บทที่9ในฐานะสะใภ้แห่งตระกูลเสิ่น   1/    
已经是第一章了
บทที่9ในฐานะสะใภ้แห่งตระกูลเสิ่น
บ๗ที่9ในฐานะสะใภ้แห่งตระกูลเสิ่น เป็นเพราะว่าเจ้าบ่าวไม่มาร่วมงานขั้นตอนในพิธีต่างๆจึงได้ผ่านไปอย่างรวดเร็วรวมถึงการที่คู่บ่าวสาวจะต้องกล่าวคำปฏิญาณด้วย หลังจากพิธีแต่งงานจบลงมีผู้ชายคนหนึ่งจากตระกูลเห้อเดินไปหยุดอยู่ที่ด้านหน้าของเสิ่นชีแล้วพูดขึ้นว่า“ยินดีต้อนรับอย่างเป็นทางการสำหรับการเป็นสมาชิกใหม่ของตระกูลเห้อด้วยนะบ้านหลังนี้ฉันให้เธอถือซะว่าเป็นของขวัญแต่งงานแต่ถ้าภายในหนึ่งปีถ้าเธอไม่สามารถตั้งท้องได้เธอจะต้องออกจากบ้านนี้ไปตัวเปล่าและต้องชดใช้ค่าเสียหายคืนด้วย” เสิ่นชียื่นมือออกไปรับกุญแจโดยไม่ถามหาเหตุผลใดๆทั้งสิ้น เห็นได้ชัดว่าฝั่งชายไม่ได้สนใจการแต่งงานนี้แต่แรกอยู่แล้ว อีกอย่างเรื่องที่ต้องมีลูกก็ต้องได้รับความยินยอมของทั้งสองฝ่ายไม่อย่างนั้นจะมีได้ไงล่ะ? ดีซะอีกฉันจะได้ใช้เวลานี้หาเงินเยอะๆเอาไปจ่ายค่ารักษาในวันข้างหน้าให้พี่ชาย ส่วนเงินที่ตระกูลเสิ่นติดหนี้ตระกูลเห้อล่ะ? ก็ให้พวกเขาหาวิธีคืนกันเอาเองแล้วกัน! ผู้ชายคนนั้นยิ่งให้ความสนใจกับเสิ่นชีขึ้นไปอีก“เธอเข้าใจหมดแล้วหรอ?” เสิ่นชีเพียงเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชาว่า“ในระหว่างการแต่งงานฉันมีอิสระในการทำงานใช่ไหม?” “แน่นอน”ฝ่ายตรงข้ามตอบ “ขอบคุณค่ะ”เสิ่นชีถือกุญแจเดินหันหลังเดินออกไปทั้งๆที่ยังสวมชุดแต่งงาน พอมองด้านหลังของเสิ่นชีที่เดินจากไปผู้ชายคนนี้ก็ต่อสายโทรหาเห้ออี้หนิง“อี้หนิงภรรยาคนใหม่ของนายนี้น่าสนใจมากๆเลยล่ะ!” เห้ออี้หนิงที่กำลังยุ่งอยู่กับการดูรายงานตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“ถ้านายชอบก็เอาไปเลย” ปลายสายหัวเราะร่าขึ้นมา“ไม่เอาอ่ะฉันยอมเป็นเพลย์บอยแบบเดิมดีกว่าเรื่องแต่งงานนี่แค่คิดนี่ก็ยังไม่อยากจะคิดเลย” จู่ๆเห้ออี้หนิงก็พูดขึ้นว่า“ให้กุญแจบ้านเธอไปรึยัง?ให้เธออยู่บ้านเฉยๆก็พอแล้วฉันเพียงแค่รับปากว่าจะแต่งงานแทนพี่แต่ไม่ได้รับปากว่าจะใช้ชีวิตเป็นสามีภรรยาแทนซะหน่อย” ชายหนุ่มจากปลายโทรศัพท์หัวเราะเยาะออกมา “ตามนั้นนะฉันกำลังยุ่งขอตัวก่อนล่ะ”เห้ออี้หนิงพูดจบก็ตัดสายไป ไม่รู้ว่าทำไมตอนที่เห้ออี้หนิงวางสายในหัวคิดถึงใบหน้าของเสิ่นชีขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุทันใดนั้นก็หันหน้าไปถามเลขาว่า“วันนี้มีตารางงานอะไรเป็นพิเศษไหม?” “มีสิคืนนี้ท่านมีนัดกับคุณหนูแห่งบริษัทจวี้ลี่”ผู้ช่วยเสี่ยวชวนตอบ เห้ออี้หนิงหรี่ตาลงพร้อมกับยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วจึงบอกเสี่ยวชวนว่า“ไปรับคนคนหนึ่งมาแต่งตัวให้ฉัน” ผู้ช่วยเสี่ยวชวนพูดอย่างงุนงง“ท่านไม่ใช่ว่ามีสไตลิสต์ประจำตัวอยู่แล้วหรอครับ?” เห้ออี้หนิงหรี่ตาแล้วพูดว่า“ครั้งที่แล้วคนที่มาแทนสไตล์ลิสต์คนนั้นฝีมือก็ไม่เลวนะ” ผู้ช่วยเสี่ยวชวนตอบรับต่อคำสั่งทันที เมื่อสามเดือนก่อนสไตล์ลิสต์ประจำตัวของท่านประธานมีเรื่องด่วนที่บ้านจึงขอลางาน ในตอนนั้นก็เลยแนะนำสไตลิสต์ผู้หญิงคนหนึ่งให้เข้ามาทำงานแทนชั่วคราวสไตล์ลิสต์ผู้หญิงคนนี้เหมือนว่าจะทำเสื้อเชิ้ตของท่านประธานพังไปอีกสองตัวด้วย......” ถึงแม้ว่าในใจจะเต็มไปด้วยความสงสัยแต่ในฐานะหัวหน้าฝ่ายผู้ช่วยผู้ช่วยเสี่ยวชวนจึงดำเนินการปฏิบัติตามคำสั่งโดยไม่มีข้อแม้ เสิ่นชีมองดูบ้านสามชั้นที่ตั้งอยู่ตรงหน้ามันเงียบเหงารกร้างไม่มีคนอื่นเลยที่นี่อาจจะเป็นบ้านที่ตัวเธอเองอาจจะต้องใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอีก1ปีข้างหน้า แต่ก็ดูดีเลยทีเดียวแต่ยังไงเธอก็ยังอดกลุ้มใจไม่ได้อยู่ดีว่าจะเผชิญหน้ากับชายผู้ที่เป็นสามีของเสิ่นอินอินได้อย่างไร ตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามก็ยังไม่แสดงตัวออกมาอีกอึดอัดใจจนวางตัวไม่ถูกจะแย่อยู่แล้ว แค่ต้องผ่านหนึ่งปีนี้ไปให้ได้หาเงินให้ได้มากพอที่จะพาพี่ชายหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ตระกูลเสิ่นจะล้มละลายหรือไม่ก็เป็นเรื่องของพวกเขาแล้วล่ะ! เมื่อตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วเสิ่นชีก็ลากกระเป๋าสัมภาระเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว ชั้นที่หนึ่งของบ้านเป็นห้องรับแขกกับห้องเล่นเกมอีกทั้งยังมีห้องครัวและห้องรับประทานอาหารอีกด้วย ชั้นที่สองเป็นห้องนอนกับห้องหนังสือชั้นสามมีห้องพักแขกสองสามห้องและห้องเก็บของโล่งๆอีกห้องหนึ่งถึงแม้ว่าบ้านจะดูโล่งไปหน่อยแต่ทว่าเครื่องใช้พื้นฐานภายในบ้านก็ยังมีครบครัน
已经是最新一章了
加载中