บทที่ 10 อย่าทำแบบนี้ค่ะ   1/    
已经是第一章了
บทที่ 10 อย่าทำแบบนี้ค่ะ
บ๗ที่ 10 อย่าทำแบบนี้ค่ะ หมั่นไส้ผู้หญิงคนนี้จริงๆทำตัวเหมือนเป็นผู้ใหญ่ต่อหน้าเขา ถ้าเธอพูดขนาดนี้ ก็ต้องลงโทษเธอสักหน่อยล่ะ “อยากให้ผมปล่อยคุณไปจริงๆหรือ?” เขาถาม พร้อมทั้งกัดริมใบหูของเธอ “ อืม…อย่า…อย่าทำแบบนี้ค่ะ” เธอบ่ายเบี่ยง ดิ้นหันหลบ อยากจะนั่งลง กลับโดนเขาโอบล็อกไว้อย่างแน่น และเมื่อเธอยิ่งดิ้น กลับยิ่งชิดใกล้เขา เขาก็ยิ่งได้ใจ เธอรู้ตัวเสมอว่า เธอเป็นคนมีครอบครัว จะปล่อยตัวแบบนี้ไม่ได้ “ก็ได้ งั้นคุณหอมผมหนึ่งฟอดแล้วผมจะปล่อยคุณ” เขาพูดพร้อมยื่นหน้าจูบริมฝีปากเธอทันที ใช้แรงกดจูบอยู่นานถึงยอมปล่อย หลังโดนเขาจูบ จนหน้ามืดตามัว แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ เมื่อเขาคลายมือ เธอรีบปลีกตัวออกห่าง ที่จริงเธอก็ไม่ได้โทษเขา ได้แต่โทษตัวเอง เพราะยังไงเธอก็อายุเยอะกว่าเขา ตอนนี้ก็ได้แต่โทษตัวเอง เขาดูเหมือนจะไม่ชอบให้คนอื่นว่าเขาอายุน้อย “อย่าพูดอีกเลย” เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ไม่อยากให้เขารู้ความรู้สึกของตัวเอง ก็เลยต้องปกปิดอย่างที่สุด “โอเค ไม่พูด สักวันหนึ่ง…..” สักวันหนึ่งจะเป็นยังไง เขาไม่ได้พูดต่อ เขาลุกขึ้นเดินไปยังห้องครัว “ผมไปต้มบะหมี่” เมื่อใกล้ถึงห้องครัวแล้ว เขาจึงพูดขึ้น เหอมั้นซินอึ้งอยู่กับที่ หัวใจเต้นแรงยังตื่นเต้นกับคำพูดเขาที่ยังพูดไม่จบ เหมือนจะรอคอย และอีกใจก็หวั่นกลัว   ไม่ ทั้งหมดนี้ไม่ปกติล่ะ ตั้งแต่พรุ่งนี้ต้องรักษาระยะห่างระหว่างเขา เกมส์ลึกซึ้งแบบนี้เล่นไม่ได้ ยังไงมนุษย์ก็เป็นสัตว์มีความรู้สึก เผื่อวันนี้พลาดพลั้งไป จะทำให้หวนกลับมาแก้ไขไม่ได้อีก สักพัก กลิ่นหอมของบะหมี่โชยออกมาจากห้องครัว เธอถึงรู้สึกว่าตนเองหิวมากแค่ไหน ท้องก็เริ่มร้องจ๊อกๆ “บ้านผมไม่มีโต๊ะอาหาร เรานั่งทานที่นี่กันนะครับ” เขายกหม้อบะหมี่มาวางบนโต๊ะ แล้วเดินกลับไปหยิบถ้วยกับตะเกียบมา “ฉันตักเองได้ค่ะ” เธอรู้สึกไม่ดี ที่ให้เขาตักบะหมี่ให้ตัวเอง คงเพราะปรนนิบัติคนอื่นจนชิน เลยทำตัวไม่ถูกเมื่อมีคนมาปรนนิบัติแบบนี้ “ไม่เป็นไรครับ น่าสงสารอย่างคุณ ผมเดาว่าตอนอยู่บ้านคงลำบากไม่น้อย วันนี้คุณก็คิดซะว่าพักผ่อน ให้ผมได้ปรนนิบัติคุณล่ะกันครับ” เขาพูดอย่างราบเรียบ พร้อมยื่นถ้วยบะหมี่วางตรงหน้าเธอ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขาฉลาด หรือตัวเองแสดงออกอย่างชัดเจน? คำพูดของเขาแต่ล่ะคำพูดตรงตามความรู้สึกของเธอเลย อบอุ่นใจที่สุด น่าสงสาร? ดูเหมือนว่าจะน่าสงสารจริงๆ “ซาบซึ้งจนทานไม่ลง?” เขามองหน้าเธออย่างขำขัน น่าแปลก เขามีรู้สึกว่าเธอน่าสงสาร ทั้งที่เขาเพิ่งรู้จักกันได้เพียงวันเดียว กลับรู้สึกเหมือนเคยรู้จักกันมาเนิ่นนาน แววตาเธอ ท่าทางเธอ หน้าตาเธอ ทุกๆอย่างของเธอล้วนทำให้เธอรู้สึกน่าสงสาร และก็ไม่ใช่ความรู้สึกเห็นใจ กลับเป็นความรู้สึกอยากที่จะทะนุถนอม ปกป้องเธอ “เป็นไปได้ยังไง?” เธอยิ้ม รอยยิ้มนั่นบริสุทธิ์ดั่งดอกบัว งดงามมาก เขามองอย่างตะลึง “เมื่อก่อนคุณทำงานอะไรคะ?” เธอไม่อยากที่จะคุยเรื่องราวของตัวเอง เธออยากคุยกับเขาเรื่อยเปื่อยมากกว่า บรรยากาศจะได้ไม่ลึกซึ้งกันเกินไป ต้องรู้ว่า ณ ตอนนี้เธอสวมใส่ไว้เพียงเสื้อเชิ้ตที่เผยต้นขาให้เห็น ตราบใดที่ยังไม่ได้ก้าวออกจากประตูนี้ อันตรายสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา พูดคุยเรื่องทำงาน เป็นวิธีเบี่ยงเบนความคิดได้ดีที่สุด “เคยเป็นพนักงานขายอยู่สองปีครับ แล้วคุณล่ะ?” เขาตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบปกติ แล้วเปลี่ยนมาถามเธอ ต่อให้รู้ว่าเธอมีครอบครัวแล้ว ยังเป็นผู้จัดการฝ่ายขาย ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่เขาก็รู้สึกว่าลึกลับ เหมือนอยากที่จะรู้เรื่องของเขามากกว่านี้ หรือคงเป็นเพราะอยากใกล้ชิดเธอ “เคยทำงานเกี่ยวกับงานเขียน ขีดๆเขียนๆ ต่อมาก็เป็นพนักงานขาย” ชีวิตของเธอเรียบง่าย ไม่มีอะไรน่าพูดถึง ถ้าจะมี ก็มีเพียงความหดหู่ น่าเบื่อ กับความจำเจซ้ำซาก “ดูเหมือนคุณไม่มีความสุข” “คะ?” “ผมพูดว่า คุณไม่มีความสุข” เขาพูดย้ำ อยากรู้ ทำไมเธอถึงไม่มีความสุข 
已经是最新一章了
加载中