ตอนที่ 9 ฝืนยิ้ม
1/
ตอนที่ 9 ฝืนยิ้ม
รักที่ปฏิเสธไม่ได้
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 9 ฝืนยิ้ม
ตนที่ 9 ฝืนยิ้ม เธออยากขดตัวเข้าไปในโอบกอดที่กว้างใหญ่นั้น แล้วร้องไห้ออกมาดังๆ ร้องทุกข์ออกมาให้หมด ให้เขาเผชิญเรื่องทุกอย่างกับตัวเอง เธออยากบอกเขามากเลยว่า เพื่อนที่ดีที่สุดของเขานั้น ที่แท้แล้ว เป็นขยะสังคม เป็นสัตว์ร้าย แต่เธอทำสิ่งนี้ไม่ได้ พิชัยเป็นคนที่ทำอะไรหุนหันพลันแล่น ถ้ารู้เรื่องวันนี้เข้า เขาจะต้องสู้กับจิรายุเป็นตายแน่นอน หรือฉันจะไม่แต่งงานกับเขาแล้ว?ฉันมันไม่บริสุทธิ์อีกต่อไปแล้ว ไม่คู่ควรกับเขา จู่ๆเธอก็มีความคิดแบบนี้ผุดขึ้นอยู่ในใจอีกครั้ง แต่ว่าจะทำเช่นนั้นก็ไม่ดี พ่อแม่พี่ชายต่างก็มาตั้งไกล จากบ้านเก่าบ้านเกิดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนตระกูลจันทร์ฉายก็ให้การ์ดเชิญกับพี่น้องไปหมดแล้ว ทว่างานแต่งงานถูกยกเลิก บ้านทั้งสองจะต้องถูกตกเป็นเรื่องเล่าตลกของชาวบ้านอย่างแน่นอน เธอบอกกับตัวเอง ว่าไม่มีอะไรที่ไม่บริสุทธิ์ทั้งนั้น หัวใจของตนทั้งดวงยังเป็นของเขาคนเดียว หัวใจยังคงบริสุทธิ์ หากชัยรู้ว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้น ก็ทำเพื่อช่วยชีวิตของเขา เขาจะไม่โทษตนเองแน่นอน ไม่โทษแน่นอน อาริยา นอนหลับซะ บางทีทุกอย่างมันอาจเป็นแค่ฝันร้ายก็ได้ ตื่นมายามเช้าก็จะพบว่าทุกอย่างเป็นแค่เรื่องล้อเล่น แต่เธอจะนอนหลับได้อย่างไร?ใบหน้าที่ดำมืดของจิรายุนั้น กับฉากที่เขาครอบครองเธออย่างเย็นชานั้น โผล่ขึ้นมาในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอเกลียดเขา! เกลียดเขาที่สุด! ขณะนี้ จิรายุนั่งดื่มคนเดียวในบาร์ประจำของเขาและพิชัย ดื่มแล้วดื่มอีก นึกถึงช่วงเวลาที่พบเจอกับพิชัย ที่ผ่านมานั้นยังคงอยู่ในหัวไม่เคยละหายจากไป เตรียมการมาตั้งแปดปี และในที่สุดก็รอจนถึงวันนี้แล้ว เดิมทีเขาควรจะพอใจและมีความสุข แต่แล้วเขากลับไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิด พอนึกถึงอาริยาที่ถูกทรมาน และชีวิตของพิชัยนั้น อาจถูกเปลี่ยนแพลนไปจากเดิม ทำให้หัวใจของเขาหนักอึ้ง จิรายุ แกทำในสิ่งที่ควรจะทำ ไม่ว่าเขาจะเจ็บปวดเพียงใด เขาก็สมควรที่จะได้รับมัน เขาดื่มไปแก้วนึงอย่างดุเดือด พร้อมนึกถึงเรื่องเมื่อแปดปีก่อน ซึ่งช่วงนั้นอยู่ในช่วงฤดูร้อนที่มีอากาศอบอ้าว ซึ่งความทรงจำนั้นก็ได้กวาดล้างฉายขึ้นมาอีกครั้ง วันนั้นเป็นวันเกิด14ปีของน้องสาวเขาเอง ศิวายุ ซึ่งเขาเพิ่งจะซื้อปลาสดและเค้กวันเกิดกลับมาบ้าน แต่กลับเห็นว่าน้องสาวกำลังกอดเข่าร่ำไห้ ผ้าปูที่นอนสีขาวบริสุทธิ์ของเธอเปื้อนด้วยเลือด และเธอพึนพำซ้ำๆอย่างเสียใจ ——พี่ชัย จิรายุจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตนเองปลอบใจศิวายุยังไง หลังจากที่เธอนอนหลับ เขาก็ถือมีดไปหาเพื่อนรักของตนเอง ก็เพื่อที่จะฟันเจ้านั่นให้ตาย แต่ระหว่างทางนั้น เขากลับสงบสติลงได้เสียก่อน เขาและศิวายุเป็นลูกกำพร้า ถ้าเขาตายไป น้องสาวจะอยู่ยังไง เธอยังอายุเพียงแค่14ปีเอง จะให้เธออยู่อย่างอนาถาคนเดียวได้อย่างไร จะอยู่รอดยังไง? เขากัดฟันกล้ำกลืนต่อความเกลียดชังทั้งหมด โดยแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไรเลย ส่วนพิชัยเองก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยังคงทำตัวเป็นเพื่อนรักกับตนต่อไป ตลอดแปดปีที่ผ่านมา เขาดูแลพิชัยมาโดยตลอด ก็เพื่อรอให้วันนี้มาถึง เขาต้องการให้พิชัยชำระรับกรรมกับสิ่งที่ก่อไว้ อาริยาเอ่ย อย่าโทษฉันเลย ใครให้เธอโง่หลงไปตกหลุมรักกับคนสารเลวแบบนี้ล่ะ ตอนนี้ เธอก็ต้องเป็นแค่ตัวหมากของฉัน ... รุ่งสาง อาริยาลืมตาขึ้น ซึ่งร่างกายที่เจ็บปวดนั้นก็บอกเธอว่าทุกอย่างไม่ใช่ความฝัน เธอปวดเมื่อยไปทั่วตัวยิ่งกว่าเมื่อวาน ราวกับถูกแยกเป็นชิ้นๆยังไงยังนั้น แต่เธอก็พยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นมา และแล้วก็เห็นแม่กำลังเดินเข้ามาหา "ลูกสาว ตื่นแล้วหรือ?มาทานเกี๊ยวเร็วเข้า!" “เช้าแบบนี้กินเกี๊ยวทำไมกัน "เธอถามด้วยความงุนงง "เอ้า เด็กคนนี้นี่ ลืมแล้วหรือไง?มันเป็นประเพณีของบ้านเกิดเราไง กินเกี๊ยวขาไป กินบะหมี่ขามา แม่กลัวว่าลูกจะไม่มีเวลากินตอนแต่งหน้าเสร็จ วันนี้ลูกคงต้องเหนื่อยมากแน่ๆ รีบมากินสิ! " "โอ้ มาแล้ว"เธอตอบด้วยน้ำเสียงอู้อี้ และหยิบเครื่องมือแปรงฟันแล้วออกมา เมื่อคืนเจ้าเด็กคนนี้ยังตื่นเต้นมากอยู่เลย ทำไมวันนี้ถึงอารมณ์เสียซะล่ะ แปลกนะเนี่ย "แม่กระซิบกับธนาธร อย่างเงียบ ๆ “ ฉันก็คิดว่ามันแปลกๆ หรือไม่อยากจากพวกเราไป?” ธนาธรกล่าว "ไม่ใช่มั้ง เด็กคนนี้จะกลัวจากเราไป ออกไปเรียนตั้งหลายพันไมล์ ยังไม่ได้บอกเลยว่าคิดถึงสักคำ ตอนนี้พวกเราก็อยู่กับเธอกันหมด และคุณเห็นลูกกับชัยรักกันจะตาย คงอยากแต่งงานใจจะขาดตั้งนานแล้ว" "นั่นน่ะสิ ประหลาดจริง!" อาริยาได้ยินคำพูดของพ่อแม่ ซึ่งก็เตือนสติเธอ วันนี้คืองานแต่งงานของเธอ เธอต้องเข้มแข็งไว้ ไม่ควรให้พ่อแม่กังวล และต้องไม่ให้ตระกูลจันทร์ฉายเสียหน้า ที่สำคัญ ต้องไม่ให้พิชัยดูออก อาริยา แกเป็นผู้หญิงที่มองโลกในแง่ดี ไม่ว่าชีวิตจะให้ความทุกข์แบบใดมา แกก็สามารถเผชิญกับมันได้อย่างกล้าหาญเป็นแน่ แกต้องทำได้ แกต้องยิ้มได้อย่างแน่นอน เธอสะกดจิตตนเองซ้ำแล้วซ้ำอีก เมื่อเธอล้างหน้าแปรงฟันกลับมาเรียบร้อย ใบหน้าเป็นก็เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม “ เกี๊ยวไส้อะไรคะ ถ้าไม่อร่อยไม่กินนะแม่!” เธอพูดพร้อมกับยิ้มอย่างสนุกสนาน พ่อแม่แลกสายตาแบบว่าคงคิดมากไปเอง และดูลูกสาวอย่างมีความสุข "ไม่กินงั้นเหรอ ดีสิ ไม่ใช่ยัดจนท้องยื่นล่ะ!”ธนาธรรู้ว่าลูกสาวตนชอบกินเกี๊ยวที่ตนและแฟนห่อ ด้วยความภูมิใจ ก็ยิ้มและหยอกล้อลูกสาว อาริยายิ้มตามปกติอย่างเช่นเคย แล้วจับตะเกียบแล้วหยิบเกี๊ยวเข้าปาก "กินช้าๆ ไม่รีบ เด็กคนนี้นี่!" แม่ถอนหายใจ กำลังกินอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าและเสียงหัวเราะที่เริ่มใกล้เข้ามาเรื่อยๆ “อาริยา ยินดีด้วยนะ!” "ธิดา เธอมาแล้วหรือ พอดีเลย มากินเกี๊ยวเร็ว!" อาริยารีบทักทายแล้วเดินไปที่ประตู จับมือเธอให้เธอเข้ามา ธิดาเป็นเพื่อนร่วมงานของเธอ และเธอเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของเธอ "ขอแสดงความยินดีด้วยนะ เอานี่ไปสิ อั่งเปา!"ธิดายิ้ม พร้อมหยิบอั่งเปาที่เตรียมไว้ แล้วเอาวางบนมืออาริยา "เธอเกรงใจอะไรกับฉันเนี่ย ความยินดีก็พอแล้ว อั่งเปาเธอเก็บไปเถอะ" ธิดาย้ายออกไปเช่าบ้านเข้านอก หลังจากที่เลิกกับแฟนหนุ่ม ซึ่งเธอก็ไม่ค่อยมีเงินในกระเป๋า อาริยาสงสารเห็นใจเธอ "ไม่เป็นไรหรอกหน่า เอาหน่า จนแค่ไหนก็ไม่ขาดเงินแค่นี้หรอก เก็บไว้ซะ นี่คือพรของฉัน!"ทั้งสองคนก็ยื่นไปยื่นมา อาริยาเถียงไม่ชนะ จึงรับมันไว้ในท้ายสุด ธิดาเป็นเพื่อนเจ้าสาวในวันนี้ ปกติเธอชอบตื่นสายเพราะหลับดึก เช้านี้เธอมาเช้าขนาดนี้ ทำให้อาริยาทั้งรู้สึกคาดไม่ถึง และขอบคุณมากๆ คุณนายรัตนากรรีบหยิบชามและตะเกียบมาให้ ส่วนธิดาก็ไม่เกรงใจมาก นั่งกินเกี๊ยวกับอาริยาไปเป็นครึ่งชามใหญ่ทั้งหมด จึงนั่งแท็กซี่ไปที่สตูดิโอเพื่อแต่งหน้าแต่งตัวให้เจ้าสาว ธิดาช่วยจัดการให้เสร็จทุกอย่าง แล้วพาอาริยากลับไปที่ห้องเช่าเดิมที่ตระกูลรัตนากรอยู่ชั่วคราว รอให้ตระกูลจันทร์ฉายแห่ขันหมากมารับเจ้าสาว
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 9 ฝืนยิ้ม
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A