ตอนที่697 เลือดออกในสมองเฉียบพลัน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่697 เลือดออกในสมองเฉียบพลัน
ตอนที่697 เลือดออกในสมองเฉียบพลัน ผู้คนในสายไม่ลังเลเลยที่จะรับปาก “ไม่มีปัญหา ผู้ป่วยมีอาการอย่างไร” “เลือดออกในสมอง” เขาพูดพลางมองตาสาวน้อยที่เต็มไปด้วยน้ำตาซึ่งนั่งอยู่ทางด้านข้าง “สถาพอาการยังไม่ชัดเจน” “โอเค นั่นอยู่ที่ศูนย์สมองและประสาท ผมจะไปจัดการให้ตอนนี้เลย” คณบดีบอกว่ากำลังลงทะเบียนให้ “ผู้ป่วยชื่ออะไร” “ชื่อพ่อของคุณ” ดราณีรีบตอบทันที “ทยุติ” ชนัยบอกต่ออย่างชัดถ้อยชัดคำ เมื่อได้รับคำยืนยันจากคณบดีเขาก็รู้สึกขอบคุณอย่างจริงใจ “รบกวนด้วย” “ประธานชนัย ไม่ต้องเกรงใจ” เมื่อเห็นเขาพูดสองสามคำก็วางสาย ดราณีจึงถามอย่างใจจดใจจ่อ “เป็น เป็นอย่างไรบ้าง จัดการได้ไหมคะ” โรงพยาบาลธัญมนเป็นโรงพยาบาลรัฐซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญมากที่สุดในเมืองJ อย่าบอกนะว่าตอนนี้จัดการเตรียมการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว ถ้าเป็นกรณีปกติมันไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน ชนัยบีบนิ้วทั้งห้าของเธอไว้ “จัดการให้เรียบร้อยแล้ว” ดราณีหัวใจเต้นแรงมาก เธอเพิ่งลงจากรถจะกลับเข้าไปเรียนแต่กลับได้รับโทรศัพท์จากทางบ้าน บอกว่าตอนนี้ทยุติกำลังจะได้รับการผ่าตัด ครอบครัวของเธอไม่ได้อยู่ในเมืองJ แต่อยู่ในเมืองBซึ่งอยู่ถัดไป เงื่อนไขความพร้อมทางการแพทย์ที่นั่นยังไม่ค่อยดีนัก เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อของเธอมาพบหมอที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจะเพราะที่บ้านกลัวว่าเธอจะฟุ้งซ่าน ดังนั้นจึงปกปิดเอาไว้ แต่เรื่องแบบนี้จะปกปิดได้อย่างไรล่ะ ผลกระทบที่เธอรู้ในตอนนี้ ร้ายแรงกว่าก่อนหน้านี้มากนัก ร่างกายของทยุตินั้นแข็งแรง นึกจะบอกว่าล้มก็ล้มอย่างนั้นรึ ดังนั้นในขณะที่ได้ทราบเรื่อง เธอก็หันหลังกลับและวิ่งตามรถในทันที ทีแรกก็ไม่คิดว่าจะตามทัน แต่ทันใดนั้นเขาก็หยุดรถลงที่ตรงหน้าเธอ เหมือนกับจับฟางเส้นสุดท้ายเอาไว้ได้ ดราณีรู้สึกสำนึกขอบคุณเขามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาช่วยติดต่อประสานงานกับทางโรงพยาบาลให้ ทำให้เธอสำนึกขอบคุณเขามากยิ่งกว่าทำสิ่งใดๆให้อีก “ชนัย ขอบคุณ อีกสักครู่คุณก็ส่งฉันที่โรงพยาบาลก็พอค่ะ…” เธอกลัวว่าจะทำให้งานเขาล่าช้า เลยเตรียมที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่ชนัยกลับไม่ได้รู้สึกขอบคุณ “คุณเป็นอย่างนี้ผมจะไปได้อย่างไร ผมจะอยู่เป็นเพื่อนคุณ” สามประโยคทำลายท่าทีที่ดราณีแสร้งทำว่าไม่เป็นไรทั้งหมดไปสิ้น เธอต้องการคนที่เข้มแข็งที่สามารถให้ความรู้สึกที่ปลอดภัยแก่เธอได้เมื่ออยู่ใกล้ แต่ว่าสติปัญญาของเธอบอกให้เธอ 'ผลักไส' คนคนนี้ไปตั้งแต่ทีแรก เธอตื่นตระหนกมาก ในเมืองใหญ่ที่ไม่มีญาติพี่น้องคนคอยช่วยเหลือ การที่ญาติป่วยนั้นมันวุ่นวายมาก แต่ในขณะนี้ เขากลับบอกว่าจะอยู่เป็นเพื่อนเธอ น้ำตาของดราณีเกือบจะทะลักออกมา เธอสูดหายใจลึกๆและกลั้นมันไว้ และพยายามกลืนน้ำตาเข้าไปในเปลือกตาตามเดิม หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง รถจอดที่ประตูโรงพยาบาล ทันทีที่เข้าไปในห้องโถงเธอก็รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของโรงพยาบาล ไม่เหมือนโรงพยาบาลของปรัณ มันคึกคักไปด้วยผู้คน ชนัยไม่ชอบสถานที่คนวุ่นวายเป็นที่สุด เขาโอบดราณีไว้ในอ้อมแขนของเขา และค่อยๆดิ้นรนเดินไปที่ประตูลิฟต์ ทางนั้นโรงพยาบาลได้ส่งคนมารับไปแล้ว ได้ยินว่าตอนนี้คณบดีกำลังดูแลอยู่ในห้องผ่าตัด การดิ้นรนค่อยข้างสูง ชนัยสงบนิ่งมาก เขาไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไรเกี่ยวกับสถานที่นี้ เขาชินกับการถูกรายล้อมไปด้วยผู้คน แต่ดราณีนั้นไม่ใช่ ความรู้สึกเธอเปี่ยมไปด้วยความซาบซึ้งใจ เต็มไปด้วยความรู้สึกขอบคุณ ในที่สุดทั้งคู่ก็มาถึงประตูห้องผ่าตัด ทยุติถูกนำตัวเข้าไปแล้ว มีแต่คนในครอบครัวเท่านั้นที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ริมทางเดิน คือแม่ของเธอเสนานี ป้าชุติภาและลุงธนชิต เมื่อเห็นเธอมาถึง คนทั้งสามก็มองมาทางนี้ โดยเฉพาะแม่เสนานี สีหน้าของเธอเครียดมาก เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะ 'ความกระตือรือล้น' จากการต้อนรับจากที่โรงพยาบาลเมื่อสักครู่ ใจดราณีเต็มไปด้วยความกังวลเกี่ยวกับพ่อในห้องผ่าตัด เธอไม่ได้ตระหนักว่าการปรากฎตัวของเธอพร้อมกับชนัยจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้น เธอรีบไปที่ด้านข้างเสนานี และดึงมือแม่อันเย็นชืดมากุมไว้ “แม่ พ่อหนูเป็นอย่างไรบ้าง” “ยังไม่รู้ เพิ่งเข้าห้องผ่าตัดไปได้ครึ่งชั่วโมง” เมื่อเสนานีพูดขึ้นดวงตาเธอก็แดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าเธอทั้งกลัวและกังวล “แม่ แม่ไม่ต้องกังวลพ่อต้องไม่เป็นอะไร” ดราณีตื่นตระหนกมาตลอดทาง แต่ตอนนี้เธอกลับปลอบคนอื่น ชนัยเลิกคิ้ว เขาเห็นว่าเสนานีมองมาทางตัวเขา มือที่สงบนิ่งกระแทกลงบนไหล่ของดราณี เธอหันหน้าไปทางอื่น เสนานีรู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดคุย และก็ไม่มีกระจิตกระใจจะถาม แต่สายตาที่มองลูกสาวก็ซับซ้อนมาก ผู้ช่วยและบอดี้การ์ดของชนัยตามเข้ามาในภายหลัง คนสูงใหญ่สี่ห้าคน สวมชุดสูทสีดำยืนคุมทั้งสองด้าน ไม่พูดไม่จาอะไร แต่ความยิ่งใหญ่นั้นก็พอจะทำให้ผู้คนตกใจ ดูเหมือนจะทราบถึงความไม่สบายใจของครอบครัวดราณี ชนัยจึงเข้าไปพูดกับหนึ่งในพวกเขา ไม่นานพวกเขาหลายคนก็ออกไปจากบริเวณนั้นไป ดราณีเห็นการกระทำนั้นทั้งหมด เธอรู้ว่าคนคนนี้กำลังคิดเผื่อเธอ ใจที่แข็งอยู่ก็เปลี่ยนเป็นอบอุ่นและอ่อนนุ่มลงในทันที การรอคอยที่ดูเหมือนจะเนินนานถูกการกระทำนี้ขัดเกลาจิตใจผู้คน เมื่อชนัยหันหลังกลับและเดินไป พอดีหันไปสบตากับหญิงสาวซึ่งแววตาเธอไม่เหมือนเช่นเวลาปกติทั่วไป ครั้งนี้เขาไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ยืนอยู่ห่างๆ ดูเหมือนกลัวว่าจะรบกวนพวกเขา บุคคลนี้สามารถดูแลคนอื่น เธอคิดว่าชนัยคงไม่เคยได้ เธอไม่เคยเห็นชนัยผู้ซึ่งเห็นอกเห็นใจคนอื่นมาก่อน เมื่อดราณีได้ค้นพบ ว่าที่เขาพูดก่อนหน้านี้นั้นเป็นเรื่องจริง ว่าความจริงแล้วเขาไม่ใช่คนที่จะหัวเราะต่อซิกกับใคร ไม่ใช่คนที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับใคร มีแค่กับเธอเท่านั้น ดราณีละสายตากลับมา และมองลงพื้นไปดูที่ใต้ฝ่าเท้า แสงตกลงบนกระเบื้องสีขาวสะท้อนเป็นรูรับแสงขนาดเล็ก เธอรู้สึกอบอุ่นในใจเล็กๆ อุณหภูมิอันอบอุ่นทำให้ผู้คนรู้สึกสะเทือนใจ ผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก หมอเดินออกมาจากข้างใน มีหน้ากากสีขาวบนใบหน้าของเขา สายตาเขาเลื่อนมาอยู่บริเวณม้านั่ง “ใครเป็นครอบครัวของผู้ป่วยครับ” เสนานีลุกขึ้นและรีบเดินไปในทันที “ฉันค่ะ ฉันเป็นภรรยาของผู้ป่วย!” “การผ่าตัดประสบความสำเร็จดี ตอนนี้กำลังจัดการขั้นตอนสุดท้าย ครอบครัววางใจได้ อีกสักครู่คนก็สามารถไปที่ห้องพักได้ แต่ว่าฤทธิ์ของยาสลบนั้นยังไม่หมด ยังทำให้สลึมสลือ ไม่ต้องกังวลใจไป” เสียงต่ำของหมอลอดผ่านหน้ากากออกมา หัวใจอันร้อนรนของเสนานีในที่สุดก็สงบลงได้ ความตึงเครียดก็ค่อยๆผ่อนคลาย แม้ขาของเธออ่อนเกือบจะล้มลงบนพื้น… โชคดีที่ดราณียืนอยู่ข้างๆ เธอหูตาไวพยุงเธอไว้ได้ทัน ก่อนที่เธอจะทรุดตัวล้มลงบนพื้น เธออุทาน รีบมองดูสีหน้าของเสนานี “แม่! เป็นอย่างไรบ้าง” เสนานีเกาะแขนเธอไว้แน่น เสียงเธอค่อนข้างอ่อนเบา “ไม่เป็นไร เมื่อสักครู่อาจจะกังวลมากเกินไป เลยทำให้เครียดไปหน่อย…” เมื่อได้ยิน หมอก็รีบเรียกพยาบาลที่อยู่ถัดไปให้มาดู “ครอบครัวของผู้ป่วยตื่นเต้น พาไปให้น้ำเกลือระงับอารมณ์หน่อย”
已经是最新一章了
加载中