ตอนที่3   1/    
已经是第一章了
ตอนที่3
ตอนที่3 เซี่ยหลิงหลิงตื่นเช้ามาก ท้องฟ้าดูสดใสท้องฟ้าที่อากาศเย็นจัดนั้นมีดาวประดับอยู่เพียงไม่กี่ดวงฝนที่ตกลงมาทั้งคืนนั้นทำให้อากาศที่สูดเข้าไปเต็มไปด้วยกลิ่นอายความเปียกชื้น เซี่ยหลิงหลิงเปิดหน้าต่างออกสัมผัสกับอากาศที่เย็นสดชื่นผู้คนที่ตื่นมาในเวลานี้มีไม่เยอะนักมีความสงบแถมด้วยความผ่อนคลายการนอนอยู่บนเตียงที่แปลกที่แปลกทางเดิมทีแล้วเซี่ยหลิงหลิงคิดว่าตัวเองจะนอนไม่หลับซะอีกไม่คิดว่าเพียงแค่ลืมตาท้องฟ้าก็สว่างแล้วยังดีที่มีเสียงนาฬิกาปลุกคอยปลุกให้เธอตื่น เรื่องที่ต้องทำในวันนี้มีเยอะมากไม่ใช่เวลาของการนอนขี้เกียจอยู่ในห้อง เซี่ยหลิงหลิงสวมรองเท้าสลิปเปอร์ก่อนจะเปิดประตูห้องนอนออกไปขณะเดียวกันก็มีร่างผอมสูงเดินออกมาจากห้องครัวพอดีทำเอาเธอตกใจแทบแย่ เฉิงรุ่ยถือแผ่นขนมปังชีสแห้งๆอยู่สองชิ้นและนมอีกหนึ่งกล่องดูๆไปแล้วนั้นไร้ซึ่งสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพเขาไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆต่อการมีตัวตนอยู่ของเซี่ยหลิงหลิงก่อนจะเดินเข้าห้องสมุดไปอย่างเชื่องช้า เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนนี้เขาไม่ได้กินมื้อค่ำเซี่ยหลิงหลิงก็ได้แต่ส่ายหัวก่อนจะเรียกเขาเอาไว้:“เช้าๆแบบนี้นายอยากจะกินอาหารประเภทไข่หรือพวกบะหมี่อูด้งมั้ย?” เฉิงรุ่ยชะงักเท้า สายตาของเขาจับจ้องไปยังตำแหน่งที่เซี่ยหลิงหลิงยืนอยู่ไฟในห้องรับแขกไม่ได้เปิดไว้ดวงตาสีดำคู่นั้นเหยียดยาวแต่มันมีความงดงามในแบบที่ดูขี้เกียจสายตาแบบนั้นที่ส่งกลับมาทำให้เซี่ยหลิงหลิงเริ่มรู้สึกตัวว่าเหมือนว่าตัวเองจะพูดเยอะไม่นิดนึง เจ้าของร่างน่าจะทำกับข้าวไม่เป็นมือที่ดูละเอียดอ่อนเหมือนหยกคู่นั้นจะเคยเปิดเตาทำครัวได้ยังไงกัน เล็บที่ทำมาอย่างสวยงามแต่ก็ดูเทอะทะทำอะไรไม่สะดวกเซี่ยหลิงหลิงจึงใช้น้ำยาล้างเล็บล้างมันจนสะอาดก่อนจะตัดเล็บให้สั้นลงมันถึงจะดูคล่องแคล่วทะมัดทะแมงขึ้นมาหน่อย เซี่ยหลิงหลิงยืนตัวแข็งทื่อ แย่แล้วเธออาจจะดูมั่นใจจนลืมตัวจนทำให้เฉิงรุ่นเริ่มสงสัยในตัวเธอหรอกนะ ในขณะที่เธอกำลังรู้สึกผิดคิดไตร่ตรองว่าควรทำยังไงต่อไปดีเฉิงรุ่ยก็ชูสามนิ้วขึ้นมา เซี่ยหลิงหลิง:“?” เฉิงรุ่ยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเนิบเนิบ:“ไข่สามฟอง” เซี่ยหลิงหลิง:“......” ทอดไข่,แฮม,ขนมปัง,อุ่นนมโดยใช้เตาไมโครเวฟจนอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมเซี่ยหลิงหลิงทานข้าวเช้าได้ไม่เยอะนักทำออกมาเยอะเกินไปอาจจะทำให้อาหารเหลือได้แต่ใครจะไปคิดอาหารที่เหลือถูกเฉิงรุ่ยทานจนหมดเกลี้ยง ระดับความเร็วในทานอาหารของเขาไม่ได้เร็วมากนักแต่ก็ทานไปเยอะพอสมควรในขณะที่เซี่ยหลิงหลิงกำลังตกใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้าคือการที่เฉิงรุ่ยทานอาหารที่เหลือจนหมดเกลี้ยง เฉิงรุ่ยมองเซี่ยหลิงหลิงอย่างเงียบๆ “......ไม่มีแล้ว”เซี่ยหลิงหลิงกลัวว่าเข้าทานมื้อเช้าเข้าไปเยอะขนาดนี้อาจจะทำให้เกิดอาการจุกและท้องอืพดได้ เธอชอบทำอาหารแต่สิ่งที่ไม่ชอบที่สุดคือการล้างจานเฉิงรุ่ยค่อนข้างนิ่งสงบนอกจากจะไม่รู้สึกโกรธแล้วก็ยังช่วยเก็บถ้วยชามของทั้งสองคนไปล้างอย่างว่าง่าย เซี่ยหลิงหลิงรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก ....... การที่วันนี้เธอตื่นแต่เช้าตรู่มาก็เพราะตั้งใจจะเปลี่ยนแนวทางใหม่เซี่ยหลิงหลิงมีข้อคิดเห็นต่อเสื้อลูกไม้และเสื้อลายเสือดาวที่อยู่เต็มตู้เสื้อผ้านี้คนหน้าสวยๆแบบนี้ใส่อะไรไม่ใส่ไปใส่แต่เสื้อโป๊ๆเปิดโชว์เนื้อหนังอะไรก็ไม่รู้ดูเปลืองเนื้อเปลืองตัวเสียดายหุ่นสวยๆนี่ซะจริงๆ แต่ที่ทำให้เธอรู้สึกรับไม่ได้ที่สุดก็คือผมลอนมาม่าทรงนี้เซี่ยหลิงหลิงจึงลงมือจัดกับทรงผมก่อนเป็นอันดับแรก เธอมาถึงร้านซาลอนเมื่อก้าวเข้าร้านร่างของเธอก็ดึงดูดสายตาของผู้คนจำนวนนึงที่นั่งอยู่ในร้าน หญิงสาวที่ดันประตูเข้ามาสวมเสื้อโค้ทตัวยาวกางเกงลำรองขากว้างรองเท้าส้นเตี้ยใบหน้าของเธอดูละเอียดอ่อนงดงามแทบจะไม่ต้องแต่งหน้าเลยมีเพียงริมฝีปากเท่านั้นที่ถูกแต่งแต้มด้วยลิปส์สีแดงอ่อนๆดวงตาสองชั้นกลมโตคู่นั้นสาดส่องเข้าไปภายในร้านพลิ้วไหวเปรียบเสมือนคลื่นลอยไปลอยมาไม่รู้จะหยุดอยู่ที่จุดไหนทำให้คนที่พบเห็นรู้สึกคันไม้คันมือ ทันใดนั้นก็มีคนทักทายขึ้นมาในทันทีถามเธอ:“ต้องการจะทำอะไรคะ?มามามาเชิญนั่งก่อนนะคะ” เซี่ยหลิงหลิงนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนจะตอบ:“อยากจะหมักผมเล็มปลายออกนิดหน่อยแล้วก็อยากจะดัดลอนใหญ่ๆให้มีวอลลุ่มค่ะ” “ได้ค่ะได้ค่ะ!” ช่างทำผมในร้านได้แต่ชมเรื่อยๆว่าผมของเซี่ยหลิงหลิงทั้งหนาทั้งสุขภาพดีเซี่ยหลิงหลิงจึงได้แต่ยิ้มตอบอ่อนๆแต่ไม่ได้พูดอะไรคำชมของอีกฝ่ายนั้นก็แอบแฝงไปด้วยความอิจฉาแม้จิตใจจะฟุ้งซ่านแต่ก็ไม่กล้าถามอะไรเยอะ พวกเข้าคลุกคลีกับผู้คนมานับไม่ถ้วนเซี่ยหลิงหลิงที่มีลักษณะท่าทางเย็นชาจะต้องมีตัวตนที่ไม่ธรรมดาแน่นอนเกิดพูดจงพูดจาอะไรผิดหูไปก็คงจะเป็นเรื่องแน่ๆ การตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพื่อมาเสียเงินเสียเวลาในร้านทำผมนั้นได้ผลลัพธ์ที่ดีเซี่ยหลิงหลิงจัดทรงผมยาวๆของเธอก็จะจ่ายเงินด้วยความรู้สึกพึงพอใจก่อนเดินออกจากร้านไป เซี่ยหลิงหลิงรู้สึกอารมณ์ดีมากๆ ทีแท้แล้วการที่ไม่ต้องทำงานแต่ก็ยังมีรายได้ให้ใช้ความรู้สึกมันเป็นแบบนี้นี่เองเมื่อได้แบบนั้นแล้วเซี่ยหลิงหลิงก็ตั้งใจว่ามื้อค่ำวันนี้จะทำกับข้าวหลายๆอย่างหน่อยปรนนิบัติเขาสักหน่อยอย่างน้อยก็เพื่อให้กระชับมิตรของเราทั้งคู่ เซี่ยหลิงหลิงไม่ได้ตั้งใจว่าจะใช้เงินจนหมดเธอเปิดสมุดบัญชีเล่มใหม่ตั้งใจว่าจะเอาเงินบางส่วนมาฝากทุกเดือน เฉิงรุ่ยไม่มีทางเลี้ยงเธอไปตลอดชีวิตแบบนี้หรอกเซี่ยหลิงหลิงคิดล่วงหน้าไว้หมดแล้วรอจนถึงวันที่เฉิงรุ่ยได้เจอกับผู้หญิงที่เขาชอบเธอก็จะได้เดินจากไปพร้อมกับเงินออมได้อย่างมีความสุขไปอยู่ในเมืองที่ค่าครองชีพไม่สูงมากหากเป็นแบบนี้ไม่ว่จะเป็นการทำงานหรือการซื้อบ้านก็ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นกังวล เซี่ยหลิงหลิงหิ้วกระเป๋าเดินเข้าห้างสรรพสินค้าด้วยท่าทีสบายๆและในขณะเดียวกันด้านหน้าเธอก็มีหญิงสาววัยรุ่นสองคนเดินตรงมาพอดีคนหนึ่งมีสีหน้าและรอยยิ้มที่ดูประจบแจงช่วยคนที่เดินนำหน้าถือแก้วกาแฟอีกคนการแต่งหน้านั้นเต็มไปด้วยความประณีตใบหน้ายิ้มแย้มดวงตาดูอ่อนโยน พวกเขาเดินไปคุยไปมองหน้ากันไปทั้งสองพูดแล้วก็เงยหน้าขึ้นแล้วทั้งคู่ก็เดินเตะสายต่ของเซี่ยหลิงหลิงพอดี พวกเขามีท่าทีตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด เซี่ยหลิงๆพยักหน้าให้อย่างเกรงใจก้าวขึ้นบันไดก่อนจะเดินดุ่มๆเข้าห้างไประหว่างทางนั้นไม่เพียงแต่ผู้หญิงสองคนนั้นหลายๆคนต่างก็หยุดเดินเพื่อมองเธอแวบนึง “โห......พี่หลิวฉันไม่เคยเห็นผู้หญิงที่สวยสง่าขนาดนี้มาก่อนเลย”หญิงสาวที่ถือแก้วกาแฟเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอิจฉา“พี่ดูผิวพรรณนั่นสิละเอียดจนแทบจะบิดน้ำไหลออกมาได้เลยทั้งๆที่แทบจะไม่ได้แต่งหน้าเลยแล้วดูหุ่นห้างนั่นสิอื้อหืม......” จู่ๆก็รู้สึกได้ว่าใบหน้าของหญิงสาวที่อยู่ข้างๆหยางหลิวนั้นเริ่มจะเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่เธอเริ่มรู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังชื่นชมผู้หญิงอีกคนว่าสวยต่อหน้าคนฝั่งตัวเองจนเธอเริ่มรู้สึกผิดขึ้นมาในทันที:“เอ่อฉันไม่ได้หมายความแบบนั้นนะคะ!พวกพี่ต่างก็มีความสวยในแบบของตัวเองเธอเปรียบเสมือนกุหลาบที่สง่างามส่วนพี่เหมือนดอกลิลลี่สีขาวพวกพี่สวยคนละสไตล์กัน” หลิวหยางพอจะอนูโลมให้กับชื่อๆนั้นได้เธออมยิ้มขึ้นมาเบาๆชำเลืองมองไปที่นักศึกษาฝึกงานที่ยืนอยู่ข้างตัวก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นและอ่อนโยน:“ไม่เป็นไรหรอกคนสวยมีเยอะแยะไปหากต้องมานั่งเรียงลำดับ1,2,3ก็คงจะทำให้เกิดความลำบากใจแย่” นักศึกษาฝึกงานถอนหายใจอย่างโล่งอก:“พี่หลิวใจดีจังเลยค่ะ!” หลิวหยางเหยียดยิ้ม:“ไปกันเถอะงานยังไม่เสร็จเลยนะ” เธอละสายตาออกไปแต่กลับมีความรู้สึกคับข้องใจขึ้นมา น่าแปลก......ทำไมเธอถึงรู้สึกคุ้นๆกับแผ่นหลังนั่น?แต่ถ้าหากว่าเคยเจอผู้หญิงสวยๆขนาดนั้นเธอก็น่าจะจำอะไรได้บ้างแหละ เธอเป็นใครกันแน่นะ เซี่ยหลิงหลิงไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างเธอได้เริ่มเข้าสู่โหมดการลองและซื้อเสื้อผ้าแล้ว แม้ว่าเสื้อที่เธอสวมอยู่จะดูเรียบง่ายธรรมดาทั่วไปแต่ก็ล้วนเป็นของมีแบรนด์ทั้งนั้นบวกกับกระเป๋าชาแนลที่ถืออยู่ในมือท่าทางดูดีเพียงแค่เซี่ยหลิงหลิงเดินก้าวเข้าร้านก็ถูกจับจ้องด้วยสายตาของพนักงานภายในร้านพวกเขาเริ่มทำการแนะนำเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่อย่างกระตือรือร้นเซี่ยหลิงหลิงลองพลิกดูป้ายราคาสินค้าเมื่อเห็นเลขศูนย์จำนวนหลายๆหลักแล้วเธอก็แอบตกใจเล็กน้อย เธอแค่ต้องการซื้อเสื้อผ้าทั่วๆไปไม่จำเป็นต้องแพงมากเริ่มแรกพนักงานที่ให้คำแนะนำก็ยังดูกระตือรือร้นอยู่จนเมื่อเห็นสายตาของเซี่ยหลิงหลิงที่จับจ้องไปทางแผนกสินค้าลดราคาสินค้าที่ถืออยู่ในมือก็ไม่ได้แพงอะไรรอยยิ้มของพวกเธอก็ค่อยๆหายไป แต่ถึงอย่างไรพนักงานเหล่านี้ก็ยังมีคุณสมบัติที่ดีในการบริการอยู่ความกระตือรือร้นค่อยๆหายไปและไม่ได้มีการเดินประกบเซี่ยหลิงหลิงต่อแล้วซึ่งนั่นทำให้เซี่ยหลิงหลิงรู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที เธอซื้อเสื้อผ้าได้สำเร็จราบรื่นเมื่อลองใส่ดูแล้วสายตาของพนักงานขายก็วิ้งวับขึ้นมาทันทีก่อนจะชื่นชมเธอด้วยความอิจฉา “เสื้อตัวนี้มันเลือกเจ้าของนะคะถ้าหุ่นดีแบบนี้ก็ใส่สวยเลยล่ะค่ะ!” แน่นอนว่าคนที่ถูกชมต้องรู้สึกดีใจอยู่แล้วเซี่ยหลิงหลิงพูดขอบคุณพร้อมยิ้มหวาน เวลานัดใกล้เข้ามาแล้วเซี่ยหลิงหลิงหิ้วถุงช็อปปิ้งสองใบขึ้นแท็กซี่ไปที่ร้านกรีนไอส์แลนด์คาเฟ่เธอเดินลงจากแท็กซี่และบังเอิญเห็นพ่อไก่อ่อนหน้าซื่อเฉินฝังวันนี้เฉินฝังมาในชุดเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตกับเสื้อกั๊กสีน้ำตาลกาแฟรูปร่างผอมบางดึงดูดสายตาสาวๆที่เดินผ่านให้หน้าแดงไปตามๆกัน เซี่ยหลิงหลิงกระซิบกับตัวเองจะว่าดูดีก็ดูดีอยู่หรอกแต่ถ้าเทียบกับเฉิงรุ่ยแล้วเขาก็ดูดรอปไปเลย เธอเดินตรงเข้าไปแล้วเรียกเฉินฝังจากด้านหลัง เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยมือข้างนึงของเฉินฝังล้วงกระเป๋าพร้อมหันกลับมาด้วยท่าทีเยือกเย็นแต่เมื่อหันมาเห็นเซี่ยหลิงหลิงก็ถึงกับตกตะลึง เขารู้สึกประหลาดใจในตอนแรกหลังจากนึกขึ้นได้ว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้คือใครดวงตาคู่นั้นก็จับจ้องไปที่เซี่ยหลิงหลิงเงยหน้าสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะเอ่ยถามออกมาด้วยความยากลำบาก:“เธอคือ......เซี่ยหลิง?” เซี่ยหลิงหลิงจำได้ว่าเจ้าของร่างเดิมไม่ชอบชื่อนี้หากออกไปพบเจอหนุ่มๆก็มักจะเรียกแทนตัวเองว่าเซี่ยหลิง กับเฉินฝังเองก็เช่นกัน “ฉันเอง”เธอเดินชิดเข้าไปหนึ่งก้าวดวงตากลมโตที่ดูเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้มนั้นสามารถสะกดคนมองเข้าไปได้ เฉินฝังกลืนน้ำลายลงคอที่แหบแห้งนั้นก่อนจะยืนอึ่งไปครู่ใหญ่ แม้ว่าพวกเขาจะรู้จักกันมาสักระยะแล้วแต่เซี่ยหลิงก็รู้สึกภูมิใจกับการแต่งหน้าสไตล์ยุโรปของเธอมากพูดยังไงก็ไม่ยอมลบเมคอัพพวกนั้นออกยิ่งไม่ยอมให้เฉินฝังมาแตะต้องใบหน้าของเธอเฉินฝังรู้ว่าผิวพรรณที่อยู่ภายใต้เมคอัพหน้าๆเหล่านั้นจะต้องดูสวยมากแน่ๆแต่เมื่อเขามองใบหน้าที่น่าเกลียดน่ากลัวของคนทุถูกความโลภครอบงำจนหน้ามืดตามัวเห็นใบหน้าโง่เง่าที่ตกอยู่ในความมึนเมาของเธอแล้วความอยากของเขาก็ลดลงทันที อย่าว่าแต่เรื่องสัมพันธ์ลึกซึ่งเลยเพียงแค่เขาได้เห็นขนตาปลอมที่ดูเหมือนขนแมงมุมนั่นแล้วก็รู้สึกรังเกียจแล้ว หากไม่ใช้เพราะเซี่ยหลิงจะได้ครอบครองเงินล้านในมือเขาก็ไม่มีทางมาเสียเวลากับเธอได้นานขนาดนี้แต่แล้วตอนนี้เป็นไงล่ะนอกจากว่าเธอจะไม่หย่าแล้วเธอยังเปลี่ยนไปเยอะขนาดนี้อีก! เฉินฝังกัดฟันพูด:“ดูเหมือนว่าฉันจะไม่ค่อยรู้จักเธอสักเท่าไหร่” เซี่ยหลิงหลิงเดินเฉียดผ่านเขาไปสายตาเต็มไปด้วยรอยยิ้มแต่น้ำเสียงกลับดูห่างเหิน:“ตลกน่าดูเหมือนว่านายจะไม่เคยรู้จักฉันมาก่อนด้วยซ้ำ” “......” ภายในห้องนั้นมีหญิงสาวที่แต่งตัวดูหรูหรานั่งอยู่สองคนคนแรกคือหลีอวี๋นอีกคนคือซุนหลันหลีอวี๋นก็คือเพื่อนสนิทที่แนะนำเซี่ยหลินหลินให้เฉิงฝันรู้จักในตอนแรกพวกเธอรู้จักกันได้เพราะเล่นไพ่นกกระจอกด้วยกันถ้าเทียบกันแล้วสองคนนั้นเป็นพวกผู้ดีใจกว้างมือเติบเจ้าของร่างเดิมไม่ได้มีสังคมและก็ไม่ค่อยมีเงินเท่าไหร่จึงดิ้นรนอยากจะคบหาสมาคมกับคนที่อยู่ใน“ระดับ”เดียวกัน แต่ใครจะไปรู้ที่พวกเขามาก็เพื่อจะมาเยาะเย้ยดูเรื่องตลกก็แค่นั้น เมื่อเซี่ยหลิงหลิงเดินเข้าห้องไปทั้งสองก็ถึงกับชะงัก:“คุณผู้หญิงท่านนี้ไม่ทราบว่าคุณคือ......” “จำฉันไม่ได้จริงๆเหรอเนี่ย?”เซี่ยหลิงหลิงยืนพิงอยู่ตรงประตู เฉินฝังที่เดินตามหลังก็เดินหน้าตึงเข้าห้องมาดูเหมือนจะกลับสู่โหมดปกติแล้วกลับกลายเป็นหญิงสาวสองคนนั้นที่ตะลึงจนเอามือขึ้นมาปิดปากไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นเซี่ยหลิงที่หยาบคายคนนั้นจริงๆแต่เมื่อสังเกตดูดีๆอีกทีทุกๆอย่างบนใบหน้านั้นคล้ายคลึงกันมากจริงๆ หลีอวี๋นรีบลุกขึ้นยืนในทันใดก่อนจะแค้นรอยยิ้มออกมา:“หลิงหลิงเธอนั่งลงก่อนสิดูเธอซิไม่เจอกันแค่ไม่กี่วันก็สวยขึ้นขนาดนี้” “ฉันไม่เข้าไปแล้วล่ะยืนตรงนี้กำลังดีอย่างน้อยก็เลี่ยงคนเข้าใจผิดแล้วเอาฉันไปนินทา” คนสองคนที่ไม่รู้ว่าลับหลังเอาเรื่องไปนินทากี่เรื่องต่อกี่เรื่องแล้วถึงกับสะดุ้งหลีอวี๋นชูมือแข็งทื่อขึ้นกลางอากาศก่อนจะยิ้มหัวเราะไปพร้อมๆกับฉัน “เป็นไปได้ยังไงกันใครจะไปนินทาอะไรล่ะ” เซี่ยหลิงหลิงขี้เกียจจะสนใจเธอแล้วเธอยกมือขึ้นกอดอกแล้วทิ้งบอมพ์ไว้ “ฉันจะไม่หย่าแล้ว” “ว่าไงนะ!”สีหน้าของทั้งสามคนเปลี่ยนไปในทันที จ้องมองดูสีหน้าที่เสแสร้งนั้นถูกเปิดเผยออกมาหญิงสาวที่พิงปรูตูอยู่ถึงกับแสยะยิ้มออกมาก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ:“พอดีเลยที่มาเนี่ยก็เพื่อจะมาบอกเลิกเฉินฝังและหวังว่าหลังจากนี้เขาจะไม่มารบกวนฉันอีก” “นี่มัน......”พวกเขามองหน้ากันเลิกลักไม่มีใครยอมเอ่ยอะไรออกมามีเพียงเฉินฝังที่ยืนมองเซียหลิงหลิงอยู่เงียบๆจ้องเซี่ยหลิงหลิงด้วยสายตาที่เยือกเย็นโดยไม่พูดอะไร “ทำไมล่ะเห็นว่าฉันจะไม่หย่าแล้วก็เลยรู้สึกไม่พอใจอย่างนั้นเหรอ?”เซี่ยหลิงหลิงถาม “เปล่าๆแค่สงสัยว่าทำไมถึงปุบปับขนาดนี้ล่ะ?” พวกเขาต่างก็สับสนมึนงงในการเปลี่ยนแปลงที่กระทันหันของเซี่ยหลิงหลิง เซี่ยหลิงหลิงถอนหายใจ:“มันก็เป็นเรื่องน่าอายที่จะพูดมันออกมาอ่ะนะหลีอวี๋นทำไมเธอถึงได้ไม่จริงใจขนาดนี้ล่ะเธอแนะนำคนที่ไม่มีไร้น้ำยาแบบนี้มาให้ฉันได้ยังไงกัน?” หลีอวี๋ตะลึงจนอ้าปากค้าง:“อะอะไรนะ?” “หากไม่มีปัญญาจะทำก็อย่าพยายามทำในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้จริงมั้ย”เซี่ยหลิงหลิงชำเลืองมองเฉินฝังด้วยสายตาผิดหวังจากนั้นพวกเธอทั้งสองก็ถึงกับพูดไม่ออก เฉินฝังโกรธจนหน้าแดง:“......”
已经是最新一章了
加载中