บทที่ 8 อันดับที่หนึ่ง
1/
บทที่ 8 อันดับที่หนึ่ง
เกิดใหม่ทั้งที ฉันจะเป็นนางร้าย
(
)
已经是第一章了
บทที่ 8 อันดับที่หนึ่ง
บทที่ 8 อันดับที่หนึ่ง ไม่เหมือนกับแอมมี่ เกวลินไม่มีเงินพอจะพักที่โรงแรม เธอทำได้เพียงตื่นให้เช้าขึ้น การแข่งคณิตศาสตร์โอลิมปิกจะเริ่มตอนเก้าโมงเช้า เกวลินจะใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงกับอีกสี่สิบนาทีในการไปถึงสนามแข่ง เธอจึงตื่นตอนหกโมงเช้า เพราะเป็นวันหยุด พลไม่ได้ไปทำงาน ในบ้านจึงยังเงียบเชียบ ท้องฟ้ายังไม่สว่าง เกวลินสวมชุดเตรียมจะออกจากบ้าน เห็นเงาตะคุ่มๆที่ห้องรับแขก เธอชะงักไป ก่อนจะเห็นว่าคืออนัท น้องชายเธอเอง อนัทวางแก้วน้ำลง มองมาทางเกวลิน แล้วก็เดินกลับเข้าห้องของตัวเองไป ไม่ได้สนใจสักนิดว่าเธอจะไปไหน ท่าทางของอนัทเป็นเช่นนี้เสมอ แม้แต่ชีวิตที่แล้วของเกวลินก็ยังคิดว่าเขาทำเหมือนเธอไม่มีตัวตน เธอหัวเราะให้กับความเป็นมิตรของเขา สะพายกระเป๋าแล้วออกจากบ้านมา ตอนที่เกวลินนั่งรถประจำทางไป เธอมาถึงตอนแปดโมงยี่สิบ คนที่มาแข่งยังมากันไม่มาก พนักงานของพิพิธภัณฑ์มีอยู่บ้างประปราย รู้สึกแปลกใจที่เห็นเธอ“เด็กน้อย เธอมาร่วมงานแข่งหรือ” สายตามองมายังมองแว่นตาดำสำหรับคนตาบอดของเธออย่างอดไม่ไหว เกวลินตอบกลับ ค่ะ พวกเขาหัวเราะ“ยังเช้าไป คนอื่นๆยังไม่มากันเลย เธอต้องรอไปก่อนนะ” แต่ในใจรู้สึกชมเชย มาก่อนเวลาเช้ามาก เห็นได้ชัดว่าให้การใส่ใจ เกวลินพิงที่มุมหนึ่ง หยิบหนังสือในกระเป๋าขึ้นมาอ่าน แปดโมงสี่สิบกว่าๆ คนเริ่มทยอยมากันแล้ว เป็นนักเรียนทั้งหมด พวกเขาเป็นนักเรียนม.ปลาย ดังนั้นส่วนใหญ่จึงเป็นวัยรุ่นชายหญิงอายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปด ทุกคนต่างนั่งลงพักผ่อนคุยเล่นกัน ทันใดนั้นก็มีเสียงโวยวายดังขึ้นมา เกวลินเงยหน้ามา ก็เห็นเป็นนรวิทย์ ช่วงเดือนพฤศจิกายน น้ำพุเล็กๆที่อยู่ด้านหลังของพิพิธภัณฑ์ศิลปะ แสงแดดกระทบกับน้ำจนเกิดรุ้งกินน้ำที่สวยงาม นรวิทย์ขับรถบิ๊กไบค์ เขาสวมเสื้อยืดสีดำพอดีตัว ผมสีเงินสะดุดตา ที่หูใส่จิวสีดำ และสวมถุงมือสำหรับแข่งรถ มีเสน่ห์เหลือร้ายจนเป็นที่สะดุดตา ผู้เข้าแข่งขันที่อยู่ในสนาม ต่างเป็นนักเรียนคะแนนดี จะมาเคยเห็นคนที่มีท่าทางนักเลงแบบพวกเขาได้อย่างไรกัน พวกเขาเหมือนกับนักเลงมาก การ์ดรักษาความปลอดภัยจึงไม่ยอมให้เข้ามา นรวิทย์ถอดหมวกกันน็อควางบนรถ แล้วเดินลงมา แววตาของเขาเริ่มคุกรุ่น“ทำไมถึงไม่ให้เข้า” การ์ดรักษาความปลอดภัยจึงตอบไปได้แค่ว่า“ข้างในกำลังจัดเตรียมสนามแข่งอยู่” ข้างในก็เริ่มมีเสียงจอแจ “นักเลงหรือ มาทำอะไรที่นี่กัน” “ฮ่าฮ่า ที่แน่ๆคงไม่ได้มาแข่ง” ชายคนหนึ่งกล่าวขึ้นมาเสียงเบา“อยากสร้างภาพก็ไปขับรถสิ มาขี่มอเตอร์ไซค์ทำไมกัน” ปีนั้นรถมอเตอร์ไซค์เริ่มเป็นที่นิยมแล้ว แต่วัยรุ่นอายุสิบกว่าปีขึ้นไป ยังมีคนที่สามารถซื้อได้อยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ชายอีกคนหนึ่งก็รู้สึกหมดคำจะพูด“อ่านหนังสือจนโง่หรือไม่ได้รับข่าวสารเลย พวกเขาขับรถบิ๊กไบค์นั่นเป็นรถที่แรงที่สุดในตอนนี้แล้ว” ชายคนใส่แว่นเหมือนจะไม่เชื่อ แต่มีคนไม่น้อยที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันไปมองกัน อรุณเดทไม่คิดว่าในที่แบบนี้ก็ยังมีการแบ่งชนชั้น เขาส่งเสียงไม่พอใจ ในตอนที่กำลังจะด่า ดรุนนีก็รีบมาดึงเขากลับ“ใจเย็น วันนี้อย่ามีเรื่องเลย อย่าทำให้พี่วิทย์อารมณ์ไม่ดี” อรุณเดทจึงอ่อนลง นรวิทย์จุดบุหรี่“มาหาเพื่อน เธอมาแข่งที่นี่” การ์ดรักษาความปลอดภัยถาม“เพื่อนของเธอคือใคร” สายตาของนรวิทย์มองเลยประตูกระจกตรงนั้นไป สายตาจ้องไปที่เกวลิน มุมที่เธอนั่งอยู่ นั้นใกล้กับเขามากที่สุด เป็นครั้งที่แรกที่เขาไม่เห็นเกวลินสวมชุดนักเรียนโรงเรียนครีสเตียนพยาราม เพราะในตอนเช้านั้นค่อนข้างหนาว เธอใส่เสื้อไหมพรมสีเหลืองอ่อน ที่คอเสื้อปักดอกกุหลาบเล็กๆ และกิ่งไม้สีเขียวแต่แตกแยกไป ให้ความรู้สึกอ่อนหวานและสง่างาม เธอเห็นแล้วว่าเขามองตัวเองอยู่ นิ่งชะงักไป แล้วเหมือนกลัวที่จะมีส่วนเกี่ยวกับเขา จึงรีบหันกลับไป เขาหัวเราะอย่างอดไม่ไหว เวรเอ๊ย การ์ดรักษาความปลอดภัยเห็นนรวิทย์ไม่พูด ก็ยิ่งไม่อนุญาตให้พวกเขาเข้าไป คนส่วนใหญ่ก็เข้าไปได้ แต่นรวิทย์ พวกเขาทั้งสูบบุหรี่ ทำสีผม แค่มองก็รู้ว่าเป็นเด็กไม่ดี แอมมี่แหวกกลุ่มคนเข้าไป แล้วกล่าวกับการ์ดรักษาความปลอดภัยว่า“คุณอา พวกเขาเป็นเพื่อนหนูเอง ให้พวกเขาเข้าไปได้ไหมคะ” อรุณเดทยิ้มนำ“แอมมี่ พวกเรามาเชียร์เธอ” แอมมี่อดไม่ได้ที่จะมองไปที่นรวิทย์ ใจเหมือนกำลังพองโต นรวิทย์คิ้วขมวด แต่ไม่ได้พูดอะไร การ์ดรักษาความปลอดภัยเริ่มสับสน แอมมี่จึงกล่าว“ฉันคือคนที่ได้ที่หนึ่งเมื่อปีก่อนๆค่ะ ให้เพื่อนของฉันเข้ามาให้กำลังใจไม่ได้หรือคะ” ในน้ำเสียงของเธอนั้นเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ บรรดาการ์ดรักษาความปลอดภัยต่างปรึกษากัน แล้วก็พยักหน้าในท้ายที่สุด แล้วก็หันมามองทางพวกนรวิทย์ พวกเขากล่าวว่า“เข้าไปได้ ปิดมือถือ ห้ามสูบบุหรี่ ห้ามส่งเสียงดัง” อรุณเดทหมดคำจะพูด แล้วจะเข้าไปนั่งทำบ้าอะไร เวลาแข่งไม่กี่ชั่วโมงนั้น พวกเขาดูไปก็ไม่เข้าใจหรอก ตอนที่เขาจะพูด แบบนั้นไม่ต้องเข้าไปหรอก พี่วิทย์ พวกเรารอที่ข้างนอกนี่กัน แต่ก็เห็นนรวิทย์เคาะก้นบุหรี่ตกไปที่สระน้ำพุ ก่อนจะโยนทิ้งไปที่ถังขยะ สอดมือกับกระเป๋าเสื้อแล้วเดินเข้าไป เขาดูแข็งกร้าวมาก ดูแล้วไม่น่าใช่คนดีเท่าไหร่ พวกนักเรียนข้างในต่างหลบทางให้แก่เขา อรุณเดทหล่าว“หะ ไปจริงหรือ” ดรุนนีกล่าว“นรวิทย์เข้าไปแล้ว” แซมรู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูก“ข้างในนั้นมีอะไรที่น่าดูหรือ” พูดไว้เช่นนั้น แต่เมื่อสูบบุหรี่เสร็จ ก็ตามเข้าไป อรุณเดทกล่าวขำๆอย่างอดไม่อยู่“ผู้หญิงพวกนี้ก็ไม่สวยเท่าไหร่นี่” แซมหลุดขำพรืด“บางทีเพราะฉลาดแล้ว ที่อื่นเลยไม่จำเป็น” อรุณเดทหุบยิ้มทันที ในหมู่คนที่อรุณเดทรู้จัก ที่มีความรู้และก็ดูดี ความจริงมีน้อยมาก แต่ที่ได้เจอมา แอมมี่ถือเป็นระดับแถวหน้าทีเดียว ข้างๆนั้นมีกลิ่นบุหรี่ลอยมาอ่อนๆ เกวลินชะงัก ก่อนจะหันไปมอง นรวิทย์ก้าวขามานั่งลงที่ข้างๆเธอ เขาไม่ได้รูดซิปลง มือสอดไว้ที่กระเป๋าเสื้อ ให้เขาความรู้สึกนักเลงจนคนเริ่มเกลียด เขาเข้ามาใกล้ขนาดนี้ เกวลินรู้สึกอึดอัดมาก ตัวตนของนรวิทย์เด่นชัดมาก หลายคนต่างมองมาทางนี้ เธอทำได้เพียงแสร้งทำเป็นไม่รู้จักเขา แล้วก้มหน้าลงไป เธอนั่งอยู่ข้างกระจก นั่งเข่าชิด แล้ววางหนังสือไว้ที่ขา แสงแดดสาดเข้ามาเป็นสีทองอ่อนๆ “เฮ้ย นักเรียนดี เจอคนสนิทนี่ไม่มีทักทายกันเลยหรือ เย็นชาอะไรขนาดนั้นล่ะเธอ” เขาเข้ามาใกล้ เกวลินปิดหนังสือ เงียบไปอึดใจก่อนจะกล่าวเสียงแผ่ว“ไม่สนิท” เขากลั้นยิ้มไว้ไม่ไหว นรวิทย์แสยะยิ้ม“แล้วรู้จักชื่อของฉันไหม” เกวลินเม้มปาก“นรวิทย์” เสียงนุ่มของเธอ ให้ความรู้สึกเหมือนสายน้ำที่ไหลเอื่อยในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เขาชะงักไปนาน ก่อนจะยิ้ม“อือ” เหมือนคนปัญญาอ่อน ราวกับว่าความหงุดหงิดในใจที่มีมานาน มันค่อยๆหายไปในทันที อรุณเดท ตอนที่พวกเขาเข้ามา เมื่อเห็นเกวลินก็รู้สึกตกใจ“ยัยตาบอด... เกวลิน เธอก็ลงแข่งหรือ” เกวลินพยักหน้า แอมมี่ก็เดินตามมา สายตาจ้องไปที่เกวลิน เธอไม่ได้รู้จักเกวลิน แต่ดวงตาเป็นประกายเมื่อเห็นตาของเธอ“เธอคือนักเรียนม.5โรงเรียนครีสเตียนพยารามใช่ไหม” เกวลินเมื่อเห็นแอมมี่ก็กล่าวทักทายแค่ว่า“สวัสดีค่ะรุ่นพี่” แอมมี่กล่าว“ตอนที่แข่ง ไม่อนุญาตให้ใส่นาฬิกาข้อมือหรือแว่นดำนะ รุ่นน้องถอดออกก่อนดีกว่าไหม” เกวลินส่ายหน้า“ขอบคุณค่ะ แต่ตาของฉันไม่ดี แล้วนี่ก็ไม่ใช่แว่นดำ คือ...” ภายใต้สายตาดีใจของแอมมี่ เกวลินกล่าวเสียงเรียบ“เป็นแว่นกันแสงสำหรับคนตาบอดค่ะ” แอมมี่เมื่อเห็นเธอไม่ได้มีความน้อยเนื้อต่ำใจ นรวิทย์ที่อยู่ข้างๆก็ไม่ได้แปลกใจเช่นกัน เพียงคิ้วขมวดลงเล็กน้อย เก้านาฬิกาพอดิบพอดี การแข่งขันก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ผู้เข้าร่วมไปประจำตำแหน่ง นั่งลงที่เก้าอี้หน้าพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ผู้ปกครองต่างมองเห็นได้จากห้องรับรอง เพราะเป็นการแข่งขันรอบแรก ตรงหน้าของทุกคนต่างมีกระดานวาดภาพอยู่ พิธีกรกล่าว“ขอความกรุณารักษาความเงียบนะครับ ห้ามทำการทุจริต หากตรวจพบจะพาออกทันที เมื่อการแข่งเริ่มขึ้น พวกคุณมีเวลาหนึ่งร้อยห้าสิบนาทีในการตอบคำถาม เริ่มแข่งได้” ~ ตอนที่เริ่มแข่งยังคงโอเคดี ครอบครัวต่างสนใจแค่ลูกของตัวเอง แต่พอถึงช่วงกลาง อรุณเดทก็ใกล้จะเป็นบ้า เขาบ่นเบาๆ“สวรรค์ ทรมานยิ่งกว่าคุกอีก กูทนไม่ไหวแล้ว” เขาหยิบมือถือขึ้นมาเตรียมจะเปิดเครื่อง นรวิทย์ขโมยมือถือของเขาอย่างหน้าตาเฉย“รักษากฎหน่อย” “...” อรุณเดทหันหน้ามา“ซิล แซม มาเล่นเป่ายิ้งฉุบกัน” ดรุนนีกล่าวว่า“ปัญญาอ่อน” แซมเองก็กล่าวว่า“ไม่เล่น” อรุณเดทรู้สึกโดดเดี๋ยวราวกับอยู่ท่ามกลางหิมะ เขาจึงทำได้เพียงมองไปที่สนามแข่ง คนสนิทสองคน แอมมี่และเกวลินนั่งอยู่ไกลมาก จึงเห็นเพียงแค่แผ่นหลังที่ตั้งตรง ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกตื่นเต้น“พวกแกว่าใครจะชนะ” ดรุนนีเหล่มองนรวิทย์ แต่ไม่ได้พูดอะไร “มาพนันกัน หากแพ้...” เขากลอกตาไปมา“วันนี้เป็นวันขอบคุณพระเจ้าใช่ไหม ข้างนอกนั่นกำลังขายไอศกรีมวานิลาของคนต่างชาติ หากแพ้ก็ไปซื้อมาให้น้องสาวที่ชนะทาน” อันนี้ดูสมเหตุสมผล ดรุนนีกล่าว“ฉันคิดว่าแอมมี่ชนะ” แซมนึกคิด“ไม่ใช่ว่าดูถูกเกวลินนะ แต่ได้ยินว่าการแข่งนี้ยากมาก แอมมี่บอกว่าเธอเรียนมาจะแปดปีแล้ว แล้วปีก่อนๆก็ได้ที่หนึ่งมาตลอด ฉันเองก็คิดว่าน่าจะเป็นเธอที่ชนะ” อรุณเดทเบะปาก“ไม่ได้ คิดว่าแอมมี่ชนะกันหมด ก็ขาดอีกฝั่งสิ ซิล แกลงเกวลินไป” “แล้วทำไมแกไม่ลงเอง” สุดท้ายอรุณเดทมองไปที่นรวิทย์“พี่วิทย์... พี่คิดว่าใครจะชนะ” สายตาของนรวิทย์มองไปยังร้านไอศกรีมสีชมพูที่อยู่ข้างนอกนั่น ก่อนจะตอบกลับมาอย่างเกียจคร้าน“ได้หมด” อรุณเดทหมดหนทาง จึงลงเดิมพันกับเกวลินเอง เขาคิดในใจ ช่างมัน แพ้ก็แพ้ เอาสนุกเท่านั้น เมื่อถึงสิบเอ็ดโมงครึ่ง ทุกคนต่างส่งข้อสอบ จำนวนคนที่เข้ามาถึงโค้งสุดท้ายนั้นมีไม่มาก กลุ่มระดับมัธยมมีทั้งหมดห้าสิบห้าคน ผลการแข่งขันได้ออกมาแล้วในสิบนาทีต่อมา พิธีกรแย้มยิ้มสดใส“นักเรียนต่างเหนื่อยกันแย่เลยนะครับ สำหรับการรบในสองชั่วโมงที่เพิ่งผ่านไป ตอนนี้รายชื่ออันดับที่หนึ่ง สองและสามก็ได้มาอยู่มือของผมแล้ว ทุกคนตื่นเต้นไหมครับ” ภายในห้องรับรองเริ่มส่งเสียงจอแจ บรรดานักเรียนเองก็เริ่มตื่นเต้น แต่คงใบหน้านิ่งไว้ พิธีกรได้พูดพอเป็นพิธีแล้วก็ลงมือเปิดบัตรขึ้น สายตากวาดมองไปรอบๆ“ตอนนี้ผมขอประกาศ ผู้ที่ได้รางวัลอันดับที่สามของการแข่งคณิตศาสตร์โอลิมปิกในครั้งนี้ ได้แก่ บอม ได้คะแนนไป 132 คะแนน” เด็กชายคนหนึ่งยืนขึ้นมา ดวงตาฉายแววความยินดี โค้งคำนับแล้วก็นั่งลง พิธีกรกล่าวอย่างยิ้มๆ“สำหรับอันดับที่สองนั้น” เกวลินเงยหน้ามอง “ทุกคนต่างคุ้นกับชื่อของเธอแน่นอน ผู้ชนะของทุกปี ขอแสดงความยินดีกับแอมมี่ ได้คะแนนไป 136คะแนน” แอมมี่มองไปอย่างไม่อยากเชื่อ เธอคืออันดับที่หนึ่งของทุกปี ทำไมครั้งนี้...ได้ที่สอง เธอปรับสีหน้าในชั่วพริบตา ยืนขึ้นและรีบโค้งคำนับ หากเธอได้ที่สอง แล้วใครคือที่หนึ่งกัน
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 8 อันดับที่หนึ่ง
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A