนหักคะแนนกัน” “น่าจะลืมเอามา” “แบบนี้พอเลิกเรียนก็ต้องไปวิ่งด้วยกันหรือ” “หนึ่งพันห้าร้อยเมตร ดวงตาเธอจะไม่เป็นปัญหาหรือ” “ไม่รู้” ทันใดนั้นครูฝนก็กล่าวขึ้นมา“หลังเลิกเรียน นักเรียนที่ถูกหักคะแนนต้องออกไปวิ่งรอบนอกของโรงเรียนหนึ่งพันห้าร้อยเมตร หัวหน้าห้องไปดูด้วย” หัวหน้าห้องชื่อฟาง คะแนนเองก็อยู่ในเกณฑ์ดี เป็นคนที่จริงจัง จึงรีบตอบกลับว่าค่ะไป หลังเลิกเรียนเกวลินรวมทั้งนักเรียนชายที่ทำผิดอีกสองคน และฟางไปที่ประตูโรงเรียนพร้อมกัน ฟางสะพายกระเป๋าหนังสือ“โอเค พวกเธอไปวิ่งสิ” หลงหัวเราะแหะๆแล้วกล่าว“หัวหน้า ไม่ต้องให้เกวลินวิ่งหรอก ตาเธอไม่ดี ล้มขึ้นมาจะแย่เอานะ พวกเราไม่พูดก็ไม่มีใครรู้หรอก” ฟางหน้าตึง“ไม่ได้ ต้องวิ่งทั้งหมด เธอไม่เอาบัตรนักเรียนมาเอง” เอรินและหลงต่างโห่ร้อง เกวลินวางไม้เท้าลง“ไม่เป็นไร ฉันวิ่งได้ ขอบคุณนะหลง” หลงยังคงรู้สึกไม่ดี แต่เดิมเขาก็เป็นนักเรียนที่ดื้อที่สุดในห้องอยู่แล้ว คนที่เรียนดีในห้องแตกต่างจากพวกเขาโดยสิ้นเชิง ถึงปากจะไม่พูด แต่ในใจก็คงจะดูถูกกันอยู่ เกวลินเป็นถึงอันดับหนึ่ง แต่ก็เป็นความสบายใจแก่หลายๆคน ทั้งสามคนเริ่มออกตัววิ่ง เกวลินจำทางนี้ได้ เพราะที่สนามหลังเลิกเรียนมักจะมีการแข่งบาสเกตบอล ดังนั้นพวกเขาจึงถูกสั่งให้อยู่ทางนี้ ระหว่างโรงเรียนครีสเตียนพยารามกับวิทยาลัยอโศกศิลย์จะมีถนนเส้นเล็กกั้นอยู่ จึงเอาไว้ใช้วิ่งได้พอดี หนึ่งพันห้าร้อยเมตรไม่ใช่สั้นๆ หากสภาพร่างกายดีก็คงพอไหวอยู่ เกวลินวิ่งไปได้แปดร้อยเมตร ก็เริ่มมีอาการเจ็บขึ้น เธอปรับลมหายใจ ก่อนจะออกตัววิ่งอีกครั้ง ดวงตาของเธอไม่ดี ดังนั้นจึงวิ่งได้แค่เรื่อยๆ เวลานั้นพวกหลงก็วิ่งจากไปไกลแล้ว นรวิทย์และอรุณเดท พวกเขาได้ขับรถมอเตอร์ไซค์ผ่านมา ก็เห็นเกวลินอยู่ที่ข้างหน้านั้น พูดไปก็แปลก เธอสวมชุดโรงเรียนครีสเตียนพยาราม ดูแล้วน่าจะหายไปในฝูงคน แต่แค่เขามองไปก็เห็นเธอในทันที เธอเสียพลังกับการวิ่งมาก ผมที่ถูกมัดเป็นหางม้า ถูกยกขึ้นจนมองเห็น คอเรียวขาวที่พ้นคอเสื้อมา อรุณเดทเมื่อเห็นนรวิทย์หยุดรถ ก็มองตามเขาไป ก็เห็นเกวลินที่วิ่งอย่างช้าๆ เลยหลุดขำออกมา“นั่นเธอวิ่งหรือคลานกัน ฉันเดินยังน่าจะเร็วกว่าเธอ” นรวิทย์เองก็อดยิ้มไม่ได้ ดรุนนีนึกคิด“นักเรียนโรงเรียนครีสเตียนพยารามมักจะมีคนมาวิ่งตรงนี้บ่อยๆ เหมือนว่าจะเพราะทำผิดระเบียบมา” เมื่อได้ยินเช่นนั้นทุกคนตรงนั้นต่างก็สงสัย “เธอจะทำผิดระเบียบอะไรกัน” อรุณเดทคาดเดาสุ่มๆ“มีความรักหรือ” นรวิทย์หันขวับ แล้วตบเข้าที่หัวเขาหนึ่งที“ความรักบ้าอะไร คิดว่าเป็นตัวเองหรือไง” อรุณเดทงุนงง เขาตบมาเพราะอะไรกัน เขาแค่เดาเล่นๆเอง นรวิทย์ผมสีเงินสว่าง ในปากเคี้ยวหมากฝรั่ง เขาสั่งชายคนหนึ่งไป“แกเข้าไปดูสิ” ชายคนนั้นเมื่อโดนสั่งก็รีบวิ่งไปทันที เพียงครู่เดียวก็หัวเราะแหะๆกลับมา“พี่วิทย์ ฉันถามผู้หญิงทางนั้นมา โรงเรียนครีสเตียนพยารามเป็นบ้าหรือ ไม่ใส่ชุดนักเรียนหรือไม่ได้นำบัตรนักเรียนมาก็จะถูกลงโทษให้มาวิ่ง แย่กว่าโรงเรียนของพวกเราอีก กฎส้นตีนอะไรก็ไม่รู้” รอยยิ้มค่อยๆหายไปจากใบหน้าของนรวิทย์ ตาดำของเขาเย็นเยียบ หลังจากนั้นก็ลงจากรถแล้วเดินตรงไปทันที ครั้งนี้เป็นตายอรุณเดทก็จะไม่เอาตัวเองออกไปเสี่ยงแน่นอน แต่ดรุนนีก็เอ่ยปากถามขึ้น“พี่วิทย์เป็นอะไรไป” ไม่เหมือนโกรธ แต่ก็ไม่ได้อารมณ์ดี เมื่อครู่ยังดีดีอยู่เลยไม่ใช่หรือ เกวลินเมื่อวิ่งเสร็จ ก็เกือบจะหมดลมหายใจแล้ว ฟางบ่นพึมพำ“ทำไมเธอช้าแบบนี้กัน ฉันรอตั้งนาน” เกวลินหอบ“ขอโทษนะ รบกวนเวลาเธอเลย” ฟางจึงได้เก็บหนังสือแล้วเดินจากไป เกวลินวิ่งถึงหนึ่งพันห้าก็เหนื่อยมาก เธอไม่สนว่าหินข้างๆจะสกปรกขนาดไหน นั่งลงกอดเข่าเพื่อพักหายใจ สามปีที่เธอไม่ได้ออกกำลังกายเลย ร่างกายที่เคยดีก็เริ่มแย่ลง เมื่อก่อนที่ยังออกกำลังกาย การวิ่งสองพันเมตรนั้นไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย หายใจได้ลำบาก เหนือหัวมีเงาทาบทับลงมา และก็มีของอย่างหนึ่งมาคล้องเข้าที่คอ นั่นคือบัตรนักเรียนของเธอเอง เกวลินลืมตามาก็เห็นเป็นนรวิทย์ นรวิทย์มือหนึ่งสอดอยู่ที่กระเป๋าเสื้อ ก้มหัวลงมามองเธอ ใบหน้าของเขาเรียบนิ่ง เหมือนว่ากำลังอารมณ์เสียอยู่ “เกวลิน” เธอรีบลุกขึ้นอย่างเสียขวัญ ขานรับอย่างสับสน“หะ” “กูยอมจริงๆ เธอโง่หรือไง” เกวลินไม่รู้ว่าควรพูดอะไร เขาสอบไม่ผ่านสักวิชา มาว่าเธอโง่ได้อย่างไรกัน ขณะที่เขาอารมณ์ไม่ดี เธอเงียบค้างไปก่อนจะกล่าวเสียงเบา“ขอโทษด้วย” เธอรู้ว่านรวิทย์นั้นเอาแต่ใจไร้เหตุผล ถึงแม้ไม่รู้ว่าเขากำลังโกรธอะไร แต่ไม่ต่อปากต่อคำจะดีกว่า เขาเองก็ไม่รู้ว่าหงุดหงิดที่ตรงไหนกัน แต่ให้สงบใจตอนนี้มันก็ทำไม่ได้ “เธอเกลียดฉันหรือ ดูถูกกูอยู่อย่างนั้นใช่ไหม” เขาดูออก ว่าเกวลินไม่ชอบคุยกับเขา เขาได้ยินมาว่าเธอคืออันดับหนึ่งของม.5ห้องหนึ่ง แต่เดิมห้องหนึ่งคือห้องที่เน้นเรื่องการสอบเขาในชั้นมหาวิทยาลัย คะแนนของพวกเขาอยู่ในเกณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และมักจะดูถูกคนที่ไม่ใฝ่เรียนอย่างพวกเขา ที่ทั้งสูบบุหรี่ โดดเรียน ตีรันฟันแทง และริเริ่มมีความรัก เขาในสายตาพวกเขา คงเป็นแค่คนโง่ที่มีเงิน แม้แต่คนอย่างพรพิมนต์ ก็ยังคิดว่านักเรียนโรงเรียนครีสเตียนพยารามของตัวเองนั้นเหนือชั้นกว่า เกวลินไม่พูด เธอก้มหน้าลง เหมือนกับไม่เข้าใจคำถามนั้น นรวิทย์หัวเราะเสียงเย็น“เธอมีอะไรดีหรือไงถึงได้มาดูถูกฉันกันวะ อย่างน้อยฉันก็ร่างกายสมบูรณ์ดีกว่า” นั่นคือการดูถูกที่ตาของเธอไม่ดี เกวลินไม่ได้โกรธ ผ่านไปอีกแค่หนึ่งเดือนดวงตาของเธอก็จะดีขึ้นแล้ว เธอเม้มปาก คว้าไม้เท้าของตัวเอง แล้วเดินไปตามทางกลับบ้าน เดินไปอย่างช้าๆ ทีละก้าวๆ แต่เหมือนมีมีดกรีดลงในใจของเขา นรวิทย์มองตามแผ่นหลังของเธอ เตะก้อนหินที่เธอนั่งลงอยู่เมื่อครู่ เวรเอ๊ย ใครมันจะไปสนที่เธอไม่ชอบเขากัน ก็แค่คนตาบอดที่น่าเกลียดแล้วก็โง่มาก ยิ่งคิดเช่นนั้น ในใจก็ยิ่งทรมานมากขึ้น เรื่องงามหน้าของแม่เมื่อปีนั้น เขาจึงบอกกับตัวเอง ยิ่งเป็นผู้หญิงที่สง่างาม จิตใจก็ยิ่งโหดเหี้ยมและเลือดเย็น ดังนั้นเขาจึงมองว่าผู้หญิงแบบพรพิมนต์ที่พยายามจะเชิดคอขึ้นมา เป็นเหมือนตัวตลกที่วิ่งเล่นไปมา เขาจะไม่โง่และมัวเมาในรักเหมือนกับพ่อ ให้ทั้งเงิน ให้ทั้งใจ แต่แล้วก็ยังโดนนอกใจ เขาเองก็ไม่ชอบผู้หญิงแบบนั้นมาตลอด สวย สง่า มีพรสวรรค์ ที่ผ่านมา นั่นคือประเภทผู้หญิงที่เขาเกลียดที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นแต่เดิมเกวลินก็ไม่ได้เข้าข่ายว่าสวยเลยสักนิด อรุณเดทเห็นว่าพี่วิทย์ไปนานแล้วยังไม่กลับมา จึงออกไปตามหาเขา นรวิทย์ยืนพิงกำแพงสูบบุหรี่อยู่ตรงนั้น ผู้หญิงโรงเรียนครีสเตียนพยารามที่เดินผ่านทางนี้ต่างแอบมองเขา กระซิบคุยกันอย่างตื่นเต้น“นั่น คนนั้นคือนรวิทย์ล่ะ...” “หล่อมากเลย” “อย่าแม้แต่จะคิด ได้ยินมาเขาโหดร้ายมาก...” “เดี๋ยว มีคนมา” อรุณเดทเหลือบมองพวกเธอ“อยากตายหรือไง” พวกผู้หญิงต่างกลัวจนวิ่งหายไปราวกับควัน อรุณเดทจึงเลิกสนใจ“พี่วิทย์ ยังจะไปเล่นเกมอยู่ไหม” นรวิทย์ตอบอย่างส่งๆ“ไป” “ยัยตาบอดนั่นทำให้พี่โมโหหรือ เช่นนั้นให้ฉัน...” ทันใดนั้นนรวิทย์ก็เหลือบตาขึ้นมา หลังจากนั้นก็เดินนำออกไป“หากพูดถึงเธออีกครั้งฉันจะฆ่าแก” เห็นชัดแล้วว่าทางนั้นไม่ชอบเขา หากเขายังไปหาเกวลินอีก เขาคงโคตรจะหน้าด้าน
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 6 หน้าด้าน
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A