ตอนที่674 โชคดีที่มีเธอ
1/
ตอนที่674 โชคดีที่มีเธอ
ยั่วรักทนายคนโหด
(
)
已经是第一章了
ตอนที่674 โชคดีที่มีเธอ
ตอนที่674 โชคดีที่มีเธอ นี่ไม่ได้เป็นเพียงการไม่ให้เกียรติงานศพเท่านั้น แต่ยังเป็นการไม่ให้เกียรติคนที่ล่วงลับไปแล้วด้วย เตชิตยังไม่ได้พูดอะไรเลยในวันนี้ อย่างไรก็ตามตอนบ่ายที่เขาออกไปเขาปล่อยทนายเตไว้กับสื่อเหล่านี้ และยังได้หาทนายที่ทรงพลังที่สุดเพื่อที่จะฟ้องร้องเรื่องนี้ นัชชาไม่รู้สึกแปลกใจเลย ถ้าหากว่าเขาไม่ทำอะไรเลยต่างหาก เธอจึงจะรู้สึกเป็นห่วง ถ้าหากให้เขาออกปากพูด ความโกรธเหล่านี้ จะเป็นการแสดงความโกรธที่แท้จริง ไม่สามารถระงับไว้ภายในได้ วันเวลาผ่านไปแต่ละวัน จนกระทั่งถึงวันที่เจ็ด เย็นนั้นหลังจากทานอาหารเสร็จ เล่นกับลูกสักพัก หลังจากกล่อมลูกเข้านอนแล้ว นัชชากลับไปที่ห้องนอนแต่กลับไม่พบชายคนนั้น เธอลงไปหาที่ชั้นล่าง ที่มุมสนามหลังบ้านเธอเห็นคนกำลังเผาบางอย่างอยู่ เธอขมวดคิ้วและเดินเข้าไป เมื่อเธอเข้าไปใกล้ก็สามารถเห็นสิ่งต่างๆที่อยู่ในมือเขา มันเป็นเงินกงเต๊กกองหนึ่ง วันนี้เป็นวันที่เจ็ดหลังจากที่ชายชราจากโลกนี้ไป เขากำลังทำสิ่งที่หลานชายไม่ควรลืม เผาเงินกงเต๊กไปให้ผู้เฒ่าด้วยความกตัญญูจากหัวใจ นัชชาไม่ได้เข้าไปรบกวนเขา เธอรู้ว่าเขายังมีบางคำที่ต้องการพูดคุยกับผู้เฒ่าอยู่ เธอรอให้เขาเผาสิ่งที่อยู่ในมือจนหมดก่อน เธอจึงหมุนตัวกลับไปที่โซฟาด้านหน้า และก้มลงหยิบผ้าห่มบางๆ และเดินไปหาเขา มันเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง อากาศตอนกลางคืนเย็นจัด เขาสวมเพียงเสื้อเชิ้ตตัวเดียวเท่านั้น ต้องหนาวแน่นอน เธอวางผ้าห่มที่อ่อนนุ่มลงบนไหล่ เมื่อเตชิตหันกลับไปมองเขาก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ทางด้านหลังเขา “คุณลงมาทำไมครับ” หลังจากที่ดับขี้เถ้าแล้วเขาก็ลุกขึ้นมา เขายกมือขึ้นและจับมือของเธอไว้ เมื่อสัมผัสถูกผิวที่เย็ดชืด เขาก็เลิกคิ้วขึ้น “เราไปกันเถอะ” “ฉันไม่เป็นไรค่ะ” เธอห่อผ้าห่มบนตัวชายคนนั้นให้กระชับขึ้น “คุณนั่นล่ะ ใส่เสื้อบางขนาดนี้ ถ้าหากคุณเป็นหวัดขึ้นมาพวกทนายที่กล่าวหาคุณยังจะฟ้องคุณอยู่หรือเปล่านะ” เธอจงใจที่จะหยอกเล่นเพื่อให้บรรยากาศผ่อนคลาย เตชิตฟังออก ใจเขารู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง เขาโอบไหล่เธอและกอดเธอไว้ในอ้อมอก เงาร่างของทั้งสองทับซ้อนกัน ผ้าห่มมีขนาดใหญ่พอ ที่จะสามารถห่อร่างกายของพวกเขาทั้งคู่เอาไว้ได้ ระหว่างลมหายใจของพวกเขาเป็นกลิ่นของความสงบในใจ นัชชาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่มืดมิดยากค่ำคืน วันนี้อากาศดี มีดวงดาวมากมาย เกาะกลุ่มกันอย่างหนาแน่นราวกับว่าจะเอื้อมมือสอยลงมาได้สักดวง เธอยกนิ้วขึ้นชี้ดวงหนึ่งในนั้น “มีคนเคยบอกว่าเมื่อคนจากไปจะกลายเป็นดวงดาว บนท้องฟ้ามีมากมายขนาดนั้น ผู้เฒ่าก็ไม่น่าจะเหงานะคะ” เมื่อเปรียบเทียบความโรแมนติกของเธอแล้ว ความคิดของชายหนุ่มช่างเรียบง่ายตรงไปตรงมา “นี่มันเรื่องหลอกเด็กนี่” นัชชาเม้มริมฝีปาก เธอยิ้มอยู่ชัดๆแต่ว่าใจก็เจ็บจี๊ดขึ้นมา “ใครบอกคะ คุณรู้ได้อย่างไรว่าเป็นเรื่องหลอกเด็ก” “ฟังแล้วน้ำตาจะไหล” “ฉันไม่สน ยังไงฉันก็คิดว่ามันเป็นเช่นนั้น” นัชชาพูดอย่างนุ่มนวล “คนเหล่านั้นกลายเป็นดวงดาวคอยจ้องมองพวกเรา คอยปกป้องและให้พรแก่เราอยู่” ชายที่ด้านหลังนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นเบาๆสองสามคำ “หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ” พวกเขายืนอยู่ในสวนหลังบ้าน กำลังมองดูดาวที่เต็มท้องฟ้า นัชชารู้สึกอบอุ่นจากอุณหภูมิร่างกายของชายที่อยู่ทางด้านหลัง อารมณ์ของเธอค่อยๆผ่อนคลายลง ความคิดลอยไปยังที่ห่างไกล ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงคำถามข้อหนึ่ง “ถ้าหากวันหนึ่งพวกเราแก่แล้ว คุณคิดว่าคุณจะจากไปก่อนหรือว่าฉันจะจากไปก่อนคะ” เมื่อพูดถึงเรื่องการจากลา ใบหน้าของเตชิตก็แข็งทื่อขึ้นมา “คุณอย่าพูดจาไร้สาระ” “เปล่านะคะ ฉันคิดเรื่องนี้อย่างจริงจังนะคะ” นัชชาพูดอย่างหมกมุ่น ความจริงแล้วเธอต้องการชี้นำเขาด้วยวิธีนี้ “ถ้าหากเลือกได้จริงๆล่ะก็ ฉันหวังว่าคุณจะไปก่อนค่ะ” แม้ว่าเตชิตรู้ว่าหัวข้อสนทนานี้ช่างเพ้อฝันมาก แต่เมื่อได้ยินคำตอบนี้เขาก็อดที่จะถามไม่ได้ “ทำไมล่ะ” “เพราะว่าฉันไม่อยากเห็นคุณต้องทนทุกข์ใจเพราะว่ามีใครจากคุณไปอีก ถึงแม้ว่าคนคนนั้นจะเป็นฉัน ฉันก็ไม่อยากค่ะ” เสียงเบาๆของหญิงสาวที่ลอยมาเข้าหูในยามค่ำคืน ร่วงหล่นลงเหมือนใบไม้ที่ปลิวลงในทะเลสาบ ทำให้เกิดกระแสคลื่นเป็นระลอก ลึกจนกระทั่งไปถึงศูนย์กลางของทะเลสาบ เธอพูดประโยคนี้โดยไม่ลังเล มันทำให้ดวงตาของเขาทั้งอบอุ่นและเจ็บปวด เขาจับแขนเธอไว้โดยออกแรงเล็กน้อย เขาอยากจะบีบเธอเข้าไปให้ถึงกระดูก “ผมก็คงเสียใจ แต่ผมก็อยากให้คุณได้มีโอกาสอยู่ดูโลกนี้ได้นานกว่าผมหน่อย” นัชชาฟังเขาพูดจนเธอเกือบจะร้องไห้ออกมา “ทำไมคุณพูดได้น่าเศร้าจังคะ” “คนดี พวกเรายังมีอีกหลายสิบปี ไม่เศร้าหรอก” เธอหมุนตัวและหันไปเผชิญหน้ากับเขา “ถ้าบนโลกนี้ไม่มีคุณแล้ว ก็ไม่มีอะไรน่ามองอีกแล้วค่ะ” เตชิตอึ้งไป สายตาจ้องมองไปที่ใบหน้าซีดขาว ความสุขบนใบหน้าเธอนั้นเปล่งประกายให้เห็นได้อย่างชัดเจนมาก มากจนกระทั่งทำให้เขาสัมผัสได้และมีความสุขตามไปด้วยเช่นกัน ‘ถ้าบนโลกนี้ไม่มีคุณแล้ว ก็ไม่มีอะไรน่ามองอีกแล้ว’ ต้องรักมามายขนาดไหนถึงสามารถพูดคำที่น่าเศร้าออกมาอย่างมีความสุขเช่นนั้นได้ เตชิตไม่รู้ แต่เขารู้ว่า ประโยคนี้เพราะกว่าคำรักหวานซึ้งใดๆ ในวันที่แสนเศร้า เขาคิดถึงคนที่จากไป เขาหันกลับมากอดเธออย่างอ่อนโยน ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการได้อยู่ใกล้ๆเธอ เตชิตโน้มตัวลงจูบที่ริมฝีปากของเธอ เขาวิธีปลอบโยนหัวใจที่เย็นชาของตัวเอง ชีวิตนั้นไม่เที่ยง โชคดีที่ตอนนี้เธออยู่กับเขา ทุกอย่างจึงไม่ได้เศร้าจนเกินไป ---- การจากไปของชายชรา ไม่เพียงแต่จะทำให้ผู้คนในตระกูลจิวะพงษ์เศร้า ปรัณ ชนัย และยังมีธนัท คนทั้งสามก็รู้สึกหดหู่เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชนัย เขาอายุน้อยที่สุดในบรรดาพวกเขาทั้งหมด นอกจากนี้การจัดการก็มีลักษณะเฉพาะเป็นอย่างมาก ดังนั้นความรู้สึกจึงหนักหนามาก แม้กระทั่งบางครั้งก็ไม่สมเหตุสมผล เมื่อได้ยินเรื่องการจากไปของใครบางคน เขาจะซึมไปอยู่หลายวัน ทุกข์ใจ จะไปบอกใครได้ล่ะ ครั้งนี้ไม่สามารถปรับทุกข์กับเพื่อนข้างกายได้ คนแรกที่เขาคิดถึงก็คือดราณี หลังจากวันที่ตกลงเป็นแฟนกันแล้วหนึ่งเดือน ดราณีก็เริ่มก่อสงครามกับเขา เขาเริ่มจู่โจม เธอก็หลบ หาวิธีหลบต่างๆนาๆ เพื่อที่จะเลี่ยงเขาเธอยังไปสมัครชมรมใหม่อีกสองชมรม เย็นนี้ชนัยตั้งใจจัดงานเลี้ยงขึ้นเพื่อที่จะพบตัวเธอ เขารออยู่ที่ประตูโรงเรียนตั้งแต่หกโมงจนถึงทุ่มครึ่ง หากว่าเขาไม่ได้ขู่บังคับ อาจจะต้องรอนานกว่านี้อีก เมื่อเห็นเด็กผู้หญิงปีนขึ้นรถอย่างลุกลี้ลุกลน เขาก็รู้สึกโมโหและตั้งใจจะหันไปสั่งสอนเธอสักสองประโยค แต่เมื่อหันไปเขาก็เห็นว่าบนหน้าเล็กๆของเธอนั้นแต่หน้าอย่างละเอียดอ่อน ทันใดนั้นเขาก็พูดอะไรไม่ออก เขาไม่เคยเห็นดราณีแต่งหน้ามาก่อน มีแค่ทาลิปสติกสีแดงเพื่อไว้หน้าเขาบ้างเป็นครั้งคราว แต่ว่าวันนี้ ตามีอายไลเนอร์ คิ้วโค้งได้รูป แก้มมีบลัชออนแดงระเรื่อ ชนัยมีเห็นบรรยากาศไม่ค่อยปกติ นัยน์ตาเขาแคบลงในทันที “คุณทำอะไรอยู่ ถึงเพิ่งจะออกมาตอนนี้” ดราณีรัดเข็มขัดนิรภัยอย่างคล่องแคล่ว “ฉันไปที่ชมรม ฉันบอกคุณแล้วไม่ใช่หรอ…” “ชมรมอะไร แต่งหน้าอย่างกับแม่ไก่”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่674 โชคดีที่มีเธอ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A