บทที่ 8 กลั่นแกล้ง   1/    
已经是第一章了
บทที่ 8 กลั่นแกล้ง
บ๗ที่ 8 กลั่นแกล้ง สิ่งที่โผล่เข้ามาในสายตาคือรูปปั้นที่ประดับอยู่ภายในห้องโถงของบ้านตระกูลเสิ่น ได้ยินมาว่านั่นคือหนึ่งในของที่คุณท่านซ่งโปรดปรานมากที่สุดเมื่อตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ เสิ่นฉ่ายเวยมองไปอย่างอึ้งๆ หัวใจของเย็นแข็งเช่นเดียวกับประติมากรรมที่ทำมาจากหิน และนี่ทำให้เธอเพิ่งตระหนักได้ว่าตัวเองนั้นโง่งมมากขนาดไหน รีบหันกลับอย่างแมงกับเม่าบินเข้ากองไฟ ทว่านำ บางที่เธอควรทำตามที่ข่ายเจ๋พูดว่าควรจะหนีออกจากที่นี่ หาที่เงียบสงบสักที่ แล้วใช้ชีวิตต่อไป มือของหญิงสาวทาบทับหน้าอกเพื่อฟังเสียงหัวใจ ที่คล้ายกับระเบิดเวลา ที่สามารถจุดให้ระเบิดได้ทุกที่ทุกเวลา ซ่งหมิงเยี่ยพยายามเก็บตัว กลัวว่าซ่งหมิงเยี่ยจะเจ็บปวด แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สนใจแล้ว เพราะไม่ชอบ เพราะไม่รัก ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นหรือตายสักนิดก็ไม่เคยสนใจ ที่ปากทางบันไดมีเสียงดังขึ้น เธอเงยหน้าและสบตากับเสิ่นฉ่ายหมุยอย่างพอดิบพอดี เธอยิ้มเอาแต่ใจตัวเองแล้วเอ่ยขึ้น “พี่ รังนกในห้องครัวคงใกล้เสร็จแล้ว เธอช่วยไปยกมาให้หน่อยสิ ” วันนั้น หลังจากเสิ่นฉ่ายเวยถูกบังคับให้พาออกจากโรงพยาบาลมา ก็ถูกบีบบังคับให้มาอยู่กับผู้หญิงคนนี้ เธอหันหน้ากลับไปมองเรียบๆ “ฉันไม่ใช่คนรับใช้ เธออยากกินก็ไปยกเอง ” “ตอนนี้หมิงเยี่ยไม่อยู่ที่นี่”เสิ่นฉ่ายหมุยจับราวบันไดเอาไว้แล้วยกเท้าขึ้นกลางอากาศ ยกยิ้มเยาะ “เธอลองทายดูซิ ถ้าฉันเหยียบลงไปบนอากาศ เธอจะกลายเป็นยังไงนะ?” หัวใจของหญิงสาวกระตุกไปทีหนึ่ง หลังจากนั้นจึงเก็บอาการสีหน้าท่าทางด้วยความรวดเร็วแล้วเดินเข้าห้องครัวไป เสิ่นฉ่ายหมุยที่เดินกลับลงมาที่เดินยิ้มเยาะอย่างสบายอารมณ์ ทำไมเธอถึงได้จงเกลียดจงชังเสิ่นฉ่ายเวย หรือเป็นเพราะเธอสมบูรณ์แบบเกินไป สมบูรณ์แบบเสียจนไม่มีใครรักเธอ ตั้งแต่เล็กจนโต ทุกๆคนที่เจอพวกเธอสองพี่น้อง ครั้งแรกที่มองเห็นมักจะเป็นเสิ่นฉ่ายเวย ทว่าเธอกลับเป็นเพียงใบไม้ที่ช่วงขับให้ดอกไม้สดอย่างพี่ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น เป็นโคลนตมใต้เท้าของดอกโบตั๋น ทำไมล่ะ! เธอจะไม่ยอม! เมื่อก่อนพี่สาวอันสูงส่งที่อยู่บนสวรรค์ เธอจะเป็นคนดึงลงมากระทืบด้วยตัวเธอเอง เสิ่นฉ่ายหมุยยิ้มเยาะอย่างสบายใจ นิ้วมือของหญิงสาวค่อยๆรวบกำมือทีละน้อยเข้าไว้ด้วยกัน ราวกับกำลังกดเก็บความแค้นจนอยากจะบีบให้เป็นผุยผง เธอต้องการให้เสิ่นฉ่ายเวยรับรู้ว่ารสชาติของนรกมันเป็นเช่นไร! เสิ่นฉ่ายหมุยนั่งบนเก้าอี้ราวกับสนมกุ้ยเฟยในห้อง ตั้งแต่เธอกลับมา ผู้เป็นเจ้าของของห้องนอนนี้ก็กลับไม่ใช่เสิ่นฉ่ายเวยอีกต่อไปพร้อมๆกับก้าวขึ้นบันไดขึ้นไป จิตใจของเสิ่นฉ่ายเวย ก็ยิ่งจมดิ่งลงไปเรื่อยๆทีละนิด ตัวเองเป็นอ่อนแอราวกับคนกำลังจมน้ำ อีกนิดก็จะหมดหนทางหายใจแล้ว เสิ่นฉ่ายเวยหยิกตัวเองไปครั้งหนึ่ง ตั้งใจทำให้อารมณ์ของตนคงที่ เดิมที่เธอจะเอารังนกวางไว้ที่หัวเตียงก็พอแล้ว ใครจะรู้ว่ากลับได้ยินเสียงของผู้หญิงดังขึ้น “แม้ว่าจะยกมาแล้ว แล้วทำไมไม่เอามาส่งให้ถึงมือฉันล่ะ? หรือว่า พี่ยังไม่พอใจอะไรฉันอีกหรือเปล่า?” เธอหัวตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว เสิ่นฉ่ายเวยใช้แววตาหยอกเล่นมองมาที่เธอ เธอตั้งใจกลั่นแกล้งตนเอง อีกแค่ไม่กี่ก้าวก็ส่งให้ได้แล้ว เธอพยายามพูดโน้มน้าวใจตัวเอง แต่ทว่า เสิ่นฉ่ายเวยกำลังจะเดินไปหาอีกฝ่าย ถ้วยร้อนในมือกลับถูกปัดคว่ำด้วยความรวดเร็วและรุนแรง ซุปรังนกร้อนผ่าวหกใส่ท่วมมือ! “เพล้ง!” “พี่ ท่าทางแบบนี้คืออะไรกัน? ถ้าไม่อยากให้ฉันกินก็ช่างมันเถอะ ทำไมจะต้องทำหกต่อหน้าฉันด้วยล่ะ?” “ซ่งหมิงเยี่ยไม่อยู่แปปเดียว เธอก็จะทำแบบนี้แล้วใช่ไหม? ”เสิ่นฉ่ายเวยขมวดคิ้ว เธอประคองมือที่โดนซุปหกใส่ของตนเองขึ้น ใบหน้าไม่เปลี่ยนอารมณ์จ้องมองไปยังหญิงสาว “สักวันหนึ่งเขาจะต้องรู้ว่าเนื้อแท้ของเธอเป็นยังไง!” เพียงแค่เห็นใบหน้าที่เริ่มถอดสีไปทีละนิดของเสิ่นฉ่ายหมุย ปากของเธอก็เริ่มอ้ำอึ้ง พูดอะไรแทบไม่ออก “ฉัน ฉันมีเนื้อแท้ที่ว่าอะไรตรงไหนกัน? พี่พูดแบบนี้ เป็นเพราะเกลียดฉันใช่ไหม?” เสิ่นฉ่ายเวยรู้สึกว่าท่าทางของเธอที่เปลี่ยนไปก่อนหลังช่างต่างกันอย่างน่าประหลาดใจ ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าด้านหลังมีสายลมเย็นยะเยือกพัดโชยมา เมื่อหันกลับไป ก็พบว่าซ่งหมิงเยี่ยยืนอยู่หน้าประตู สายตาคมดั่งเหยี่ยวจ้องมาดั่งมีพายุเริ่มก่อตัวขึ้นมา ชายหนุ่มเดินเข้ามาด้วยใบหน้าอันเย็นชา เอ่ยถามกับเสิ่นฉ่ายหมุยด้วยความอบอุ่น ทั้งยังสำรวจร่างกายของเธออย่างละเอียดทุกมุม ดูว่ามีส่วนไหนโดนซุปร้อนเมื่อกี้หกใส่อีก ในที่สุด เขาก็ชี้ไปยังเศษบนพื้นแล้วสั่งเสิ่นฉ่ายเวย “เธอมาเก็บซะ คุกเข่าเก็บทีละนิดเช็ดให้สะอาด” 
已经是最新一章了
加载中