บทที่ 10
บ๗ที่ 10
“ฉันไม่ได้พูดว่าจะไปนะ เธอรีบไปบอกแม่เลย ถ้าหากไม่อยากให้คนอื่นไม่พอใจที่ไม่ไปตามนัด ก็อย่าให้แม่ลำบากตัวเองเลย” พูดจบ โม่เสว่หานก็หยิบหมอนขึ้นมาไล่ให้โม่ฉิงออกจากห้องไป
เธอที่นอนอยู่บนเตียง รู้สึกสับสนเกี่ยวกับอนาคต โดนการปล่อยเนื้อปล่อยตัวครั้งแรกทำลายจนย่อยยับป่นปี้แล้ว
จู่ ๆ โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เป็นเบอร์แปลก
โม่เสว่หานไม่ได้คิดเยอะ จึงรับสายทันที เสียงงดงามมีสง่าของผู้หญิงดังขึ้นจากโทรศัพท์ “โม่เสว่หานใช่ไหม? ฉันคือ......แม่ของเหยียนอี้ฝาง ฉันอยากจะนัดเจอเธอสักหน่อย”
โม่เสว่หาน “......” ในเวลาอันสั้นและเงียบนี้ เธอจินตนาการถึงภาพแม่สามีใจร้ายที่ต้องการจะแยกสามีภรรยาให้ออกจากกัน แม้กระทั่งบทละครน้ำเน่าที่ให้เงินเธอเพื่อให้เลิกยุ่งกับลูกชายของเธอ สุดท้ายก็มายังสถานที่ที่นัดกันเอาไว้
ร้านกาแฟ
โม่เสว่หานอยู่ต่อหน้าแม่ของเหยียนอี้ฝางก็รู้สึกได้ถึงความไม่สงบสุขนิดหน่อย ถอนหายใจด้วยความหดหู่ ความหน้าตาดีของเหยียนอี้ฝางนั้นได้กรรมพันธุ์มาจากแม่ทั้งหมด แน่นอนว่านิสัยเย็นชาของเขาก็ได้จากกรรมพันธุ์มา
ไม่มีคนเปิดปากพูดก่อน หลังจากที่ต่างคนต่างเงียบได้สิบนาที ในที่สุดแม่อี้ฝางก็นำบัตรใบหนึ่งวางลงบนโต๊ะแล้วดันมาให้เธอ “ในนี้มีห้าแสน เลิกยุ่งกับลูกชายของฉัน”
โม่เสว่หานกระตุกมุมปาก แต่ไหนแต่ไรไม่เคยลองเรื่องที่คิดสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้น
แม่อี้ฝางเมื่อเห็นเธอไม่มีการตอบรับ สีหน้าเคร่งขรึมพูดขึ้น “ทำไม ไม่พอใจเหรอ?”
“ไม่ค่ะ พอใจ พอใจแล้ว!” โม่เสว่หานยิ้มทื่อ หยิบบัตรทองยัดลงในกระเป๋า “คุณผู้หญิงวางใจได้ค่ะ ฉันจะไม่ยุ่งกับเขาอีก”
“รู้ตัวเองก็ดี ดีมาก รหัสแปดหกตัว” แม่อี้ฝางมองโม่เสว่หานอย่างเหยียดหยาม ไม่อยากจะเสียเวลาไปกับเธอ จึงถือกระเป๋าแล้วเดินออกไปเลย แม้แต่พูดลาก่อนก็ไม่มี
โม่เสว่หานมองดูบัตรในมือ แล้วถอนหายใจ รู้สึกเหมือนโดนดูถูกนิดหน่อย เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดวีแชทแล้วส่งข้อความหาเหยียนอี้ฝาง :อยู่ไหน?
พอดีกับที่เหยียนอี้ฝางกำลังอยู่ที่โรงไวน์ของเพื่อนที่รัก เมื่อเห็นข้อความในสายตาแสดงความงงงวย :คิดถึงฉันเหรอ?
โม่เสว่หาน:นายอยากจะคิดแบบนั้นชั่วคราวก็ได้
ติงหลังเข้ามาใกล้ เห็นบทสนทนาของทั้งสองคน ยิ้มอย่างประหลาดใจ “นี่คือพี่สาวคนนั้นที่ดื่มเหล้าเมาแล้วมีอะไรกับนายเหรอ?”
เหยียนอี้ฝางไม่ได้พูดอะไร ส่งตำแหน่งที่ตั้งไปให้เธอโดยตรง
โม่เสว่หานมาที่โรงไวน์ตามตำแหน่งที่ตั้ง แต่ก่อนที่เธอจะมาถึงเธอแวะไปที่ธนาคารก่อนแล้ว
“เฮ้ พี่สาวคนสวยคนนี้คือโม่เสว่หานใช่ไหม?” ติงหลังรอการปรากฏตัวของเธอมาโดยตลอด อยากจะดูว่าตกลงเป็นคนยังไงถึงได้ทำให้เหยียนอี้ฝางต้องมากินเหล้าที่เขาหลายวันติดต่อกัน
โม่เสว่หานถูกความเป็นมิตรของติงหลังทำให้ตกใจหมด โชคดีที่เธอมีสติทำให้ใจเย็นลง พยักหน้าเบา ๆ ยิ้มน้อย ๆ แล้วเดินเข้าไปข้างใน มองเห็นเหยียนอี้ฝางที่นั่งดื่มเหล้าไม่พูดไม่จาอยู่ที่ข้างหน้าต่าง
พูดจากใจ เขาในท่าทางแบบนี้ทำให้......ดึงดูดใจคนจริง ๆ!
โม่เสว่หานสติแตกตื่นในชั่วพริบตาเดียว ตะลึงจนขยับไม่ได้ ทันใดนั้นเหยียนอี้ฝางหันหลังกลับมา มองไปที่เธอด้วยสายตาที่เลือนลาง ยิ้มอย่างพออกพอใจ “มาหาฉันมีธุระอะไร?”
ติงหลังยิ้มตาหยีนั่งลงใกล้ ๆ รอคอยเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในข้างหน้าอย่างใจจดใจจ่อ ไม่คลาดเคลื่อนสายตาจับจ้องไปที่พวกเขา
โม่เสว่หานก็ยิ้มมุมปาก เดินเข้าไปหาเหยียนอี้ฝางทีละก้าว ๆ แล้วเปิดกระเป๋าออก หยิบเงินที่ถอนออกมาจากธนาคารออกมา “นี่คือเงินห้าแสน ค่าเสียตัวของนาย ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปนายกับฉันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก”
พูดจบ ก็หยิบธนบัตรสีแดงชมพูโยนลงบนตัวเขาอย่างแรง ธนบัตรสีแดงลอยเต็มห้องระหว่างคนสองคนอย่างสวยงาม งดงามราวกับเพ้อฝัน
ติงหลังตกตะลึง อ้าปากกว้างจนสามารถยัดไข่ไก่เข้าไปได้ ถลึงตายังกับขนมโดรายากิ ในตอนนี้กลับรู้สึกว่าโม่เสว่หานเท่มากจนคาดไม่ถึง!
โม่เสว่หานก็รู้สึกว่าตนเองในเวลานี้เท่มาก ยิ้มมุมปากอย่างภาคภูมิใจ แล้วพูดกับเขาด้วยท่าทางที่ตนเองคิดว่าสง่างาม ““สาวสวย เธอรู้ไหมว่าตัวเองทำอะไรอยู่?”