ตอนที่ 101 สถานการณ์ภายในโอเล

ตอนที่ 101 สถานการณ์ภายในโอเล จิดาภาให้พี่นัฎออกมาประกาศในนามของเธอเรื่องที่เธอจะออกจากบริษัทsj และเปิดเผยเรื่องการเซ็นสัญญาของระหว่างเธอกับบริษัทsjให้กับโลกภายนอกได้รับรู้ ซึ่งเรื่องนี้สร้างความไม่พอใจให้กับเหล่าบรรดากรรมการบริษัทsjเป็นอย่างมาก พวกเขารู้สึกว่าทั้งๆที่บริษัทได้ปลดตำแหน่งผู้อำนวยการของชเยศแล้ว ชนิศาเองก็ได้ออกไปจากบริษัทแล้ว แต่หากเวลานี้จิดาภาจะออกไปอีกคน นั่นเท่ากับว่าเธอละทิ้งบริษัทsjที่เป็นผู้ฝึกฝนบ่มเพาะเธอมาหลายปี ส่วนทางด้านจิดาภานั้นได้ลงโพสประโยคหนึ่งลงในเว่ยป๋อ "ความทุ่มเทพยายามหลายปีมานี้ ในเมื่อไม่ได้รับความเชื่อใจและความเข้าใจ ก็ถึงเวลาต้องไปแล้ว" เหล่าบรรดาแฟนคลับต่างก็พากันโพสข้อความตอบกลับมากมาย "ไปจากที่นี่ดีแล้ว น่าจะออกไปจากsjเสียตั้งนานแล้ว!" "จิดาภา พวกเราสนับสนุนคุณ เส้นทางการแสดงของคุณจะต้องไปไกลกว่านี้แน่นอน" อีกทั้งยังมีบรรดาแฟนคลับของเธอที่ยกตัวอย่างละครและภาพยนตร์ที่ตั้งแต่เธอเข้าวงการมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งก่อนหน้าที่เธอจะเซ็นสัญญากับบริษัทsj บทบาทการแสดงของเธอนั้นล้วนแต่มีความละเอียดอ่อนมาก ถึงแม้ว่าบางบทบาทจะไม่ได้เป็นผลงานที่โดดเด่นอะไรมากนัก แต่นับตั้งแต่ที่เธอเข้ามาอยู่ในบริษัทsjแล้วนั้น จิดาภาก็ค่อยๆถูกบดบังลงจนแทบจะไม่มีข่าวคราวอะไรออกมาเลย มีเพียงแค่ภาพยนตร์2เรื่อง ซึ่งเรทติ้งไม่ค่อยจะดีนัก หรือแม้กระทั่งถูกจัดอันดับให้เป็นภาพยนตร์ยอดแย่แห่งปีในปีนั้นเลยก็ว่าได้ บริษัทsjเองก็ไม่ได้ช่วยดันจิดาภาเลย เมื่อเทียบกับผลประโยชน์ที่เธอนำมาให้กับsjแล้วนั้น สิ่งที่พวกเขาทำนั้นนับว่าไม่ยุติธรรมกับเธอเลยจริงๆ เนื่องจากคำวิพากษ์วิจารณ์บนอินเตอร์เน็ต และทัศนคติที่แน่วแน่ของจิดาภาแล้วนั้น ทำให้ทางsjไม่สามารถจะรั้งเธอเอาไว้ได้ หลังจากที่จิดาภายกเลิกสัญญาอย่างเป็นทางการกับบริษัทsjแล้วนั้น บริษัทมากมายต่างก็พากันยื่นข้อเสนอให้กับเธอ แต่จิดาภาเลือกที่จะปฏิเสธไปทั้งหมด เพราะเธอกำลังเตรียมตัวที่จะไปเซ็นสัญญากับทางโอเลอยู่นั่นเอง การฝึกฝนในบทบาทที่หนักและค่อนข้างลำบาก จะเป็นการพัฒนาความสามารถของตัวเอง ในขณะเดียวกัน ภาพยนตร์ข่าวbutterfly ที่กำลังจะเข้าฉายของจิดาภา ทำให้กลายเป็นภาพยนตร์ข่าวที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในช่วงเวลานี้ บวกกับเป็นการกำกับของผู้กำกับจิณณะด้วยแล้วนั้น เมื่อเข้าฉาย ตั๋วก็ขายดีมาก ถึงแม้ว่าผลประโยชน์จะเทียบกับภาพยนตร์เชิงพาณิชย์ไม่ได้ แต่เนื่องจากการแสดงของนักแสดงในเรื่องที่มีความโดดเด่น ทำให้เพียงไม่กี่วัน ยอดตั๋วทะลุถึงหนึ่งร้อยล้าน ซึ่งสำหรับภาพยนตร์ข่าวเช่นนี้แล้ว นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และสำหรับในบรรดานักแสดงนั้น การแสดงของจิดาภาก็เป็นที่ได้รับความชื่นชอบจากผู้คนเป็นอย่างมาก และนั่นก็ทำให้ทุกคนเห็นความสามารถของเธอได้อย่างชัดเจน ซึ่งหนึ่งในนั้น มีประธานของบริษัทโอเล ญาณินีอยู่ด้วยเช่นกัน นั่นเป็นเพราะตัวเธอเองนั้นก็เคยผ่านการแสดงมาก่อน ทั้งๆที่ตัวเองก็เป็นผู้หญิง สำหรับทักษะการแสดงของจิดาภานั้นที่แสดงออกถึงความรู้สึกที่แท้จริงของตัวละครเช่นนั้นแล้วยิ่งทำให้เธอรู้สึกชื่นชอบมากขึ้นไปอีก เธอเองรู้สึกสังหรณ์ใจ ว่าจิดาภาจะสามารถเป็นซุปเปอร์สตาร์ดังในอนาคตได้อย่างแน่นอน อีกทั้งเวลาที่เธอจะทำอะไรยังมีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวเป็นอย่างมาก จึงมาพบกับผู้จัดการคนดังของโอเล คมสร “เมื่อครูฉันได้ดู butterfly แล้ว จิดาภาทำให้ฉันรู้สึกประทับใจในตัวเธอมาก ฉันอยากจะเซ็นสัญญากับเธอ คุณคิดว่าอย่างไร?” คมสรเองก็ปั้นศิลปินที่มีชื่อเสียงอยู่หลายคน ศิลปินหญิงบางคนก็สามารถไปเข้าร่วมในภาพยนตร์ระดับนานาชาติแล้วก็มี นับว่าเป็นผู้จัดการส่วนตัวที่มีสายตาที่เฉียบแหลมคนหนึ่งในวงการนี้เลยก็ว่าได้ เมื่อเขาได้ยินญาณินีพูดเช่นนั้น จึงพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย “ผมเองก็รู้สึกว่าทุกคนยอมรับในความสามารถที่สามารถพิสูจน์ได้ของเธอ เพียงแต่...KB ทางนั้นเองก็ตามตื้อจิดาภาไม่จบไม่สิ้นเสียที แล้วอีกอย่างเธอก็ไม่ได้รับงานใหญ่ๆมานานแล้วด้วย ผมเกรงว่าอาจจะไม่ค่อยเหมาะกับบริษัทเราเท่าไหร่” “ฉันจำได้ว่าคุณชอบความท้าทายมาตลอดเลยนี่ ถ้าอย่างนั้นหน้าที่นี้ก็มอบให้คุณจัดการเลยแล้วกัน ฉันต้องการให้ชื่อของจิดาภามาปรากฏอยู่ในแผนบัญชีรายชื่อศิลปินของโอเล” “ได้ครับ คุณญาณินี!” คมสรจะทำอะไรนั้นมักจะมีความสุขุมเสมอ ก่อนที่เขาจะเดินออกมาจากออฟฟิศนั้น ญาณินีจึงตะโกนออกมาแล้วกล่าวกับเขาเพิ่มเติมว่า “ตำแหน่งผู้อำนวยการของบริษัทเรายังว่างอยู่นะ ฉันอยากให้คุณพยายาม ให้ตัวเองอยู่ในระดับเดียวกับคุณจงกล” คมสรชะงัก แล้วพยักหน้าตอบรับแทน เขาออกมาจากออฟฟิศได้ไม่นาน ก็มาเจอจงกลอยู่ใต้ตึก เธอมอง แล้วเอ่ยรั้งคมสรไว้ “ตอนนี้พอเห็นฉันแล้วถึงกับต้องเดินเลี่ยงเลยหรือคะ? คุณญาณินีเรียกคุณไป คงไม่ใช่เพราะเรื่องของจิดาภาหรอกนะคะ?” “ข่าวคุณนี่เร็วเสียจริงๆเลยนะ แต่ผมบอกไม่ได้หรอกครับ” คมสรมองเธอด้วยสายตาเย็นชากลับไป สำหรับพวกเขานั้นไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบคนรักกันอีกต่อไปแล้ว เขาไม่อยากเอาความรู้สึกส่วนตัวมาปะปนกับเรื่องงาน แต่จงกลกลับยื่นมือมาดึงเขาไว้ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “ฉันรู้ว่าคุณคิดว่าฉันเห็นแต่ชื่อเสียงและผลประโยชน์ของตัวเอง คุณจึงเลิกกับฉัน ฉันไม่ได้ต้องการให้คุณมาเข้าใจฉันหรอกนะคะ แต่ในวงการนี้ ถ้าฉันไม่ใจร้าย แล้วฉันจะนำคนใหม่ๆได้อย่างไร? ยังจำครั้งนั้นที่ธมนต้องเสียโอกาสเป็นBrand Ambassadorไปได้ไหมคะ? ถ้าไม่ใช่เพราะจิดาภาล่ะก็....” “พอแล้วล่ะครับ นี่เป็นสิ่งที่คุณญาณินีต้องการ” เมื่อเห็นคมสรตัดเยื่อใยเช่นนี้ เธอจึงกัดฟันแล้วเอ่ยกับเขาต่อ “ฉันก็ไม่อยากจะมาก้มหัวขอร้องคุณนักหรอก แต่ก่อนหน้านี้ ฉันได้วางกับดักไว้ให้กับจิดาภาแล้ว หากเธอเข้ามาที่โอเลจริงๆล่ะก็ เรื่องพวกนั้นไม่ช้าก็เร็วจะต้องมีคนขุดคุ้ยมันขึ้นมา และพอถึงตอนนั้น ฉันก็จะเป็นอย่างที่คุณต้องการจริงๆ คมสร ฉันขอร้องคุณอีกครั้ง อย่าเซ็นสัญญากับจิดาภา ไม่อย่างนั้นฉันคงจะต้องเกลียดคุณจริงๆเสียแล้ว” คมสรหันกลับมามองเธออย่างมีความหมาย กระชับเอกสารในมือแล้วกล่าวตอบรับเธอไป “รู้แล้วครับ” คมสรส่ายหน้า เขาเห็นความสามารถของจิดาภาแล้ว หากโอเลพลาดโอกาสนี้จากเธอไป นั่นคงได้รับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ไปอย่างแน่นอน จงกลเห็นดังนั้น รู้สึกดีใจขึ้นมา เธอจึงใช้จังหวะนี้รีบพูดขึ้นเสียก่อน “จริงๆแล้วฉันหานักข่าวคนที่มีหลักฐาน เรื่องที่จิดาภาเคยไปพบกับตัณฑุลแล้ว ถ้ารูปถ่ายพวกนั้นแพร่ออกไป จิดาภาคงจะไม่มีงานแน่ๆ พอถึงตอนนั้น คุณญาณินีก็จะไม่ตำหนิโทษคุณ” “นั่นมันก็เป็นเรื่องของคุณ ผมไม่ต้องการให้คุณมาคิดแทนผม” เขารู้สึกไม่คุ้นเอาเสียเลยที่เห็นจงกลใช้วิธีเช่นนี้ ชื่อเสียงที่ได้มา จะมีประโยชน์อะไรกัน เมื่อเห็นเขาเป็นเช่นนี้ จงกลจึงไม่มีอะไรจะพูดต่ออีก จริงๆแล้วในใจเธอนั้นยังคงชอบคมสรอยู่ แต่เขาเป็นคนที่ทำอะไรตรงไปตรงมา ไม่รู้จักพลิกแพลง และไม่เข้าใจในความยากลำบากในสิ่งที่เธอทำเลย ดังนั้นพวกเธอจึงต้องเลิกกันเพราะเหตุนี้ การแสดงออกอาจจะดูเรียบๆเหมือนไม่มีอะไร แต่ภายในใจของพวกเขานั้นรู้สึกไม่พอใจอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก จงกลมองคมสรที่เดินจากไป แล้วจึงรีบกดโทรออกหานักข่าวคนนั้น “ตัดต่อรูปนั้นให้เนียนหน่อยนะ แล้วรีบแพร่ออกไปให้เร็วที่สุด” เธอจะต้องใช้โอกาสตอนนี้ทำให้เรื่องที่จิดาภาไปนอนกับผู้ชายเป็นเรื่องจริง แม้ว่าต่อไปเรื่องราวจะถูกเปิดโปงขึ้นมา ญาณินีก็ได้พลาดโอกาสในการเซ็นสัญญากับจิดาภาไปเสียแล้ว นักข่าวคนนั้นตอบรับอย่างเต็มปากเต็มคำ “วางใจได้เลยครับ จะต้องทำให้คุณพอใจอย่างแน่นอน” หลังจากครั้งที่แล้วเรื่อง Brand Ambassador เพื่อจะปกป้องตำแหน่งของธมน อาศัยข่าวลือจากข้างนอกมาเป็นตัวช่วยผลักดัน อีกทั้งยังซื้อตัวพวก Internet celebrity เน็ตไอดอลเพื่อที่จะช่วยกันจุดประเด็นนี้ขึ้นมาด้วย หากถ้าจิดาภาเข้ามาอยู่ในโอเลแล้ว ไม่เพียงแค่จะส่งผลกระทบต่อเธอเพียงเท่านั้น ยิ่งจะแย่งทุกอย่างไปจากศิลปินที่เธอเป็นคนดูแลไปอีกด้วย เธอจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นเป็นอันขาด อีกทั้งหากคมสรเป็นคนเซ็นสัญญากับจิดาภาแล้วล่ะก็ ตำแหน่งผู้อำนวยการของบริษัทคงจะตกเป็นของเขาอย่างแน่นอน เธอจะต้องแย่งตำแหน่งนี้มาให้ได้ แล้วค่อยให้คมสรกลับมาอยู่ข้างๆเธอเหมือนเดิม "จิดาภา ฉันจะไม่มีทางให้เธอได้มาเป็นศิลปินในสังกัดของโอเลเป็นอันขาดและฉันจะเป็นคนทำให้เธอหายไปจากวงการนี้เอง" จงกลคิดเช่นนั้น แล้วเดินด้วยรองเท้าส้นสูงของเธอมุ่งตรงเข้าไปยังออฟฟิศ