บทที่ 9 กรงขัง   1/    
已经是第一章了
บทที่ 9 กรงขัง
บ๗ที่ 9 กรงขัง คนรับใช้เอากล่องปฐมพยาบาลมาให้ซ่งหมิงเยี่ยจึงลงมือทายาให้เสิ่นฉ่ายหมุยด้วยตนเอง แผลน้ำร้อนลวกบนมือของเสิ่นฉ่ายหมุย ดูแล้วขนาดประมาณแค่เมล็ดข้าว ทว่าในสายตาของเขากลับเหมือนบาดแผลใหญ่ อดไม่ได้ที่ใช้ผ้าพันแผลพันเอาไว้ทั้งหมด เสิ่นฉ่ายหมุยร้องไห้หัวเราะไม่ออก ใช้น้ำเสียงน่ารักพูดขึ้น “ซ่งหมิงเยี่ย คุณไม่ต้องทำแบบนี้ คุณดูสิฉันดิ้นไม่ได้แล้วนะ” “อย่าดื้อสิ บาดแผลห้ามโดนน้ำนะ” สายตาของชายหนุ่ม ก้มมองลงไปมองหญิงสาวที่กำลังคุกเข่าและค่อยๆเช็ดพื้นอยู่ จากมุมที่เขามองอยู่สามารถที่จะเห็นโครงจมูกโด่งของหญิงสาวและขนตาแพงอนยาวธรรมชาติคล้ายกับปีกผีเสื้อ ขนตาแพงอนนั้นกำลังสั่นไหว หยดน้ำตาใสราวคริสตัลหยดหนึ่งไหลออกมา แล้วร่วงลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว เธอจึงรีบใช้ผ้าขี้ริ้วเช็ดออกอย่างรวดเร็ว หัวใจของซ่งหมิงเยี่ยกำลังสั่นไหวอย่างอธิบายไม่ได้ อารมณ์ที่เพิ่งดีขึ้นก็กลับครึ้มมืดลงอีกครั้ง ให้ตายเถอะ ทำไมเขาถึงรู้สึกไม่สบายแทนเธอกันนะ? หลังจากที่เก็บกวาดรังนกเสร็จแล้วเรียบร้อย เสิ่นฉ่ายเวยก็เร่งเดินกลับไปยังห้องของตนเอง ปิดประตูลงกลอน แล้วจึงต่อสายไปหาข่ายเจ๋เป็นอันดับแรก “ฮัลโหล เวยเวยเป็นอะไร?” น้ำเสียงที่ได้ยินนอกมาจากสายฝั่งนู้นของข่ายเจ๋ช่างอบอุ่น เธอสะอื้นจนเสียงไม่ออก “คุณ คุณช่วยฉันจัดการหาที่อยู่ข้างนอกให้หน่อยได้ไหม? ฉันอยากหนีไปจากที่นี่” ฝั่งนั้นมีเสียงเสียดสีของเสื้อผ้า คือข่ายเจ๋ที่นั่งลง เขาเอ่ยถามเสียงจริงจัง “พวกเขากลั่นแกล้งเธออีกแล้วใช่ไหม? ไอ้เจ้าสองคนนี้! ได้ ฉันจะไปจัดการให้เดี๋ยวนี้แหละ!” “ขอโทษ”เสิ่นฉ่ายเวยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ฉันนึกไม่ออกแล้วว่าใครจะสามารถช่วยฉันได้” ข่ายเจ๋นิ่งไป เขารู้ว่าเธอหมายถึงคำพูดวันนั้นที่ในโรงพยาบาล ตัวเองพูดว่าจะพาเธอไป ความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดนั้นได้แสดงออกมาชัดเจนเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ที่เธอกำลังอธิบาย ก็เพียงแค่อยากจะอธิบายชี้แจง เธอไม่ได้ใช้มัน แต่กำลังจนปัญญาจริงๆนั่นแหละ ข่ายเจ๋ถอนหายใจออกมารอบหนึ่ง “เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพวกเรา เธอพูดเรื่องพวกนี้ขึ้นมาทำไม? ฉันเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว เธอออกมาก่อนเถอะ” เธอไม่รู้เลยว่า ระหว่างห้องและรอยแยกที่พื้น มีกลุ่มเงาสีดำซ่อนอยู่ เพียงแค่รอเธอพูดจบจึงค่อยสลายตัวแยกไปอย่างเงียบเชียบ ในกลางดึกสงัด เสิ่นฉ่ายเวยที่เก็บของเรียบร้อยแล้ว ในช่วงบ่ายซ่งหมิงเยี่ยก็จะต้องไปบริษัทแล้ว ได้ยินมาว่าคงไม่กลับมา ยังดีที่เหลือยานพาหนะทิ้งไว้ให้เธอ หลังจากข่ายเจ๋ส่งข้อความมาให้ หญิงสาวจึงค่อยๆเก็บถือกระเป๋าย่องออกไปข้างนอก “ปัง” ทันใดนั้นห้องนั่งเล่นที่มืดมิดก็ส่องสว่างขึ้น สายตาของเสิ่นฉ่ายเวยที่ยังชินกับความมืด ถูกแสงไฟสะท้อนเข้าจนลืมตาไม่ขึ้นอยู่พักหนึ่ง เสิ่นฉ่ายหมุยที่ยืนกอดอกอยู่บนชั้นสองมองลงมาข้างล่าง “พี่ พี่ยังจะบอกว่าพี่กับผู้ชายคนนั้นไม่มีอะไรกัน นี่ก็ดึกขนาดนี้แล้วยังจะไปไหนอีก” “ฉันจะไปไหนมันก็ไม่เกี่ยวกับเธอ”หญิงสาวตอบขึ้นอย่างไม่สะทกสะท้าน “แต่เกี่ยวกับฉัน”เสียงของซ่งหมิงเยี่ยได้ยินมาจากนอกประตู ตัวเขายังสวมเสื้อโค้ดและสูทของเมื่อตอนที่ออกบ้าน กระชากดึงร่างบานจนร้องเสียงหลง โดยเฉพาะความโกรธที่อยู่ใบหน้าแสดงออกว่าจะทำลายทุกสิ่ง เสิ่นฉ่ายเวยถูกความหวาดกลัวยึดเอาไว้ เธอถอยหลังไปแค่ไม่กี่ก้าว กลับถูกชายหนุ่มคว้าข้อมือแล้วลากเข้าไป เมื่อใกล้จะถึงประตูห้องก็ถูกซ่งหมิงเยี่ยใช้เท้าถีบเปิดออก ร่างบางเบาหวิวของหญิงสาวถูกชายหนุ่มเหวี่ยงลงบนที่นอน ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ทำไมถึงเบาขนาดนี้? เธอยังสูงกว่าเสิ่นฉ่ายหมุยเสียอีก แต่ทว่าน้ำหนักเกรงว่าจะไม่เท่าเธอ “ปล่อยฉันนะ! ฉันมิสิทธิเสรีภาพนะ!”เสิ่นฉ่ายเวยขันขืดต่อต้านอย่างบ้าคลั่ง อยากจะหลุดพ้นออกจากพันธนาการของซ่งหมิงเยี่ย “คุณไปใช้ชีวิตกับเสิ่นฉ่ายเวยเถอะ พวกเธอชนะแล้ว!” “อย่าลืมสิ เธอคือคุณผู้หญิงซ่งนะ หากไม่ได้รับอนุญาตจากฉันก่อน เธอก็อย่าหวังว่าจะถอดชื่อนี้ออกได้” เสียงพูดของเขาลดลง ทันใดนั้นหญิงสาวก็รู้สึกว่าที่ข้อเท้าของตนมีอะไรเย็นๆบางอย่างสวมเอาไว้ เธอก้มลงมอง เครื่องตรวจติดตามล้อมรอบอยู่ที่ข้อเท้าของเธอ ราวกับว่ามันกำลังหัวเราะเยาะเธอที่กำลังเพ้อว่าจะสู้กับชายหนุ่มได้ก็ไม่ปาน “ของสิ่งนี้ฉันสั่งทำเอง มีแค่ฉันคนเดียวที่จะแกะมันออกได้ ไม่ว่าเธอจะหนีไปที่ไหน ฉันก็หาเจอ!” เสิ่นฉ่ายหมุยหยุดขัดขืน คล้ายกับลูกบอลที่แบนแล้วนอนแผ่อยู่บนเตียง ซ่งหมิงเยี่ยคิดว่าเธอคงไม่พูดอะไรต่อแล้ว ทว่าในเวลานั้นก็ได้ยินเสียงเย็นยะเยือกของหญิงสาวดังแหวกอากาศขึ้นมา “ซ่งหมิงเยี่ย ฉันจะไม่มีวันให้อภัยคุณ”
已经是最新一章了
加载中