ตอนที่1
ตอนที่1
เสียงน้ำไหล......”
เซี่ยหลิงหลิงถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงไหลของน้ำ
เธอขยี้ตาด้วยอาการสะลึมสะลือก่อนจะมองไปรอบๆ
ไร้ข้อสงสัยนี่คือห้องสวีทสุดหรูในโรงแรม
ผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดตานุ่มๆนั้นถูกโปรยไปด้วยกลีบกุหลาบบนผ้าปูเตียงนั้นมีแก้วไวน์คว่ำอยู่เลอะเป็นวงสีแดงกระจกของห้องน้ำเป็นกระจกผิวด้านแบบโปร่งใสจนสามารถมองเห็นร่างผอมเพรียวที่อยู่ด้านใน
นี่มัน......
เซี่ยหลิงหลิงสับสนมากกว่าเดิม
เมื่อคืนเธอนั่งอ่านบทความที่เต็มไปด้วยจุดบกพร่องเกี่ยวกับเรื่องการย้อนเวลาไปเข้าร่างเดิมในอดีตยังไม่ทันจะได้วิจารณ์ก็ดันหลับไปซะก่อนใครเล่าจะคิดว่าเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกลับเข้ามาอยู่ในสถานที่ที่เป็นโรงแรมแบบนี้แถมยัง......กำลังเปิดห้องอยู่ด้วย?
เซี่ยหลิงหลิงลุกขึ้นนั่งรู้สึกถึงความผผิดปกติขึ้นมาในทันใดในฐานะที่เกิดมาเป็นหนึ่งในหญิงสาวผู้มีหน้าอกแบนราบแต่บัดนี้กลับรู้สึกความหนักอึ้งที่หน้าอกฝ่าเท้าเหยียบอยู่บนรองเท้าส้นแหลมที่น้อยครั้งจะได้สวมใส่ขาคู่เรียวยาวนั้นเหยียดตรงอยู่ข้างเตียงแต่ตรรงหัวเข่ากลับไม่หลงเหลือรอยแผลเป็นที่ได้มาจากสมัยเธออายุเพียงหกขวบ
“......”
เธอเหยียดแขนตัวเองดูอย่างไม่เชื่อสายตาดวงตากลมโตคู่นั้นเบิกกว้างจับจ้องไปยังสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างไขว้เขว
นิ้วมือเรียวยาวผิวขาวนุ่มนวลเหมือนไร้กระดูกเห็นได้ชัดว่าได้รับการดูแลและบำรุงรักษามาอย่างดีทัสีเล็บไล่ระดับสีช่างดูประณีตสวยงามเนื้อตรงส่วนนิ้มนั้นนุ่มนิ่มผิวขาวดุจหิมะจนสามารถมองเห็นเส้นเลือดได้อย่างง่ายดาย
เกิดในครอบครัวที่เพียบพร้อมงานบ้านไม่เคยได้แตะเป็นคนสวยนี่คือความประทับใจแรกของเซี่ยหลิงหลิง
เธอเงียบไปครู่หนึ่งแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาก่อนจะเปิดกล้องหน้าขึ้นมา
การแต่งตาของหญิงสาวที่อยู่ในจอโทรศัพท์นั้นหนาจนเหมือนคนขอบตาดำเดิมทีขนตาก็ยาวอยู่แล้วแต่ก็ยังจะติดขนตาปลอมเพิ่มเข้าไปการแต่งหน้าสไตล์ฝรั่งที่ดูเกิดเหตุคอนแทกต์เลนส์สีม่วงสีปากแดงแจ๋เหมือนคุณป้าแก่ๆผมหยิกหย็อยดูโบราณๆแต่ภายในสภาพแย่ๆแบบนี้ก็ไม่อาจะบดบังใบหน้าอันงดงามนั้นได้
เพียงแต่ว่ารสนิยมทางความงามนั้นน่าเกลียดจนต้องยกนิ้วให้
หญิงสาวที่อยู่ในจอโทรศัพท์นั้นเบิกตากว้างสีหน้าดูตื่นตระหนกสีคอนแทกต์ที่ดูเกินจริงนั้นทั้งสวยทั้งตลก
เซี่ยหลิงหลิงเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาช้าๆ
นี่มัน......
ไม่ใช่หน้าของเธอนี่นา!!!
โทรศัพท์หล่นลงพื้นดังตุ๊บชายหนุ่มผู้ที่เดินออกมาจากห้องน้ำก็บังเอิญเห็นฉากนี้พอดีรูปร่างหน้าตาของเขายังดูเด็กอายุราวๆยี่สิบต้นๆใบหน้าของเขาสามารถพูดได้ว่ามีความงดงามแม้จะมีผ้าเช็ดตัวมาบดบังก็ยังสามารถเห็นรูปร่างที่เพอร์เฟคนั้นได้อย่างชัดเจน
เขาจ้องมองมาที่เซี่ยหลิงหลิงองศาการยกขึ้นของมุมปากนั้นดูเย้ยหยันและเย็นชาแต่สายตานั้นดูคุ้นเคยและความรักความเสน่หา
“ฉันอาบเสร็จแล้วเราจะเริ่มกันเลยมั้ย?”
เซี่ยหลิงหลิงชะงักไป:“เริ่มอะไร?นายเป็นใคร?”
อีกฝ่ายแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเริ่มอดทนไม่ไหวเดินตรงไปข้างหน้าด้วยสีหน้าที่ดูเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม
“ทำไมหากเธอหย่ากับเฉิงรุ่ยแล้วได้เงินมาก็จะทำเป็นเหมือนไม่รู้สักฉันแล้วอย่างงั้นเหรอ?”
“เราตกลงกันไว้ว่าถ้าได้เงินมาแล้วจะแต่งงานกันไม่ใช่เหรอ?”
“เธอคงไม่ได้กำลังรู้สึกผิดหรอกใช่มั้ย?”
เขาถือว่าเป็นนักล่าฝีมือดีคนหนึ่งเลยทีเดียวรู้ว่าในทุกๆครั้งหากใช้วิธีปลุกเร้าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าแบบนี้ก็จะสามารถทำให้อีกฝ่ายยอมศิโรราบได้อย่าง่ายดายยอมใช้เสียงออดเสียงอ้อนปรนนิบัติดูแลเขาอย่างดีจนถึงขั้นทำให้ยอมเสนอเรื่องการแต่งงานออกมาได้
เพียงแต่ว่าเซี่ยหลิงหลิงที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่ได้ขี้ประจบประแจงอย่างที่เขาคิด
เซี่ยหลิงหลิงจ้องมองไปที่ชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเงียบๆความคิดเริ่มสับสนวุ่นวาย
ไม่จริงหน่า
นี่มันเป็นฉากนึงในหนังสือย้อนอดีตที่อ่านเมื่อคืนไม่ใช่เหรอ!
หนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า《เกิดใหม่ถึงก่อนหมั้น》เป็นหนังสือต้นแบบของหนังสือแนวย้อนอดีตนางเอกในหนังสือเล่มนี้นั้นมีรักเดียวคือเฉิงรุ่ยแต่เป็นความรักที่เป็นไปไม่ได้เพื่อตามหาความรักเธอจึงละทิ้งจูหม่าผู้ที่เอาใจใส่และอ่อนโยนในวันงานหมั้นเธอแอบหนีออกไปยังเมืองเฉิงรุ่ยนั้นอยู่
แต่ในความเป็นจริงมันช่างโหดร้ายพยายามหาทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับเฉิงรุ่ยแต่กลับพบว่าอีกฝ่ายนั้นนอกจากหน้าตาแล้วนอกนั้นก็ไม่มีอะไรดีเลยเคยผ่านการหย่ามาแล้วครั้งหนึ่งแถมยังมีท่าทีที่เย็นชาและมักจะทำเหมือนไม่สนใจอะไรในตัวเธอเลย
ความฝันของนางเอกแตกสลายในขณะเดียวกันจูหม่าในผันตัวเองเข้าสู่วงการE-sportsทรัพย์สินนับหมื่นล้านมองไปยังหน้าจอทีวีก็เห็นภาพจูหม่าควงแขนคนรักด้วยใบหน้าอิ่มสุขนางเอกก็รู้สึกใจสลายก่อนฆ่าตัวตายเพราะสิ้นหวัง
แต่เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งนางเอกกลับพบว่าตัวเองได้ย้อนกลับไปเมื่อสามปีก่อน
กลับไปอยู่ในจุดที่ยังไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
นางเอกสัญญาเอาไว้ว่าจะไม่คิดร้ายอีกจะกอดขาของจูหม่าเอาไว้ให้แน่นใช้ชีวิตของเธออย่างมีความสุข!
......
......
และเซี่ยหลิงหลิงกลับกลายมาเป็นหนึ่งในนางรองตัวร้ายคนที่มีชื่อแซ่เดียวกันกับเธอ
คำบรรยายเกี่ยวกับนักแสดงตัวนี้ในหนังสือนั้นมีไม่มากนักบอกไว้เพียงว่าเธอเป็นคนจนที่รักความสบายทั้งโง่ทั้งร้ายกาจกับไป๋เยว่กวางเฉิงรุ่ยนั้นก็แต่งงานกันเพราะคำสัญญาแต่ไม่ได้มีความรักต่อกันหลังจากหย่าร้างกันชีวิตของเธอก็พังทลายมีจุดจบที่น่าอนาถใจอยากจะกลับไปแต่งงานอีกครั้งก็ถูกนางเอกหัวเราะเยาะเย้ยอย่างสมเพช
ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมเธอถึงทะลุมิติเข้ามาอยู่ในโลกของหนังสือเล่มนี้ได้นั้นทันใดนั้นเซี่ยหลิงหลิงก็นึกขึ้นมาได้ว่าในคำโฆษณาตัวใหญ่ๆเขียนอยู่บนหนังสือเล่มนี้
อยากจะวิจารณ์หนังสือเล่มนี้ก็ต้องทะลุมิติมาเป็นนางรองตัวร้าย!
ต้องทะลุมิติมาเป็นนางรองตัวร้าย!
นางรอง!
เฮ้ย!
นี่มันเป็นจุดประสงค์ร้ายของผู้เขียนนี่นา!
หากเธอจำไม่ผิดล่ะก็ฉากนี้คือช่วงที่ดำเนินมาถึงช่วงหลังจากที่เธอหย่าร้างกับเฉิงรุ่ยแล้วและมันคือจุดเริ่มต้นของครึ่งหลังของชีวิตอันโหดร้ายของนางรอง
เซี่ยหลิงหลิงเกิดอาการขนลุกซู่ขึ้นมา
เธอไม่อยากก้าวเข้าสู่เส้นทางสายนั้นเธอจะหย่าไม่ได้เด็ดขาด
เมื่อมองดูการแสดงความขัดขืนของเซี่ยหลิงหลิงจนพอแล้วเฉินฝังคนรักของเธอก็เริ่มจะหมดความอดทนถามเธอไปว่า:“เธอจะถ่วงเวลาไปถึงเมื่อไหร่?”
เซี่ยหลิงหลิงดึงสติกลับมาก่อนจะถามไปด้วยท่าทีตื่นกลัว:“ฉันยังไม่ได้หย่าใช่มั้ย?”
เฉินฝังมองเธอด้วยสายตาเยือกเย็น:“เธอบอกว่ากลับไปก็จะทำเรื่องเซ็นต์หย่าทันทีไม่ใช่หรือไง?”
งั้นแสดงว่ายังไม่ได้เซ็นต์
เซี่ยหลิงหลิงยึดตัวตรงรองเท้าส้นแหลมที่ความสูงสิบเซนติเมตรนั้นทำให้ทรงตัวยากเธอจึงถอดส้นสูงคู่นั้นโยนทิ้งไปแล้วหยิบเอารองเท้าสลิปเปอร์ของทางโรงแรมขึ้นมาสวมทำท่าทีเตรียมเดินออกจากห้อง
เฉินฝังรีบวิ่งเข้าไปตัดหน้าเพื่อขวางเซี่ยหลิงหลิงเอาไว้:“เธอจะไปไหน?”
“ฉันจะไม่หย่าเราจบกันแค่นี้โอเค๊?”เซี่ยหลิงหลิงขี้เกียจต่อปากต่อคำกับเขาแต่อีกฝ่ายก็กลับคว้าเธอเอาไว้ได้
เฉินฝังแรงเยอะกว่าเธอไม่สามารถต่อกรได้จนถูกอีกฝ่ายจับโยนกลับไปที่เตียงอีกครั้ง
“ทำไมเดี๋ยวนี้หัดทำตัวงี่เง่าแล้วเหรอ?”มือนึงของเขาวางพาดอยู่ข้างเตียงอีกมือก็คว้าไปที่เข็มขัดน้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความประชดประชัน“หรือว่าเธอชอบรสชาติอื่นแล้ว?”
สายตาของทั้งคู่ประสานกันอยู่ใกล้ชิดกันมาก
แต่เฉินฝังกลับมองเห็นเพียงความเฉยจากใบหน้าที่งดงามซะจนเขาแทบทนไม่ไหวนั้น
“นี่”
“แม่นายไม่เคยสอนนายมาก่อนเหรอว่าไม่ควรทำหยาบคายแบบนี้กับผู้หญิง?”
เมื่อสิ้นเสียงปุ๊บหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงก็ยกเท้าขึ้นมาเตะไปยังกล่องดวงใจของเขาสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันทีทั้งเขียวทั้งดำเจ็บปวดทรมานจนตัวขดตัวงอก่อนจะกุมเป้าตัวเองไว้แล้วคุกเข่าลงไปนั่งกองกับพื้น
เซี่ยหลิงหลิงรีบคว้าเอาเสื้อคลุมและกระเป๋าจากนั้นก็หยิบเอาแบงค์ร้อยหยวนจำนวนนึงโยนไปบนตัวของเขา
“ค่าเปิดห้องหากนายคิดว่ามันยังไม่พอล่ะก็เดี๋ยวฉันจะโอนผ่านอาลีเพย์ให้”
“เธอ!”
ค่ำคืนอันแสนมืดมนความแน่นหนานั้นเทียบเท่าหมึกดำพายุฝนอันเหน็บหนาวพัดกำจัดสิ่งสกปรกบนป่าเหล็ก
เซี่ยเหลิงหลิงยืนอยู่หน้าทางเข้าโรงแรมกระจกขนาดใหญ่สะท้อนร่างที่อยู่ในชุดกระโปรงลูกไม้ตัวสั้นของเธอเหมือนถูกเปิดเผยสายอาชีพที่เธอทำอยู่ดึงดูดสายตาจากผู้ชายที่อยู่ใกล้ๆให้พาเหร่มองเธอรีบติดกระดุมเสื้อจนครบจัดทรงคอเสื้อเรียบร้อย
เธอเปิดแผนที่บ้านขึ้นมาในโทรศัพท์ก่อนจะเรียกแท็กซี่
ที่อยู่นั้นอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมเท่าไหร่นักเซี่ยหลิงหลิงนั่งอยู่แถวหลังในใจก็คิดแต่ว่าจะทำอย่างไรต่อดีแม้จะมีความสับสนอยู่ภายในใจเหมือนกำลังเอาตัวรอดจากเส้นตายแต่เธอก็ยังคงต้องบังคับให้ตัวเองสงบจิตสงบใจลง
อยู่ๆก็ทุละมิติมาอยู่ในโลของหนังสือยังไม่รู้เลยว่าจะได้กลับไปเมื่อไหร่เธอต้องเตรียมตัวเอาไว้
ชู้รักเฉินฝังส่งข้อความมาทางโทรศัพท์มาเรื่อยๆอย่างบ้าคลั่งเซี่ยหลิงหลิงขี้เกียจจะตอบกลับเขาบล็อกไปเลย
คนขับรถเลี้ยวเข้าซอย:”ถึงแล้วครับ”
ทุกอย่างเหมือนอย่างที่ในหนังสือเขียนไว้เฉิงรุ่ยไม่ได้ร่ำรวยเหมือนผู้ชายในหนังสือเล่มอื่นๆที่เขียนเอาไว้บ้านอยู่ในตัวเมืองการเดินทางสะดวกสบายแต่ก็ไม่ได้ถือว่าอยู่ในตำแหน่งที่ดีขนาดนั้น
ชุมชนขนาดเล็กนี้น่าจะมีอายุราวๆสิบกว่าปีได้ไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์ใหม่อะไรแต่ยังดีที่สภาพแวดล้อมนั้นทำได้ดี
ฝนก็ยังคงตกลงมาปรอยๆอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเซี่ยหลิงหลิงไม่ได้สนใจเรื่องเงินทองอะไรยกกระเป๋าหลุยส์ขึ้นมาบังฝนไว้ในตอนนี้เธอคิดเพียงแค่ว่าไม่อยากให้เมคอัพบนใบหน้าของเธอนั้นหลุดจนทำให้ผู้คนต้องตกใจกลัว
ในกระเป๋ามีกุญแจโชคดีที่ไม่ได้เป็นล็อคแบบดิจิตอลไม่อย่างงั้นล่ะก็อย่าหวังว่าเธอจะได้เข้าไปข้างใน
ตัวบ้านไม่ได้ใหญ่นักราวๆแล้วน่าจะไม่ถึงร้อยตารางวาเซี่ยหลิงหลิงเปิดไฟเพื่อให้เห็นทุกอย่างตรงหน้ามันถูกแบ่งออกเป็นสองห้องสองฝั่งประตูของห้องห้องนึงถูกเปิดอ้าอยู่ส่วนอีกห้องนึงนั้นถูกปิดไว้สนิทภายในห้องนอนที่เปิดประตูทิ้งไว้นั้นเต็มไปด้วยของใช้ของผู้หญิงไม่ต้องเดาก็รู้แล้วว่าทั้งสองคนไม่มีทางนอนบนเตียงเดียวกันแน่นอน
เซี่ยหลิงหลิงเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบเสื้อยืดและกางเกงยีนส์ที่ดูปกติที่สุดขึ้นมาเปลี่ยนแล้วนั่งลงบนเก้าอี้หยิบที่เช็ดเครื่องสำอางขึ้นมาเช็ดหน้าในขณะที่เธอกำลังยุ่งอยู่นั้นเสียงกลอนประตูก็ดังขึ้นก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออก
ร่างสูงผอมเดินเข้ามาภายในห้องเซี่ยหลิงหลิงทำใจก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองแต่กลับต้องชะงักไป
เธอคิดไม่แปลกใจเลยว่าทำไมในหนังสือถึงได้ย้ำนักย้ำหนาว่าเขามีเพียงแค่ใบหน้าที่หล่อเหลาไม่แปลกใจว่าทำไมถึงได้กลายเป็นแสงสว่างของไป๋เซวียนเซวียนไม่แปลกใจเลยที่ผู้หญิงใจแข็งอย่างนางเอกจะยังจดจำและอาลัยอาวรณ์เขาได้ไม่ลืมใช้เวลาตั้งกี่ปีเพื่อหวังว่าสักวันหนึ่งเขาจะมองย้อนกลับไปบ้าง
ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงประตูนั้นมีรูปร่างผอมสูงหมวกของเสื้อฮู้ดนั้นเปียกโชกเพราะตากฝนใบหน้าซี๊ดขาวเพราะความหนาวเย็นซองเอกสารที่อยู่ในมือนั้นถูกปกป้องรักษาเอาไว้อย่างดีดูสะอาดสะอ้านไม่มีเปียก
เขากดสายตาลงต่ำก่อนจะเปลี่ยนรองเท้าเป็นรองเท้าแตะ
ผมสีดำสนิทนั้นเปียกน้ำไปบางส่วนทำให้ผมดูยุ่งเหยิงแต่มันกลับขับให้ผิวยิ่งดูขาวขึ้นไปอีกเขามีดวงตาหงส์ในแบบที่พบเห็นได้ยากลักษณะตาเรียวยาวเปลือกตาดูปรือเล็กน้อยดูๆไปแล้วมีความอบอุ่นไร้พิษภัยและเหมือนมีความง่วงนอนตลอดเวลาราวกับว่าไม่ใส่ใจกับสิ่งต่างๆรอบตัว
กรอบหน้าที่คมชัดริมฝีปากดูเบาบางเดิมทีแล้วควรจะเป็นลักษณะที่ดูงดงามแบบก้าวร้าวแต่เพราะดวงตาคู่นั้นทำให้ทุกอย่างดูซอฟ์ทลงมาได้มากอย่างน่าอัศจรรย์
เซี่ยหลิงหลิงเกิดอาการอึ้งไปเล็กน้อยทันใดนั้นเขาก็เข้าใจขึ้นมาในทันทีว่าทำไมเฉิงรุ่ยถึงไม่คิดที่จะกลับไปตามหาตามง้อนางเอกใบหน้าแบบนี้ยังมีผู้หญิงคนไหนจะสวยเทียบเท่าได้อีกเหรอ?
“......”
เฉิงรุ่ยไม่ได้รู้สึกถึงสิ่งที่เซี่ยหลิงหลิงกำลังคิดอยู่ภายในใจในขณะที่เซี่ยหลิงหลิงกำลังจับจ้องเขาอยู่นั้นเขาก็ได้เดินเข้ามายืนหยุดอยู่ที่ประตูห้องนอนเปิดซองใส่เอกสารแล้วหยิบเอาใบสัญญาขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะตั้งแต่เริ่มจนจบก็ไม่แม้แต่จะสบตากับเธอตรงๆ
มีเอกสารข้อตกลงการหย่าร้างวางอยู่บนโต๊ะสองชุดหากไม่ใช่เพราะเรื่องนี้เขาก็คงจะไม่กลับถึงบ้านดึกขนาดนี้
สายตาของเซี่ยหลิงหลิงมองตามเฉิงรุ่ยไปจนกระทั่งเขาเดินเข้าไปในห้องครัว
“แอ๊ด”
ตู้เย็นถูกเปิดออกเฉิงรุ่ยหยิบเอาถ้วยบะหมี่ออกมาด้วยท่าทีคุ้นเคยเขายังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผมเผ้าเปียกชุ่มเสื้อฮู้ดสีดำที่เปียกชุ่มตัวนั้นแค่มองก็รู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นแล้วเขายืนหันหลังให้เซี่ยหลิงหลิงในระยะไกลกระเบื้องสีขาวตู้เย็นสีขาวเตาทำอาหารสีดำร่างที่อยู่ในชุดสีดำทั้งชุดถูกรวมเข้ากับโลกสีขาวดำราวกับไม่ใช่มนุษย์
มองไปที่แผ่นหลังของเขาเซี่ยหลิงหลิงก็ลุกขึ้นยืน
“ฉันจะไม่หย่าแล้ว”