บทที่ 6 เธอจะแตงงานกับฉันไม่ใช่เหรอ   1/    
已经是第一章了
บทที่ 6 เธอจะแตงงานกับฉันไม่ใช่เหรอ
บทที่ 6 เธอจะแตงงานกับฉันไม่ใช่เหรอ ธมกรชำเลืองมองเขาแวบนึง แม้จะไม่ได้อยากแบ่งหุ้นส่วนให้เธอ แต่ในเมื่อพูดออกไปแล้ว มันเอาคืนมาไม่ได้ “แน่นอน ถ้าแกหาคนที่ยอมเต็มใจจะแต่งงานกับแกได้! หุ้นส่วน เธอก็เอาไปได้เลย!” “ขอบคุณค่ะคุณปู่” นภสรยิ้มที่มุมปาก ต่อให้คนทุกคนต้องการจะเหยียบเธอให้จมดิน เธอก็จะอ่อนแอไม่ได้ เธอโค้งคำนับธมกร แล้วจึงเดินจากไป กลับมาถึงรถ นภสรรู้สึกท้อแท้หมดหวัง ในแวดวงสังคมชั้นสูง ชื่อเสียงของเธอเน่าเฟะแค่ไหนเธอรู้ดี ตอนสมัยม.ปลายนรมนสร้างเรื่องที่เธอท้องแล้วทำแท้ง ข่าวถูกเผยแพร่ออกไปจนชื่อเสียงเธอป่นปี้ จนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นเรื่องที่ใช้พูดกันสนุกปากกันอยู่เลย เมืองเมฆกว้างใหญ่มาก คนที่ยอมแต่งงานกับเธอ อาจจะไม่มีเลยจริงๆก็ได้ ...... นภสรมีเรื่องไม่สบายใจ ขับรถก็เลยไม่ค่อยมีสมาธิ จนเมื่อมีเสียงดัง “ตู้ม” รถของเธอไปเฉี่ยวกับรถอีกคันนึง เธอจึงตกใจดึงสติกลับมาได้ จบกัน ต้องเสียเงินอีกแล้ว นภสรลงรถไปดูเหตุการณ์ เธอขมวดคิ้วอย่างแรง รถ Rolls-Royce Phantom? เป็นแบบสตรีม pre-sale ที่มีจำนวนจำกัดด้วย? แถมยังเป็น Phantom Collector's Edition อีก! ราคาเปิดตัวอยู่ที่ สิบกว่าล้าน! ยังไม่ทันทีนภสรจะทำใจเพื่อเดินเข้าไปขอโทษขอโพย เจ้าของรถก็เปิดประตูเดินลงรถมาซะก่อน นภสรเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของรถ ก็ไปประสานเข้ากับสายตาที่ลึกลับดั่งภูเขาที่เงียบสงบในป่าลึกเวลากลางคืน ใบหน้าที่คุ้นเคยนั้นทำเอาเธอถึงกับตกใจ แต่ก็สามารถเรียกชื่อของเขาออกมาได้อย่างถูกต้อง : “ปองพล?” ตัวตนจริงๆของเขาเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงได้มีปัญญาซื้อรถคันนี้ได้ หรือต่อให้เขามีเงินซื้อ แต่ก็ต้องมีศักยภาพที่จะได้มันมาด้วยเหมือนกัน ปองพลไม่ตอบกลับ เพียงแต่หันสายตาไปมองที่ตัวรถ ตรงนั้นมันมีรอบขีดข่วนเล็กน้อยมากๆ แต่เมื่ออยู่บนรถคันนี้แล้วมันดูชัดเจนเป็นพิเศษ นภสรเองก็มองเห็นรอยนั้นแล้ว ใบหน้าดูปกติ แต่ในใจกลับรู้สึกผิดและอึดอัด ก่อนหน้านี้เธอยังเคยพูดไว้อู่เลยว่าหากเจอกันอีกใครทำเป็นไม่รู้จักกัน ตอนนี้เธอขูดรถคนอื่นจนเป็นแผล แถมยังเป็นรถหรูอีก แถมไม่รู้ว่าจะซ่อมได้หรือเปล่าอีก “การปฏิบัติตามกฎจราจรเป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ทุกคนควรทำ” ปองพลพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่ขนคิ้วที่ยกขึ้นแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจของเขา “ขอโทษ” เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอ และเธอก็ขอโทษอย่างว่าง่าย แต่เธอกลับรู้สึกอึดอัดอยู่ภายในใจ ที่เธอกังวลใจมากกว่าคือจะซ่อมรถคันนี้ยังไง เธอเห็นแล้วเธอยังรู้สึกปวดใจเลย นัยน์ตาลึกลับคู่นั้นฉายแววบางอย่างออกมา ปองพลสังเกตเธออย่างละเอียด เห็นใบหน้าฝั่งนึงที่มีความบวมแดงอยู่ กำลังขมวดคิ้วอยู่ ดวงตาของเธอดูสวยงามมาก นัยน์ตาสีพีชคู่นั้น เวลาหันมองคนอื่นๆ ก็ดูเหมือนมีความตั้งใจจะยั่วยวน ขนตาทั้งยาวทั้งงอน จมูกค่อนข้างตั้งตรง ริมฝีปากแดงฟันขาว แถมมุมปากยังยกขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าใบหน้าข้างนึงจะยังบวมแดงอยู่แต่ก็ยังดูเป็นผู้หญิงบอบบางน่ารัก แม้ว่าเขาจะเคยเจอผู้หญิงสวยๆมานับไม่ถ้วน แต่ก็ยังคงประหลาดใจกับความงามของเธออยู่ดี เมื่อเห็นแวบแรก เธอดูสวยงามมีเสน่ห์ เพอร์เฟค...... เขายกนิ้วขึ้นมาเลียโดยไม่รู้ตัว ราวกับว่าสัมผัสอันนุ่มลื่นในคืนนั้นยังคงอยู่ระหว่างนิ้วมือ ที่ไหนสักแห่งในหัวใจที่ถูกปิดกั้นเอาไว้บัดนี้เริ่มมีความเคลื่อนไหวแล้ว เหมือนรู้สึกได้ถึงสายตาที่ปองพลส่งมาให้ นภสรเอียงกายเล็กน้อย เพื่อปิดบังแก้มฝั่งที่บวมแดงเอาไว้ แต่ปองพลไม่ได้ถามอะไรมาก เพียงแค่เอ่ยปากพูดว่า : “นี่เป็นรถของเพื่อนฉัน” “หา?” นภสรชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะดึงสติกลับมา รถของเพื่อนงั้นเหรอ? “แล้วรถคันนี้......” ปองพลพูดแทรกคำพูดของเธอ เลิกคิดแล้วมองเธอ : “เดี๋ยวฉันะบอกเพื่อนฉันให้ ว่าฉันเอามันไปข่วนเพราะไม่ระวัง เธอจะขอบคุณฉันยังไงเหรอ?” นภสรถูกหน่วงไว้ด้วยสายตาที่เร่าร้อนของเขา ในหัวมีเสียงคำพูดของธมกรลอยเข้ามา แล้วเธอก็เผลอหลุดพูดออกไปโดยไม่รู้ตัว : “งั้นฉันจะแต่งงานกับนายละกัน” “ตี๊ด——“ เสียงนกหวีดดังขึ้นมาทันที นภสรดึงสติกลับมา ปองพลจะต้องคิดว่าเธอเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ “คือว่า......” “ไปกันเถอะ” ในขณะที่พูด ปองพลก็เดินไปถึงหน้ารถเธอแล้ว เขาเปิดประตูแล้วเข้าไปนั่งในรถ จากนั้นก็โผล่หัวออกมาจากนอกหน้าต่าง แล้วพูดออกคำสั่ง : “ขึ้นรถ” นภสรเชื่อฟังและทำตามคำสั่งของเขา เธอขึ้นรถแล้วคาดเข็มขัดอย่างว่านอนสอนง่าย : “ไปไหน?” “เธอจะแต่งงานกับฉันไม่ใช่เหรอ?” “ห๊ะ?” แล้วสรุปคือจะไปไหนล่ะ? ปองพลเลิกคิ้วขึ้น ดวงตาฉายแววบางอย่างออกมา : “สำนักงานเขต”
已经是最新一章了
加载中