บทที่ 9 ได้โปรดช่วยพ่อของเธอด้วย   1/    
已经是第一章了
บทที่ 9 ได้โปรดช่วยพ่อของเธอด้วย
บ๗ที่ 9 ได้โปรดช่วยพ่อของเธอด้วย สายฝนที่ตกโปรยปรายลงมาไม่หยุด ช่วยเรียกสติของรสรินที่สลบอยู่ข้างถนนให้กลับมา มือขวาของเธอยังเจ็บปวดอย่างรุนแรงจนไม่สามารถที่จะขยับได้ รสรินอาศัยการพิงกำแพงเพื่อค่อย ๆ พยุงตัวเองขึ้นอย่างยากลำบาก สายฝนที่ตกลงมากระทบหน้าของเธอ เป็นตัวช่วยชำระล้างเลือดที่เกาะอยู่บนหน้าออกไปจนหมด เธอพยายามก้าวขาไปตามถนนอย่างลำบาก จนไปถึงถนนใหญ่ได้ด้วยตัว เอง ก่อนจะเรียกแท็กซี่ไปโรงพยาบาล เพื่อรักษาตัว หลังจากนั้นก็กลับไปที่ห้องพักฟื้นเพื่อดูแลลูกตัวเอง สุขภาพของเด็กยังคงแย่เหมือนเดิม และดูเหมือนว่าจะแย่ลงไปทุกวัน แม้แต่จะร้องไห้ยังไม่มีแรงเลย หมอเข้ามาตรวจอาการเด็กภายในห้องแล้วพบกับรสรินโดยบังเอิญ ก่อนทั้งคู่จะมีโอกาสได้พูดคุยกัน “ตอนนี้เด็กยังไม่สามารถที่จะตื่นเองได้เพราะเขายังเล็กเกินไป ทางโรงพยาบาลของเราเองก็ยังไม่มีเครื่องมือที่จะสามารถรักษาเขาให้หายได้ทำได้ ตอนนี้เราทำได้เพียงรักษาอาการไว้เท่านั้น คุณจำเป็นต้องเปลี่ยนโรงพยาบาลและย้ายเด็กไปรักษาต่อที่ต่างประเทศให้เร็วที่สุด นี้ถึงจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับเขา” “ฉันทราบแล้วค่ะ ขอบคุณคุณหมอนะคะ” รสรินปิดตาลง พยายามขมความเจ็บปวดและเหน็ดเหนื่อยไว้ภายใน ไปต่างประเทศตอนนี้ยังคงทำไม่ได้... ตอนนี้ต้องรีบหาเงิน ก่อนอื่นคงต้องขายคอนโดไปก่อนสินะ “คุณรสรินครับ สีหน้าคุณดูไม่ดีเลย คุณไม่สบายหรือเปล่าครับ?” คุณหมอถามอาการอย่างเป็นห่วง รสรินเอามือแตะหน้าผากก็รับรู้ว่าตัวร้อนรุ่มจริง ๆ คงเพราะจากการตากฝนในวันนั้น “ฉันไม่เป็นไรคะ” ตอนนี้เธอมีเวลามาดูแลตัวเองที่ไหนล่ะ ตอนรีบขายคอนโดเพื่อหาเงินก่อน วันถัดมา รสรินรีบเข้าไปที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ เพื่อทำเรื่องการขายคอนโด และเนื่องจากเป็นการประกาศขายอย่างเร่งด่วนทำให้คอนโดของเธอโดนกดราคาไปค่อนข้างเยอะ แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกเพราะจำเป็นต้องขายมันจริง ๆ หลังจากได้เงินก้อนนี้มาแล้ว เธอก็รีบทำเรื่องย้ายโรงพยาบาลให้กับลูกสาวของเธอ ใช้ทั้งยาและหมอที่เก่งที่สุดในประเทศมารักษา ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ เด็กมีอาการดีขึ้น เธอไม่นอนทั้งวันเพื่อมาเล่นกับลูก พบว่าเขาสามารถลืมตา โบกมือเล็ก ๆ นั้นไปมา พร้อมหัวเราะคิกคักตลอดทั้งวัน “เด็กดี” จากภาพตรงหน้าในขณะนั้นมันทำให้เธอรู้สึกว่าถ้าเธอต้องตายไปพร้อมกับลูกเธอก็ยินดี” “คุณรสรินครับ ตอนนี้โดยรวมแล้วร่างกายของเด็กก็ดีขึ้นมากแล้ว ถึงเวลาที่สามารถพาเขาไปรักษาต่อที่ต่างประเทศได้แล้วครับ” คุณหมอเจ้าของไข้คนใหม่เข้ามาพูดคุย “ตอนนี้เด็กร่างกายดีขึ้นมากแล้ว แต่มันก็ระยะนึงเพียงเท่านั้นอาการเขาอาจทรุดลงจนไม่สามารถเดินทางได้ ดังนั้นผมอยากแนะนำให้คุณพาเขาไปรักษาต่อต่างประเทศภายในสองอาทิตย์นี้” รสรินชะงักไปครู่นึ่ง กัดปากตัวเองแน่นอย่างคิดหนัก ถ้าไปต่างประเทศตอนนี้.. เงินคงไม่พอ สองสามวันมานี้ทั้งค่ายาและค่ารักษาพยาบาลก็จ่ายออกไปเป็นแสนแล้ว แต่ว่า... เมื่อมองไปที่ใบหน้าเล็ก ๆ ของลูกสาวแล้ว ทำให้ตัดสินใจได้ แม้ว่าเงินไม่พอ แต่ก่อนอื่นค่อยมาคิดเรื่องไปต่างประเทศที่หลัง อย่างน้อยตอนนี้ก็รักษาให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้ก่อน ให้เธอสามารถออกมาจากตู้อบให้ได้ก่อน แม้จะคืดอย่างนั้นแต่รสรินก็เริ่มพยายามติดต่อหาโรงพยาบาลที่ต่างประเทศ ซื้อตั๋วเครื่องบิน แล้วเตรียมพร้อมในการออกต่างประเทศไว้แล้ว อย่างไรก็ตามการผ่าตัดของลูกสาวยังไม่ทันเสร็จสิ้น ยูรายุแม่ของเธอก็เข้ามาหาซะก่อน ไม่เจอกันหลายวัน ดูเหมือนว่าแม่ของเธอจะโทรมลงไปเยอะ ใต้ตาทั้งสองข้างก็ดำคล้ำอย่างคนไม่ได้พักผ่อน “ริน! แกรีบไปช่วยบริษัท ช่วยพ่อเร็วเข้า!” ยูรายุเหมือนเจอรสรินก็ตะโกนร้องไห้ขึ้นมา “ตอนนี้พ่อเธอเขาถูกเจ้าหนี้บังคับลากขึ้นไปที่ดาดฟ้าแล้ว แล้วพวกมันยังบอกว่าถ้าไม่มีเงินมาใช้หนี้จะโยนเขาลงมาจากดาดฟ้าให้ตายเลย” “อะไรนะคะ?” รสรินตกตะลึง “ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ละคะ? มันเกิดอะไรขึ้นกันคะแม่?” เพราะสองสามวันมานี้เธอมัวแต่ยุ่งวุ่นวายเรื่องลูก เลยไม่ได้ติดต่อกับที่บ้าน แม่เธอเองก็ไม่ได้คืดต่ออะไรมา เธอเลยคิดว่าที่บ้านคงไม่มีเรื่องอะไร “บริษัทมีปัญหาด้านการเงิน พ่อเขาเลยหาวิธีแก้ปัญหาโดยไปยืมเงินมาห้าล้าน ตอนนี้ขายทั้งบ้านทั้งรถยังไม่พอใช้เลย ยังขาดอีกล้านกว่า! ริน แกรีบไปช่วยพ่อเร็วเข้า ไม่อย่างนั้นพวกเจ้าหนี้ต้องจับเขาโยนลงมาจากดาดฟ้าแน่!” “แต่ว่าเงินนี้หนูเก็บไว้รักษาลูก..” “รสริน!” ยูรายุตะโกน “นั่นพ่อเธอนะ! เธอจะปล่อยเขาตายโดยไม่ช่วยหรอ! ที่พวกเราเลี้ยงเธอมาเป็นสืบกว่าปีเธอลืมไปแล้วหรอ?” รสรินคิดหนัก สุขภาพของลูกตอนนี้ก็รอไม่ได้ นั่นก็พ่อ เธอจะทำอย่างไรดี?
已经是最新一章了
加载中