ตอนที่ 4   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 4
ตอนที่ 4 หลังจากที่โจงเซินและหลี่ซีออกไป อู๋เทียนหยุและเชี้ยวเฟิงหลินก็หยุดคุยเรื่องการเมืองทันที ทั้งสองหันไปยิ้มให้กันอย่างเจ้าเล่ห์ แต่เชี้ยวเฟิงหลินก็เปิดปากพูดก่อน "ท่านอู๋หมายความว่าอะไรกัน?" "อะไร?" อู๋เทียนหยุเอียงคอถาม "อาเซินบอกกับข้าว่าที่มาจิงดูครั้งนี้ ก็เพื่อมาประจำการที่ตำหนักเพื่อน เพื่อนที่ว่าคงหมายถึงท่านสินะ?" "ใช่" อู๋เทียนหยุตอบยังสบายใจ "ถ้าเกิดรู้ว่าจะทำให้ได้เจอท่านเชี้ยวแบบนี้ ข้าคงเรียกให้โจงเซินมาเร็วกว่านี้" เชี้ยวเฟิงหลินยิ้มอ่อน "ข้ารู้ว่าอาเซินเก่งเรื่องสมุนไพรและยาต่างๆ แต่อายุเขายังน้อยเรื่องถูกผิดก็แยกไม่ค่อยออก ยังไงท่านอู๋ก็ช่วยชี้แนะด้วยละกันนะขอรับ" "ถ้าหากท่านเชี้ยวยอมรับข้า เราก็เป็นครอบครัวเดียวกัน ข้าก็ต้องดูแลโจงเซินดีเป็นพิเศษอยู่แล้ว" อู๋เทียนหยุตอบด้วยรอยยิ้ม "เรื่องไร้สาระพวกนี้ก็อย่าเล่นต่อเลย" เชี้ยวเฟิงหลินมองอู๋เทียนหยุ "ข้าดูออกว่าท่านเองก็ไม่ได้อยากให้อาเซินรู้ความสัมพันธ์ของข้าและท่านหรอก" อู๋เทียนหยุจ้องตาของเชี้ยวเฟิงหลิน "นิทานกำลังโกรธที่ข้าไม่บอกเขารึ?" เราพูดต่อด้วยสีหน้าจริงจังว่า "ก็ข้ากลัวว่าท่านจะเขินจนวิ่งหนีไป ถ้าเป็นเช่นนั้นไว้โจงเซินกลับมาข้าจะบอกกับเขาเอง" เชี้ยวเฟิงหลินยิ้มอ่อนเราพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า "ท่านอู๋ไม่คิดจะคุยเรื่องจริงจังกับข้าเลยใช่หรือไม่?" อู๋เทียนหยุถอนหายใจแล้วยกแก้วชาขึ้น "ที่ข้าพูดล้วนออกมาจากใจข้าทั้งนั้น" เชี้ยวเฟิงหลินยกน้ำชาขึ้นดื่มแล้วมองออกไปยังถนนที่เต็มไปด้วยโคมไฟ ดีมาก!ตอนนี้แม้แต่คำเดียวก็คุยต่อไปไม่ได้แล้ว สักพักก็มีเสียงเปิดประตูดังขึ้น หลานฉันจึงหันกลับมาตามเดิมแล้วพูดกับโจงเซินและหลี่ซีที่เดินเข้ามาว่า "นี่ก็ดึกแล้ว อาเซินเรากลับกันเถอะ" หลี่ซีรีบดึงแขนโจงเซินไว้แล้วมองไปที่เชี้ยวเฟิงหลิน โจงเซินมองหลี่ซีด้วยสีหน้างุนงง แล้วหันไปบอกกับเชี้ยวเฟิงหลินว่า "ท่านพี่จะให้ข้ากลับกับท่านงั้นรึ?" "ใช่" เชี้ยวเฟิงหลินจ้องตากับหลี่ซี "ถ้าเจ้าอยากหางานทำข้าก็หาให้เจ้าได้ จะไปรบกวนท่านอู๋ทำไมกัน?" "ถ้าไม่รู้สึกว่าถูกรบกวน" อู๋เทียนหยุตอบด้วยรอยยิ้ม "ท่านเชี้ยวเป็นห่วงข้าขนาดนั้นทำไมกัน?" เชี้ยวเฟิงหลินทำเป็นไม่ได้ยิน โจงเซินมีสีหน้างุนงงเล็กน้อย "ไม่ต้องหรอก!ข้ารับปากกับพวกเขาไว้แล้วจะให้กลับคำได้อย่างไรกัน?" โจงเซินพูดอย่างระมัดระวังกลัวเชี้ยวเฟิงหลินจะไม่พอใจ "แม้ว่าข้าอยากจะไปหาท่านเล่น แต่…...ถ้าท่านแม่ข้ารู้เข้ามีหวังโดนด่าแน่ ชอบหาว่าข้าไปรบกวนท่านพี่อยู่เรื่อย" เชี้ยวเฟิงหลินเงียบไปครู่นึง พอเห็นว่าโจงเซินมีสีหน้าอึดอัดจึงพูดไปว่า "ก็ได้" เชี้ยวเฟิงหลินลงไปที่อู๋เทียนหยุแล้วพูดกับโจงเซินว่า "ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรมาหาค่าได้เสมอ" "ถ้าเกิดเขามีปัญหา หลี่ซีคงวิ่งไปช่วยเป็นคนแรกแน่นอนท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอก" อู๋เทียนหยุตอบ "......" เชี้ยวเฟิงหลินหันไปมองอู๋เทียนหยุแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "มีท่านอู๋อยู่ทั้งคนเข้าไว้ใจอยู่แล้ว ถ้าเช่นนั้นข้าลาล่ะ" อู๋เทียนหยุยิ้ม "เจอกันพรุ่งนี้นะขอรับ" เชี้ยวเฟิงหลินตอบกลับด้วยสีหน้าเฉยชา ดูออกชัดเจนว่าความมั่นใจของท่านไท่เว่ยหาใครอื่นเทียบไม่ได้จริงๆ โรงยาสมุนไพรต่างๆในตำหนักไท่เว่ยมีหลี่ซีเป็นคนลงมือดูแลเองทั้งหมด โจงเซินทำได้เพียงเดินป่นสังเกตด้วยสีหน้าพอใจ อู๋เทียนหยุกลับยืนมองอยู่ห่างๆแล้วเดินกลับเรือนไป พอโจงเซินเห็นจึงรีบวิ่งตามไป อู๋เทียนหยุหันไปถามโจงเซินและหลี่ซีที่เดินตามหลังด้วยความรำคาญ "ทำอะไรของพวกเจ้า?" หลี่ซีตอบ "อะไร?" โจงเซินครุ่นคิดอยู่พักใหญ่แล้วพูดว่า "ท่านอาจารย์ไป๋หลี๋เองก็สิ้นชีพแล้ว วันเดียวกับวันที่ข้าฝังอาจารย์ข้า" อู๋เทียนหยุยืนอึ้งหันไปมองท่าทีของหลี่ซีแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ "อืม!แล้วยังมีอะไรอีกไหม?" "ท่านอาจารย์ไป๋หลี๋สั่งให้ข้าฝังเขารวมกับอาจารย์ของข้า อาจารย์ไป๋หลี๋บอกว่าไม่ต้องแจ้งให้พวกเจ้ากลับไป แต่ว่ามีคำพูดหนึ่งที่เขาฝากมาให้เจ้า" โจงเซินมองไปที่อู๋เทียนหยุ อู๋เทียนหยุเอามือยันค้างไว้แล้วถามโจงเซิน "ว่า?" โจงเซินครุ่นคิดไปพักหนึ่งแล้วพูดขึ้นเบาๆว่า "ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจ้า" อู๋เทียนหยุหลับตาแล้วหัวเราะออกมา โจงเซินทำตัวไม่ถูกขึ้นมาในทันที เขาเพียงแค่ส่งต่อคำพูดแต่ไม่ค่อยเข้าใจความหมายนั้นสักเท่าไหร่ และไม่รู้จะจัดการกับท่าทีของอู๋เทียนหยุในตอนนี้ยังไง หลี่ซีตั้งสติได้จึงยกแขนขึ้นไปพาดไหล่โจงเซิน เราพยายามปรับน้ำเสียงให้อ่อนลง "เขาซางอู๋มีแค่เจ้าคนเดียวหรอ?" โจงเซินรู้สึกอึดอัดแต่ก็พยักหน้าอย่างเร็ว "ท่านอาจารย์ไป๋หลี๋ไม่ชอบความวุ่นวาย ข้าเองก็ไม่อยากให้ใครขึ้นเขาซางอู๋เช่นกัน" หลี่ซีลูบหัวโจงเซินเบาๆแล้วพูดว่า "เจ้าทำได้ดีมาก" ความอ่อนโยนนั้นทำให้โจงเซินน้ำตาคลอเบ้า แต่ก็พยายามฉีกยิ้ม "อาจารย์ชอบต้นมะเดื่อ ค่ะก็เลยปลูกไว้ให้ข้างหลุมฝังศพ แม้ว่าเราทั้งสามจะไม่อยู่แต่ข้าหวังว่าต้นมะเดื่อคงจะบังแดดบังฝนให้พวกท่านได้บ้าง" หลี่ซีก้มหัวมองโจงเซินด้วยสายตาอ่อนโยน ผ่านไปครู่หนึ่งก็ไม่เห็นอู๋เทียนหยุพูดอะไร โจงเซินจึงรีบหาหัวข้อพูดคุย "เออจริงสิ!นี่อู๋เทียนหยุ ถ้าเรียกเจ้าอยู่ไม่ได้ยินหรือไง?เจ้าไม่ถูกกับท่านพี่ข้าใช่ไหม?" โจงเซินเองก็ไม่ใช่คนโง่ บรรยากาศหลังจากกลับมาจากหอสุราแปลกไปเขาเองก็สังเกตได้ อู๋เทียนหยุลืมตาแล้วพูดว่า "มีหรอ?เขารู้สึกปกติดีนี่" โจงเซินนึกถึงคำที่หลี่ซีถามเมื่อตอนเย็นแล้วจึงถามขึ้นว่า "เท่ากับท่านพี่ข้าไม่ถูกกันจริงๆหรอ?" อู๋เทียนหยุยิ้มแต่ก็ไม่ได้สนใจคำพูดของเขา "ถ้าเกิดเป็นเช่นนั้นแล้วก็……" โจงเซินมีสีหน้ากลุ้มใจ "พวกเจ้าทั้งสองเป็นเพื่อนซี้ข้า ส่วนท่านพี่ก็เลี้ยงดูข้ามาตั้งแต่เด็ก ข้าจะไม่เลือกใครทั้งนั้น ถ้าเกิดวันหนึ่งพวกเจ้าต้องสู้กัน ข้าก็จะช่วยทั้งสองฝ่าย……" เสียงค่อยๆเบาลง โจงเซินรู้สึกประหม่าถึงเลิกพูดไป "ถ้าไปดูที่โรงยาก่อนละนะ" พูดจบก็รีบวิ่งหนี หลังจากที่โจงเซินจากไป หลี่ซีจึงหันไปถามอู๋เทียนหยุ "ศิษย์พี่ ต่อไปเรายังจะจัดการกับเชี้ยวเฟิงหลินอยู่ไหม?" "ทำไมจะไม่ล่ะ?" อู๋เทียนหยุถาม "พอมีสายสัมพันธ์ญาติก็คิดจะล้มเลิกอย่างนั้นรึ?" "แต่โจงเซินเขา……" "ถ้างั้นข้าก็จะไว้ชีวิตเชี้ยวเฟิงหลินเพื่อโจงเซินก็ได้" อู๋เทียนหยุมองหลี่ซี "หรือเจ้าจะขอให้ข้ายอมแพ้งั้นรึ?" หลี่ซีได้แต่ส่ายหน้าไปมา เพราะสิ่งที่เขารู้ก็ต่างจากโจงเซินไม่มาก คำที่อาจารย์ฝากมาให้ หลี่ซีเองก็ไม่เข้าใจแม้ว่าตนจะอยู่ข้างกายอู๋เทียนหยุมาหลายปีก็ตาม หลี่ซีดูออกว่าอู๋เทียนหยุไม่ปกติแต่ก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าเพราะอะไร "ศิษย์พี่……" "เจ้าได้ยินคำที่โจงเซินพูดหรือยัง?" อู๋เทียนหยุถาม หลี่ซีมองอู๋เทียนหยุด้วยสายตาเป็นห่วง แล้วตอบว่า "ข้าได้ยินแล้ว" ปู่เทียมวางมือลง "คำว่าพวกเจ้าเป็นเพื่อนซี้ข้า แปลว่าเจ้าเป็นเพียงเพื่อนซี้เขา" อู๋เทียนหยุกล่าว "เพื่อนซี้ของโจงเซินเอ๋ย เมื่อไหร่เราจะบอกให้โจงเซินรู้ตัวสักทีว่าเจ้าไม่อยากเป็นแค่เพื่อนซี๊?" ".…." หลี่ซีก้มหน้าเงียบแล้วพูดขึ้นเบาๆว่า "ถ้าไม่อยากบังคับเขา รอเขารู้เองจะดีกว่า" "รอให้คนที่สมองน้อยยังโจงเซินรู้เอง ถ้าคิดว่าคงต้องรอจนลูกชายของเขาเรียกเจ้าว่าท่านลุง" อู๋เทียนหยุมองไปที่หลี่ซี "เจ้าเข้าใจความหมายที่ข้าพูดหรือไม่?" "อะไร?" หลี่ซีหันกลับไปทันที อู๋เทียนหยุพูดอย่างจริงจัง "เราเป็นคนคิดน้อยส่วนโจงเซินเองก็เป็นคนสมองน้อย เจ้าคิดว่าพวกเจ้าใครโง่ร้ายแรงกว่ากันล่ะ?" หลี่ซี "......" ข้าจะเป็นห่วงคนแบบนี้ทำไมกัน?หลี่ซีคิดแล้วหันหลังเดินหนี อู๋เทียนหยุยืนหัวเราะอย่างชอบใจ หลังจากที่หลี่ซีเดินลับตาไป เสียงหัวเราะของอู๋เทียนหยุก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นเสียงถอนหายใจ "......ขึ้นอยู่กับข้างั้นหรอ?" อู๋เทียนหยุแบมือดูลายมือตัวเอง แล้วเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอันมืดมิด "ข้ารู้ตัวเองอยู่เสมอ"
已经是最新一章了
加载中