ตอนที่4
ตอนที่4
เซี่ยหลิงหลิงไม่สนใจว่าเฉินฝังจะคิดยังไง
เป้าหมายของเธอในวันนี้ก็คือตัดขาดความสัมพันธ์กับคนพวกนี้สุดท้ายก็ทำให้พวกเขาไม่อยากจะได้เงินอีกเลย
“แต่ว่าเรื่องนี้ไม่ใช้เรื่องสำคัญอะไรนายชิลๆกับเรื่องในวงการนี้อยู้แล้วคงไม่คิดจะโกรธเคืองอะไรหรอกเนอะ?”
น้ำเสียงของเซี่ยหลิงหลิงทั่งเบาทั้งนุ่มนวล:“อย่างน้อยๆก็ยังมีหลีอวี๋นกลับมารับช่วงต่อให้อยู่นะ”
เหมือนพูดแทงใจดำหลีอวี๋นนั่งยืดตัวขึ้นมาทันทีเหร่มองไปที่เฉินฝังอย่างไม่สบายใจ
เธอคิดว่าผู้หญิงโง่ๆอย่างเซี่ยหลิงหลิงไม่มีทางรู้เรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นระหว่างเขาสองคนได้หรอกแต่เท่าที่ดูวันนี้ดูเหมือนว่าเธอจะรู้เรื่องแล้ว?
เซี่ยหลิงๆกอดอกมองไปที่พวกเขาทั้งสองคน
“ฉันน่ะลองคำนวณบัญชีของฉันดูเมื่อวานเรามีโครงการที่ลงทุนด้วยกันอยู่โครงการหยึ่งใช่มั้ยฉันลงทุนไปด้วยเงินออมทั้งหมดที่ฉันมีหนึ่งในนั้นยังมีเงินที่ยืมมาจากคนอื่นอีกจำนวนนึงเวลาผ่านไปนานขนาดนี้แล้วไม่รู้ว่าจะได้กำไรหรือขาดทุนบัญชีอยู่ไหน?”
“เอ่อ......เรื่องนั้นบัญชีทั้งหมดอยู่ที่ฝ่ายการเงินน่ะเธอใจเย็นๆก่อนนะ......”
“ไม่เป็นไรไม่เป็นไรฉันไม่รีบ”
เซี่ยหลิงหลิงส่ายหน้าแสร้งทำเป็นเศ้ราโศก:“เพียงแต่ว่าเรื่องนี้อาจจะพูดกับสามีฉันยากหน่อยนะเพราะบัญชีที่ใช้ยื่นเรื่องขอหย่าไปถูกนำไปตรวจสอบตอนนี้ไม่ทราบที่มาที่ไปของเงินจำนวนนั้นเห็นว่าจะต้องแจ็งตำรวจหรือไม่ก็เชิญทนายความมาช่วยเพราะฉะนั้นพวกเธอต้องเร่งมือหน่อยนะ”
“เดี๋ยวเดี๋ยวเดี๋ยว!อย่าทำแบบนั้นสิ!”
ไม่รอให้หลีอวี๋นลุกขึ้นซุนหลันที่นั่งอยู่ข้างๆกันก็เริ่มเก็บอาการไว้ไม่อยู่เธอร้อนรนขึ้นมาทันที:“พรุ่งนี้จะคำนวนบัญชีทั้งหมดแล้วโอนคืนไปให้เธอโอเคมั้ยรวมถึงเงินลงทุนด้วย!”
พวกเธอเข้าใจตั้งแต่แรกแล้วว่าเจ้าของร่างเดิมรู้ว่าสามีของเธอไม่มีทางยกบ้านให้เธอจึงตั้งใจไว้ว่าจะเอาส่วนแบ่งจากบริษัทเฉิงซื่อมา
ตั้งใจไว้ว่ารอให้เจ้าของร่างเดิมทำเรื่องหย่าเรียบร้อยแล้วก็จะอ้างว่าเงินที่ลงทุนไปนั้นเกิดการขาดทุนเลยจะเอาเงินไปชดเชยในส่วนที่ขาดทุนไปแต่เป็นไงล่ะทีนี้ขโมยไก่ไม่ได้แถมยังต้องเสียข้าวไปอีกกำมือ
เฉิงซื่อไม่ใช่บริษัทใหญ่โตอะไรแต่ก็มีผู้สนับสนุนทางเงินอยู่หลายสิบล้านและมีแนวโน้มที่ดีที่จะพัฒนาขึ้นในอนาคตจนเซี่ยนหลิงหลิงมาพูดแบบนี้ในวันนี้จึงทำให้พวกเขาเกิดความเข้าใจผิดคิดว่าประธานบริษัทจะเริ่มสังเกตเห็นถึงแผนการของพวกเขาแล้วจึงเกิดความหวาดระแวงขึ้นมา
เซี่ยหลิงหลิงพูดจี้ประเด็นได้โดยที่เธอเองก็ไม่ได้คาดคิดมาก่อน
เซี่ยหลิงหลิงไม่คิดว่าผลลัพธ์ที่ได้มันจะดีขนาดนี้เธออึ้งไปนิดเดียวก่อนจะกลับเข้าสู่โหมดปกติก่อนจะพยักหน้าด้วยท่าทีนิ่งสงบ
“แบบนั้นมันที่ดีกับเราทั้งสองฝ่าย”
เธอนิ่งสงบได้ขนาดนี้เหมือนเรื่องทั้งหมดอยู่ในความควบคุมของเธอทำให้สภาพจิตใจของผู้หญิงสองคนนั้นยิ่งร้อนรนมากยิ่งขึ้นจึงจำเป็นต้องโยนเงินของเจ้าของร่างเดิมกลับคืนไปอย่างเสียไม่ได้
การเจรจาสิ้นสุดลงเซี่ยหลิงหลิงไม่อยากอยู่ตรงนั้นนานเกินไปเธอหิ้วถุงช็อปปิ้งสองใบก่อนจะเดินจากไปร่างที่อยู่ด้านหลังรีบวิ่งตามเธอไปก่อนจะยืนขวางทางเดินของเธอ
และเขาคือพ่อไก่อ่อนเฉินฝังนั่นเอง
เซี่ยหลิงหลิงสบตากับเขา:“นายต้องการอะไรอีก”
เฉินฝังกัดฟันกรอดจ้องเขม็งไปที่เซี่ยหลิงหลิงที่เปลี่ยนไปมากตรงหน้าเดิมทีแล้วเขาก็ต้องการจะเขี่ยผู้หญิงหยาบคายคนนี้ทิ้งอยู่แล้วแต่สิ่งที่เดขึ้นตอนนี้กลับทำให้จิตใจของเขาลุกเป็นไฟสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เขารู้สึกกระสับกระส่าย
“เธอไม่กลัวว่าฉันจะกลับมาแก้แค้นเธอเหรอ?”เขาหรี่ตามอง
“นายจะแก้แค้นฉันยังไงเหรอ?”เซี่ยหลิงหลิงถอนหายใจหนักมาก“นายคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องทุเรศๆของนายกับหลีอวี๋นงั้นเหรอ?เมื่อก่อนฉันแค่ไม่อยากพูดแต่ตอนนี้ฉันขี้เกียจจะพูดเฉินฝังเมื่อไหร่ที่ผู้หญิงไม่ได้รักนายแล้วเมื่อนั้นคือช่วงเวลาที่เจ็บปวดใจที่สุด”
น้ำเสียงของเธอแผ่วเบาเปรียบเสมือนลมบางเบาที่ไม่สามารถคว้าเอาไว้ได้ก่อนจะสลายหายไปในชั่วพริบตา
“นายหมดโอกาสในการแก้แค้นฉันแล้วล่ะ”
“......”
ได้ยินคำพูดสุดท้ายนั้นแล้วเฉินฝังชะงักอยู่กับที่มองไปยังใบหน้าที่ในอดีตนั้นถูกโบกไปด้วยแป้งฝุ่นหนาเตอะแต่บัดนี้เมคอัพนั้นดูบางเบาและสวยงามสายตาที่ใช้มองเขาคู่นั้นไม่มีความเร่าร้อนอีกต่อไปการยิ้มมุมปากของเธอก็เต็มไปด้วยความเย็นชาจนเขารู้สึกขนลุก
เฉินฝังยืนจ้องแผ่นหลังที่อยู่ไกลๆของเซี่ยหลิงหลิงทันใดนั้นเก็นึกขึ้นได้ว่าเธอกำลังรู้สึกรังเกียจเขาหรือเปล่า?
เพราะเขาเคยเล่นตลกกับเธอเธอจึงทำคืนเขาบ้างดังนั้นจึงเหมือนกับขนของเม่นที่ทิ่มแทงมือไม่สนใจปฏิกิริยาหรือความรู้สึกของผู้อื่นเพียงแค่ต้องการจะใช้ขนอันแหลมคมนั้นทิ่มแทงผู้คนให้บาดเจ็บไปทั่วทั้งร่างกาย
หนามขนาดเล็กๆเพียงชิ้นเดียวทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจของเขาเบาๆจนเขาไม่รู้ว่าควรต้องพูดอะไรบ้าง
......
เซี่ยหลิงหลิงปรบมือรัวๆให้ตัวเองอยู่ในใจ
วิญญาณนักแสดงเข้าสิงแสดงละครฉากใหญ่ไปเต็มที่เธอมีความสุขทั้งกายและใจโดยเฉพาะตอนที่ได้เห็นเจ้าไก่อ่อนเฉินฝังนั่นยืนหน้าเหวอไปเลยเกือบหลุดขำออกมาแล้วเชียว
ปล่อยให้คนหลงตัวเองนั้นหมกมุ่นอยู่ในโลกอันสวยงามของเขาต่อไปเถอะฉันตัองกลับไปทำกับข้าวที่บ้านต่อ
เมื่อคิดได้แบบนั้นเซี่ยหลิงหลิงก็หยิบมือถือขึ้นมาค้นหารายชื่ออยู่นานสุดท้ายก็หาชื่อของเฉิงรุ่ยจนเจอ
ลังเลอยู่นานก่อนที่เซี่ยหลิงหลิงจะส่งข้อความไป
[มื้อค่ำอยากทานอะไร?]
ช่วงนี้มัวยุ่งอยู่กับการทดลองเกมใหม่อยู่ผู้เข้าใช้เซิร์ฟเวอร์มีจำนวนมากเกินไปบวกกับเทศกาลแห่งความรักกำลังจะมาถึงแล้วด้วยภายในเกมนั้นเตรียมตัวเปิดใช้ระบบหาคู่แล้วด้วยโฆษณาแคมเปญต่างๆและต้องคอยกระพือข่าวอยู่เป็นระลอกๆจึงสลัดเวลาออกมาไม่ได้เลย
แต่วันนี้ภารกิจเสร็จสิ้นแล้วโดยปกติแล้วผู้ที่ชอบทำตัวลึกลับอย่างเจ้านายก็มักจะขลุกอยู่แต่ในออฟฟิศจนสาวๆในออฟฟิศต่างก็ดูคึกคักกันถ้วนหน้าเพียงเพราะอยากเห็นตัวจริงเสียงของเจ้านาย
พนักงานกลุ่มเล็กๆในห้องน้ำชาต่างก็แย่งกันอยากจะเอากาแฟไปเสิร์ฟให้เจ้านายในเวลานั้นเองหญิงสาวในชุดเสื้อเชิ้ทแขนยาวสีขาวเดินเข้ามาพอดีและเธอผู้นั้นก็คือหยางหลิวผู้งดงามและมีบุคลิกที่ดีนั่นเองเธอยิ้มและเลียริมฝีปากของตัวเองเล็กน้อยรับกาแฟมาถือไว้แล้วพูดว่า:“เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเถอะพวกเธอเลิกงานได้แล้วล่ะ”
พนักงานเหล่านั้นรู้สึกโกรธขึ้นมาในทันทีมองแผ่นหลังที่เดินอยู่ไกลๆนั้นด้วยความรู้สึกไม่พอใจ
“น่าอิจฉาจริงๆเลยเนอะฉันเองก็จะพยายามเพื่อให้ได้เห็นหน้าเจ้านายให้ได้ได้ยินมาว่าเขาหล่อมากๆเลยนะ!”
“แต่ทำไมฉันถึงได้ข่าวมาว่าเขาแต่งงานแล้วล่ะ”
“หาไม่ใช่หรอกมั้ง......”
“ถ้าเขาแต่งงานแล้วจริงๆแล้วหยางหลิวจะใกล้ชิดและทำดีกับท่านขนาดนั้นเพื่ออะไรกันเธอจะทำลายขาเตียงคนอื่นงั้นเหรอ?”
......
หยางหลิวถือแก้วกาแฟเดินเข้าไปในห้องประชุม
ถูหนานกำลังนั่งวิเคราะห์ข้อมูลอยู่ทุกคนต่างนั่งล้อมอยู่รอบโต๊ะแต่คนที่โดดเด่นที่สุดก็น่าจะเป็นผู้ชายที่อยู่ในเสื้อฮู้ดสีเทาเขาทำตาละห้อยดวงตาเรียวยาวนั้นดูเหม่อลอยไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
จู่ๆโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาครั้งหนึ่งเขาเลื่อนหน้าจอเปิดดูเหมือนเจอเรื่องที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนถึงไม่ยอมวางมันลง
เขาจ้องไปหน้าจออยู่อย่างนั้นเนิ่นนานท่าทีแปลกๆแบบนั้นจนทำให้ถูหนานลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังรายงานเรื่องอะไรอยู่แอบเหร่มองไปยังฝั่งที่เฉิงรุ่ยนั่งอยู่คนอื่นๆก็เริ่มหันไปมองที่เฉิงรุ่ยเช่นเดียวกันรวมไปถึงหยางหลิวที่เพิ่งเดินเข้าห้องมาเธอยังมีกระจิตกระใจหันไปจัดระเบียบทรงผมสไลด์ของเธอทำให้เธอดูมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าเดิม
“......”
นิ้วมือเรียวยาวของเฉิงรุ่ยจิ้มไปที่หน้าจอโทรศัพท์รัวๆอยู่สักพักก่อนจะกดไปที่ปุ่มส่งข้อความ
เขาเงยหน้าขึ้นมาช้าๆก็เผชิญเข้ากับสายตาของพวกสอดรู้สอดเห็นกลุ่มหนึ่งใบหน้านิ่งสงบ:“คืนนี้ไม่ทำโออที”
“เจ้านายจะไปทำอะไรเหรอครับ??”คำถามของถูหนานนั้นเหมือนเป็นคำถามแทนในพวกคนโสด
เฉิงรุ่ยพับเอกสารเก็บ
“กลับไปทานข้าวที่บ้าน”
หนุ่มโสดทั้งหลายถึงกับเหวอไปเลยก่อนจะตามมาด้วยเสียงโห่แซวเหมือนหมาหอน
“พระเจ้าช่วยศตวรรษที่21แบบนี้ยังมีภรรยาตามสามีกลับบ้านไปทานข้าวอยู่อีกเหรอเนี่ย!ได้โปรดอย่าแสดงความรักกันแบบนี้อีกเลยได้มั้ยครับ!”
“เจ้านายครับช่วยบอกทีเถอะนะครับว่ากับข้าวของพี่สะใภ้นั้นหน้าตาเป็นยังไง!ผมเคยเห็นแค่ในเน็ตอ่ะ!”
“ขอโทษนะฉันนึกไม่ออกจริงๆว่าวันนี้มันเป็นวันสำคัญอะไรกันเนี่ย”
“น้ำตาจะไหลฉันจะปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอก”
คนโสดกลุ่มนึงร้องโอดโอยโหยหวนตั้งแต่เข้าสู่วงการสายงานITมานี้จากคนที่ไม่โสดก็กลายมาเป็นคนโสดพวกเขาเองก็อยากจะสร้างครอบครัวแล้วเหมือนกันนี่นา!
มีเพียงหยางหลิวที่กุมแก้วกาแฟกระดาษอยู่ในมืออุณหภูมิที่ร้อนจัดนั้นทำให้ฝ่ามือร้อนและแดงไปหมดแต่เธอกลับไม่รู้สึกอะไรเลยร้อยยิ้มของเธอแข็งทื่อขึ้นมาเล็กน้อย
......
มื้อค่ำ
เซี่ยหลิงหลิงตั้งใจเตรียมกับข้าวไว้ให้สามอย่างพร้อมน้ำซุปอีกหนึ่งอย่างไว้รอเฉิงรุ่ย
รูปแบบการทางข้าวของทั้งคู่นั้นมีความเข้าขาและกลมกลืนกันมากเซี่ยหลิงรับผิดชอบการทำอาหารเฉิงรุ่ยรับผิดชอบในส่วนของการล้างจานเซี่ยหลิงๆทานไปเพียงถ้วยเล็กๆเฉิงรุ่ยก็สามารถจัดการทานอาหารที่เหลือจนเกลี้ยงได้
เซี่ยหลิงหลิงนั่งมองเฉิงรุ่ยที่ก้มหน้าก้มตาทานข้าวมันมีความรู้สึกมีความสุขกับความสำเร็จและการถูกยอมรับ
ต่างจากคนอื่นที่รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงทางรูปลักษณ์ภายนอกของเซี่ยหลิงหลิงเฉิงรุ่ยดูจะไม่แยแสจะตกใจสักนิดก็ยังไม่มีมันทำให้เซี่ยหลิงหลิงรู้สึกหลอนขึ้นมาราวกับตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับวิญญาณอยู่
หลังจากนั้นเซี่ยหลิงหลิงก็นั่งเล่นมือถืออยู่บนโซฟา
เฉิงรุ่ยสวมผ้ากันเปื้อนลายดอกไม้สีชมพูที่เธอซื้อมาให้ตอนล้างจานเป็นที่ดูน่ารักมุ้งมิ้งมากเซี่ยหลิงหลิงกดมือถือตัวเองเอาไว้แล้วบอกกับตัวเองว่าห้ามถ่ายห้ามถ่าย
เธอว่างแล้วเกิดรู้สึกเบื่อจึงหยิบเอากระดาษที่อยู่ในลิ้นชักออกมาฝึกมือ
......ไม่ได้วาดรูปนานแล้วเหมือนกันนะเซี่ยหลิงหลิงแทบจะลืมความรู้สึกนั้นไปแล้วใช้ปากกาลูกลื่นค่อยๆวาดง่ายๆจนขึ้นรูปภายใต้จินตนาการของเซี่ยหลิงหลิงมีแผ่นหลังของคนตัวเล็กๆน่ารักๆคนนึงสวมผ้าคลุมลายดอกไม้อยู่บนกระดาษเธอจับจุดที่มีความมุ้งมิ้งตรงนั้นเอาไว้ได้ในภาพนั้นคนตัวเล็กดูซื่อซื่อบื้อบื้อมีความน่ารักและเงอะงะนิดหน่อยแถมยังมีผมชี้ขึ้นมาเส้นหนึ่ง
เมื่อวาดเสร็จเซี่ยหลิงหลิงได้รับข้อความจากหลีอวี๋นบอกว่าจะส่งรายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีมาให้เธอหันไปมองเฉิงรุ่ยที่กำลังง่วนอยู่กับการล้างๆถูๆจานชามอยู่วางปากกาลงแล้วเดินเข้าห้องนอนไปมีความสุขอยู่กับการคำนวนบัญชี
เฉิงรุ่ยแกะผ้ากันเปื้อนออกก่อนจะเดินเข้าห้องสมุดไป
ระหว่างที่เดินผ่านโซฟาห้องรับแขกมีกระดาษแผ่นนึงวางอยู่บนเครื่องกาแฟตัวการ์ตูนน่ารักๆนั้นดูสะดุดตามาก
เท้าของเขาก็หยุดชะงักลง