บทที่ 13 คู่หมั้นของเธอมารับหรอ   1/    
已经是第一章了
บทที่ 13 คู่หมั้นของเธอมารับหรอ
บ๗ที่ 13 คู่หมั้นของเธอมารับหรอ หมู้จิ่นและหลิวซือเจียเดินเข้าไปในห้องพยาบาล เมื่อเห็นไป๋หลิงซีที่อึดอักใจไปทั้งร่างอยู่บนเตียงคนไข้ ทำให้ตกใจไปชั่วขณะ ทั้งสองคนยังเป็นเด็กผู้หญิงที่ยังไม่มีประสบการณ์ทางสังคม เมื่อเห็นร่องรอยบนร่างกายของไป๋หลิงซี ก็หน้าแดงขึ้นมา และรีบขยับสายตาไปทางทิศอื่นทันที อย่างไรก็ตามพวกเขาเป็นคู่หมั้นกันแล้ว ถึงจะทำอะไรกันก็เป็นเรื่องปกติ สงสารก็แต่พวกเขาที่เป็นคนดู กวางน้อยวิ่งวนในใจ “ฉันไม่เป็นอะไร พวกเธอกลับไปพักผ่อนเถอะ ดึกป่านนี้แล้วต้องมารบกวนพวกเธอ เกรงใจจริงๆ” ในทางกลับกันไป๋หลิงซี ที่ใบหน้านิ่งสงบ เพียงแค่ดึงผ้าห่มที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาคลุมร่างไว้เท่านั้น และแกล้งทำเป็นหลับไป “เธอไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปก่อนนะ เธอพักผ่อนดีดีหละ” เมื่อหมู้จิ่นและหลิวซือเจียเห็นว่าไม่มีทางอื่น และก็ทำได้แค่เดินออกไปอย่างสบายใจ ภายในห้องพยาบาลที่เงียบสงบเหลือไว้เพียงไป๋หลิงซีแค่คนเดียว ภายใต้ผ้าห่ม มีเสียงหวีดร้องออกมาเล็กน้อยเป็นบางครั้ง ในค่ำคืนที่เงียบสงบนี้ มันช่างดูโดดเดี่ยวมากเหลือเกิน เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทุกวันที่ 10 ของทุกเดือน ไป๋หลิงซีก็ทำตามที่มู่จิ่งเหยียนเคยบอกไว้ จะลาหยุดสามวันและไปที่วิลล่าที่นัดกันไว้ ถึงแม้มู่จิ่งเหยียนไม่มา ก็จะส่งข้อความมาบอกเธอก่อนเสมอ ครึ่งเทอม เป็นเวลาที่ไป๋หลิงซีคาดไม่ถึงมาก่อน ตั้งแต่วันหยุดฤดูร้อนจนถึงวันหยุดฤดูหนาว สำหรับเธอแล้ว มันเหมือนแค่พริบตาเดียวเท่านั้น “หลิงซี วันหยุดฤดูหนาวนี้เธอจะกลับบ้านไปหาคุณปู่ไหม?” เมื่อทั้งสามคนอยู่ด้วยกันนานขึ้น หมู้จิ่นและหลิวซือเจียก็รู้เรื่องในครอบครัวของไป๋หลิงซีแล้วไม่น้อย ทว่ารู้แค่ว่าเธอมีคุณปู่หนึ่ง คนมีคู่หมั้นแล้วหนึ่งคน ฐานะทางครอบครัวดีมาก พูดได้ว่าเป็นครอบครัวขุนนาง นอกเหนือจากนี้แล้วพวกเธอก็ไม่รู้อะไรอีก เรื่องเล็กน้อยในตอนที่เพิ่งเข้าเรียนผ่านไปในชั่วพริบตา แม้ทั้งสามคนจะไม่เก็บมาใส่ใจ แต่เห็นได้ชัดว่าตั้งแต่นั้นมาหมู้จิ่นและหลิวซือเจียก็ไม่เคยพาไป๋หลิงซีออกไปนอกโรงเรียนอีกเลย ในจุดนี้ ไป๋หลิงซีก็รู้ว่าเพราะอะไร “อื้อ เดี๋ยวตอนเย็นก็ไปแล้ว!” ไป๋หลิงซีเก็บเสื้อผ้าในมือไปด้วย พลางตอบคำถามอย่างสงบ “คู่หมั้นของเธอมารับใช่ไหม?” เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า ก็จะรู้ว่าหลิวซือเจียก็เหมือนกับทอมบอย แต่ทว่าขี้ขลาดไปหน่อย เมื่อได้ยินคำว่ามู่จิ่งเหยียนตาของทั้งสองคนก็จะสว่างขึ้นมาทันที นอกจากจิตวิญญาณอันน่าทึ่งในตัวมู่จิ่งเหยียนแล้ว ทั้งใบหน้า และรูปร่างนั้น ก็ดึงดูดเด็กผู้หญิงที่ยังใฝ่ฝันถึงเจ้าชายขี่ม้าขาวแบบพวกเธอมาก “ไม่ใช่!” เมื่อไป๋หลิงซีจัดการเก็บสัมภาระของตัวเองเสร็จแล้ว ก็หมุนตัวเดินออกไปทางประตู ก็แค่อยากฉลองปีใหม่กับคุณปู่ ดังนั้นเธอก็เลยไม่ได้เก็บของของตัวเองมากเท่าไหร่ ทันทีที่ไป๋หลิงซีออกจากประตูโรงเรียนไป ก็มองเห็นรถคันที่คุ้นเคย คนขับรถรับสัมภาระของเธอไป และเปิดประตูรถให้ไป๋หลิงซี รถเคลื่อนที่ไปอย่างต่อเนื่อง ทว่ายังไม่ทันได้ออกไปไกลเท่าไหร่ ก็ไปหยุดอยู่ที่สัญญาณไฟจราจร ชั่วขณะหนึ่งที่ไป๋หลิงซีหันหน้า ในตอนนั้นมองเห็นร่างของคนที่กำลังเดินอยู่ข้างถนน ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วสวยๆเข้าหากัน เธอไม่ใช่คนที่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น โดยเฉพาะเรื่องชกต่อยของเด็กกลุ่มเล็กๆ เธอก็แค่มองเท่านั้น ไม่นานก็หลีกเลี่ยงไป รถเริ่มขับไปตามถนน คนขับรถตั้งใจขับรถและนั่งอยู่ด้านหน้า: “ประธานมู่บอกว่าให้คุณอย่าเพิ่งกลับไปที่บ้านตระกูลไป๋ เขาได้เตรียมวิลลาที่เมืองเยนเฉิงไว้ให้คุณแล้ว ให้คุณพักที่นั่นก่อน ทางคุณปู่ไป๋ให้คุณบอกว่าทางโรงเรียนให้อยู่ต่ออีกสองสามวันก็พอ” “จอดรถ!” ทันทีที่คนขับรถพูดจบ เสียงของไป๋หลิงซีก็ดังขึ้น คนขับรถชะงักไปชั่วขณะ แต่ก็หยุดรถลงข้างถนน ทันทีที่รถเพิ่งจะหยุดลงก็ได้ยินเพียงเสียงของประตูหลังรถดังขึ้น เห็นเพียงร่างหนึ่งวิ่งออกไป พุ่งไปทางกลุ่มอันธพาลพวกนั้น คนขับรถตกใจ ไม่ทันได้เอ่ยปาก ก็วิ่งตามออกไปด้วย “ปล่อยเขาซะ!” “โยว สาวน้อยนี้มาจากไหน ถึงได้กล้าวิ่งมาออกหน้าถึงที่นี่ ทำไม? อยากจะมาเป็นสาวสวยช่วยฮีโร่หรอ? ไม่ต้องมาลำบากขนาดนั้นก็ได้ แค่มานอนกับพวกพี่ชายสักสองสามคืน ไอเด็กนี่ก็เป็นของเธอแล้ว เป็นไง? ธุรกิจนี้คงจะกำไรใช่ไหม! ฮาฮาฮา!” 
已经是最新一章了
加载中