บทที่1คุณผู้หญิงคุณทำเสื้อเชิ้ตของฉันพังซะแล้ว
1/
บทที่1คุณผู้หญิงคุณทำเสื้อเชิ้ตของฉันพังซะแล้ว
รักที่ไม่คาดคิด แต่งผิดกับสามีตัวแทน
(
)
已经是第一章了
บทที่1คุณผู้หญิงคุณทำเสื้อเชิ้ตของฉันพังซะแล้ว
บ๗ที่1คุณผู้หญิงคุณทำเสื้อเชิ้ตของฉันพังซะแล้ว “ขอโทษฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”เป็นเพราะความพลาดของตัวเองที่ทำสเปรย์แต่งผมพ่นเลอะใส่ปกเสื้อของอีกฝ่าย นี่เป็นความผิดพลาดครั้งที่สองของเธอในวันนี้แล้ว เสิ่นชีรู้สึกว่าวันนี้ตัวเองต้องตายแน่ๆ ตัวเองเป็นถึงสไตล์ลิสต์ส่วนตัวระดับสูงทว่ากลับทำผิดพลาดในส่วนที่เด็กฝึกไม่ควรจะทำผิดกันซึ่งเธอก็รู้สึกว่างานอาชีพของเธอจะหมดหนทางแล้ว ชายหนุ่มที่กำลังให้เธอทำสไตล์อยู่ดวงตาสง่าที่ได้มาตั้งแต่กำเนิดนั้นสายตามองกดลงที่หางตาอีกทั้งขนตาแพยาวนั้นรวมกันเป็นสายตาที่ดูเย็นยะเยือก ตามทฤษฎีแล้วผู้ชายแบบนี้มักจะโหดร้ายทั้งยังไร้น้ำใจอีก สายตาของเห้ออี้หนิงจ้องผ่านไปยังกระดูกไหปลาร้าของเสิ่นชีบริเวณนั้นมีจุดตำหนิที่มีมาตั้งแต่เกิดเล็กๆขนาดเท่าเล็บมืออยู่ รอยตำหนิสีแดงเข้มอยู่ใจกลางกระดูกไหปลาร้าสวยทั้งสวยงามและดูอบอุ่น “นี่เป็นเรื่องที่สองที่เธอทำพลาด”เห้ออี้หนิงปรายตามองไปที่เสื้อของตัวเองที่โดนทำให้เสียหายจึงเงยหน้าขึ้นมาจ้องเสิ่นชีแล้วค่อยๆหรี่ตาลง เสิ่นชีรู้สึกได้ว่าด้านหลังกำลังมีความกดดันมหาศาลทะลักพรั่งพรูออกมาในชั่วพริบตา นิ้วมือของเสิ่นชีสั่นไปหมด“ขอโทษค่ะ…...” ในตอนที่เสิ่นชีกำลังรอคอยคำตัดสินชีวิตด้วยความจิตตกวิตกกังวลนั้นจู่ๆเห้ออี้หนิงก็ขยับเข้ามาใกล้ข้างๆหูของเสิ่นชีแล้วแสยะยิ้มร้าย“เธอชวนฉันอยู่หรอ?” ลมหายใจร้อนของเขาเป่ารดลงมาบนใบหูของเสิ่นชีทันใดนั้นก็ถูกลมหายใจที่เต็มไปด้วยฮอร์โมนพลุ่งพล่านนั้นครอบงำทันทีแทรกซึมผ่านไปทั่วอณูกาย เสิ่นชีเบิกตาโพลงขึ้นทันที ร่างกายจึงตอบสนองกลับไปในทันทียื่นมือหมายจะผลักเห้ออี้หนิงออกไป พอจะลุกขึ้นเห้ออี้หนิงก็ทิ้งทั้งตัวกดร่างเธอเอาไว้ใกล้กันจนปลายจมูกของทั้งสองแทบจะชนกัน เสิ่นชีแทบไม่กล้าหอบหายใจแรงริมฝีปากบางเม้มแน่นหัวใจก็เต้นเร็วขึ้นพริบตาในสมองก็ขาวโพลนไปหมด พอเห็นกกหูของเสิ่นชีแดงเถือกขึ้นเห้ออี้หนิงกลับหัวเราะเบาๆขึ้นมา “ครั้งสุดท้าย”น้ำเสียงน่าฟังดังขึ้นข้างบนหัวของเสิ่นชีทำให้เสิ่นชีแทบจะไม่เชื่อว่าตัวเองจะหนีรอดไปได้จริงๆ ราชาแห่งธุรกิจผู้มากด้วยอำนาจ ทรราชผู้โหดเหี้ยมไร้ซึ่งความปรานี ประธานของบริษัทเห้อซื่อกรุ๊ปในตำนาน เป็นชายหนุ่มรักสนุกวัยกลางคนที่ทำให้ผู้หญิงมากมายนั้นทั้งรักทั้งเกลียด...... ตำแหน่งของเขาเยอะเกินไปแล้วเสิ่นชีจำได้เหมือนกันแค่ว่า‘ถ้าหากมีใครทำผิดพลาดต่อหน้าเขาล่ะก็ทั้งชีวิตนี้ก็บอกลาอาชีพนี้ไปได้เลย!’ วันนี้ตัวเองดันทำผิดพลาดไปตั้งสองครั้งติดต่อกันแล้วคิดไม่ถึงว่าเขายังไม่ทำได้ให้เธอหายไป? จู่ๆร่างสูงใหญ่ก็ถอยห่างออกไปพริบตาที่ความสูงแค่165เซนติเมตรของเสิ่นชีก็รู้สึกว่าความกดดันเบาลงร่างบางจึงรีบลุกยืนขึ้นตรง “คุณผู้หญิงฉันเหลือเวลาอีกสิบห้านาที”เห้ออี้หนิงเอ่ยเตือนเสิ่นชีด้วยความใจดีมากๆ เสิ่นชีตรงนี้ถึงได้ดึงสติกลับมาโดยพลันแล้วรีบจัดการกับงานที่เหลืออยู่ให้เสร็จเรียบร้อย พอเป็นสไตล์ลิสต์ให้เสร็จแล้วเสิ่นชีก็เอ่ยถามด้วยความไม่สบายใจ“งั้นค่าเสียหายของทั้งสองชุดนั้น.........ประมาณเท่าไหร่คะ?” เห้ออี้หนิงมองไปที่เธอด้วยความสนใจ“ดูจากที่เธอยอมรับผิดของตัวเองแล้วจะเก็บแค่ราคาต้นทุนก็พอตัวละห้าแสน” อะไรนะ?ชุดสองชุดหนึ่งล้าน? พริบตาสีหน้าของเสิ่นชีก็เปลี่ยนเป็นซีดเซียว “ทำไม?ชดใช้ไม่ไหว?ไม่งั้น........ก็ชดใช้ด้วยอย่างอื่น?”เห้ออี้หนิงมองดูสไตล์ลิสต์คนใหม่ของตัวเองจ้องเสิ่นชีผ่านทางกระจกอย่างแฝงด้วยความหมายบางอย่าง...... พอทิ้งท้ายประโยคไว้แล้วเห้ออี้หนิงก็ผุดยืนขึ้นเต็มความสูงแล้วจากไปอย่างสง่างาม เสิ่นชีโกรธจนพูดไม่ออกสักคำ มีตำแหน่งเป็นถึงผู้นำหัวหน้าตระกูลเห้อแท้จริงแล้วกลับ........ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเสิ่นชีมองดูหมายเลขโทรศัพท์พลันหัวใจก็เจ็บปวดขึ้นมาจึงรีบรับสายทันที“ฮัลโหลคุณป้ามีข่าวคราวของจ่านโป๋รึยังคะ?” ปลายสายการโทรนั้นเงียบเชียบไม่พูดไม่จาหลังจากผ่านไปหนึ่งนาทีเต็มๆถึงค่อยได้ยินน้ำเสียงเหนื่อยล้าตอบกลับมา“ตำรวจบอกว่าตอนนี้การช่วยเหลือผ่านไปสี่สิบแปดชั่วโมงแล้วกลัวว่าความหวังที่จะยังมีชีวิตอยู่นั้นมีไม่มากแล้วล่ะ” ตู้ม——เสิ่นชีรู้สึกว่าสมองของตัวเองขาวโพลนไปหมด ทั่วทั้งร่างอ่อนยวบเพียงครู่เดียวก็ล้มลงไปบนพรม จ่านโป๋ตายแล้ว? ทำไมเขาบอกว่าจะตายก็ตายเลย? ไม่ได้บอกซะดิบดีว่าจะอยู่คู่กันตลอดไปทั้งชีวิตหรอกหรอ? ไม่ได้บอกไว้ซะดิบซะดีว่าถ้ากลับมาครั้งนี้จะหมั้นกันหรอ? คนโกหกจ่านโป๋นายมันคนโกหก! เสิ่นชีไม่รู้ว่าตัวเองเดินออกมาจากประตูใหญ่ได้ยังไง พอได้สติกลับมารู้ตัวอีกทีถึงได้เห็นว่าตัวเองเปียกปอนไปทั่วทั้งตัวแล้ว จึงยื่นมือมาเช็ดหน้าซึ่งไม่รู้ว่าบนหน้านั้นเป็นน้ำฝนหรือน้ำตากันแน่ทำให้เธอมองไม่ชัดมาตั้งนานแล้ว เสิ่นชีอยากจะร้องไห้ออกมาจึงระบายอารมณ์ร้ายออกมาเต็มที่ ทว่าในเวลานั้นเธอเพิ่งจะเข้าใจว่าตอนที่เจ็บปวดอย่างถึงที่สุดนั้นจริงๆแล้วร้องไห้แทบไม่ออกเลย เสิ่นชีเดินโซซัดโซเซตรงไปข้างหน้าท่ามกลางฝนที่ตกหนักนั้นในโลกใบนี้ก็เหลือทิ้งไว้เพียงเสียงแห่งความสิ้นหวัง เห้ออี้หนิงมองเห็นร่างที่กำลังเดินโซซัดโซเซนั้นพริบตาก็จำได้แล้วว่าเป็นผู้หญิงที่มาเป็นสไตล์ลิสต์ให้เขาในใจก็รู้สึกแปลกๆอยากจะคว้าร่างบางเข้ามาไว้แน่นในตอนที่รถกำลังจะขับผ่านร่างของเธอไปนั้นจู่ๆก็เอ่ยขึ้น“จอดรถ” รถโรลส์รอยซ์สีขาวสะอาดตาก็รีบจอดลงกะทันหันกระจกหน้าต่างรถลดลงใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาท่ามกลางวันฝนตกยิ่งเหมือนกับเทพเจ้าที่ไม่โปรดปรานการจุดดอกไม้ไฟของมนุษย์ พบว่าหญิงสาวกลางสายฝนคนนี้ไม่ได้สนใจตัวเองเลยสักนิดเห้ออี้หนิงอดไม่ได้ที่จะส่งสายตากดต่ำมองไป แต่ไหนแต่ไรยังไม่เคยมีใครละเลยเขาแบบนี้มาก่อน “ขึ้นรถ”น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโมโหเอ่ยขึ้นผู้หญิงคนนี้เป็นคนโง่รึเปล่า?ฝนตกหนักขนาดนี้ไม่รู้จริงๆหรอว่าต้องกางร่ม? เสิ่นชีได้ยินเสียงดึงขึ้นจากด้านหลังก็หยุดยืนทื่อๆเหมือนหุ่นยนต์แล้วหันกลับมา ตอนที่เห็นสีหน้าหล่อเหลาแสนเย็นชาของเห้ออี้หนิงนั้นไม่รู้ว่าทำไมน้ำตาที่เพิ่งจะบังคับให้หยุดไหลเมื่อกี้กลับพังทลายลงมาเหมือนเขื่อนแตกในชั่วพริบตา ริมฝีปากของเสิ่นชีสั่นระริกหยาดน้ำตาไหลกลิ้งลงมา แม้จะรู้ว่าเขาบอกกับตัวเองว่าเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้า ทว่าในเวลานี้เสิ่นชีอยากจะหาคนมาช่วยระบายความเศร้านี้เป็นพิเศษเพราะว่าบนโลกใบนี้แม้แต่คนที่เธอสามารถระบายด้วยได้สักคนต่างก็ไม่เหลือแล้ว แม้อีกฝ่ายจะเป็นแค่คนแปลกหน้าเธอก็ทนไม่ไหวแล้ว“เขาตายแล้วไม่กลับมาแล้ว…....ยังไงก็.....ไม่กลับมาแล้ว......” น้ำเสียงแผ่วตกลงทั่วทั้งตัวกลับสะอึกสะอื้นจนไม่มีเสียง เห้ออี้หนิงมองดูเสิ่นชีที่จู่ๆก็อ่อนยวบลงเหมือนกระดาษบางบางทีถ้าลมพัดแรงก็อาจทำให้เธอปลิวหายไปตามแรงลมได้เลย ความโกรธเมื่อกี้ไม่รู้ว่าทำไมแค่พริบตาเดียวก็หายไป เห้ออี้หนิงลงมาเปิดประตูรถให้เสิ่นชีด้วยตัวเองน้ำเสียงก็อ่อนลงโดยพลัน“ขึ้นรถ” เสิ่นชีสภาพเหมือนคนใกล้ตายที่จู่ๆคว้าฟางเส้นสุดท้ายเอาไว้ได้ทันไม่ลังเลอะไรสักนิดแล้วขึ้นรถไป เสิ่นชีขดตัวนั่งอยู่บนเบาะนั่งร้องไห้ออกมาราวกับเด็กน้อย เธอกลัวความโดดเดี่ยวมากเธอกลัวการแบกรับทุกอย่างในความมืดเพียงคนเดียว เห้ออี้หนิงหรี่ตาลงแล้วหันไปพูดกับคนขับรถ“ไปคฤหาสน์จิ่งหวา” คนขับมึนงงไปครู่หนึ่งแต่ก็รีบกลับมาสงบเสงี่ยมเหมือนเดิมแล้วขับรถมุ่งไปที่คฤหาสน์จิ่งหวาด้วยความเร็วสูง ครั้นตอนที่เสิ่นชีได้สติกลับมาแล้วเธอก็มายืนอยู่ท่ามกลางคฤหาสน์อันใหญ่โตโอ่อ่านี้แล้ว เมื่อมองไปรอบๆห้องพักสไตล์ยุโรปเรียบๆง่ายๆพอสังเขปแล้วมารู้ตัวอีกทีเสิ่นชีถึงได้ขึ้นขึ้นได้ว่าจริงๆแล้วตอนที่ตัวเองกำลังตกอยู่ในภวังค์แห่งความเจ็บปวดเสียใจนั้นก็เดินขึ้นรถคนแปลกหน้ามาแล้วไปบ้านของเขา...... เสิ่นชีลุกยืนขึ้นตรงเมื่อรู้สึกตัวแล้วคว้ากระเป๋าตัวเองเตรียมจะหนีไปอย่างจนตรอก “ทำไม?ติดเงินฉันแล้วคิดจะรีบหนีไปแบบนี้หรอ?”เสียงห่างเหินเย็นชาทว่ากลับพูดแบบนี้ออกมา เสิ่นชีหันกลับไปอย่างรวดเร็วก็เห็นเห้ออี้หนิงที่สวมชุดนอนสีขาวกำลังเช็ดผมไปด้วยพลางเดินเข้ามาหาตัวเอง ผมสีดำสนิทที่เพิ่งสระเสร็จนั้นยุ่งเหยิงแต่ดูสบายตายิ่งเสริมให้ความดุร้ายของเห้ออี้หนิงยิ่งบังคับไว้ไม่อยู่พวกรวยแล้วกดขี่ข่มเหงผู้อื่น
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่1คุณผู้หญิงคุณทำเสื้อเชิ้ตของฉันพังซะแล้ว
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A