บทที่2 จิ้งจอกตาขาว   1/    
已经是第一章了
บทที่2 จิ้งจอกตาขาว
บ๗ที่2 จิ้งจอกตาขาว เดินไปไม่กี่ก้าวในโถงทางเดินนั้น เธอหมดแรงยืนพิงกำแพง ลู่อ้ายฉีคิดในใจ ผ่านมาสิบห้าปี การที่พ่อของเธอยอมแลกด้วยชีวิตเพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่งสะใภ้ตระกูลหลิน นั้น สุดท้ายแล้ว เธอก็ไม่สามารถเอาชนะผู้หญิงที่ หลินเซี่นงเชิน เรียกหาได้ ซูซาน ที่เดินตามเธอมา เวลานี้ไม่รู้ว่าควรจะปลอบใจอย่างไร คุณนายเป็นคนเข้มแข็งมาตลอด คำปลอบใจของเขาอาจจะให้ผลตรงกันข้าม ดังนั้นจึงได้แค่ยื่นคีย์การ์ดห้องพักให้กับเธอ ตอนเข้าเวลาเจ็ดนาฬิกา รถยนต์มาถึงโรงแรมในเครือตระกูลหลิน การประชุมประจำปีถูกจัดขึ้นที่นี่ทุกปี ภายในระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า โรงแรมแห่งนี้จะไม่เปิดบริการรับแขก เรียกได้ว่าคนรวยที่ทำอะไรตามอำเภอใจ หลินเซี่นงเชิน ก็เป็นเช่นนั้น เขาทำอะไรไม่เคยคิดถึงคนอื่น นอกจากผู้หญิงคนนั้น... ณ ล็อบบี้โรงแรม เหล่าพนักงานสวมชุดสูท รองเท้าหนังเรียงแถว เพื่อรอการมาถึงของรับทายาทคนต่อไป หลินเซี่นงเชิน ลู่อ้ายฉีและเพื่อนร่วมงานอยู่ที่ด้านนอก รอการมาถึงของคุณชายท่านนี้ ในไม่ช้า หลังจากมื้อเช้าเสร็จสิ้นชายหนุ่มผู้สง่าผ่าเผยดั่งราชาเดินตรงมาที่พวกเขา เผยให้เห็นถึงบุคลิกที่บ้าคลั่ง และ ดื้อรั้นหัวแข็ง ใบหน้าของเขาหล่อเหลาราวเทพเจ้าอาหรับ ดึงดูดสายตาทุกคู่ให้ตะลึงงัน ลู่อ้ายฉีเดินตามมา และพยายามรักษาระยะห่างอย่างจงใจ เธอเป็นเพียงแค่ภรรยาของเขาเพียงในนาม ดังนั้นจึงไม่มีจำเป็นที่จะต้องจัดฉากแสดงความรักในเวลาที่ไม่จำเป็น ไม่รู้ว่าเมื่อไร จู่ ๆ หลินเซี่นงเชิน ก็หยุดเดินกะทันหัน ด้วยแรงเฉื่อยจาก ลู่อ้ายฉีที่มีเรื่องให้ขบคิดอยู่ในใจ ทำให้ไม่ระวังเดินชนหลังของชายหนุ่มอย่างจัง “โอ้ย...” ลู่อ้ายฉีเอามือปิดจมูก ดูราวกับรู้สึกเจ็บมาก ทำให้คนข้างหลังตกใจขึ้นมาทันที ใคร ๆ ต่างก็รู้ในกิตติศัพท์เรื่องนิสัยขี้หงุดหงิดของประธาน หลินเซี่นงเชิน เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าลู่อ้ายฉีกับเขาจะเป็นคู่สมรสในนาม แต่ความจริงเรื่องที่เขาสองคนเข้ากันไม่ได้นั้นก็เป็นที่รับรู้โดยทั่ว เธอมองไปยังด้านหลังของชายหนุ่ม ลู่อ้ายฉีขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วอดไม่ได้ที่จะบ่นในใจขึ้นมา เขาจงใจหรืออย่างไร? เดินอยู่ดี ๆ ก็หยุดกึกขึ้นมาเฉย ๆ ทันใดนั้น มีคนบางคนกางแขนออกมาแล้วโอบกอดแม่สาวน้อยไว้ที่กลางอกจากด้านหลัง เขาชำเลืองตาเล็กน้อย พร้อมยิ้ม เบา ๆ ที่มุมปาก “ที่รัก ผมว่าเราสองคนเดินไปด้วยกันดีกว่า” ลู่อ้ายฉีอดไม่ได้ที่ตกใจเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของเขาอีกครั้ง ใจเธออ่อนลงอย่างฉับพลัน แต่ไม่เพียงกี่วินาที เธอหลงลืมไปได้อย่างไร ชายผู้นี้มีฝีมือการแสดงเป็นเลิศ และในอีกไม่ช้าจะมีงานแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชน พวกเขาต้องเล่นละครแสดงความรักต่อหน้าสาธารณะ ไม่รู้ด้วยเหตุใด เมื่อนึกถึงเรื่องเหล่านี้ ลู่อ้ายฉีรู้สึกขมขื่นในใจอย่างเลี่ยงไม่ได้ หลังจากทั้งสองคนเข้าไปในลิฟต์ ลู่อ้ายฉีรีบปล่อยมือ ราวกับต้องการจะหลีกหนี เธอทิ้งระยะห่างจากชายหนุ่มทันที หลินเซี่นงเชิน หันหน้าหนี หน้าตาอันหล่อเหลาของเขานั้นดูอ้างว้าง มีเพียงพวกเขาสองคนในลิฟต์ เฝ้าดูมันขยับขึ้นไปทีละชั้น บรรยากาศค่อย ๆ ให้ความรู้สึกน่าอึดอัดจนหายใจลำบาก “เมื่อคืนมีเรื่องที่ต้องการจะบอกคุณ เสียดายคุณรีบกลับไปก่อน” ไม่รู้ว่าชายหนุ่มหยิบผ้าเช็ดหน้ามาจากไหน ลูบเช็ดทำความสะอาดมือข้างที่โดนตัวเธอ พูดจาด้วยความสุขุม “...” ลู่อ้ายฉีกัดริมฝีปาก ไม่พูดอะไร เขาเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดมือ การกระทำนี้ยั่วโมโหให้ ลู่อ้ายฉีเป็นหนักหนา แต่สุดท้ายก็พยายามเก็บอารมณ์โกรธนั้นไว้ในใจ “เป็นใบ้รึไง ?” นำเสียงอันไพเราะของชายหนุ่มดังขึ้นมากลางอากาศ สายตาของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าเล็กขาวซีด ใบหน้าเช่นนี้กลับเป็นที่ถูกใจเขายิ่งนัก หลินเซี่นงเชิน อดไม่ได้ที่จะขยายยิ้มที่มุมปาก”อยู่ที่นั่นเธอไม่ได้ดูข่าวเหรอ อีกไม่นานเธอก็จะมีน้องเขยแล้วนะ ดีใจไหมล่ะ? ” ลู่อ้ายฉีรู้ว่ายิ่งรอยยิ้มของชายหนุ่มน่ามองมากเท่าใด ความชั่วร้ายในใจก็มากเท่านั้น ดังนั้น เวลานี้เธอทำได้เพียงแค่เปิดปากด้วยน้ำเสียงสั่นเล็กน้อย”ใคร? ” “ซือถูเซ็น! ” ใบหน้าของชายหนุ่มเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อเขาได้เอ่ยคำสามคำนี้ ราวกับว่าเขาได้กุมชะตาชีวิตของเธอไว้แล้วในเวลานี้ ซือถูเซ็น? ชื่อนี้สำหรับตัวเองแล้วช่างห่างไกล ทว่าทำไมเขาถึงลงเอยกับหลินเสว่เฟยได้นะ? กับข่าวนี้ ลู่อ้ายฉีรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อย แต่สำหรับชายหนุ่มแล้ว ในใจกลับตีความไปอีกทาง เมื่อเห็นปฏิกิริยา เหมือนกับว่าตนเองสามารถยั่วเธอได้แล้ว ก็เข้าใกล้เธอด้วยใจที่ไม่หวังดี “คนที่คิดถึงอยู่ตลอดเวลาคนนั้น สุดท้ายก็กลายมาเป็นน้องเขย ผมอยากจะเห็นเวลาที่เขาเรียกคุณว่าพี่สะใภ้ซะจริง ๆ คุณจะเจ็บปวดจนถึงที่สุดไหม? ” ลู่อ้ายฉีมองด้วยสายตาเย็นชา “ใครจะรู้? ” หญิงสาวหลบสายตาด้วยความว่างเปล่า สิ่งที่ หลินเซี่นงเชิน ไม่เคยรู้คือ บนโลกใบนี้นอกจากเขาที่ทำให้ ลู่อ้ายฉีเจ็บปวดจนใจสลายแล้ว ก็แทบไม่มีใครสามารถส่งผลกระทบจิตใจเธอได้เลย แต่เรื่องนี้ ลู่อ้ายฉีไม่ต้องให้เขาได้รับรู้ เธอไม่ต้องการจะใช้ชีวิตอย่างไร้เกียรติเช่นนี้อีกต่อไปแล้ว “พวกคุณจะทำอะไรหลังจากได้พบหน้ากันเหรอ? บอกผมที ผมจะได้เตรียมตัวจับพวกคุณ” สายตาของเขาแฝงด้วยความรังเกียจ แต่รอยยิ้มของหลินเซี่นงเชินนั้นไม่ได้น้อยลงเลย สายตาอันน่าสะพรึงคู่นั้นสามารถเชือดเฉือนให้ ลู่อ้ายฉีตายตรงนี้ได้เลย “ก็อาจจะ” ลู่อ้ายฉีพูดอย่างเรียบเฉย แล้วสบตาชายหนุ่มไร้ซึ่งด้วยความหวาดกลัว ผ่านมาสิบห้าปี เธอไม่ใช่ ลู่อ้ายฉีคนเดิมอีกต่อไป เธอวันนี้สามารถทำเป็นไม่ทุกข์ร้อน ในเมื่อไม่มีวิธีอื่น จึงทำได้เพียงเรียนรู้ที่จะประนีประนอม ดีที่เธอไม่ได้มีเวลาอยู่ที่นี่นาน ถึงจะเป็นอย่างนั้น แต่พวกเขาก็ยังเขากันไม่ได้ เธอเป็นสะใภ้ตระกูลหลินที่น่าสงสารเหลือเกิน ทันใดนั้น หลินเซี่นงเชิน เปิดเผยให้เห็นถึงแววตาอันตราย”ถ้าเธอกล้า ฉันจะตัดขาผู้ชายคนนั้นให้ดู!” เสียงคำรามของเขาดังไปทั่วลิฟต์ ลู่อ้ายฉีอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านไปทั้งตัว ผู้ชายคนนี้ทั้งใช้อำนาจคุกคามตนเอง ทำร้ายตนเอง โมโหตนเอง แล้วเขายังทำอะไรได้อีก... น่าประหลาด หญิงสาวยิ้มออกมา “ฉันจะคิดแบบนี้ได้ไหม ว่าคุณกำลังใส่ใจฉันอยู่” หันกลับเมื่อพูดเสร็จ ลู่อ้ายฉีบนรองเท้าส้นสูงเจ็ดนิ้ว เดินออกจากลิฟต์ไปด้วยความรู้สึกหยิ่งผยอง “ไปตายซะ!” หลินเซี่นงเชิน สาปแช่ง เขาทำให้เธอเหลิงจนได้! ในงานแถลงข่าว ลู่อ้ายฉีถูกคนคนหนึ่งดึงเข้าไปกอดอย่างฉับพลัน “อ้ายฉี ไม่เจอกันนานนะ” ลู่อ้ายฉีรู้สึกตกใจ แต่หลังที่สิ้นเสียงนั้น เงยหน้าขึ้นดูก็เกิดรอยยิ้มบนหน้า “พี่” “อยู่ที่โน่นสบายดีไหม? ” ชายหนุ่มมองดูด้วยสายตาเอ็นดูเต็มที่ “สบายดีค่ะ พี่ล่ะ?” เหตุที่พวกเขาดูสนิทสนมกันนั้น ก็เพราะตั้งแต่เด็กจนโตพวกเขาต่างเป็นคนนอกของตระกูลหลิน คนหนึ่งคือลูกนอกสมรส คนหนึ่งคือเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ถูกเก็บมา เขาอายุมากกว่าเธอเพียงห้าปี เป็นลูกนอกสมรสของบิดาของ หลินเซี่นงเชิน ชื่อ หลินจื้อโซง ถึงแม้จะไม่ได้เกิดมาพร้อมเกียรติยศ แต่ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา สิ่งที่ ลู่อ้ายฉีได้เห็นอยู่ตลอดนั้นกลับเป็นรอยยิ้ม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ใบหน้าของเขานั้นก็ดูเป็นมิตรน่าเข้าใกล้ ได้ยินว่าแม่ของเขาเป็นผู้หญิงที่สวยคนหนึ่ง 
已经是最新一章了
加载中