ตอนที่ 5 ความรู้สึกผิด   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 5 ความรู้สึกผิด
ต๭นที่ 5 ความรู้สึกผิด คำพูดที่ว่า หากอดทนเพียงนิดเดียวคลื่นลมก็จะสงบ  หากยอมถอยเพียงก้าวเดียวท้องทะเลนภากาศก็จะเปิดกว้าง โชคไม่ดี เฟิ่งชิงเสว่คือฝ่ายที่ต้องทนเหตุเพราะจิ้งจอกที่ดีไม่สู้กับชาย อวี่เหวินหลินนอนอยู่บนเตียงเฟิ่ง พยายามทำท่าทีที่สบายสุด เพื่อบอกประกาศให้รู้ว่าอำนาจของราชาไมาสามารถถท้าทายได้ แสงจันทร์สว่างไสวส่องเข้ามาทางหน้าต่าง สีเงินสาดเต็มพื้น ดอกพีชเบ่งบาน กลิ่นหอมโชยเข้า ยิ่งเพิ่มความเงียบสงบ “ฝ่าบาท ข้าถามหน่อย ไทเฮาเป็นใบ้เพราะเหตุอันใด?เป็นตั้งแต่เกิดหรือว่า?”นางไม่ใช่จิ้งจอกที่ชินกับความเงียบสงบ นางก็มีความใฝ่ฝัน อวี่เหวินหลินหลับตา ตอบกลับไปด้วยความรำคัญหนึ่งคำ“เจ้าจะถามละเอียดแบบนี้ไปทำไม ” “นี้เป็นความลับ ” หญิงบางคนผ้าห่มคลุมกาย ถึงจะเป็นเดือนสาม แต่ยามดึกก็ยังคงมีความหนาวเย็น และอีกอย่างนางนอนอยู่บนพื้น ต้องใส่ใจเรื่องความอบอุ่น อวี่เหวินหลินกะจะไม่ยากสนใจนาง ใครจะไปรู้ว่านางมีแผนการณ์อันใด?ผู้หญิงคนนี้ ดูแล้วก็ไม่ใช่คนใจดีอะไรหรอก แต่คืนอันยาวไกลนี้ ถ้าไม่พูดอะไรสักหน่อย ก็ทรมารน่าดู ช่างมัน เห็นสักว่าตอบสนองหญิงคนนี้สักหน่อย “เมื่อฮ่องเต้องค์ก่อนสวรรคต เสด็จแม่เสียพระทัยยิ่งนั่ก ร้องไห้ทุกวัน จากนั้น ร้อไห้งจนกล่องเสียงใบ้ไป ”อวี่เหวินหลินย้อนคิดถึงความทรงจำนี้ เขาไม่อยากที่จะพูดถึงเรื่องนี้เท่าไร เพราะการสวรรคตของฮ่องเต้องค์ก่อน เป็นคนเจ็บปวดในใจของทุกคน หญิงบางคนกระพริบตาคู่ดำครั้งหนึ่ง ในความโศกเศร้าเผยความซาบซึ้ง “ความรักที่ไทเฮามีต่อฮ่องเต้องค์ก่อน ช่างสะเทือนฟ้าสท้านดินจัง ” อวี่เหวินหลินไม่พูด ความรักที่ลึกซึ้ง ความเจ็บปวดที่มีก็ยิ่งลึก เพราะเช่นนี้เขาจึงไม่กล้ารักใคร กลัวจะตกอยู่ในสภาพเดียวกับเสด็จแม่ ใจสิ้นคนอยู่ การพูดคุยก็ไดหยุดลงเช่นนี้ มือซ้ายของเฟื่องชิงเสว่นิ้วชี้เคาะบนหน้าท้องยังมีจังหวะ ตอนแรกในใจคิดอยากให้กลายเป็นความจริง เรื่องเล่าของจิ้งจอกวัยรุ่นตัวหนึ่ง โดยทั่วไปคือพึบพับ นี้ไง อวี่เหวินหลินกำลังจัดการหนังสือบังคมทูลในห้องพระอักษร เสี่ยวหลิงจือรีบร้อนเข้ามารายงาน“ฝ่าฝ่าฝ่าบาท!ฮ่องเฮาเหนียงเหนียงตบไทเฮาจนสลบไปแล้ว! “อะไรนะ?”ฮ่องเต้ทิ้งหนังสือจากมือลง รีบร้อนไปอย่างพระตำหนักเชียงโส้ว หมอหลวงมากมายเต็มไปหมดคุกเข่าอยู่หน้าเตียง ก้มศีรษะไว้ ไม่ออกเสียงใดใด อวี่เหวินหลินเดินย่างหนักหน่วงไปข้างเตียง กุมมือไทเฮาไว้อย่างแน่น “เสด็จแม่……”น้ำเสียงที่ทุ่มต่ำของเขา สีหน้าเศร้าใจ คนบนเตียงใบหน้าซีกซิว หายใจอย่างอ่อน บรรยากาศของพระตำหนักเชียงโส้วมืดมนจนน่ากลัว เฟิ่งชิงเสว่ยืนอยู่ข้างๆ เงียบสงบมาก ราวกับเรื่องทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับนางเลย อวี่เหวินหลินหันมองไปทันที ตะคอกเสียงต่อนาง“เฟิ่งชิงเสว่! ถ้าเสด็จแม่เกิดอันใดไป ข้าจะให้แคว้นหนานเยนดับสิ้นไปตามด้วย !” ท่าทีของเขาน่ากลัวมาก ราวกับสิงโตที่กำลังโมโห พร้อมที่จะฉีดผู้หญิงตรงหน้าให้เป็นชิ้นๆได้ เฟิ่งชิงเสว่ไม่นอบน้อมไม่ตอบโต้“ข้าแค่หวังดี ” “หวังดี?” อวี่เหวินหลินฉีกปาก“เสียดายเสด็จแม่ดีกับเจ้าบานนี้ เจ้าตอบแทนกลับท่านเช่นนี้เหรอ?” เขาก็รู้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา ไม่เพียงสามารถถฟื้นคืนชีพได้ กลายเป็นเล่าลือของคนทั้งแผ่นดิน และตอนนี้ยังกล้าปลุกลมสร้างคลื่นในตำหนักนางใน ปีศาจ เฟิ่งชองเสว่สูบลมหายใจเย็นๆทีหนึ่ง พยายามปกปิดอาการไม่พอใจในใจ“ข้าหวังว่าฝ่าบาทมองเรื่องอย่ามองเพียงผิวนอก ” อวี่เหวินหลินได้ยินแล้วยิ่งโมโหร้อนขึ้น ขยับเดินไปตรงหน้านางอย่างเร็ว ยื่นมือไปบีบคอนางที่เล็กยาว ค่อยๆเพิ่มแรง ยิ้มอย่างเยือกเย็น“ผู้หญิง นี้เจ้ากำลังสั่งสอนข้าหรือ?” เขายิ่งเพิ่มแรงบีบ เฟิ่งชิงเสว่รู้สึกถ้าผ่านไปอีกไม่นาน คอของนางก็จะโดนบีบแตกแน่นอน ไม่ได้ จะมาตายใสมือของเขาไม่ได่ นางยังมีภารกิจ ต้องช่วยพี่สาวหาไม้เสียนเฉินให้เจอ กำลังจะใช้เวทมนตร์โต้กลับ ข้างหูมีเสียงเรียกเบาๆลอยมา “ลูก…” เสียวนี้ราวกับเสียงสวรรค์ ทำทุกคนที่อยู่ถึงกับอึ่ง อวี่เหวินหลินรีบหันกลับมอง เห็นเพียงไทเฮาลุกขึ้นจากเตียง เขารับปล่อยเฟื่องชิงเสว่ลงแล้วไปอย่างข้างกายไทยเฮา “เสด็จแม่ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?” “ข้าสบายดีมาก“ไทเฮาพยักหน้า ฮ่องเต้เข้าใจฮองเฮาผิดแล้ว นางเพียงแค่จะช่วยรักษาอาการใบ้ของข้า ” ตอนแรกเฟิ่งชิงเสว่วิ่งมาตำหนักเชียนโส้ว ประกาศว่าสามารถถรักษาเขาได้ นางก็มีความรับเรอยู่บ้าง แต่คิดดูอีกที คิดสักว่ารักษาม้าตายดั่งม้าเป็นละกัน คงไม่มีอะไรแย่ไปกว่าสภาพในตอนนี้หรอก โชคดี เฟิ่งชิงเสว่ก็ไม่ได้ทำให้เขานั้นผิดหวัง เพียงฝ่ามือเดียวก็รักษาอาการใบ้ให้หายได้ เมื่ออีซี่เหวินหลินได้ยินก็จุกในใจ สายตาก็รีบมองไป คนตัวร่างเล็กนั้นก็ไม่เห็นเงาแล้ว นางไปแล้ว เหอเหอ คือกำลังหัวเราะเยาะข้า? แน่ใจว่าไทเฮาไม่เป็นอันใดแล้ว อวี่เหวินหลินถุงสบายใจออกจากตำหนักเชียนโส้ว นั้นตอนนี้ ฮ่องเต้เผชิญกับสองทางเลือก หนึ่งคือกลับห้องพระอัษรจัดการหนังสือบังคมทูลต่อ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน สองคือไปตำหนักเฟิ่งกุย ไปขอโทษฮ่องเฮาอย่างจริงจังและจริงใจ เห็นได้ชัดว่า อันแรกจะง่ายกว่าสำหรับเขา ในห้องพระอักษร ใครบางคนมีอาการกระวนกระวายใจอย่างยิ่ง ให้ตายสิ เหตุใดถึงรู้สึกตลอดว่าผิดต่อนาง? สถานการณ์ตอนนี้น เป็นใครคนไหนก็ต้องหงุดหงิดโมโหอยู่แล้ว เขาก็ยอมรับ ตนเองนั้นวู่วามไปจริงๆ แต่เรื่องนี้ดูเหมือนจะโทษเขาหมดก็ไม่ได้ เขาพยายามหาเหตุผลเพื่อลดความรู้สึกผิด แต่เหตุผลยิ่งเยอะ กลับยิ่งทำให้ในใจเพิ่มความรู้สึกผิดมากขึ้น 
已经是最新一章了
加载中