บทที่ 1 มีชีวิต แต่ไม่มีคนเลี้ยง   1/    
已经是第一章了
บทที่ 1 มีชีวิต แต่ไม่มีคนเลี้ยง
บทที่ 1 มีชีวิต แต่ไม่มีคนเลี้ยง Club beautiful night คลับพรีเมียม ณ เมืองเมฆ นภสรลูบๆเสื้อรัดรูปสายเดี่ยวสีแดงที่ยาวถึงต้นขา จัดทรงผมดัดลอน เมื่อมั่นใจว่าผมไม่ได้ยุ่งแล้ว ถึงจะเริ่มก้าวเรียวขาขาวๆนั้นเข้าไปด้านใน เมื่อมาถึงหน้าประตูห้องวีไปพี พนักงานเสิร์ฟเปิดประตูให้เธอ ก่อนจะโค้งตัวผายมือเชิญเธอเข้ามาด้านใน นภสรหันไปมองพนักงาน ริมฝีปากสีแดงๆนั้นเผยยิ้มขึ้นบางๆ : “ขอบคุณค่ะ” จ้องมองพนักงานเสิร์ฟเดินจากไปด้วยสีหน้าแดงก่ำอย่างพึงใจ จากนั้นจึงเดินเข้าห้องวีไอพีไป สายตาของเธอกวาดมองไปรอบๆอย่างลวกๆ ก่อนที่สายตาของเธอจุหยุดลงที่นรมนลูกพี่ลูกน้องของเธอที่อยู่ในชุดกระโปรงสีขาว กระโปรงพีทสีขาว ผมดำยาวสยายลงมาระที่บ่า ท่าทางที่กำลังหันข้างไปพูดคุยกับผู้คนนั้น ช่างดูอ่อนโยนและน่าประทับใจ แน่นอน นี่เป็นแค่ความรู้สึกจากคนนอกเท่านั้นที่จะคิดแบบนี้ ไม่เจอกันสี่ปี เธอยังคงมีท่าทีเหมือนดอกบัวขาวที่แปดเปื้อนมลทิน ไม่สิต้องบอกว่าเป็นบัวขาวแก่ๆมากกว่า คนที่นั่งข้างๆสะกิดแขนของนรมน จากนั้นนรมนจึงหันหน้ามองไปที่ประตูทางเข้า “มาจนได้นะ นภสร นัดกันไว้แล้วว่าจะเลี้ยงต้อนรับเธอสักหน่อย พี่ก็คิดว่าเธอจะไม่มาแล้วซะอีก......” นรมนเดินเดินเข้ามาคว้ามือเธอไว้แสร้งทำตัวเหมือนสนิทสนม พอพูดได้ครึ่งนึง ก่อนจะแกล้งทำเสียงตกใจพร้อมทำท่าเอามือปิดปาก : “ว๊าย ทำไมเธอถึงแต่งตัวแบบนี้ล่ะ!” นภสรลูบผมเล็กน้อย นัยน์ตาแฝงไปด้วยความเย็นชา แต่ใบหน้ากลับเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มมีเสน่ห์ ก่อนจะพูดว่า : “พี่ไม่ชอบที่ฉันแต่งแบบนี้เหรอคะ? อ้อ ก็จริง พี่อยู่ในบริษัทของคุณปู่ทุกวัน ใส่แต่ชุดที่เป็นทางการ คงไม่เคยเห็นแบบนี้” เมื่อเห็นว่านภสรเริ่มทำตัวไม่ถูก เพื่อรักษาภาพลักษณ์ความเป็นเทพธิดาของเธอไว้ เธอจึงมักจะแต่งตัวให้ดูดีดูภูมิฐานอยู่เสมอ นภสรเห็นว่าหล่อนไม่พูดอะไรต่อ เธอก็เชิดคางเดินตรงไปยังมุมที่ไม่มีคนอยู่ นภสรยกน้ำผลไม้ขึ้นจิบช้าๆด้วยแววตาที่ว่างเปล่า เมื่อเธอกลับมาถึงประเทศ นรมนก็แกล้งทำทีชวนเธอออกมาต่อหน้าคุณปู่ ไม่ต้องคิดอะไรมากก็รู้ เธอไม่สบายใจ แต่ใครจะรู้ พึ่งนั่งลงได้แปปเดียว ก็มีฝ่ามืออวบอ้วนโอบมาที่เอวของเธอ สายตาของนภสรเย็นเฉียบขึ้นมาทันที ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเธอก็ยกแก้วที่มีน้ำผลไม้สาดใส่คนๆนั้น มีคนสังเกตเห็นความผิดปกติของทางนี้พอดี ก่อนจะกรีดร้องด้วยความตกใจ : “ตายแล้ว คุณชายธนวรรธ!” “เป็นอะไรมากมั้ยคะ เธอ ยังไม่รีบขอโทษคุณชายธนวรรธอีก!” เมื่อนรมนได้ยินก็เดินเข้ามาหา : “นภสร เธอเป็นคนสาดเหรอ? รีบขอโทษคุณชายธนวรรธเดี๋ยวนี้เลยนะ” นภสรมองค้อนหล่อนเล็กน้อย ก่อนจะโยนแก้วในมือทิ้งไป หมุนตัวเตรียมเดินออกไป ยังไม่ทันที่นรมนจะพูดอะไรก็มีผู้หญิงคนนึงเริ่มออกตัวช่วยหล่อน : “นรมนเป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอนะ สายตาแบบนั้นของเธอหมายความว่ายังไง ไม่มีใครสั่งสอนหรือยังไง!” พูดจบก็มีอีกคนพูดต่อ : “แม่ตายตั้งแต่เด็ก พ่อก็ติดคุก มีชีวิตเกิดมา แต่ไม่มีคนเลี้ยง ไม่มีใครสั่งสอนก็ปกติหนิ” นรมนคิ้วขมวด เธอรู้สึกแย่จนนัยตาแดงก่ำ : “พวกเธออย่าไปว่านภสรแบบนั้นนะ เธอก็เป็นแบบนี้แหละ แต่เธอไม่ได้ร้ายอะไร......” “นรมน เธอยอมหล่อนมากเกินไปแล้วนะ นภสรเนคนประเภทไหน เราต่างก็รู้กันดี......” “นั่นน่ะสิ ทำแท้งตั้งแต่สมัยอยู่มัธยมแบบนั้นยังจะเรียกว่าเป็นคนดีได้ยังไงกัน!” “......” ฉากที่ดูคุ้นเคยแบบนี้ เมื่อสี่ปีก่อนก็เป็นแบบนี้ เธอถูกทุกคนขวางไม่ให้ออกประตูโรงเรียน เสียงปากของคนจำนวนมากที่สามารถพูดให้ผิดกลายเป็นถูก ถูกกลายเป็นผิด พูดใส่ความในสิ่งที่เธอไม่ได้ทำ จนกลายเป็นจำเลยสังคม นภสรกำมือแน่น สีหน้าเย็นชา แต่กลับพูดอะไรไม่ออกเลยสักคำ คุณชายธนวรรธผลักสาวๆที่กำลังรุมเช็ดหน้าให้เขาออก หยิบแก้วเหล้าจากมือคนข้างๆมาถือไว้ สายตาดุดัน ก่อนจะคว้าแขนนภสรไว้ : “ดื่มกับฉันสักแก้ว ฉันก็จะไม่เอาอะไรกับเธอมาก!” นภสรสะบัดมือของเขาแต่ก็สะบัดไม่ออก คุณชายธนวรรธก็ยัดแก้วเหล้าใส่มือเธอจนได้ ในขณะที่นภสรกำลังจะโยนแก้วเหล้าทิ้ง จังหวะที่หันหน้าไปมองก็เห็นร่างของผู้ชายคนหนึ่งยืนห่างออกไปเพียงก้าวเดียว ยืนมองเธอด้วยสีหน้าที่ดูเฉยเมย ชายคนนี่รูปร่างสูงโปร่ง เสื้อดำกางเกงดำ รูปร่างค่อนข้างล่ำ เขาก้มหน้าก้มตา ใบหน้าดูลึกลับ นัยน์ตาสีดำสนิท หน้าหล่อๆนั้นเต็มไปด้วยความเยือกเย็นและเข้าถึงยาก เริ่มมีคนซุบซิบกัน : “คนๆนั้นคือใครน่ะ?” “ไม่รู้เหมือนกันว่ามากับใคร แต่หล่อมากเลยเนอะ!”
已经是最新一章了
加载中