ตอนที่689 ค้นหาความสุขของตัวเอง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่689 ค้นหาความสุขของตัวเอง
“นี่เป็นเรื่องปกติ” นัชชายืนยันกับเธออีกครั้ง “ถ้าหากว่าเธอเพิ่งจะฟื้นขึ้นมาแล้วรู้สึกโล่งใจโดยสมบูรณ์แบบ นั่นสิที่ผิดปกติ ดังนั้นเธอไม่ต้องไปคิดให้วุ่นวาย ถ้าหากเธอไม่มีความสุขไม่ชอบใจ ยิ่งไม่รู้ว่าทำไมต้องหลบเลี่ยง เธอสามารถแสดงมันออกมาต่อหน้าเขา แทนที่จะไม่แสดงความรู้สึกนั้นออกมาและแอบซ่อนมันอยู่ในใจ ทำอย่างนั้นมันเก็บกดเกินไป” คำพูดของเธอทำให้ชีวภาได้เข้าสู่พื้นที่ใหม่ๆ ที่ไม่รู้สึกกดดันมากนัก ไม่มีความรู้สึกเร่งรีบหรือกดดันอย่างเช่นตอนนี้ เธอบอกหล่อนด้วยวิธีนี้ ไม่ว่าอารมณ์นั้นจะถูกต้องหรือไม่ก็ตาม เธอสามารถแสดงมันออกมาได้อย่างเต็มที่ แทนที่จะเก็บกดมันไว้กับตัวเอง “พี่นัชชา ฉันแสดงมันออกมาได้อย่างนั้นหรือคะ” “แน่นอน” นัชชาพยักหน้าโดยไม่คิด “เรื่องอื่นฉันไม่รับรอง แต่สำหรับเรื่องเธอแล้ว ชนุดมรับมือได้อย่างแน่นอน” สิ่งที่ชายคนนั้นกลัวที่สุดก็คือชีวภาไม่สนใจเขา การแสดงออกที่เย็นชาทำให้รู้สึกปวดใจจริงๆ ยิ่งนานช่องว่างระหว่างคนทั้งสองก็ยิ่งถดถอย กลายเป็นช่องว่างที่ไม่สามารถก้าวข้ามผ่านไปได้ แค่พูดกับชนุดมเช่นนี้ กลายเป็นว่าหลังจากคุยกับชีวภาแล้ว อย่างน้อยตอนนี้เธอก็ยังฟัง ไม่ได้ไม่มีเหตุผลเสียทีเดียว “แม่ฉันบอกว่า เขาดูแลฉันตลอด” เมื่อพูดประโยคนี้ ดวงตาของหญิงสาวที่นั่งอยู่บนเตียงก็ปิดลง นัชชารีบกล่าว “ใช่ ทุกครั้งที่เขามาที่โรงพยาบาลก็แทบจะไม่ได้นอน เอาแต่นั่งอยู่ข้างเตียงจ้องเธออยู่อย่างนั้น ฉันเคยได้ยินพี่ปรัณบอกว่า เขายังเสียน้ำตาให้กับเรื่องของคุณ” ความจริงแล้วปรัณไม่เคยพูดกับเธอ แต่มีครั้งหนึ่งเธอบังเอิญเห็นชนุดมเดินออกมาจากห้องผู้ป่วย ดวงตาของเขาแดงมาก ดูก็รู้ว่าร้องไห้ แต่ว่าผู้ชายต้องรักษาหน้า นัชชาจึงทำเหมือนว่ามองไม่เห็น เธอแค่ทักทายแล้วก็จากไป แต่ว่าในใจเธอก็รู้สึกประหลาดใจ และแปลกใจ หากไม่ใช่เพราะชายคนนั้นใส่ใจเธอมาก มีหรือที่จะเสียน้ำตาเพียงเพราะผู้หญิงคนหนึ่ง “เขาไม่ใช่คนธรรมดา ตอนเด็กได้รับเรื่องราวทุกข์ใจมามากมายนัก แม้แต่ตลาดมืดก็เคยไปอยู่ คนหรือเรื่องที่ทำให้เขาร้องไห้ได้ ถึงตอนนี้ก็ไม่มีเรื่องอื่นนอกจากเรื่องเธอ” ไม่เพียงแต่นัชชาเท่านั้นที่ประหลาดใจ ชีวภาเองก็ประหลาดใจ อย่าว่าแต่ร้องไห้ เขาไม่ค่อยเปิดเผยอารมณ์ เป็นคนนิ่งเฉยมาก ราวกับว่าไม่มีเรื่องอะไรทำอะไรเขาได้ ตอนนี้นัชชาบอกว่าเขาร้องไห้ ร้องเพราะเธอ เธอนึกภาพนั้นไม่ออกเลยจริงๆ คงจะเสียใจจนเข้ากระดูก ถึงสามารถหลั่งน้ำตาข้างเตียงเธอได้ แต่ว่าน้ำตานี้เป็นเพราะความรู้สึกผิดมากน้อยแค่ไหน เป็นเพราะความรักมากน้อยแค่ไหน เธอไม่สามารถรู้ได้ ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่เชื่อและยังสงสัย นัชชาจึงพูดขึ้นเบาๆ “ความจริงแล้วสิ่งที่เธอไม่ต้องกังวลเลยก็คือความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอ ภา พี่รู้จักนิสัยของชนุดมดี ถ้าหากว่าไม่ได้ชอบเธอ ถ้าหากแค่รู้สึกผิดที่ทำให้เธอเจ็บตัว เขาจะไม่ทำอะไรมากมายด้วยตนเอง ตอนที่โคม่าจะละทิ้งเธอไปก็ได้” ขณะที่หัวใจของชีวภากำลังกวัดแกว่งไปมา ในที่สุดคำพูดประโยคนี้ก็เหมือนชี้ทางสว่างให้กับเธอ ความมั่นใจของเธอสั่นคลอนมากในตอนนี้ “ถ้าาหากพี่คิดว่าเธอสองคนไม่เหมาะสมกัน หรือว่าเธอและเขาไม่ได้มีใจต่อกัน พี่จะไม่พูดกับเธอเรื่องพวกนี้ พี่เป็นคนที่ผ่านมาก่อน ทั้งประสบการณ์ความยากลำบากและความเป็นความตายเมื่อตอนที่อยู่กับเตชิต หนักกว่าพวกเธอมาก ดังนั้นเรื่องพวกนี้พี่เห็นมันชัดเจนมาก ถ้าหากว่าเธอเชื่อพี่ ก็อย่าปิดกั้นตัวเอง มันไม่ดีกับตัวเธอเอง” ถ้าหากปิดใจและสะสมปัญหาต่างๆไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ตราบใดที่ยังคิดถึงมันอยู่ก็จะทำให้รู้สึกทุกข์ ทุกข์ทั้งนั้น “ตอนนั้นพี่ทิ้งเตชิตไปห้าปี ความเข้าใจผิดทำให้พี่ปิดใจตัวเอง แต่ว่าหนีไปห้าปีแล้วเป็นอย่างไรล่ะ เมื่อกลับมาพบชายคนนี้อีกครั้งก็ไม่สามารถปล่อยวางได้” นัชชาใช้ประสบการณ์ส่วนตัวของเธอในการปลอบโยน “เวลาเหล่านั้นไม่ได้ทำให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้น ได้แต่กัดกร่อนความรู้สึกของเธอ ทำให้เธอปิดประตูหัวใจใส่ทุกคน” ชีวภาไม่พูด แต่ที่จริงแล้วในใจได้ถูกคำพูดของเธอชักจูงไปเรียบร้อยแล้ว เธอให้เกียรติความอ่อนโยนและสายตาของนัชชา และถามคำถามที่น่าแปลกใจ “ห้าปีนั้นพวกพี่อยู่ด้วยกันได้อย่างไรคะ” นัชชาไม่ได้คาดคิดว่าเธอจะถามถึงเรื่องนี้ เลยคิดว่าเธอใส่ใจ จึงรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว “พี่กับเขามีโอกาสพบกันไม่มาก แค่เจอกันตอนสุดสัปดาห์ อยู่ด้วยกันในฐานะเพื่อนเท่านั้น เธอไม่ต้องห่วง…” “ฉันไม่ได้ถือสาค่ะ” ชีวภากลัวว่าเธอจะเข้าใจผิด จึงรีบกล่าวอย่างรวดเร็ว “ฉันแค่คิดว่าคนที่ยินดีให้เขาอยู่ด้วยนั้น น่าจะมีน้อย น้อยมากๆ ฉันอาจจะไม่ใช่หนึ่งในนั้น ต่อจากฉันก็คงมีผู้หญิงคนอื่นที่ชื่นชอบเขาน่า” นัชชาได้ยินเธอพูดจาเชิงลบก็รู้สึกเสียใจ ครู่หนึ่งที่ไม่รู้ว่าจะโต้ตอบอย่างไร เธอมั่นใจความรู้สึกที่ชนุดมมีต่อเธอมาก แต่ก็ไม่มีใครบอกว่าได้ว่าสุดท้ายแล้วจะเกิดอะไรขึ้น “ชีวิตคือการเปลี่ยนแปลง พี่บอกเธอได้แค่นี้ หากเธอพยายามชื่นชมและยอมรับเขา ผลลัพธ์ต้องออกมาดีแน่นอน” ชีวภามองผู้หญิงที่พยายามที่จะปลอบโยนเธอ ร่างกายเธอเหมือนเปล่งแสงแพรวพราว ทำให้หัวใจอันหนาวเหน็บของเธออบอุ่นได้อีกครั้ง ความจริงแล้วเธอไม่จำเป็นต้องพูดความในใจกับเธอมากมายขนาดนี้ หรือว่าจะมีคนขอร้องเธอ รวมถึงผู้อำนวยการปรัณให้เธอมาพูดเรื่องพวกนี้ พวกเขาทุกคนคงหวังว่าเธอจะให้โอกาสชนุดม แต่ว่ามีเพียงคำของนัชชาเท่านั้นที่เธอฟังเข้าหู ถึงแม้หล่อนจะต่อสู้เพื่อชนุดม แต่ความรู้สึกของหล่อนที่มีให้กับเธอก็ไม่เหมือนคนอื่น ความกดดันและความคาดหวังในสายตาหล่อนทำให้เธอเข้าใจ นอกจากชนุดมแล้ว เธอก็ทำเพื่อตัวเอง อยากให้เธอรู้สึกดี ได้มีช่วงเวลาที่มีความสุข การเสียสละนี้จะได้ไม่เสียเปล่า ชีวภาดึงรอยยิ้มที่จริงใจออกมา “พี่นัชชา ขอบคุณค่ะ” เมื่อนัชชาได้ยินคำ “ขอบคุณ” ในใจเธอก็รู้ว่าหล่อนไม่ได้ขัดแย้งอย่างแน่นอน เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก “เธอไม่ต้องเกรงใจพี่ เธอต้องอยู่ในอาการโคม่าตั้งนานก็เพราะว่าธีมนต์ ครอบครัวของเราต้องขอบคุณเธอมาก” ชีวภายิ้มและส่ายหัว “ถ้าหากว่าให้โอกาสฉันอีกครั้ง ฉันก็จะยังทำแบบนี้ค่ะ” ไม่ว่าจะเพื่อปกป้องเด็กคนนี้หรือไม่ หรือเป็นเพราะความรักที่มีต่อชนุดม เธอรู้สึกว่าหลังจากที่ได้รู้จักนัชชา เธอก็ยิ่งรู้สึกไม่สำนึกเสียใจการตัดสินใจของเธอในเวลานั้น นัชชาคว้ามือเล็กๆอันอบอุ่นของเธอไว้ “เธอเป็นผู้หญิงที่ดี จะได้พบความสุขของตัวเองอย่างแน่นอน เรื่องราวทุกอย่างจะผ่านไป ขอให้ทุกอย่างดีขึ้น สู้ๆ”
已经是最新一章了
加载中