บทที่3 การหลอกลวง   1/    
已经是第一章了
บทที่3 การหลอกลวง
บ๗ที่3 การหลอกลวง “สบายดี” หลินจื้อโซง ตอบเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแฝงด้วยความนัย “ทำให้ที่นี่เป็นที่แบบไหนกันไปแล้วนะ?” ชายหนุ่มเดินเนิบ ๆ มาจากด้านหลัง พูดจาด้วยนำเสียงเย้ยหยัน ไม่ว่า เขาจะเดินไปทางไหนก็มักจะได้รับความสนใจจากสายตาทุกคู่ ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ว่าอยู่ชายผู้นี้ที่ไหน ก็มักจะมีแสงแวมวับอยู่ที่นั่นเสมอ เมื่อลู่อ้ายฉีหันหลังไปจึงได้พบว่ามีกลุ่มคนยืนอยู่ด้านหลังชายผู้นั้น โดยไม่เจตนา เธอเห็นร่างของคนคนหนึ่งที่คุ้นเคยท่ามกลางกลุ่มคนนั้น ลู่อ้ายฉีหัวใจเต้นรัว ไม่อาจละสายตาไปได้ ในกลุ่มฝูงชนที่ต่างจับจ้องหลินเสว่เฟยจับมือ ซือถูเซ็น ปรากฏกายต่อหน้าสาธารณชน เปรียบดั่งกิ่งทองใบหยก ตั้งแต่เด็กหลินเสว่เฟยคือคุณหนูแห่งตระกูล หลิน ผู้ได้รับความรักความเอ็นดูเป็นที่สุด แต่ไหนแต่ไรมา เธอได้รับแต่สิ่งที่ดีที่สุดมาตลอด พ่อแม่ได้ถ่ายทอดยีนที่ดีที่สุดแก่พวกเขา หากมองแต่ไกล หลินเสว่เฟยนั้นหน้าตาดูเหมือนตุ๊กตาปั้นที่มีชีวิต ในงานแถลงข่าว ทั้งสองปรากฏตัวพร้อมกัน เกรงว่าคงจะมีการแถลงข่าวอะไรสักอย่างกระมัง เมื่อได้เห็น ซือถูเซ็น อีกครั้ง เหมือนกับอยู่กันคนละโลก ลู่อ้ายฉีคิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะกลับมาพบกันอีกครั้งด้วยวิธีนี้ ตอนนี้เธอเพียงแค่รู้สึกสั่นเทาไปทั้งตัว กุมมือทั้งสองไว้แน่น เวลานี้ ชายหนุ่มทั้งสองยืนอยู่ด้วยกัน ออร่าที่เปล่งออกมาพอ ๆ กัน แต่ ลู่อ้ายฉีกลับไม่กล้าสบตา หลินเซี่นงเชิน ทันใดนั้น สัมผัสนุ่มนวลปะทะหน้าอก อีกนิดเดียวอาจทำให้ ลู่อ้ายฉีล้มลงได้ เมื่อเห็นเธอหลินเสว่เฟยร้องเรียกอย่างดีใจ “พี่สะใภ้คะ” มองดูคนตรงหน้า ลู่อ้ายฉีเหมือนได้เรียกสติกลับมา “เสว่เฟย นับวันก็ยิ่งสวยขึ้น ๆ นะจ๊ะ” ใบหน้าที่ขวยเขินมองไปยังร่างที่ยืนอยู่ด้านหลัง คำพูดของหลินเสว่เฟยฟังดูมีความสุข “นี่คือสามีในอนาคตของหนู ซือถูเซ็น พวกเราจะหมั้นกันเดือนหน้า วันนี้เราจะจัดการแถลงข่าวพอดีค่ะ” สุดท้าย ก็เป็นอย่างที่ลู่อ้ายฉีคาดการณ์ไว้ คิดไม่ถึง การกลับมาเจอกันครั้งแรกหลังจากที่ไม่เจอกันหลายปี พวกเขาจะทำให้ตัวเธอทั้งดีใจและตกใจขนาดนี้ หลินเซี่นงเชิน ยังคงไม่หมดความขุ่นเคืองใจ พูดกับเธออย่างเยือกเย็นผิดวิสัย “พวกเรามาทักทายว่าที่น้องเขย” ลู่อ้ายฉียื่นมือออกไปอย่างเป็นธรรมชาติ และมีมารยาท “คุณ ซือถูเซ็น สวัสดีค่ะ” “สวัสดีครับ”สายตาของซือถูเซ็น เมื่อได้เจอเธออีกครั้ง เป็นสายตาที่สงบนิ่งไม่มีการเคลื่อนไหวใด สองมือสัมผัสกันเล็กน้อยแล้วแยกอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ผิดพลาดไปแล้วก็คือผิดไปแล้ว ถึงจะยังคงติดอยู่ในความทรงจำลึกซึ้ง แต่ปัจจุบันก็ไม่สามารถย้อนกลับไปได้แล้ว ปล่อยให้เป็นเพียงอดีตอันดูดดื่มหวานชื่น หลินเซี่นงเชินมองดูมือที่สัมผัสกันคู่นั้นอย่างเงียบ ๆ ถอนหายใจดังหนึ่งครั้ง สร้างบรรยากาศเย็นยะเยือก แล้วถอยตรงไปเปิดประตูเดินไป เตรียมตัวตอบคำถามต่าง ๆ ของบรรดานักข่าว และไม่รู้ว่าด้วยเจตนาหรือไม่ เมื่อเดินจาก ลู่อ้ายฉีไป เหมือนมีพลังมหาศาล ทำให้เธอล้มลงกับพื้นอย่างจัง แต่กลับไม่มีใครตรงนั้นหยุดเดินด้วยเหตุนี้ อย่างไรก็ตามคนในตระกูล หลิน ต่างนิ่งดูดาย เมื่อไม่นานหลินเสว่เฟยยังเสียงอ่อนเสียงหวานเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ แต่ตอนนี้กลับมีเพียงแค่การยิ้มมุมปากด้วยสายตาเย้ยหยัน ถึงจะเป็นสะใภ้แล้วจะทำอะไรได้ สุดท้ายก็ไม่ต่างจากสุนัขรับใช้ตระกูล หลิน ไม่ทันทีหลินจื้อโซง จะได้ทำอะไร ซูซานรีบเข้าไปพยุงเธอขึ้นมาด้วยความเป็นห่วงและถาม “คุณนาย ไม่เป็นไรนะคะ?” ลู่อ้ายฉีส่ายหน้า เธอทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากที่ยืนขึ้น แล้วเดินเข้าประตูใหญ่ไป หลินเซี่นงเชิน อยากให้เธอปล่อยไก่ต่อหน้าคนจำนวนมากงั้นเหรอ ? ไม่เลว เขาทำได้แล้ว ทำร้ายเธอ เขาจู่โจมทีเดียวให้ถึงตายเสมอ การมองดูร่างของผู้หญิงที่บอบบางที่เดินอยู่หน้าเขา ซือถูเซ็น อดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะอยู่ในใจ นี่คือชีวิตที่เธอแสวงหามาตลอดงั้นหรือ? ในงานแถลงข่าวพวกเขาต้องเล่นละครเป็นคู่สมรสที่รักกัน ต่อหน้ากล้อง หลินเซี่นงเชินดูแลเธอเป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีความอดทนอดกลั้นตอบคำถาม อย่างไรก็ตามด้วยตำแหน่งทางสังคมของตระกูล หลิน ใน เมืองตงหลิน ตามธรรมชาติไม่มีใครกล้าหยิบยกประเด็นอ่อนไหว และมีการตระเตรียมคำถามเกี่ยวกับการพัฒนาการค้าในอนาคต เมื่อถึงเรื่องของพวกเขาสองคนเมื่อไรจะมีทายาท ลู่อ้ายฉีอดไม่ได้สั่นไปทั้งตัว ลูก... ดูตามความสัมพันธ์ของพวกเขายังคงเป็นเช่นนี้ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย หลินเซี่นงเชิน มองดูภรรยาที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยความรักใคร่ “เรื่องนี้คงต้องถามความเห็นของเขาแล้วครับ ? ที่รักจ๊ะ คุณเตรียมตัวจะมีลูกให้ผมเมื่อไหร่ดี?” ลู่อ้ายฉียืนตะลึงมองดูชายหนุ่มข้างกาย พูดถึงการแสดง เธอเทียบเขาไม่ติดเลย เธอยังไม่มีฝีมือเสแสร้งทำเป็นมีความสุขต่อหน้าคนอื่นได้ง่ายดายขนาดนั้น เมื่องานแถลงข่าวใกล้สิ้นสุดลง ท้องฟ้าก็เริ่มมืดมิดแล้ว ทุกปีเพื่อรักษาภาพพจน์ บริษัทจะเชิญกลุ่มบุคคลมีชื่อเสียง ตระกูล หลิน จะเป็นตัวแทนจัดงานการกุศล ปีนี้ก็เช่นกัน แท้จริงแล้ว ลู่อ้ายฉีไม่ได้ชื่นชอบงานเลี้ยงแบบนี้ แต่เธอก็ไม่ได้เกลียด เธอเติบโตมากับตระกูล หลิน เธอรู้สึกชินชากับงานเลี้ยงเช่นนี้ไปเสียแล้ว เพียงแต่เมื่อคืนพักผ่อนไม่เพียงพอ จึงรู้สึกเหนื่อยล้า ร่างกายไร้เรี่ยวแรง มองดูคนที่เดินนำออกไปก่อน ลู่อ้ายฉียังคงเดินตาม เธอพูดด้วยความสงบนิ่ง “ท่านประธานคะ ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย งานคืนนี้ขออนุญาตไม่เข้าร่วมนะคะ” ชายผู้อยู่ตรงหน้าหยุดเดิน หันเดินกลับมาทางเธอ เขายิ้มที่มุมปากอย่างใคร่ครวญ พร้อมสายตามองต่ำที่มืดมน “จะได้ยังไง พวกเราเพิ่งจะคุยกันเรื่องวางแผนเรื่องเวลามีทายาทอยู่เลย ที่รักอยากจะปล่อยให้ผมโดดเดี่ยว เสียแล้วเหรอ ? ให้ทุกคนมองผมว่าเป็นเรื่องตลกงั้นเหรอ?” ลู่อ้ายฉีเม้มริมฝีปาก เขาใส่ใจเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ? ยิ่งไปกว่านั้นขอเพียงเขาต้องการ ผู้หญิงก็พร้อมเรียงแถวรอบโลกได้ เมื่อครู่เป็นเพียงแค่การแสดงเท่านั้น น้ำเสียงของ ลู่อ้ายฉีมีความเหินห่าง “ฉันไม่ค่อยสบาย” คนตระกูล หลิน ต่างพร้อมเอาใจ หลินเซี่นงเชิน พวกเขาพูดจาเย้ยหยันเธอในทันที เดิมทีเธอก็ไม่มีความสำคัญใดในตระกูล หลิน อีกทั้งเธอยังไม่เป็นที่รักใคร่ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนในตระกูล หลิน แต่ใครก็ได้ที่มีความสัมพันธ์กับพวกเขาต่างพูดได้โดยไม่เกรงใจ “พี่สะใภ้คะ ร่างกายพี่คงจะมีค่าสูงส่งมากสินะ แค่ผ่านงานรับรองแรกเท่านั้น ก็อ่อนเปลี้ยเพลียแรงซะแล้ว?” ในเรื่องนี้ คนตระกูลหลิน ช่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว เมื่อมีคนเริ่ม คนที่เหลือก็ไม่มีความเกรงกลัวใด ๆ ยังคงพูดต่อ “แหม... อยู่ในตระกูลใหญ่เช่นนี้ อย่างอาจจะไม่ได้ แต่ก็ได้รับการเอาอกเอาใจ” หลินเสว่เฟย ยิ้มอยู่ข้าง ๆ กระนั้นเมื่อเทียบกับคำพูดเชือดเฉือนเหล่านั้น คำพูดของเธอยังอ่อนโยนกว่ามาก “พี่สะใภ้ไปพักเถอะค่ะ” “หากเธอไม่สบายก็ให้เธอไปพักเถอะ”หลินจื้อโซงกล่าวอย่างเรียบเฉย เพียงแค่เปิดปาก ก็ถูกมองด้วยสายตาหยามเหยียด สมเป็นลูกนอกสมรส เป็นคนนอกที่ช่วยคนนอกด้วยกันเสมอ หลินเซี่นงเชิน ได้แต่ยืนดูฉากที่แสนสนุกนี้ สายตาจับจ้องไปที่เธอตลอดเวลา เขากลับสงสัยว่ายายเด็กนี่จะตัดสินใจอย่างไร หากเธอร้องขอ ไม่แน่ว่า... แต่เรื่องแบบนี้ คงไม่มีทางเกิดขึ้นกับ ลู่อ้ายฉีได้ ต่อให้เธอต้องตายไป เธอก็ไม่มีทางเอ่ยปากขอร้องผู้ชายคนนี้ ลู่อ้ายฉีนิ่งไปสักครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ได้ค่ะ ฉันจะไป” 
已经是最新一章了
加载中