ตอนที่ 8 ไม่มีทางหนี
1/
ตอนที่ 8 ไม่มีทางหนี
หยุดรักยัยแสบหน้าหวาน(ไม่)ได้
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 8 ไม่มีทางหนี
ตนที่ 8 ไม่มีทางหนี ใบหน้าเล็ก ๆ ร้องไห้จนดวงตาของเธอเต็มไปด้วยรอยน้ำตาและตาแดงจมูกแดง ไม่หลงเหลือความสวยเอาไว้เลย แต่กลับสร้างความประทับใจให้วิณได้เล็กน้อย “ทำไม เอาตัวรอดจากค่าผ่าตัดไม่ได้เหรอ?” แขไขหยักหน้าและส่ายหน้า “ไม่ ฉันตายไม่ได้ ฉันตายแล้วแม่ฉันจะอยู่ยังไง” “ในเมื่อรู้ก็อย่าแสดงด้านที่อ่อนแอออกมา ไม่มีใครจะหยุดการรังแกเธอเพราะเธอน่าสงสารหรอก การที่จะออกจากปัญหาได้คือต้องเข้มแข็งขึ้น!” วิณกัดฟันพูด ราวกับว่าจะดุเด็กผู้หญิงที่อยู่ในความโศกเศร้า แขไขกลับรู้สึกว่าไม่มาเป็นเธอไม่รู้หรอก พูดง่ายแต่ทำยาก ราวกับว่าน้ำตาของเธอจะไหลออกมาอีก “สามแสน มันมากเกินไป ไม่ว่าฉันจะพยายามมากแค่ไหน จะทำงานมากมายขนาดไหนก็เก็บไม่พอถึงสามแสนหรอก...” เช่นเดียวกับตัวเลขทางดาราศาสตร์เธอรู้สึกเครียดมากจนเธอกินไม่ได้นอนไม่หลับ ในทุกวันที่ตื่นขึ้นมาก็รู้สึกกระวนกระวายใจ “คุณพูดง่าย คุณพูดแบบนั้นเพราะคุณเป็นคนร่ำรวย ไม่เข้าใจรสชาติของการไม่มีเงินหรอก!” เธอระบายมันออกมา วิณผลักเธอออกไปอย่างรวดเร็ว และจ้องมองเธอด้วยสายตาแข็งกร้าว “แขไข ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ได้มาอย่างง่ายหรอก ไม่มีเงินมันไม่ผิด แต่ไม่มีเงินแล้วต้องมานั่งโทษตัวเองอันนั่นแหละที่ผิด!” พูดจบ เขาก็ก้าวไปโดยไม่รีรอ เขาหันหลังและเดินจากไป มีแรงลมในขณะที่เขาเดินผ่านตัวของแขไข เธอสัมผัสได้ถึงความเย็นที่มาจากความผิดหวัง ในตอนนี้ตรงทางเดินเหลือเพียงเธอ และแสงไฟที่อยู่เหนือศีรษะเธอก็ดับลง แขไขยังคงยืนนิ่งอยู่เป็นเวลานานในสถานที่นี้ และคำพูดทั้งหมดของหมอภูกิตและวิณยังคงดังก้องอยู่ในหูของเธอ แต่ละคำเป็นเหมือนตาข่ายขนาดใหญ่ที่จับเธอไว้แน่นหนา ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้ว เท้าเธอบวมและเจ็บปวดเพราะยืนเป็นเวลานาน ทันใดนั้นโทรศัพท์ในกระเป๋าของเธอก็สั่นสองครั้ง แขไข คิดว่าเป็นข้อความจากฉัตรพรและเมื่อเธอเปิดมันเธอก็ตกตะลึง ในเวลา16:10 บัตรธนาคาร XX ที่มีหมายเลขสุดท้าย3957 ได้โอนเงินเข้า สามแสนบาท ในเวลานั้น เธอลืมร้องไห้ เธอเบิกตากว้างและจ้องมองตัวเลขในข้อความนั้น ราวกับว่ามันจะทะลุออกมาจากหน้าจอ เธอติดต่อไปยังธนาคาร เพื่อยืนยันมีการโอนดังกล่าว และเธอยืนเรียกสติของตัวเองกลับมาเป็นเวลานาน ทำไมอยู่ๆถึงมีเงินจำนวนมากขนาดนี้ และเป็นจำนวนเงินที่ใช้ในการผ่าตัดพอดี? เงินที่มีค่านี้คือเงินที่ช่วยชีวิต แล้วก็โอนมาสามแสนพอดี เป็นใครกัน.... ทันใดนั้นประกายความคิดในใจของแขไขนั้นก็ค่อยๆนึกอะไรได้ หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้น และการหายใจก็เริ่มผิดปกติ และชื่อของคนๆหนึ่งก็ค่อยๆชัดเจน หรือว่าจะเป็น.... วิณ?! …………….. หลังจากจ่ายค่าผ่าตัดแล้ว การผ่าตัดของกุลยาจะมีขึ้นในวันถัดไป หลังจากการตรวจสุขภาพก่อนจะมีการผ่าตัด เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายสามารถทำการผ่าตัดได้ แขไขก็โล่งใจ ตั้งแต่ที่กุลยาเริ่มป่วย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกผ่อนคลาย ในตอนเย็นแขไขดูแลกุลยาจนหลับไป และเรื่องการผ่าตัดเธอก็ไม่ได้บอกตระกูลดาวริศกุล เธอกลัวว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นอีกครั้งภายใต้หน้ากากของการทำงาน ในขณะที่กำลังรอกุลยาหลับ แขไขก็เห็นว่าในช่วงเวลากลางคืนคนน้อย จึงนำกระติกน้ำร้อนไปยังห้องเก็บน้ำที่อยู่ในส่วนท้ายของทางเดิน ห้องเก็บน้ำทั้งเล็กและชื้น และเพื่อเป็นการประหยัดไฟ ดวงไฟทั้งหมดจึงไม่ได้เปิดไว้ มีเพียงแสงจากไฟทางเดินที่สอดส่องเข้ามา แขไขวางกระเป๋าน้ำร้อนไว้ตรงที่รองรับน้ำ เปิดวาล์วน้ำร้อน และรอน้ำเต็มอย่างเงียบๆ ทันใดนั้นเงาสีดำแวบบนเครื่องทำน้ำร้อน แล้วใจของเธอก็รู้สึกตื่นตระหนก เงาดำนั้นเข้ามาใกล้ตัวเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งเงานั่นจะปกคลุมไปทั่วร่างกายของเธอ แขไขก็รีบหันกลับไปอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะถามว่าใครน่ะ แต่เมื่อหันกลับไปกลับพบเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย จากนั้นเธอก็ถามอย่างอึ้งๆ “คุณ ทำไมคุณอยู่ที่นี่?” ชายคนนั้นสวมเสื้อเชิ้ตและกลางเกงสแลคยืนอยู่ตรงประตู แต่เนคไทเขาหายไป และกระดุมตรงคอเสื้อได้ถูกปลดไปสองเม็ด และแขนเสื้อเขาก็พับขึ้นถึงข้อศอก และมือทั้งสองข้างก็ล้วงกระเป๋าอยู่ และหน้าท้องที่แบนแต่กลับไม่ได้เปราะบาง แค่มองก็สัมผัสได้ถึงพลังกำลัง วิณหันไปมองเธอและเหลือบสายตาไปมองกระติกน้ำร้อน และหันกลับมองหยุดสายตาที่เธออีกครั้ง “หาเธอ” “หาฉัน?” “อืม” แขไขนึกถึงเรื่องเงินสามแสน ประโยคที่ว่า มาหาฉันทำไม จึงติดอยู่ในลำคอ หลังจากคร่ำครวญอยู่ครู่หนึ่ง เธอจึงพูดอย่างอายๆ “การผ่าตัดของแม่ฉันสำเร็จไปด้วยดี” “รู้” “หมอบอกว่าลงมือผ่าตัดตอนนี้ดีที่สุดแล้ว” “………” คำตอบของเขาในครั้งนี้ไม่มีเลยสักคำพูด แขไขถูกสายตาของเขาจ้องมอง หลังจากรับเงินสามแสนของเขามา เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาเธอก็ไม่สามารถกับกริยาเหมือนเมื่อก่อนได้อีกแล้ว ในตอนนี้เธออยากจะพูดแต่กลับไม่รู้ว่าจะพูดอะไร และในที่สุดชายตรงหน้าก็พูดขึ้น “นอกจากเรื่องแม่ เธอมีอะไรจะพูดกับฉันไหม” แขไขนิ่งไปเล็กน้อย เธอรู้สึกว่ามือของเธอนั้นเกะกะมากในตอนนี้ เธอก้มหน้าลงและพูดเบาๆ “ขอบคุณ” เสียงนั้นไม่ได้ต่างจากเสียงของยุงเลย วิณเลิกคิ้ว และเอามือใส่ในกระเป๋ากางเกง “เธอพูดอะไร? ได้ยินไม่ชัดเลย” ฟันขาวที่เรียงสวยของหญิงสาวก็กัดริมฝีปากล่างของเธอ ใบหูเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง จากนั้นก็รีบพูดอย่างรวดเร็วว่า “ขอบคุณ” วิณมองไปที่หญิงสาวที่กำลังเขินอายแทบจะแทรกแผ่นดินหนีและในที่สุดเขาก็พึงพอใจ “ไม่ต้องรีบดีใจไป เงินนี่ เธอต้องคืน” “ฉันรู้ แต่มันอาจจะนานหน่อย” พูดจบ เธอก็หยิบกระดาษจากกระเป๋าของเธอและส่งให้เขา “นี่คือสัญญากู้ยืม คุณต้องเซนต์มัน” วิณไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะทำเช่นนี้ เมื่อรับมาแล้ว กระดาษขาว ตัวอักษรสีดำ การเขียนด้วยลายมือนั้นชัดเจนและเนื้อหาของประโยควันที่นั้นชัดเจนมาก ฉันคิดว่าการรับเงินด้วยความเร่งด่วนของเธอนั้น เธอจะลืมสิ่งที่เธอควรทำ คิดไม่ถึงว่าใจของเธอจะมองทะลุปรุโปรงขนาดนี้ เกรงว่าสัญญายืมเงินนี่เธอจะเขียนในวันนั้น ดูเหมือนว่าจะโง่ แต่กลับคิดได้ในเรื่องที่คิดว่าจะคิดไม่ได้ วิณหยิบกระดาษแผ่นนั้นใส่ไว้ในกระเป๋าของเขา “ฉันรับไปล่ะ” “คุณเทวิณ ทำไมคุณถึงช่วยฉัน?” เมื่อเธอถามสิ่งนี้น้ำเสียงของเธอค่อนข้างไม่แน่ชัด ภายในใจเธอ เธอคิดว่าวิณไม่ใช่คนเลว แต่ก็ไม่ได้เป็นคนดี “เธอคิดว่าไง?” วิณมองที่ใบหน้าเล็ก ๆ ที่ไร้เดียงสาและบริสุทธิ์เป็นเวลานาน “หรือเธอคิดว่าฉันอาจเห็นแก่ความรักชั่วคราวจึงช่วยเธอ หรือว่าเธอคิดว่ามีอะไรอย่างอื่นอีก?” แขไขรู้สึกละอายใจกับคำพูดที่ชัดเจนของเขาและพูดด้วยความโกรธเล็กน้อยว่า “ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น!” “เธอไม่ได้คิดแบบนั้นแต่เธอก็ไม่ได้คิดถึงผลประโยชน์” วิณไม่ได้ปกปิดความคิดของเธอ การคิดให้รอบคอบมันไม่เพียงพอที่จะให้เขาเห็น “ก่อนที่จะเจอเธอ ฉันเป็นกัปตันกองกู้ภัย ไม่ใช่สัตว์ร้าย การช่วยคนคือสิ่งสำคัญ” ในตอนนั้นใจที่แข็งกระด้างของแขไขดูเหมือนจะแตกกระจายด้วยประโยคนี้ นานเท่าไหร่แล้วแม้กระทั่งคนในตระกูลดาวริศกุลก็เยาะเย้ยชะตาชีวิตของกุลยา แต่ในตอนนี้คนแปลกหน้าที่ไม่เกี่ยวข้องกลับบอกว่าการช่วยชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ แขไขไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะ อารมณ์ของเธอตอนนี้นั้นซับซ้อน ห้องเก็บน้ำเล็ก ๆ เงียบไปครู่หนึ่ง และชายข้างหน้าเธอก็ก้าวไปข้างหน้าเพียงไม่กี่ก้าว แขไขก็ก้าวถอยหลังไปสองก้าว แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวที่สามก็ถูกเขาจับไว้ แขนยาวของชายคนนั้นพาดอยู่ข้างเธอ และสายตาของหญิงสาวก็ตื่นตระหนก “น้ำเต็มแล้ว” พูดจบ แขไขก็หันกลับไปมองที่กระติกน้ำร้อนที่วางอยู่บนอ่างน้ำร้อนและกำลังจะล้น และสวิตช์ของเครื่องทำน้ำอุ่นก็ถูกปิดโดยเขา เดิมทีก็คิดว่าเขาจะทำอะไร ที่แท้เธอเข้าใจผิดไปเอง แขไขรู้สึกละอายใจมากขึ้นเธอก้มหน้าลงอยากจะพูดอะไรบางอย่างเพื่อให้บรรยากาศที่น่าอึดอัดที่ผ่อนคลายลง คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอกลับหันหลังและเดินออกไป เธอตื่นตระหนกและตามเขาออกไป ชายคนนั้นขายาวมากและเขาก็ก้าวเท้าอย่างว่องไว เธอวิ่งเหยาะๆไปจนถึงด้านหน้าสุดของทางเดินถึงจะตามทันแผ่นหลังนั่น “รอสักครู่!” ชายคนนั้นไม่หยุด แขไขก็ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ความแตกต่างของความสูงเกือบยี่สิบเซนติเมตรทำให้เธอต้องเผชิญหน้ากับเขา วิณมองคนตรงหน้าที่ขาดความมั่นใจ แต่ใบหน้าเล็กๆกลับมีคำถามแก่เขา ซึ่งคล้ายกับทหารที่เพิ่งจะเข้าค่าย “ฉันบอกไว้ก่อนจะพูดอะไรทุกประโยคต้องมีค่า” ได้ยินเช่นนั้น แขไขก็โล่งใจ เธอสูดลมหายใจลึกๆอยู่ประมาณ30วินาที และใบหน้าที่ใสดูเหมือนจะย่นเข้าด้วยกันและความลังเลและการดิ้นรนทั้งหมดในใจของเธอก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอ วิณรอประมาณครึ่งนาทีและก็จะไม่รอแล้ว เขาเป็นคนที่ทำอะไรรวดเร็ว และไม่ชอบอะไรที่ไม่มั่นใจ เขามองเธอด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง และถ้ายังเป็นเช่นนี้เขาจะได้ไปซะที แขไขกังวลอยู่ครู่หนึ่งและจับมือของชายคนนั้นไว้ และเธอกลืนน้ำลายและกลืนความไม่มั่นใจนั้นลงไป “ฉันตกลง ฉันจะแต่งงานกับคุณ” วิณก็ได้หยุดก้าวเท้าลง และมีความประหลาดใจเล็กน้อยบนใบหน้าที่สงบและหล่อเหลา “ทำไมเร็วขนาดนั้น คิดดีแล้วเหรอ?” “คุณพูดถูก เพียงคุณเท่านั้นที่สามารถช่วยฉันได้ แต่งงานกับคุณ ฉันไม่ได้ต้องการอะไรทั้งนั้น แต่เพียงเรื่องเดียว....” เธอหยุดและถอนหายใจและพูดต่อ “ช่วยค่ารักษาพยาบาลของแม่ฉัน และดูแลเธอจนเธอดีขึ้น เงินนี่ฉันจะยืมคุณ ฉันจะคืนแน่นอน” วิณไม่สนใจว่าทำไมเธอถึงแต่งงานกับตัวเองไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามสำหรับเขาตราบใดที่เขาสามารถทำให้แขไข อยู่ข้างกายเขาก็พอแล้ว เพียงแค่.... ชายคนนั้นขมวดคิ้ว เมื่อเห็นดวงตาของหญิงสาวที่เต็มไปด้วยอาการกล้าๆกลัวๆแต่ยังคงยืนยันในคำพูด หัวใจของเธอเปรียบเหมือนมดที่กำลังขึ้นภูเขา เขาหรี่ตามองเธอ “เธอแน่ใจเหรอ?” “แน่ใจ” “ดีมาก จำคำพูดของเธอตอนนี้เอาไว้ พรุ่งนี้ ฉันไปรับเธอที่ตระกูลดาวริศกุล นำทะเบียนบ้านมาด้วย” หลังจากวิณพูดจบ น้ำตาหยดหนึ่งหยดลงมาที่แก้มด้านข้างของหญิงสาว เขาเหล่ตาเล็กน้อยแล้วยกมือขึ้น ใช้นิ้วโป้งเช็ดน้ำตาให้เธอ การเคลื่อนไหวที่อ่อนโยนนั้นแสดงออกถึงการเตือน “คุณรู้หรือไม่ว่าฉันไม่มีเส้นทางหลบหนี?” แขไขเข้าใจ เขากำลังบอกเธอว่าถ้าตกลงแล้วจะมาเสียใจทีหลังไม่ได้ เธอยิ้ม และไม่สามารถซ่อนความเศร้าไว้ได้ “ฉันไม่มีทางถอยกลับนานแล้ว” ตั้งแต่วันที่แม่ป่วย เธอไม่เคยมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเธอเองเลย ภายใต้การอยู่ในตระกูลดาวริศกุล ความอัปยศและความอับอายมันไม่เหลืออยู่อีกแล้ว แม้ว่าวิณจะเป็นเรือขโมยมา เธอไม่เคยเปลี่ยนเรือจากตระกูลดาวริศกุลเลย ชีวิตของเธอตกลงไปสู่จุดต่ำสุดไม่ว่าเธอจะเลือกยังไงก็ไม่เลวร้ายไปกว่าตอนนี้อีกแล้ว
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 8 ไม่มีทางหนี
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A