ตอนที่698 ต้องการด่วน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่698 ต้องการด่วน
ตอนที่698 ต้องการด่วน เสนานียังไม่เห็นทยุติออกมา เธอก็ยังไม่วางใจที่จะออกไป “หมอฉันสบายดี ฉันจะรอให้ตาแก่ออกมาก่อนแล้วฉันถึงค่อยไป” หมอไม่เห็นด้วยกับบที่เธอทำเช่นนี้ “อารมณ์ของคุณตอนนี้ ไม่ต้องรอให้ผู้ป่วยฟื้นขึ้นมาคุณก็อาจจะเป็นลมไปได้” เมื่อพูดแล้ว เขาก็มองไปที่ดราณีทางด้านข้าง “ลูกสาวคุณก็อยู่ตรงนี้ไม่ต้องห่วง คุณไปรับน้ำเกลือก่อน ขั้นตอนทางนี้เป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ต้องห่วง” ดราณียังเป็นห่วงว่าเธอจะไม่ไหวจึงรีบสำทับ “ใช่แม่ หนูอยู่ตรงนี้แม่จะกลัวอะไร แถมลุงกับป้าก็อยู่ด้วย” เสนานีเหลือบไปมองชนัยที่ยืนอยู่ทางด้านข้าง เหมือนจะอยากพูดแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร สุดท้ายแล้วเธอก็เงียบและตามพยาบาลไปที่ห้องพยาบาล เมื่อเห็นว่าเธอยอมทำตาม ดราณีก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอยืนอยู่รอทยุติอยู่ที่หน้าประตูต่อไป ผ่านไปเกือบสิบห้านาที ในที่สุดเตียงของชายคนนั้นก็ถูกผลักออกจากห้องผ่าตัด ภายใต้ผ้าห่มสีขาว ด้านหลังของทยุตินั้นเป็นเข็ม น้ำเกลือแขวนอยู่เหนือศีรษะ คนยังไม่ฟื้นจากยาสลบ สองตาหลับสนิท ใบหน้าซีดมาก ดูแล้วไม่ค่อยดี “อีกประมาณหนึ่งชั่วโมงผู้ป่วยถึงจะฟื้น ถึงเวลานั้นเรามาดูกัน คนในครอบครัวไม่ต้องกังวลไป ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นให้กดกริ่งเรียก หมอทุกคนอยู่ที่นี่” ดราณีพยักหน้า “ขอบคุณค่ะหมอ” “ไม่เป็นไร เป็นหน้าที่ของพวกเราอยู่แล้วครับ” หมอสุภาพมาก เขาเต็มไปด้วยความสุภาพแต่ความจริงแล้วไม่ใช่ต่อพวกเขา แต่ว่าเป็นความสุภาพที่มีต่อชนัยซึ่งหมอกำลังมองไปต่างหาก ดราณีนั้นเห็นได้อย่างชัดเจนมาก เธอมองตามหมอไป ตั้งแต่ชนัยเดินเข้าโรงพยาบาลมาก็ได้รับการจับจ้องจากทุกสายตา แต่เขาทำเป็นมองไม่เห็น ไม่มีปฏิกิริยาใดทั้งสิ้น จนถึงตอนนี้ที่ดราณีจ้องมองเขา คนคนนี้จึงเงยหน้าขึ้นและเดินไปตรงหน้าเธอ เขากระซิบถาม “มีอะไรรึ” “เปล่าค่ะ” ดราณีลดศีรษะลงอย่างรวดเร็ว เธอพยายามหลบสายตาของเขา อยู่ๆ ความรู้สึกในการเผชิญหน้ากับชนัยก็แตกต่างจากก่อน ความรู้สึกนี้มาอย่างรวดเร็วมาก เร็วจนเธอปรับตัวไม่ทัน ดราณีมองดูเตียงของทยุติถูกลากเข้าไปยังห้องพักผู้ป่วย ป้าและลุงก็คอยขนาบอยู่ที่ด้านข้าง ดราณีออกมากล่าวทักทายกับชนัย “อีกสักครู่ฉันจะไปที่ห้องของคุณหมอเพื่อถามไถ่ถึงอาการ” เมื่อครู่มีคนมาก เธอยังไม่มีเวลาพูดอะไร ตอนนี้สถานการณ์สงบลงแล้ว ระหว่างที่เสนานียังให้น้ำเกลือไม่เสร็จนั้น เธอต้องการที่จะอาศัยช่วงเวลานี้รู้เหตุการณ์ก่อน แม้ว่าลุงและป้าจะอาวุโสกว่าแต่อย่างไรก็ตามการศึกษาของทั้งสองท่านก็ไม่ได้สูงมากนัก เมื่อเจอเรื่องอะไรก็ตามก็มักจะตกใจกลัว เมื่อไม่เข้าใจอะไรก็จะเอะอะโวยวาย เธอไปเองดีที่สุด ชนัยพยักหน้า “ให้ผมไปเป็นเพื่อนไหม” ดราณีปฏิเสธอย่างรวดเร็ว “ไม่เป็นไรฉันไปเองได้” เมื่อพูดจบ เธอก็กลัวว่าเขาจะรู้สึกไม่สบายใจจึงอธิบายขึ้นอีกประโยค “ถ้าคุณไปด้วยหมอก็คงจะประหม่า พูดอะไรอาจจะไม่ค่อยสะดวก” เมื่อชนัยเห็นว่าเป็นเช่นนั้น จึงไม่ได้พยายามยืดเยื้อ “ผมจะรออยู่หน้าห้องผู้ป่วย” “ได้” เมื่อดราณีมาถึงห้องพักแพทย์ เมื่อเดินเข้ามาหมอก็รีบลุกขึ้นต้อนรับทันที “คุณดราณี” เมื่อได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพเช่นนี้ ดราณีรู้สึกไม่ค่อยคุ้นชินเท่าใด กับเธอชนัยช่างไม่เคารพไม่เกรงใจ แต่สำหรับคนอื่นแล้วกลับเคารพเกรงใจเธอมากๆ เธอรีบโค้งศีรษะอย่างรวดเร็ว “หมอคะ ฉันมาถามถึงอาการของพ่อค่ะ” “ครับ” หมอดึงเก้าอี้เข้ามาเพื่ออธิบายรายละเอียดกับเธอ “พ่อของคุณเป็นโรคความดันโลหิตสูงมาหลายปี ไขมันในเลือดสูงมากขึ้น และไม่ได้รับประทานยาเพื่อช่วยควบคุม วันนี้มันได้ไปกดในสมอง ทำให้มีเลือดออกอย่างเฉียบพลัน การเจ็บป่วยนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ครั้งนี้นับว่าโชคดีที่ส่งแพทย์ได้ทันเวลาและการผ่าตัดก็เป็นไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้คนไม่เป็นอะไรแล้ว แต่ภายหลังต้องระมัดระวัง ต้องรอให้ผลตรวจทุกอย่างหลังจากนี้ออกมาก่อนผมถึงจะคุยกับคุณได้” ดราณีฟังแล้วใจเหมือนถูกบีบแน่น “หลังจากผ่าตัดแล้วอาจจะมีภาวะแทรกซ้อนอะไรไหมคะ” “ไม่น่ามีครับ คุณวางใจได้ พวกเราเป็นมืออาชีพกันมาก เพียงแค่ทานยาและควบคุมอาหารก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร” “ค่ะ” หลังจากพูดเรื่องอาการเจ็บป่วยเสร็จแล้ว ดราณีก็ยังมีเรื่องที่เป็นห่วงอีกเรื่องหนึ่ง “การผ่าตัดครั้งนี้มีค่าใช้จ่ายเท่าไรคะ” เมื่อเธอถามถึงประโยคนี้ เสียงเธอเบาลงโดยไม่รู้ตัว เธอรู้ว่าการผ่าตัดเช่นนี้มีราคาแพงมากแม้ว่าจะแค่เล็กน้อย อย่างน้อยก็ต้องเจ็ดหรือแปดหมื่น และยังมีค่าพักฟื้นในโรงพยาบาลอีก ทั้งหมดนี้น่าจะรวมกันเป็นแสน เรื่องนี้สำหรับคนตกงานอย่างทุยติ หรือว่าแม่บ้านอย่างเสนานี ล้วนเป็นจำนวนเงินมหาศาล หลังจากที่รู้ว่าคนไม่เป็นไรแล้ว สิ่งที่เธอกังวลต่อมาก็คือเรื่องค่าใช้จ่าย ปัญหานี้เธอไม่สามารถหลีกหนีได้ คนสบายดี แต่เรื่องเงินก็เป็นเรื่องด่วนที่ต้องหาทางแก้ ต้องคิดหาวิธี ดราณีเตรียมพร้อมที่จะไปกู้เงิน ไม่ว่าจะเท่าไหร่ อย่างไรก็ต้องรักษา ไม่สามารถผัดวันประกันพรุ่งเรื่องความเป็นความตาย “เรื่องค่าใช้จ่ายผมช่วยคำนวณไว้ให้คุณแล้ว ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการครั้งนี้คือห้าหมื่นหกพันบาท รวมค่ายาและห้องพักอีกราวห้าหมื่น ในส่วนที่เกินจากประกันสุขภาพอยู่ที่ประมาณหกสิบเปอร์เซ็นต์” หกสิบเปอร์เซ็นต์รึ หลังจากได้ฟังดราณีก็รู้สึกอัดอัดมาก ถ้าหากค่ารักษาทั้งหมดเป็นเงินหนึ่งแสนบาท เท่ากับเธอจะต้องออกเองหกหมื่นบาท เธอจะไปหาเงินจำนวนนี้จากที่ไหน ยิ่งไปกว่านั้น แค่หนึ่งหมื่นก็ยังไม่มีเลย ดูเหมือนหมอจะมองเห็นความกังวลของเธอ หมอจึงส่งยิ้มให้เธอ “ผมรู้ว่าคุณเป็นห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายที่นี่ แต่มีเรื่องที่ผมยังไม่ได้บอกคุณ ค่าใช้จ่ายของการดำเนินการทั้งหมดนี้ได้รับการชำระไว้แล้ว” “จ่ายแล้วรึคะ” ดราณีทั้งตกใจและประหลาดใจ “ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” “ผมก็ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้อำนวยการแค่บอกกับผม ว่าทั้งหมดได้รับการชำระแล้วครับ” ดราณีเข้าใจในทันที ที่แท้ตอนที่เขาโทรคุยกับผู้อำนวยการ เขาได้จัดการกับเรื่องนี้ไปแล้ว แค่เธอไม่รู้เท่านั้น เมื่อคิดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายนี้ ดราณีไม่เพียงแต่ไม่ได้รู้สึกโล่งใจเท่านั้น แต่เธอกลับยิ่งรู้สึกอึดอัดใจ เธอได้แต่พยักหน้าลวกๆ “ค่ะ ฉันทราบแล้ว ถ้าอย่างนั้นหลังจากนี้ต้องรบกวนคุณหมอด้วยนะคะ” “ไม่เป็นไรครับ” หลังจากออกจากห้องพักแพทย์ ดราณีก็ไม่ได้ตรงไปที่ห้องผู้ป่วย แต่เธอยืนอยู่ตรงหน้าต่างปลายสุดทางเดินอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเธอคิดว่าจะต้องเผชิญหน้ากับชนัย เธอรู้สึกอึดอัดและแน่นหน้าอกมาก จะพูดกับเขาว่าอย่างไร ขอบคุณ หรือซาบซึ้งใจดี ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สามารถแสดงอารมณ์ใดๆได้ในขณะนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชนัยให้เงินกับเธอ แต่ครั้งนี้มันแตกต่างจากครั้งก่อนๆ เงินของเขาแก้ปัญหาใหญ่ที่สุดของเธอ แต่มันกลับทำให้เธอมีความรู้สึกที่แตกต่างไปจากเดิม ชายคนนั้นดูเหมือนว่าจะช่วยเธอครั้งยิ่งใหญ่ ยิ่งใหญ่มาก… ยิ่งใหญ่เสียจนเธอไม่รู้ว่าจะตอบแทนเขาได้อย่างไร
已经是最新一章了
加载中