บทที่ 5 ทั้งเมืองเมฆนี้ยังมีใครที่กล้าแต่งงานกับคนอย่างเธอ   1/    
已经是第一章了
บทที่ 5 ทั้งเมืองเมฆนี้ยังมีใครที่กล้าแต่งงานกับคนอย่างเธอ
บทที่ 5 ทั้งเมืองเมฆนี้ยังมีใครที่กล้าแต่งงานกับคนอย่างเธอ หน้าประตูบ้านตระกูลไชยกาล นภสรเดินลงจากรถ นัยน์ตาว่างเปล่า เพราะต้องมาเจอธมกร เธอจึงไม่แต่งหน้ามา การแต่งกายก็มีความเรียบง่าย ไม่ได้เลือกใส่สีฉูดฉาดอะไร หวังเพียงแต่ว่าการเปลี่ยนแปลงตัวเองเล็กๆน้อยๆของเธอจะทำให้เขาโกรธน้อยลง ที่เธอมาวันนี้นอกจากจะมาให้โดนด่าแล้ว เธอก็ยังมีเป้าหมายของเธอด้วย สูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นนภสรถึงเดินเก้าเข้าไปข้างใน เมื่อเข้ามาถึงห้องโถง ก็เห็นคนในครอบครัวตระกูลไชยกาลนั่งรอกันเป็นกลุ่มอยู่แล้ว ธมกรนั่งอยู่ตรงกลางสุด นรมนนั่งอยู่ข้างๆด้วยท่าทีว่านอนสอนง่าย ทั้งสองนั่งพูดคุยกันอย่างยิ้มแย้ม “คุณปู่คะ หนูกลับมาแล้วค่ะ” รอยยิ้มบนใบหน้าของธมกรหายวับไปในทันที หน้านิ่วคิ้วขมวดราวกับกำลังจ้องมองอะไรที่น่าขยะแขยง : “ไอ้สารเลว รู้จักกลับมาได้แล้วเหรอ! ฉันไม่อยู่แค่วันเดียว ดูสิว่าแกทำเรื่องเลวๆอะไรเอาไว้!” ไม่พูดอย่างเดียว แต่เขายังขว้างรูปถ่ายกองนึงลงบนหน้าเธอ มันก็คือรูปที่ถูกถ่ายเอาไว้ตอนเธอนั่งเปลือยกายอยู่บนเตียงนอนเมื่อเช้านี้ แม้ว่าจะไม่ได้ถูกเอาไปเผยแพร่ แต่รูปภาพพวกนี้ก็ยังคงมีอยู่ ในแวดวงของชนชั้นสูง ชื่อเสียงของเธอเน่าเฟะไปตั้งนานแล้ว “คุณปู่คะ รูปภาพพวกนี้ หนูอธิบายได้นะคะ” นภสรชำเลืองมองนภสรแล้วทำทีเหมือนไม่มีอะไร รูปภาพพวกนี้เป็นของจริงทั้งหมด ทั้งหมดเป็นแผนของนรมนเอง เกรงว่าต่อให้เธอพูดออกมาธมกรก็คงจะไม่เชื่อ “อธิบาย? แต่เล็กจนโตเวลาทำอะไรผิดมา มีครั้งไหนบ้างที่เธอยอมรับผิด? รูปถ่ายอยู่นี่หมดแล้วยังจะแก้ตัวอีก!” ธมกรลุกขึ้นยืนด้วยความโมโห ชี้หน้าจนนิ้วแทบจะจิ้มโดนหน้าของนภสรอยู่แล้ว ตามคาด เขายังคงเป็นเหมือนเมื่อก่อน เลือกที่จะเชื่อนรมนอย่างไม่มีเงื่อนไข นภสรมองไปที่ธมกรอย่างรู้สึกขำ : “เรื่องที่หนูไม่ได้ทำ ทำไมหนูต้องยอมรับด้วยล่ะคะ?” “เพียะ!” ธมกรตบหน้าเธออย่างจังด้วยความรู้สึกผิดหวัง : “มาจนถึงขนาดนี้แล้ว ยังไม่รู้จักสำนึกอีก! ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองทำผิดมันยากขนาดนั้นเลยเหรอ? เหมือนพ่อเธอไม่มีผิด ให้ตายก็ไม่ยอมรับผิด!” ธมกรดูเหมือนจะใช้แรงทั้งหมดของเขาในการตบ นภสรโดนตบจนตัวเซ ต้องใช้มือค้ำพนักโซฟาเอาไว้ถึงจะยืนได้มั่นคง เสียงวิ๊งวิ๊งดังอยู่ในหู จ้องมองธมกรอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง คีย์เสียงของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย : “คุณปู่ พ่อของหนูคือลูกของคุณปู่นะคะ คนอื่นไม่เชื่อคุณพ่อ แต่ทำไมคุณปู่เองก็ไม่เชื่อคุณพ่อเหมือนกันล่ะคะ?” “อย่าพูดถึงไอ้สารเลวนั่นนะ คนสารเลวมีลูกลูกก็สารเลว! ชื่อเสียงของตระกูลไชยกาลถูกทั้งพ่อเธอทั้งเธอทำลายจนป่นปี้หมดแล้ว!” หากคำพูดเหล่านี้นรมนเป็นคนพูดมันล่ะก็ นภสรจะต้องกระโดดเข้าไปฉีกปากของเธอให้ขาดแน่นอน แต่คนที่พูดกลับเป็นคนที่มีอำนาจที่สุดในตระกูลไชยกาลอย่างธมกร และเป็นผู้ใหญ่ที่เธอเตารพนับถือ นรมนยืนอยู่ข้างๆธมกร ปลอบโยนเขาด้วยเสียงเบาๆ : “คุณปู่คะ อย่าโมโหไปเลยนะคะ นภสรก็เป็นแบบนี้มาตลอด แกอายุยังน้อย อาจจะสับสนไปบ้างทำอะไรลืมคิดไปบ้างในบางครั้ง” “ก็เพราะว่ามันเป็นแบบนี้มาตลอดไง เพราะงั้นถึงต้องแก้ต้องเปลี่ยน ให้อภัยครั้งแล้วครั้งเล่า แต่มันกลับไม่รู้จักสำนึก!” ให้อภัยเธองั้นเหรอ? เธอไม่ได้ต้องการมันเลยสักนิด! นภสรรู้สึกปวดที่ใบหน้า แต่ก็เทียบไม่ได้กับความรู้สึกเจ็บที่มีในใจ เธอก็คิดไปว่า เพียงแค่เธอมีความพยายามตั้งใจ จะต้องมีสักวันที่ธมกระมองเธอเปลี่ยนไป แต่เมื่อเพียงแค่นรมนกลับมา เธอมีเคล็ดลับในการพูดที่เต็มไปด้วยช่องโหว่แบบนี้ ทำให้ธมกรเชื่อเธออย่างไม่มีข้อสงสัย นี่มันไม่ใช่บ้านของเธอ “เรื่องที่หนูไม่ได้ทำ หนูไม่มีทางยอมรับมันเด็ดขาด และหนูก็ไมมีวันไสหัวออกไปจากบ้านไชยกาล คุณพ่อได้แบ่งหุ้นส่วนเอาไว้ให้หนู ปีนี้หนูก็อายุยี่สิบสองแล้ว บรรลุนิติภาวะมาตั้งนานแล้ว หนูสามารถรับช่วงต่อหุ้นส่วนตรงนั้นได้แล้ว!” “แก!” ธมกรนึกไม่ถึงว่านภสรจะเถียงย้อนกลับมาแบบนี้ ทำเอาเขาโมโหจนตัวสั่น ก่อนจะตะคอกใส่เธอ : “นี่แกยังอยากจะได้หุ้นส่วนอีกอย่างนั้นเหรอ ลองไปหาดูนะว่าทั้งเมืองเมฆนี้ยังมีใครที่กล้าแต่งงานกับคนอย่างเธอ อยากได้หุ้นส่วนเหรอ แต่งออกไปให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาพูด!” “แต่มันเป็นสิ่งที่หนูควรจะได้รับ!” เธอไม่อยากจะเชื่อ ว่าธมกรจะกล้าหักหุ้นส่วนของบ้านไชยกาลที่พ่อของเธอเหลือเอาไว้ให้ออก “สิ่งที่ลูกหลานของบ้านตระกลูไชยกาลควรได้รับ เธอไม่จำเป็นต้องได้รับมันด้วยเหมือนกัน!” ธมกรมองนภสรด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เจ้าหลานสาวคนนี้ยิ่งอยู่ยิ่งไม่เข้าท่า นี่มันเป็นการบีบไล่เธอออกจากบ้านไชยกาล แม้แต่หุ้นส่วนที่เธอควรจะได้ก็ไม่ยอมให้เธออย่างงั้นเหรอ! ทั้งๆที่เป็นฤดูร้อน แต่นภสรกลับรู้สึกเหมือนมีน้ำเย็นมาเทใส่หัวจนเธอหนาวเหน็บไปทั้งร่าง เธอไม่กล้าพูดอะไรต่ออีก สายตาของธมกรที่มองเธอในตอนนี้เหมือนกำลังมองศัตรูคนนึง หากเธอยังจะพูดอะไรที่เป็นการยั่วโมโหเขาอีกล่ะก็ เขาคงจะขับไล่เธอออกจากบ้านไปตัวเปล่าแบบนี้จริงๆ เธอไม่แคร์ว่าตัวเองยังเป็นคุณนายสองของบ้านตระกูลไชยกาลอยู่หรือเปล่า แต่พ่อที่อยู่ในคุกองเธอแคร์ “คุณปู่จะทำอย่างที่พูดจริงๆใช่มั้ยคะ? แค่หนูแต่งงานออกไปได้ คุณปู่ก็จะแบ่งหุ้นส่วนให้หนู”
已经是最新一章了
加载中