ตอนที่11
เซี่ยหลิงหลิงฝันร้าย
ในฝันนั้นเธอถูกนางเอกไป๋เซวียนเซวียนบีบคอแน่นจนเธอหายใจไม่ออกเธอกลั้นจนปวดปอดไปหมดเซี่ยหลิงหลิงหมดกำลังต่อสู้ได้ยินเพียงเสียงที่ไป๋เซวียนเซวียนตะคอกมาที่ข้างหูเธอ:“คืนไป๋เยว่กวางของฉันมา!คืนจูหม่าของฉันมา!คืน!ให้!ฉัน!”
เซี่ยหลิงหลิงสะดุ้งตื่นขึ้นมาเหงื่อท่วมตัว
อาการสำลักยังคงมีอยู่เหมือนเดิมเซี่ยหลิงหลิงชะงักไปก่อนจะลูบจับไปที่ส่วนของลำคอปรากฏว่าเป็นเพราะเมื่อคืนเธอนอนไม่เป็นระเบียบจนถูกผ้าขนหนูที่ใช้คลุมหมอนพันไปรอบคอก็ไม่แปลกที่เธอจะฝันจนหายใจไม่ออก
เซี่ยหลิงหลิง:“......”
เธอก็โง่อยู่พอสมควรจริงๆเลย
ด้านนอกมีเสียงเปาะแปะเปาะแปะดังขึ้นฝนกำลังตกปรอยๆใบไม้สีเหลืองแห้งที่ร่วงหล่นลงพื้นถูกเหยียบย่ำจนจมลงไปในโคลนภาพนั้นทำให้คนที่เห็นรู้สึกไม่ดีสักเท่าไหร่
เซี่ยหลิงหลิงอาบน้ำเรียบร้อยภายในบ้านดูเงียบเฉียบสงบไร้ผู้คนดูเหมือนเฉิงรุ่ยจะออกบ้านไปแล้วขนมปังในตู้เย็นถูกกินไปหลายแผ่นนมหายไปหนึ่งกล่องในเช้าที่เซี่ยหลิงหลิงไม่ได้ตื่นเช้าเขาก็จะใช้ชีวิตแบบนี้แหละ
เซี่ยหลิงหลิงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยหมกอยู่แต่ในบ้านแล้วยังต้องตื่นเช้าขนาดนี้เลยเหรอ?มีวินัยในการนอนเช้าตื่นเช้าแต่กลับไม่ยอมกินข้าวดีดีเจ้าหมอนี่แปลกคนจริงๆ
ว่างจนไม่มีอะไรให้ทำเซี่ยหลิงหลิงออนไลน์เข้าเกม
สมาชิกในแก๊งกำลังสนทนากันอยู่หัวเราะคิกคักสนุกสนานเมื่อเซี่ยหลิงหลิงออนไลน์ปุ๊ปทุกอย่างกลับกลายเป็นเหมือนรังนกขึ้นมาทันที
“หลิงหลิงหลิง!”
“หลิงหลิงหลิง!”
“หลิงหลิงหลิง!”
หลิงหลิงหลิง:......ฉันเกือบจะไม่รู้จักคำๆนี้ไปแล้ว
เธอจัดการกับข้อในถังขยะไปพลางๆแต่กลับเจอคำเชิญเกินมาหนึ่งฉบับและชื่อนั้นคือ“กู้โกว๋เสินโหยว”
เซี่ยหลิงหลิง:“......”เจ้าหมอนี่ทำไมจู่ๆถึงมาเสียเวลากับเธอเนี่ย
เธอปฎิเสธอย่างเด็ดขาดเธอเล่นเกมต่อไปด้วยท่าทีที่แกล้งทำเหมือนไม่มีอะไรม้าไป๋หลงที่ได้คุยกันเมื่อวานก็อยู่พาเซี่ยหลิงหลิงไปทำภารกิจอย่างกระตือรือร้นเซี่ยหลิงหลิงมีผู้นำเล่นฝีมือดีเลเวลก็อัพขึ้นไวมากๆบรรยากาศในการเล่นก็สนุกสนานมากๆ
ทุกคนพูดคุยกันมากมายหลายเรื่องและก็มีบางคนที่ถามเซี่ยหลิงหลิงว่าอายุเท่าไหร่แล้วเธอตอบเพียงว่าตัวเองเป็นฟรีแลนซ์และย้ำกับพวกเขาไปว่าเธอแต่งงานแล้ว
ม้าไป๋หลง:สาวน้อยหลิงหลิงเธอเปิดไมค์สิใช้ไมค์คุยกันง่ายกว่า
เซี่ยหลิงหลิงไม่อยากจะเปิดเผยรายละเอียดอะไรมากนักเธอตอบคลุมเครือพูดไปเพียงว่าเสียงเธอไม่ค่อยเพราะ
ในขณะเดียวกับที่เธอปฎิเสธไปนั้นจู่ๆก็มีเสียงที่นุ่มนวลเสียงหนึ่งแทรกเข้ามา:“พวกนายคุยอะไรกันอยู่เหรอ?”
เมื่อเซี่ยหลิงหลิงเห็นไอดีตาก็กระตุกไป๋อีเซวียนเซวียนและนั่นก็คือนางเอกไป๋เซวียนเซวียนนั่นเอง
และดูเหมือนไป๋เซวียนเซวียนจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับเธอดึงให้เซี่ยหลิงหลิงสนทนาอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะไงก็ขอรู่ให้ได้ว่าเธอคือใครกันแน่เซี่ยหลิงหลิงเริ่มรู้สึกรำคาญกับการรุกเร้าของเธอและก็ยังรู้สึกว่าทุกคนดูน่าสนใจมากๆไม่อยากออกจากแก๊งนี้ไป
ในเวลานี้เซี่ยหลิงหลิงรู้สึกเสียดายรู้อย่างนี้เธอตั้งค่าเป็นผู้ชายตั้งแต่แรกซะก็ดีจะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายแบบนี้
สาวๆที่อยู่ในแก๊งบางคนรีบออกมาปกป้องเซี่ยหลิงหลิงเพื่อนสนิทของไป๋เซวียนเซวียนเองก็ไม่ได้เป็นพวกต่อกรด้วยได้ง่ายๆพวกเขาอยู่ช่วยไป๋เซวียนเซวียนอยู่ข้างๆ
อยู่ๆเซี่ยหลิงหลิงก็เข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว
ไป๋เซวียนเซวียน......นึกถึงตัวเธอได้ก็เพราะชื่อที่ใช้ในเกมหรือเปล่า?เธออาจจะรู้สึกรังเกียจเรื่องราวความทรงจำที่มีกับตัวเฉิงรุ่ยล่ะมั้ง
ก็เป็นแค่การเล่นเกมไม่เห็นจำเป็นต้องจริงจังขนาดนั้นเลยเซี่ยหลิงหลิงได้แอดเพื่อนบางคนในกลุ่มไปก่อนจะลาออกจากแก๊งไปอย่างรวดเร็ว
เธอไม่อยากพัวพันเกี่ยวข้องกับนางเอกโดยไม่จำเป็น
เซี่ยหลิงหลิงหันดูนาฬิกาเวลานี้แล้วเฉิงรุ่ยยังไม่กลับมาเลย
ฝนที่ตกอยู่ข้างนอกนั้นเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆและดูเหมือนว่าเฉิงรุ่ยจะไม่ได้มีนิสัยชอบพกร่มอยู่แล้วเธอควรจะโทรไปถามเขาสักหน่อยมั้ยนะ?
“ติ๊งติ๊งติ๊งติ๊ง......”
อยู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเซี่ยหลิงหลิงนึกว่าเฉิงรุ่ยเป็นคนโทรเข้ามาเธอหยิบขึ้นมาดูแต่กลับเห็นชื่อที่ขึ้นบนหน้าจอว่าเป็นเย่ซีเธอรู้ว่าการที่ผู้หญิงคนนั้นโทรมาจะต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆในขณะที่เธอกำลังจะโยนโทรศัพท์ไปบนเตียงเพื่อให้มันหยุดไปเองแต่เสียงเรียกเข้าก็ดับลงทันที
เซี่ยหลิงหลิงยิ้มเยาะ
แค่นี้ก็ยอมแพ้ซะละผิดวิสัยของแม่เลี้ยงซะจริงๆ
จากนั้นไม่นานอีกฝ่ายก็ส่งข้อความเข้ามา
[จะลงมาหรือจะให้ฉันขึ้นไปหาเลือกมาหนึ่งอย่าง]เดาจากคำพูดแล้วมีความเป็นผู้นำเผด็จการและหยาบคาย
เซี่ยหลิงหลิงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเพียงแค่คุยโวเย่ซีกล้าแย่งหุ้นของเฉิงรุ่ยแต่ไม่กล้าเดินเข้าบ้านหลังนี้เพราะเธอรู้ดีว่าบ้านหลังนี้คือขีดจำกัดขั้นสุดท้ายเพียงอย่างเดียวของเฉิงรุ่ยแล้วเย่ซีเป็นคนฉลาดเธอจะโง่ไปยั่วให้เฉิงรุ่ยโมโหทำไมกัน
ในสายตาของเธอเฉิงรุ่ยเป็นเพียงทายาทรุ่นสองที่ไม่มีอะไรเลยแต่กระต่ายเมื่อโดนยั่วยุจนเกินไปมันก็กัดคนได้เหมือนกันจะร้ายจะดียังไงก็ถือเป็นบุตรชายในสายเลือดแท้ๆแม้ในช่วงเวลาเร่งด่วนแบบนี้ก็ควรมีศีลธรรมอยู่บ้าง
เซี่ยหลิงหลิงถอนหายใจ
ที่เย่ซีมาหาเธอในครั้งนี้จะต้องมายื่นคำขาดเป็นครั้งสุดท้ายอย่างแน่นอนชีวิตสุขสบายของพวกเขากำลังจะสิ้นสุดลงในไม่ช้านี้แล้ว
เธอสวมเสื้อคลุมแล้วลงไปชั้นล่างด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นใต้ตึกนั้นมีรถบีเอ็มที่สะดุดสายตาจอดอยู่หนึ่งคันเย่ซียืนหลบฝนใต้ตึกบริเวณบันไดทางขึ้น
เซี่ยหลิงหลิง:“ไม่คิดเลยจริงๆว่าคุณจะยอมลงจากรถ”ส่วนใหญ่ที่เห็นในละครก็มักจะเจรจากันในรถของอีกฝ่ายไม่ใช่เหรอ
เย่ซีถอดแว่นดำออกท่าทีเย็นชา:“ฉันกลัวเธอจะทำรถฉันสกปรก”
เซี่ยหลิงหลิงอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจากตอกกลับไป:“ฉันกลัวว่าแขนขาแก่ๆของคุณจะได้รับบาดเจ็บน่ะ”
เย่ซีแทบจะบีบแว่นจนหัก
“......”
เย่ซีVSเซี่ยหลิงหลิง
เย่ซีK.O
เย่ซีก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวทำท่าทีกดดันกดขี่เซี่ยหลิงหลิง:“เธอจะลังเลอะไรนักหนา?ฉันว่าฉันก็บอกเธอไปชัดเจนทุกอย่างแล้วนะ”
เซี่ยหลิงหลิงขอคำชี้แนะไปอย่างจริงจัง:“ถ้าฉันไม่ยอมหย่าคุณจะทำไม?”
“จะทำไม?”
เธอหัวเราะอย่างเยือกเย็น:“ฉันจะอายัดบัตรธนาคารของเธอทำให้เธอหมดหนทางและฉันมีวิธีทำให้พวกเธอหย่ากันเธอคิดว่าฉันต้องการเธอเหรอ?เพียงแต่ว่าวิธีนี้มันง่ายที่สุดและฉันก็ไม่กลัวว่าตัวเองจะเกิดปัญหา”
......อืมเป็นตัวละครที่บทโหดจริงๆด้วย
เธอไม่สนใจเรื่องของคนอื่นมีทรัพย์สินเท่าไหร่มันจะไปตกอยู่ที่กระเป๋าของใครทุกอย่างไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ
เซี่ยหลิงหลิงไม่เหมือนนางเอกคนอื่นๆมีศิลปะการต่อสู้ทั้งสิบแปดประเภทเธอแต่งมาอยู่ในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวยแต่สุดท้ายกลับมีจุดจบที่อนาถเมื่อชาติที่แล้วเธอเองก็เป็นคนธรรมดาที่เกิดในครอบครัวที่ฐานะปานกลางไม่รู้เกี่ยวกับการต่อสู่เกี่ยวกับเรื่องภายในอะไรทั้งสิ้นฉะนั้นจะไม่อ้างสิทธิ์อะไรทั้งนั้น
แต่ดูเหมือนว่าเฉิงรุ่ยกำลังจะต้องตกเป็นเบี้ยล่างแล้วล่ะไม่เอาการเอางานเกาะคนอื่นกินดูยังไงก็คงจะหนีไม่พ้นต้องมีชีวิตเร่ร่อนข้างถนนแน่นอน
เซี่ยหลิงหลิงบอก:“ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขอเรียกเพิ่มอีกสักสามล้านนี่ก็คือเงื่อนไขของฉัน”
นี่คือสิ่งเดียวที่เธอทำได้ในตอนนี้
ดึงเวลาเพื่อให้เย่ซีกระวนกระวายใจเงินที่จะสามารถขอมาได้ก็จะเยอะขึ้นมาหน่อยสามล้านหยวนบวกกับบ้านอีกสองหลังที่เย่ซีจะเพิ่มเติมให้หนึ่งในนั้นให้เฉิงรุ่ยหนึ่งหลังหากเขาไม่ใช้เงินมือเปิบทั้งชีวิตนี้ก็คงจะอยู่กินได้อย่างสบายนี่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่เซี่ยหลิงหลิงพอจะตอบแทนเขาได้
ในสายตาของเย่ซีท่าทีนิ่งเฉยของเซี่ยหลิงหลิงสามารถพูดได้เลยว่าหน้าด้านหน้าทนและไร้ยางอายสิ้นดี
เธอพูดอย่างหัวเราะเยาะเย้ย:“ฉันก็นึกว่าเธอกลับใจแล้วที่ไหนได้สุดท้ายก็แค่ต้องการเงินเพิ่มหรอกเหรอ”
เซี่ยหลิงหลิง:“แล้วยังไง?เราอย่างเสียเวลาพูดอะไรมากไปกว่านี้เลยดีกว่า”
เย่ซี:“ดีล”
หยาดฝนร่วงลงบนพื้นเกิดเป็นเสียงดังเปาะแปะเปาะแปะเปาะแปะก่อเกิดเป็นคลื่นในอากาศร่างๆนึงยืนแอบอยู่ที่มุมตึกมุมนึงได้ยินสิ่งที่ทั่งสองพูดอย่างชัดเจนทุกถ้อยคำ
ร่างของเขาถูกฝนสาดจนเปียกปอนไปทั้งตัวผมสีดำเปียกฝนน้ำไหลติ๋งๆลงมาเป็นหยดน้ำไหลรวมกันเป็นหนึ่งเดียวกับน้ำที่เปียกปอนบนร่างกาย
เสื้อฮู้ดสีดำของเขาเปียกไปหมดราวกับว่ามันหนักเป็นพันๆกรัม
สีผิวของเขาขาวซีดดวงตาของเขาหรี่ลงเรื่อยๆดวงตาสีดำสนิดนั้นกลับแฝงความประมาทอยู่เล็กน้อย
จนเมื่อได้ยินคำว่า“ดีล”เขาจึงหลับตาลง
......
เซี่ยหลิงหลิงกลับถึงบ้านก็ถอดเสื้อคลุมออกเธอพึ่งก้าวเข้าห้องเพียงไม่นานต่อจากนั้นร่างที่เปียกฝนไปทั้งตัวของเฉิงรุ่ยก็เดินเข้าประตูมาอย่างเงียบๆแล้วปิดลง
ไม่ได้เอาร่มไปอย่างที่คิดไว้จริงๆ
เซี่ยหลิงหลิงหยิบผ้าเช็ดตัวผืนหนึ่งแล้วยื่นให้เขา:“ฉันวางร่มไว้ให้หน้าประตูแล้วไม่ใช่เหรอแล้วทำไมตอนออกบ้านไปถึงไม่หยิบไปด้วย?”
เขาหันมองเซี่ยหลิงหลิงอย่างเชื่องช้าก่อนจะชำเลืองมองเซี่ยหลิงหลิงแวบเดียวสายตาแบบนั้นทำให้เซี่ยหลิงหลิงหวนนึกถึงวันที่พวกเขาเจอกันครั้งแรกสายตาคู่นั้นดูห่างเหินจนเหมือนกำลังมองคนแปลกหน้าอยู่
เฉิงรุ่ยไม่ได้รับผ้าเช็ดตัวก่อนเดินเข้าห้องสมุดไป
เซี่ยหลิงหลิง:“??”
สงสัยจะกินข้าวจนอิ่มมากเกินไปล่ะมั้งเจ้าหมอนี้ถึงได้กล้าชักสีหน้าทำเป็นไม่รู้จักกันแบบนี้ได้เนี่ย?
เธอทำกับข้าวด้วยสีหน้าหม่นหมองประตูห้องสมุดก็ถูกปิดไว้สนิทมิดชิดจนข้าวที่เซี่ยหลิงหลิงเก็บเอาไว้ให้เริ่มเย็นเขาก็ยังไม่ยอมอออกมาสักที
เซี่ยหลิงหลิงไม่ได้เก็บเรื่องความเย็นชาที่ผิดปกตินั้นมารกสมองเธอครอบกับข้าวไว้ไม่อยากจะต่อปากต่อคำอะไรกับเฉิงรุ่ยกลับเข้าห้องนอนไปออนไลน์เกมเมื่อเข้าสู่เกมก็มีผู้คนจำนวนหนึ่งถามเซี่ยหลิงหลิงว่าทำไมถึงออกจากแก๊งหนึ่งในนั้นก็มีกู้โกว๋เสินโหยวด้วยเช่นกัน
กู้โกว๋เสินโหยว:เป็นเพราะเซวียนเซวียนใช่มั้ย?ข้อโทษด้วยนะที่ทำให้เธอต้องรู้สึกไม่ดี
ม้าไป๋หลง:สาวน้อยหลิงหลิงเธอรีบกลับมาเถอะนะพวกเรามาเล่นเกมด้วยกันดีมั้ยqaq
ข้าคือเย่เหลียงเฉิน:ไป๋ยีเซวียนเซวียนก็เป็นแบบนี้นั่นแหละเธออย่าใส่ใจเลยสาวๆที่อยู่ในกลุ่มต่างก็พากันชินแล้วถ้าออนไลน์แล้วเรามาเล่นด้วยกันนะ
ในจังหวะที่เขาจะอธิบายก็ได้ยินเสียงดังตุ้บเหมือนจะเป็นของหนักๆล้มลงพื้นทำเอาเธอตกใจสะดุ้งโหยง
เธอรีบวิ่งออกไปดูเปิดไฟขึ้นมาเฉิงรุ่ยสลบอยู่บนพื้นท่าทีเบลอๆไม่มีสติน้ำและเมล็ดยาจำนวนนึงกระจายเต็มพื้นแก้วน้ำก็แตกเป็นเสี่ยงๆ
เซี่ยหลิงหลิงเอามือไปแตะที่หน้าผากของเขาอุณหภูมิความร้อนนั้นทำให้เธอถึงกับต้องตกใจ
“พระเจ้าทำไมถึงได้ตัวร้อนขนาดนี้เนี่ย?”
เซี่ยหลิงหลิงตื่นตระหนก
“ร้อนจนทอดไข่ได้แล้วเนี่ย!”
เฉิงรุ่ยที่สติเบลออยู่ๆก็ลืมตาขึ้นมาถาม:“ทอดไข่?”
เซี่ยหลิงหลิง:“......”
คนที่คิดแต่เรื่องกินจนลืมเรื่องความเป็นความตายแบบนี้ช่างทำให้เธอรู้สึกปลาบปลื้มซะเหลือเกิน