บทที่ 12 ใครลำบากใจใครกัน   1/    
已经是第一章了
บทที่ 12 ใครลำบากใจใครกัน
บ๗ที่ 12 ใครลำบากใจใครกัน ภาพตรงหน้าคือมู่จิ่งเหยียนวิ่งออกมา อุ้มเจียงรั่วฉิงที่มีเลือดอาบไปทั่วทั้งร่างพุ่งไปทางประตูทางออก ไม่มีใครสนใจเธอที่ล้มลงบนพื้นเลย ทุกคนมองเธอด้วยความรังเกียจ ความเกลียดชัง และความเยาะเย้ย ยังมีสายตาที่ลึกซึ้งของมู่จิ่งเหยียนที่มองตัวเองครั้งสุดท้าย ทั้งลึก ทั้งซึ้งที่เต็มไปด้วยความโกรธ คนที่เขาชอบคือเจียงรั่วฉิงนี่เอง ไม่ใช่เธอ! “ไม่ใช่ฉัน ฉันไม่ได้เป็นคนผลัก ไม่ใช่!” ไป๋หลิงซีตะโกนและลุกขึ้นมานั่ง ภาพที่เห็นไม่ใช่หอพักที่คุณเคย ไม่ใช่รูมเมทที่คุ้นเคย แต่เป็นใบหน้าหล่อเหลาที่เต็มไปด้วยความโกรธเคือง มู่จิ่งเหยียน! เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? “ทำไมถึงเป็นคุณ?” ไป๋หลิงซีพูดออกมาโดยไม่ได้คิด พูดจบถึงได้รู้สึกตกใจกับคำพูดของตัวเอง เมื่อสัมผัสได้ถึงรอยยิ้มที่เยาะเย้ยบนใบหน้าของเขา อกที่เคยสงบ ก็มีอาการปวดแน่นขึ้นมาอีกครั้ง “ทำไม คุณไม่ได้คาดหวังว่าเป็นผมมาโดยตลอดหรอ? กลัวผมจะรู้ความลับในใจคุณ? หรือว่า ไม่อยากให้ผมเห็นคุณกลับใจสารภาพ?” มู่จิ่งเหยียนบีบคั้นทีละน้อย รอยยิ้มที่กระตุกขึ้นบนใบหน้าที่หล่อเหลา ยิ่งมีเสน่ห์ขึ้นเรื่อยๆอย่างแปลกประหลาด ยิ่งเขาใกล้เข้ามามากเท่าไหร่ ไป๋หลิงซีก็ถอยห่างมากเท่านั้น จนกระทั่งร่างทั้งร่างร่วงมารวมกันเป็นก้อน เธอนอนเอนอยู่ที่มุมของเตียง มองดูใบหน้าอันหล่อเหลาที่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆตรงหน้า ใบหน้าที่เคยซีดขาว เริ่มสั่นไหวขึ้นมา “ไม่ ฉันไม่ได้ คุณไม่อยากเห็นฉันมากขนาดนี้ แล้วคุณยังจะมาที่นี่อีกทำไม? ที่ฉันป่วย คุณควรจะดีใจไม่ใช่หรอ?” ไป๋หลิงซีคลุมหัวของตัวเองไว้ อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาเสียงแหลม เสียงที่คมชัดของเธอ ทำให้มู่จิ่งเหยียนที่กำลังขยับเข้าไปใกล้หยุดชะงัก การกระทำทั้งหมดหยุดลง มองไปทางดวงตาของไป๋หลิงซี และเริ่มโกรธขึ้นมาเรื่อยๆ! “คุณพูดถูก ผมก็แค่มาดูว่าคุณตายหรือยัง แต่น่าเสียดาย... ...ที่ต้องผิดหวัง!” เธอไม่เพียงแต่ไม่เป็นอะไร ยังมีชีวิตอยู่อย่างสุขสบายอีกด้วย และยังมีแรงมากพอมาเถียงกับเขาอีก เขาควรจะชมว่าเธอกล้าหาญดี? หรือจะบอกว่าเธอไม่กลัวตายดี! “จริงหรอ ทำให้คุณต้องผิดหวังแล้ว ต้องขอโทษจริงๆ ตอนนี้คุณก็ดูเสร็จแล้ว คงจะไปได้แล้วใช่ไหม! ข้อตกลงของเราคือวันที่ 10 ของทุกเดือน ตอนนี้ก็ยังไม่ถึงวันที่ 10 คุณมู่ไม่ควรใจร้อนขนาดนี้จริงไหม ที่มาทำให้คนป่วยต้องลำบากใจ!” ทั้งๆที่เธอกลัวว่าเขาจะโกรธ ทั้งๆที่เธอกลัวว่าเขาจะไม่สนใจตัวเอง แต่ว่าไม่รู้ทำไม คำพูดที่เธอพูดออกมาในช่วงนี้ กลับต่อต้านเขา ถูกกดขี่มานานมากจริงๆ แม้นิสัยดีมากแค่ไหน ก็เริ่มเรียนรู้ที่จะต่อต้านแล้วหรอ? “ใครบอกว่าไม่? ผมชอบรังแกคนป่วยมากที่สุดเลย ผมเป็นคนกำหนดเวลา ผมต้องการเมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้น คุณคิดว่าคุณมีสิทธิปฏิเสธด้วยหรอ?” มู่จิ่งเหยียนยิ้มขึ้นมาด้วยความเย็นชา ร่างสูงไปถอยแต่ขยับเข้ามาใกล้ ยังไม่ทันที่ไป๋หลิงซีจะรู้ตัว ทั้งร่างก็ขยับเข้าไปชิดทันที มือใหญ่ดึงคอเสื้อของไป๋หลิงซีล จนร่างของเธอประชิดเข้าในอ้อมกอด “มู่จิ่งเหยียนคุณปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไอคนอันธพาล ฉันยังป่วยอยู่นะ” “ทำไมเมื่อก่อนยังเรียกพี่จิ่งเหยียนอยู่เลยไม่ใช่หรอ? ทำไมตอนนี้เปลี่ยนไปแล้วหละ หรือเธอคิดว่าเมื่อมาถึงเมืองเจียงเฉิง เธอก็มีความสามารถที่จะหลุดพ้นไปจากผมได้แล้ว” มู่จิ่งเหยียนพูดไปด้วย มือใหญ่ก็เริ่มฉีกเสื้อที่เปราะบางบนร่างของไป๋หลิงซีออก เสียงของผ้าที่ฉีกขาดอย่างง่ายดาย ดังกระทบประสาทสัมผัสของคนทั้งสอง ตอนที่มู่จิ่งเหยียนออกมาจากห้องพยาบาล หมู้จิ่นและหลิวซือเจียที่เฝ้าอยู่ด้านนอกถึงกับชะงัก เมื่อเห็นรอยข่วนสองเส้นบนคอของมู่จิ่งเหยียน ทั้งสองคนตะลึงไปชั่วขณะ “ทำไมพวกคุณยังอยู่ที่นี่?” เมื่อเห็นคนทั้งสองที่อยู่ด้านนอก มู่จิ่งเหยียนก็ตกใจ คิ้วที่สวยขมวดเข้าหากันแน่น ใบหน้าหล่อเหลาที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมานานกว่าพันปี ถูกเผากลายเป็นสีแดง “เอ่อ... ...พวกเราก็แค่เป็นห่วงว่าไป๋หลิงซีจะเป็นอะไร คุณมู่... ...” หมู้จิ่นเพิ่งได้ยินคณบดีเรียกแบบนี้ ดังนั้นสำหรับมู่จิ่งเหยียนเธอรู้แค่ว่านามสกุลมู่ เป็นคู่หมั้นของไป๋หลิงซี “ไม่ใช่เรื่องของพวกคุณ ดูแลเธอให้ดี!” โทนคำสั่งทั่วไป พูดจบก็สาวเท้าเดินออกไป ไม่ได้ทิ้งสายตาไว้มากนัก ท่าทางที่เย็นชา ทำให้คนสงสัยได้อย่างง่ายดายว่าเคยไปติดหนี้เขาไว้หรือเปล่า! 
已经是最新一章了
加载中