บทที่ 14
บ๗ที่ 14
เมื่อเห็นโม่เสว่หานที่โมโหจนเดินออกไปเพราะไม่ยินยอมที่จะทำแท้ง เหยียนอี้ฝางดูเหมือนว่าไม่ได้โกรธอะไรขนาดนั้นแล้ว อย่างน้อยผู้หญิงคนนี้ก็ยังมีจิตสำนึกอยู่นิดหน่อย ไม่กล้าที่จะทำแท้งลูกของเขา
เมื่อเห็นเธอเดินไปไกลแล้ว ห่างกันพอสมควรแล้ว เหยียนอี้ฝางถึงจะตามออกไป
ติงหลังก็ตามหลังไปอย่างรู้งาน ผู้ชายทั้งสองคนสะกดรอยผู้หญิงเป็นครั้งแรกในชีวิต รู้สึกแปลกประหลาดนิดหน่อย
“เอ! ขอถามคุณชายเหยียนหน่อย ว่าทราบได้อย่างไรว่าพี่สาวคนนี้ตั้งครรภ์แล้ว และแน่ใจได้เยี่ยงไรว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของนาย?”
“นายพูดมากเกินไปแล้ว” เหยียนอี้ฝางกลับไม่อยากพูด อันที่จริงเป็นเพราะเขาไม่แน่ใจว่าโม่เสว่หานตั้งครรภ์จริงหรือไม่ แต่เสี่ยวลี่ส่งข้อความหาเขา แต่กลับส่งผลกระทบต่อตนเองเป็นอย่างมาก
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมต้องสนใจโม่เสว่หานขนาดนี้ แม้กระทั่งจะลดหน้ามาเผชิญหน้ากับเธอก็ทำไม่ได้
ทั้งสองคนตามโม่เสว่หานไปที่ร้านอาหารฝรั่งอีกร้านนึง และเลือกนั่งลงตรงมุมที่ลับสายตาคนอีกครั้ง สะดวกต่อการสังเกตการณ์
ติงหลังยกแก้วน้ำขึ้นแล้วพูดขึ้น “เอ! เธอไม่น่าจะนัดเจอหน้าผู้ชายอีกนะ?”
เพิ่งพูดจบ ก็มีผู้ชายใส่เสื้อเชิ้ตสวมแว่นตาเดินมาข้างโม่เสว่หาน “ประทานโทษนะครับใช่พี่โม่เสว่หานไหมครับ? ผมคือหูจื๋อหยวน ดีใจที่ได้เจอคุณนะครับ”
ติงหลังพ่นน้ำออกมาโดนหน้าเหยียนอี้ฝางอีกครั้ง ในใจแอบชูนิ้วโป้งให้กับโม่เสว่หาน!
คาดไม่ถึงว่าบนโลกนี้ว่ายังมีคนที่สามารถทำให้เหยียนอี้ฝางโกรธได้ขนาดนี้แต่ก็ยังไม่ระเบิดออกมา จนถึงตอนนี้มีเพียงเธอคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่
“สวัสดีค่ะ” โม่เสว่หานรวบรวมรอยยิ้ม พยายามทำให้ตนเองดูมีมารยาทและดูเป็นกันเอง
คนนี้ดีกว่าคนที่แล้ว ถึงแม้ว่าจะดูธรรมดามาก แต่อย่างน้อยดูแล้วไม่น่าขยะแขยง
แต่คิดไม่ถึงว่าผู้ชายคนนี้มาถึงก็เปิดปากขึ้น ถามคำถามเดียวกันกับผู้ชายคนก่อนหน้านี้เป๊ะ
“พี่โม่เสว่หานปัจจุบันกำลังตั้งครรภ์อยู่?”
โม่เสว่หานยิ้มแข็งทื่อ พยักหน้า
“งั้นพ่อของเด็กหละครับ?”
“ตายแล้ว พ่อของเด็กเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตแล้ว!” เมื่อเทียบกับความลังเลก่อนหน้านี้ คำตอบครั้งที่สองนี้กลับราบรื่นมาก
เสียงแก้วแตกดังมาจากมุมหนึ่ง โม่เสว่หานตกใจอยู่แวบหนึ่ง หันหลังกลับไปดูก็ไม่เห็นว่าที่มุมนั้นเกิดอะไรขึ้น จึงทำได้เพียงหันกลับมา
ความเป็นจริงนั้น ถ้าหากไม่ใช่ติงหลังกดให้เหยียนอี้ฝางนั่งลงบนเก้าอี้ เขาคงพุ่งออกไปแล้ว!
“ใจเย็น ใจเย็นดิ!นายออกไปแบบนี้ก็เปิดเผยหมด นายเอาศักดิ์ศรีฉันยังเอาอยู่นะเว้ย!” ติงหลังไม่อยากถูกกล่าวหาว่าเป็นโรคจิต
“อันที่จริง พี่โม่เสว่หานทำให้ผมพอใจอยู่มาก พูดจากใจจริง ถ้าหากไม่มีเด็กละก็......”
“หยุด นายพูดอะไร?” โม่เสว่หานรู้สึกว่าผู้ชายพวกนี้โหดเหี้ยวเหมือนกันหมด เริ่มต้นพูดว่าไม่ถือสาเรื่องลูก ตอนนี้แต่ละคนพูดถึงแต่ลูก
“อ้อ พี่เสว่หานอย่าถือสา ผมแค่พูดความจริง เพราะการเลี้ยงลูกในสังคมสมัยนี้ไม่ใช่ถูก ๆ ที่สำคัญคือไม่ใช่ลูกของตัวเอง”
“ช่างเถอะ พวกเราพอแค่นี้เถอะนะ!” โม่เสว่หานหยิบกระเป๋าขึ้น หยิบเงินค่าเครื่องดื่มของตัวเองวางไว้บนโต๊ะ แล้วพูดขึ้นอย่างจริงจัง “ไม่ต้องพบเจอกันอีก!”
โม่เสว่หานเดินออกจากร้านอาหารฝรั่งอีกครั้ง ติงหลังทนไม่ไหวหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง
เหยียนอี้ฝางกลับเสียใจที่พาไอ้ติงหลังมา เรื่องนี้ต้องถูกเขาแขวะไปตลอดชีวิตแน่!
หลังจากที่โม่เสว่หานเดินออกจากร้านอาหารฝรั่ง ติดต่อกับผู้ชายคนที่สามทันที ในตอนที่แข่งกับเวลานี้ต้องรีบตัดสินใจ ห้ามสิ้นเปลือง
ก็ยังนัดไว้ที่ร้านอาหารฝรั่งอีกที่ ติงหลังจับมือของเหยียนอี้ฝาง แล้วถามขึ้น “พี่สาวดูเหมือนจะชอบเดทที่ร้านอาหารตะวันออกนะ?
เหยียนอี้ฝางตบมือของเขา ในใจของเขาเดือดจนเป็นฟืนเป็นไฟ แถมยังต้องรักษาหน้าตาเย็นชาเอาไว้ มันไม่ง่ายเลยจริง ๆ
“สวัสดีครับ คุณคือพี่โม่เสว่หานใช่ไหมครับ?” เสียงอบอุ่นดังมาจากด้านหลัง โม่เสว่หานหันหลังไปอย่างรวดเร็ว