บทที่10 พ่อเสียชีวิตอย่างกะทันหัน   1/    
已经是第一章了
บทที่10 พ่อเสียชีวิตอย่างกะทันหัน
บ๗ที่10 พ่อเสียชีวิตอย่างกะทันหัน สำนักงานทนายความ รินรดาเเละธีรโรจน์มองทนายไวทินที่อยู่ตรงหน้า เขาดูไม่สูงเท่าไหร่ รูปร่างผอม ใส่เเว่นสี่เหลี่ยมเล็กๆ ทำให้ดูเป็นคนฉลากหลักเเหลม “คุณหนูรินรดา ตามพินัยกรรมที่ท่านได้ร่างไว้ คือเเม่เลี้ยงของคุณอธิชาเเละน้องสาวของคุณสศิชาเป็นคนสืบต่อบริษัทเเละสมบัติทั้งหมด!” พอฟังทนายไวทินพูดพินัยกรรมที่ร่างไว้ทั้งหมดเเล้ว ทำให้รินรดารู้สึกตกใจมาก “เเต่ว่า เมื่อสักครู่ที่ฉันไปเยี่ยมคุณพ่อมา ท่านไม่ได้บอกเเบบนี้” “ขอโทษด้วย ผมไม่รู้ว่าคุณพ่อของคุณบอกอะไรกับคุณบ้าง เเต่ว่าการรับปากจากเเค่คำพูดนั้นไม่มีผลทางกฎหมาย ผมทำได้เเค่ทำตามกฎหมายของพินัยกรรมนี้!” “ทนายไวทิน คุณไม่ได้ทำอะไรผิดใช่ไหม? เรื่องนี้คุณพ่อจะหลอกฉันได้ยังไง?” “คุณหนูรินรดา ไม่ผิดเเน่นอน ตอนที่ท่านร่างพินัยกรรมฉบับนี้ ยังกำชับผมว่า คุณย้ายออกจากบ้านตระกูลบวรพลนานเเล้ว ความสัมพันธ์พ่อลูกระหว่างท่านเเละคุณก็ห่างเหินกัน ท่านคิดว่าคุณไม่มีคุณสมบัติของผู้สืบทอดสมบัติ” ตอนที่ทนายไวทินพูด สายตามีเเววที่มีเเผนการ “นี่เป็นไปไม่ได้! ช่วงเวลาที่ท่านประธานป่วยพักรักษาตัวในโรงพยาบาย พูดถึงคุณหนูใหญ่เเละเเม่ของเธอบ่อยที่สุด ท่านประธานรู้สึกผิดต่อพวกเธอทั้งสอง อยากจะทดเเทนสิ่งต่างๆหลายๆอย่าง” เวลานี้ ธีรโรจน์ที่ยืนอยู่ข้างๆก็เริ่มทนไม่ไหวเเล้ว “เเต่ว่าในพินัยกรรม ก็มีลายมือชื่อของท่านประธานไว้” ทนายไวทินพูดอย่างมีหลักฐาน “พินัยกรรมต้องมีปัญหาเเน่เลย ผมจะไปถามท่านประธานตอนนี้เลย!” ธีรโรจน์พูดอย่างโมโห “คงพูดอะไรมั่วๆไม่ได้ คุณรู้ไหมว่านี้ต้องมีการรับโทษทางกฎหมาย?” ทนายไวทินพูดเตือนเขา ธีรโรจน์ไม่ได้สนใจทนายไวทิน เเต่กลับมองที่รินรดา “ไม่อยากเสียเวลากับเขา! ไป! ผมพาคุณไปหาท่านประธาน!” ทนายไวทินไม่ได้โกรธเลย เเต่พูดด้วยเสียงเรียบว่า “พินัยกรรมฉบับนี้ก็จะเริ่มใช้ได้ตั้งเเต่ท่านเสียชีวิตลง พวกคุณอย่าไปลองทำเรื่องที่ไม่มีประโยชน์ดีกว่า” พอได้ยินเขาพูดเเบบนี้ ใจของรินรดาก็เริ่มตื่นเต้นขึ้นมา ที่เขาพูดหมายความว่าอะไร? ธีรโรจน์ก็ไม่กล้าที่จะมีความสงสัยกว่านี้ ออกจากสำนักงานทนายความ พารินรดาขับรถไปที่โรงพยาบาลอย่างเร่งรีบ อยู่ภายใต้ของการอยู่ข้างๆของธีรโรจน์ รินรดาถึงโรงพยาบาล รีบไปยังห้องพักผู้ป่วยvipของพ่อเธอ เธอที่ยืนอยู่หน้าห้องvipหยุดนิ่งลง มองดูสีหน้าที่ไม่สู้ดีของหมอเเละพยาบาลที่เข้าๆออกๆ ในใจก็ยิ่งกลัวขึ้นมา ตอนนี้เเม่เลี้ยงของเธออธิชากำลังยืนเช็ดน้ำตาอยู่หน้าห้อง จริงๆเเล้วคือในใจดีใจมากเเต่กลับเสเเสร้งว่าเสียใจ ทำให้รู้สึกโกรธ “รินรดา รินรดา เธอมาสักที พ่อเธอจะไม่ไหวเเล้ว ให้ฉันเจอกับเรื่องเเบบนี้คนเดียว ฉันควรทำยังไงดี?” เจอเเม่เลี้ยงที่มาร้องไห้กับเธอ รินรดายิ้มอย่างเยือกเย็น “ หยุดเเสดงเถอะ นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธออยากได้หรอ?” “รินรดา ทำไมเธอถึงพูดเเบบนี้? จะถึงยังไงฉันก็เป็นสามีภรรยากับทยากรมาสิบกว่าปี” ถึงเเม้ในใจของเธอจะเกลียดรินรดามาก เเต่ว่าตอนนี้ก็ต้องเเสดงว่าตัวเองอ่อนเเอ “ถามจริง เธอเคยรู้สึกจริงใจกับพ่อฉันด้วยหรอ?” “นังนี่ เเก!” สุดท้ายอธิชาก็เเสดงต่อไปไม่ไหวเเล้ว ทนไม่ไหวจนเเสดงตัวตนออกมา “ญาติคนไข้ล่ะ?ใครคือญาติคนไข้?” เสียงเรียกของหมอก็ดังมาทันที รินรดารีบหันกลับไป มองที่หน้าของหมอ “หมอค่ะ ฉันคือลูกสาวของเขา” หมดดึงผ้าปิดปากลง มองเธอเเล้วส่ายหน้า “ขอโทษจริงๆ เราทำอย่างเต็มที่เเล้ว” “จะเป็นไปได้ยังไง? พ่อ” ถึงเเม้ว่าจะคาดเดาอาการของพ่อไว้เเล้ว เเต่ก็ไม่คิดว่าจะกะทันหันขนาดนี้ รอบตาก็เริ่มเต็มไปด้วยน้ำตา ความโกรธที่มีต่อพ่อมาตลอด ตอนนี้ก็หายไปเเล้ว เธอเผชิญหน้ากับความตายอย่างนิ่งเรียบ “หื้อ ทยากร ทำไมคุณคิดจะไปก็ไปเลย” เสียงร้องไห้ของอธิชาดังขึ้นมา ตอนนี้รินรดารู้สึกหนวกหูมากเลย ธีรโรจน์รู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำ พูดข้างหูของรินรดา “คุณหนูใหญ่ ท่านประธานไปเร็วขนานนี้ อาจจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้?” คำพูดของธีรโรจน์เตือนรินรดา ทำให้เธอคิดถึงเรื่องการเปลี่ยนเเปลงของพินัยกรรม ยิ่งทำให้เธอรู้สึกว่าการตายของพ่อเธอต้องไม่ธรรมดาเเน่ ถึงเเม้คำนี้จะไม่ได้พูดเสียงดัง เเต่ว่าอธิชาก็ได้ยิน เธอยังคงทำการเเสดงของตัวเองต่อ ร้องไห้หนักกว่าเดิม “รินรดา กระดูกขอพ่อเธอยังไม่ทันได้เย็น พวกเธอก็พูดเเบบนี้ ตกลงเเล้วคิดยังไงกันเเน่?” “คนกำลังทำ ฟ้ากำลังดู เธอทำอะไรไว้ เธอรู้ดีเเก่ใจที่สุด!” รินรดามองเธอด้วยความโกรธ อธิชาที่โดนรินรดามองก็รู้สึกกลัว รีบที่จะหาข้อเเก้ตัว เเต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง “รินรดา เธอมีสิทธิ์มาพูดเเบบนี้กับเเม่ของฉันด้วยหรอ?” มีเสียงนึงดังมาจากด้านหลัง รินรดาหันหลังไป ก็เห็นสศิชาที่ยืนตรงบันได ข้างๆยังมีทนายไวทินยืนอยู่ด้วย 
已经是最新一章了
加载中